NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลพยาบาท จันทร์ซ่อนเงา [E-Book]

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ ๖ อดีตบาป

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 63


    บทที่ 6

    อดีตบาป

     

              “พวกมึงมันไม่ได้เรื่อง!

                   น้ำเสียงโกรธเคืองของนายทรงชัยแผดลั่นออกจากห้องพักฟื้นของลูกชายคนรอง แม้โรงพยาบาลจะเป็นเขตห้ามใช้เสียง แต่ข้อห้ามพวกนั้นใช้ไม่ได้กับนักเลงใหญ่ที่ถือตนว่ามีสิทธิ์เหนือผู้อื่น

              “เราตามหามันจนทั่วแล้วนะครับนาย ไม่รู้ว่ามันหายตัวไปได้ยังไง ถามชาวบ้านตามรูปร่างหน้าตาที่คุณโทบอก ก็มีแต่คนตอบว่าไม่เคยเห็น” มีเพียงสมุนคนสนิทที่กล้าเอ่ยปากอธิบาย

              นักเลงใหญ่ฟังแล้วหงุดหงิดใจนัก หันไปทางลูกชายที่กำลังถ่ายรูปตัวเองชูสองนิ้วให้โทรศัพท์ไม่พอ มันยังทำปากจู๋สลับกับทำแก้มป่องจนคนเป็นพ่อขนลุกขนพอง ขาหักที่ห้อยทั้งสองข้างไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงสังคมออนไลน์แม้แต่น้อย 

              “ไอ้โท แกแน่ใจนะว่ารูปร่างหน้าตาที่แกบอกไม่ผิดแน่!

              “ไม่ผิดพ่อ” ทวีรัตน์ส่งเสียงจึ๊กจั๊กขัดใจยามตอบบิดา

              “แกลองอธิบายหน้าตาของมันให้ฟังอีกทีสิ”

              “ตัวสูง” เด็กหนุ่มขาหักรักการแชร์พยายามทวนความทรงจำ

              “สูงมากไหม”

              “โอ๊ย ฉันสูงกว่าเยอะ” ทวีรัตน์พูดเสียงสูง

              “เฮ้ย พวกมึงจดรายละเอียดอีกครั้ง แล้วไปตระเวนดูทุกหมู่บ้าน” ทรงชัยสั่งลูกน้องทันควัน แล้วหันหน้ามาใช้สายตาคาดคะเนความสูงของไอ้หนุ่มปริศนาจากตัวลูกชาย “สูงประมาณ...ร้อยห้าสิบ...ห้า”

              “โคตรเตี้ย” ลูกน้องคนหนึ่งจดไปรำพึงไป

              “แล้วหน้าตามันล่ะ” ทรงชัยถามลูกชายต่อ

              “เหลาเหย่” ทวีรัตน์ตอบอย่างไม่สนใจ เพราะกำลังดูว่ามีใครตอบสนองต่อรูปถ่ายที่ตัวเองเพิ่งปล่อยสู่โลกออนไลน์บ้าง

              “เหลาเหย่” มือที่จับปากกาจดตามยุกยิก แต่แล้วก็หยุดชะงัก “เอ๊ะ แต่ผมได้ยินคนที่เห็นเหตุการณ์เขาพูดกันว่า เจ้านั่นมันตัวสูงเหมือนฝรั่ง แล้วก็หล่ออย่างกับพระเอกหนัง”

              “หล่อเหล่ออะไรกัน สู้ฉันไม่ได้สักนิด” ทวีรัตน์ฉุนใส่

              “ถ้างั้นแกบอกมาว่า ตา หู จมูก ปาก สีผิวมันเป็นยังไง” นายทรงชัยเริ่มแสดงความหงุดหงิดทางน้ำเสียง

              “โธ่ บอกไม่ถูกหรอกพ่อ ถ้าฉันมีเวลาจ้องมันขนาดนั้น คงโดนต่อยร่วงไปแล้ว”

              “แกก็นอนร่วงเป็นใบไม้แห้งอยู่นี่ไง!”

              ผู้เป็นบิดายกมือปาดหน้าผากจนถึงปลายคางด้วยความเดือดดาล ที่แห่งนี้เป็นถิ่นของเขา แต่ไอ้หนุ่มต่างถิ่นมันเหยียบเข้ามาแล้วทำให้ศักดิ์ศรีเจ้าถิ่นอย่างเขาโดนลบหลู่ ด้วยข่าวของทวีรัตน์สู้แพ้ราบคาบอย่างกับลูกหมาสู้กับสิงห์

              “พวกมึงจงไปตระเวนตามหมู่บ้านแล้วหาคนแปลกถิ่น ไม่ว่ามันจะสูงต่ำดำขาว ก็ต้องหามันให้เจอ!”

              “จะทำอะไรกันก็อย่าให้เดือดร้อนถึงฉันนะพ่อ” เอกรัตน์ที่เพิ่งเข้ามาทันฟังเรื่องราวเอ่ยเตือน มองทุกคนในห้องนี้ด้วยสายตาไม่พอใจ ไล่ตั้งแต่ลูกสมุนของบิดาเป็นรายคน จนมาถึงน้องชายคนรอง

              “ครั้งนี้ฉันตั้งใจมากกว่าครั้งไหน อย่าทำอะไรให้ฉันเดือดร้อนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง” แล้วตอกย้ำด้วยน้ำเสียงขึงขัง

              “ฉันก็เห็นพี่ตั้งใจทุกครั้ง แต่ครั้งที่แล้วเป็นพี่เองไม่ใช่หรือที่ประกาศถอนตัว” ทวีรัตน์สะบัดตามอง แต่พอเจอดวงตาที่แข็งกร้าวกว่าจึงหลุบตาลงต่ำ ขบกรามแน่น

              “ฉันจะทำอะไรมันไม่เกี่ยวกับแก แล้วที่ฉันประกาศถอนตัวเองจากผู้สมัครทั้งที่คะแนนนิยมนำมาตลอด ก็ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้แกนอนขาเป๋แบบนี้”

              คนที่ถูกค่อนขอดเกิดความอึดอัดคับข้องในอก ยิ่งถูกมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยการดูแคลนย่ำยีของเอกรัตน์ ก็ยิ่งผูกใจเจ็บอยากให้ผู้พี่พบความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดไป

              “แล้วแกมั่นใจแค่ไหนว่าครั้งนี้จะชนะเลือกตั้ง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยปาก

              “ตอนนี้คู่แข่งที่พอจะสูสีก็มีท่านนายกฯ คนเก่า แต่ถ้าไหมแก้วยอมช่วยเป็นแรงเสียง พูดสนับสนุนฉัน พวกชาวบ้านก็คงจะให้ความไว้ใจฉันมากขึ้น”

              “ถ้าหมอคิดจะช่วยแก เขาก็คงช่วยแกตั้งแต่สมัยที่แล้ว”

              คำพูดของนายทรงชัยจี้ใจดำชายหนุ่มได้ตรงจุดและรุนแรง บิดาของเขาไม่ได้กล่าวตามความรู้สึก แต่เป็นเรื่องจริงที่ทำให้เอกรัตน์ผิดหวังมากที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไหมแก้ว

              ทั้งที่เธอรู้ว่านโยบายที่เขาใช้หาเสียงทุกหัวข้อนั้นเป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝันอยากให้เกิดขึ้นในแดนดินถิ่นนี้ทั้งสิ้น ฉะนั้น การที่เธอปฏิเสธให้ความช่วยเหลือจึงทำให้เอกรัตน์คิดได้อย่างเดียวว่า เป็นเพราะเธอไม่ให้อภัยความผิดที่เขาทำไว้ในอดีต

              เสียงถอนหายใจและแววตากังวลที่ฉายชัดของเอกรัตน์นั้นทำให้นายทรงชัยนึกยิ้มเยาะในใจ แม้อยากตัดความหวังของลูกชายเรื่องคนรัก แต่ก็ไม่อยากให้เอกรัตน์พ่ายแพ้การเลือกตั้ง

              นายทรงชัยกระตุกยิ้มที่มุมปาก ก้าวขาเข้าไปใกล้บุตรชายคนโต พลางเอ่ยคำพูดเสียงทุ้มต่ำ แต่หนักแน่นและเปี่ยมไปด้วยความหมายแฝงในคำพูดทุกคำ

              “แกจะรักอุดมการณ์ก็รักไป แต่อย่าปฏิเสธว่าการทำให้อุดมการณ์เป็นจริง มันก็ต้องตัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคไปบ้าง”

              ถึงแม้ทางเลือกของเอกรัตน์จะแตกต่างไปจากผู้เป็นพ่อ แต่ก็หนีความจริงที่อยู่ในใจไม่ได้ว่าเขาเป็นปุถุชนที่มีรัก โลภ โกรธ หลง ปะปนอยู่ในจิตใจ หาใช่ผู้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงไม่

              “ถ้าให้ฉันช่วยแกแต่แรก ป่านนี้แกก็ได้นั่งเก้าอี้ตัวนั้นแล้ว ยังมีเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงวันลงคะแนนเสียง ขึ้นอยู่กับแกนะเอกรัตน์ มีคนที่พร้อมสนับสนุนแกอยู่ทุกทาง”

              “ฉันจะฟังไว้” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ แล้วหมุนตัวเพื่อเดินออกจากห้อง ก่อนที่เกราะแข็งของเขาจะสึกกร่อนไปมากกว่านี้

              “คนที่แกต้องฟังไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเจ้าของเงินที่ใช้หาเสียงของแกต่างหาก”

              เอกรัตน์ถึงกับหยุดขาชะงักในตอนที่เดินถึงประตู หันตัวกลับไปหาผู้เป็นบิดาที่ก้าวเดินเข้ามา เอ่ยกับเขาด้วยเสียงเคร่งขรึม

              “ที่ดินผืนที่แกอยากได้ไปปรนเปรอความฝันของหมอไหมแก้ว เขาก็ติดต่อเจ้าของที่ขอซื้อไว้ให้แล้ว แกควรจะหาเวลาไปกราบขอบคุณเขาอย่างที่พวกคนดีอะไรแบบนั้นทำกัน”

              “ถ้าเป็นเงินที่ได้จากเรื่องสกปรกแล้วเขาต้องการฟอกเงินละก็ ฉันบอกพ่อไปแล้วไม่ใช่หรือว่าฉันไม่รับ” แม้จะพอรู้มาบ้างว่าพ่อกับคนที่ถูกเอ่ยถึงทำธุรกิจอะไรต่อกัน แต่ในความเป็นจริงนั้น เอกรัตน์ก็ใคร่อยากรู้เหตุผลแท้จริงของผู้สนับสนุนเงินในการหาเสียงที่ยังไม่เคยเห็นหน้า

              “แกวางใจเถอะเอกรัตน์ เงินที่ใช้สนับสนุนการหาเสียงได้มาจากกิจการผับในเมืองกรุงที่เขาเป็นเจ้าของ แต่ถ้าแกอยากได้ความมั่นใจ ก็รอถามจากปากเขาเอง เขาจะเดินทางมาพบแกในไม่ช้า”

              ต่อให้อยากปฏิเสธการพบเจอ ก็คงทำได้ยากลำบาก เพราะเงินเหล่านั้นถูกบิดาใช้จ่ายไปมากเพื่อส่งให้เขาได้สำเร็จดังหวัง

              “จำที่ฉันเคยสอนแกได้ไหมเอกรัตน์” ผู้เป็นบิดามองเขาด้วยดวงตากร้านโลก “ถ้าอยากได้สิ่งที่ฝันไว ๆ แกต้องใช้ชีวิตแบบเล่นเกมบันไดงู ไม่ใช่เกมเศรษฐีที่เอาแต่เดินวนเป็นวงกลม”

              เอกรัตน์ไม่ได้ตอบโต้คำพูดของบิดา เขาหันหลังเดินจากมาด้วยความรู้สึกหมองหม่น ความตั้งใจของวันนี้คือหลังจากไปเยี่ยมอาการน้องชายที่ยังฮึกเหิมอยากทวงคืนความแค้น แล้วจะไปขอปรึกษาคุณหมอใหญ่เรื่องการสร้างแปลงเพาะพันธุ์สมุนไพร

              แต่ในความรู้สึกตอนนี้กลับอยากพาตัวเองหนีไปให้พ้นจากคำพูดที่เริ่มเข้ามาเกาะกินจิตใจมากขึ้นทุกวัน จนความมุ่งมั่นเอาชนะด้วยคุณงามความดีลดเพดานลงต่ำ นายก อบจ. ท่านเดิมก็ยังเป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวบ้าน ต่อให้เขาลงแข่งในทุกสมัย ก็ไม่อาจได้นั่งเก้าอี้ตัวนั้น ที่เจ็บปวดใจที่สุดคือไหมแก้วไม่ได้คาดหวังกับความพยายามในครั้งนี้

              เธอเอาแต่พร่ำบอกเขาว่า ต่อให้มีอำนาจบารมีมากมายแค่ไหน ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการทำงานเพื่อประชาชน คิดถึงคำพูดของเธอแล้วก็รู้สึกเฝื่อนในจิตใจ เพราะเขาเชื่อว่าถ้าได้อำนาจมาแล้ว งานที่หวังไว้จะดำเนินไปเร็วยิ่งกว่าก้าวกระโดด แต่ถ้าไม่มีอำนาจบารมี ทุกอย่างที่ทำมันก็ไม่ต่างจากงานเข็นครกขึ้นภูเขาแสนลาดชัน

              คุณทำได้ ฉันเชื่อว่าคุณทำได้

              แต่เคยมีใครคนหนึ่งทำให้เขารู้สึกว่าเจ้าครกหินนั่นเบาราวกับปุยนุ่น และคำพูดของเธอผู้นั้นยังคงฝังแน่นในส่วนลึกของความทรงจำเสมอมา

              คุณเอกจะต้องทำโครงการเพาะพันธุ์สมุนไพรป่าสำเร็จแน่นอน แขเชื่อแบบนั้นเพราะคุณเอกเป็นคนมุ่งมั่น

              เขายังจำใบหน้าจริงจังกับดวงตาคู่งามราวตากวางเปล่งประกายยามเธอเอ่ยประโยคนั้นออกมาได้ดีไม่ลบเลือน

              แค่มุ่งมั่นอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะดวงแข ถ้าไม่มีเงินและอำนาจพอจะขับเคลื่อนอุดมการณ์ ลำพังแค่ตำแหน่งนักพัฒนามันไม่ทำให้ฉันไปถึงฝัน ขนาดจะซื้อที่ดินแปลงเท่าเล้าเป็ดเพื่อทดลองเองยังทำไม่ได้

              หากอยู่ต่อหน้าไหมแก้ว เขาคงไม่พูดอะไรที่ทำให้ไหมแก้วมองเขาว่าเป็นไอ้ขี้แพ้

        แขมีที่ดินแปลงหนึ่งใกล้กับทางเข้าน้ำตก เป็นสมบัติของพ่อหลังแต่งงานกับแม่ แต่พ่อตายไปนานแล้วตั้งแต่แขยังจำความไม่ได้ แม่บอกว่าจะไปทำเรื่องเอาที่ดินผืนนั้นมาเป็นของแขจากเมียใหม่พ่อ

              เรียวปากอิ่มสีชมพูระเรื่อที่ตั้งใจอธิบายนั้นขยับขึ้นลงราวกับปีกผีเสื้อ ที่ทำให้เขาเผลอมองจนแทบไม่ได้จับใจความสำคัญ จนเธอเอ่ยประโยคต่อมา

          ถ้าแม่ทำได้ ที่ดินผืนนั้นจะเป็นของแข แล้วแขจะยกให้คุณเอกรัตน์

              แต่เขากลับหัวเราะขบขัน แล้วเห็นว่าเป็นเรื่องตลกเสียเต็มประดา เธอจะให้ฉันเป็นหนี้บุญคุณผู้ช่วยพยาบาลอย่างเธอหรือ แล้วเธอจะทวงบุญคุณฉันด้วยอะไรล่ะดวงแข

              แก้มสาวเนียนสวยของเธอแดงปลั่งเหมือนลูกไม้สุกงอม เรียวปากอิ่มน่ามองขบเม้มเข้าหากัน ดวงตาสีนิลเป็นประกายงดงามมีแวววูบไหว

              ถ้า...ไม่เป็นการฝืนใจคุณเอก... เธอหลุบตาไม่สบมอง คุณเอกจะเป็นเพื่อนไปเที่ยวน้ำตกกับแขได้ไหม

              เธอก็รู้ว่าตอนนี้นายพนาเหิมเกริมหนัก มีชาวบ้านเคยเห็นว่าพวกมันใช้เส้นทางน้ำตกเป็นทางผ่านเวลาลงจากเขา

              พวกมันจะเดินทางในคืนเดือนมืดเท่านั้น เอ่อ...ที่แขรู้ก็เพราะว่า...แขเคยเห็น ดวงตาสวยเงยขึ้น บอกเขาด้วยเสียงมั่นใจ แต่แขจะชวนคุณไปเฉพาะคืนเดือนเพ็ญ เราไม่มีทางเจอพวกมันแน่

              แล้วเธอออกจากหมู่บ้านไปทำอะไรในป่ากลางค่ำกลางคืน จำได้ว่าเขาขุ่นใจมากทีเดียว นึกเป็นห่วงราวกับเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ

              คือแข...ออกมาไล่หมูป่าที่มากิน เอ่อ...ผักที่แขปลูกไว้

              คล้ายกับว่าเธอไม่ต้องการบอกสิ่งที่อยู่ในใจ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการยอมตกลงเงื่อนไขของหญิงสาวสวยสะคราญที่ใคร ๆ ต่อใครขนานนามว่าหนึ่งในตองอู

              แต่แล้วความพันผูกก็ล้ำลึกเกินหยั่ง จากเพื่อนเที่ยวเริ่มกลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจ ยิ่งใกล้ชิดก็ยิ่งสร้างแรงปรารถนาที่มีต่อกันลึกซึ้งเกินกว่าจะหักห้ามใจได้

              เอกรัตน์ยอมรับว่าเขาไม่อาจลบความทรงจำที่มีต่อหญิงสาวผู้นั้น และคงมีเธอเพียงคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกเป็นผู้มีอำนาจเหนือใคร เธอทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น เธอทำให้เขารู้สึกว่าต่อให้ผาชันแค่ไหน เขาก็สามารถไต่มันขึ้นไปจนถึงจุดสุดยอด

              แม้จะไม่มีอะไรถูกต้องเลยตามครรลองคลองธรรม แต่เขาก็อยากเก็บความทรงจำนั้นไว้ แล้วขอเวียนว่ายมาเติมพลังยามที่จิตใจอ่อนแอ

              ชายหนุ่มจึงมาหยุดยืนตรงหน้าม่านละอองน้ำสีรุ้งที่เคยเป็นปราการปกป้องให้เขาหลงวนอยู่ในมิติแห่งฝัน ต่อให้สายธารจะเย็นเยือกแค่ไหน แต่ไออุ่นแห่งการสอดประสาน เสียงครวญครางดั่งเพลงของอัปสรสวรรค์ และเสียงเต้นของหัวใจแผ่วบนเนินเนื้อนุ่มที่ส่งความซาบซ่านร้อนรุ่มให้ทุกอณูความรู้สึกที่ยังตราตรึงจวบจนวินาทีนี้

              แต่คล้ายมีดาวมฤตยูโคจรเข้าทับบดบังดวงจันทร์ให้อับแสง เมื่อนายพนาย่างกรายเข้ามาพัวพันกับหญิงสาว และการกล่าวโทษในสิ่งที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์นั้นก็โหดร้ายไม่ต่างกับความโฉดชั่วของโจรป่า นายพนาอาจคร่าชีวิตคนบริสุทธิ์ แต่สิ่งที่เขาทำก็เปรียบได้กับตัดหัวใจของเธอแล้วโยนทิ้งให้เน่าเฟะส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง

              อีดวงแขมันลอบคบกับไอ้โจรชั่ว!’

              อีไม่รักดี ริไปสมสู่กับโจรป่า!’

                   ข่าวลือที่โจษจันไปทั่วสร้างความอัปยศให้หมู่บ้านกะเหรี่ยงเซ็งดูและนางลาโพ มารดาของเธอทนแบกทุกข์ไว้ทุกครั้งที่เผยตัวออกนอกเรือนไม่ไหว จนต้องดั้นด้นมาพบบิดาของเขาเพื่อทวงความยุติธรรมให้บุตรสาว ขอให้จัดงานแต่งตามประเพณีเพื่อป่าวร้องว่าบุตรสาวของตนถูกไอ้หนุ่มคนไหนดอมดมจนตั้งครรภ์

                   ดวงแขแอบสมสู่กับนายพนาจริงหรือไม่ เขาไม่ได้ถามจากปากเธอด้วยซ้ำ แต่พอฟังคำพูดของบิดา ก็ให้หูอื้อตาลาย แสบร้อนในอกเหมือนมีไฟเผา ยอมรับว่าโกรธจัดมาก แต่ก็ถึงเวลาตัดความสัมพันธ์กับเธอให้ได้ก่อนเข้าพิธีวิวาห์กับไหมแก้ว หญิงสาวที่เป็นคนรักตัวจริง

              คุณเอกต้องไม่ยอมแพ้

              ในการพบกันครั้งสุดท้าย เธอยังส่งถ่ายกำลังใจให้เขา แต่สิ่งที่เขาทำคือมองเธอหันหลังเดินจากไป มองเธอหันหลังให้แสงจันทร์ที่ขับสะท้อนความสว่างกระทบละอองน้ำสร้างม่านสีรุ้ง

              หรือสิ่งที่เธอหันหลังนั้น...แท้จริงแล้วคือเขา ผู้ชายที่ขี้ขลาดเกินกว่าการเปล่งคำถามถึงหัวใจดวงน้อยที่เต้นแผ่วเบาในครรภ์ของเธอ ว่าเกิดจากเชื้อไขของใครกันแน่

              “ดวงแข...บอกฉันหน่อยสิว่า ความสำเร็จของฉันมันจะเป็นจริง”

              เขารำพึงพลางแหงนมองจันทร์เสี้ยวสีขาวบนท้องฟ้า ยกแขนแล้วกางมือออก จับจ้องมองจันทร์เสี้ยวที่ลอดผ่านช่างว่างของเรียวนิ้ว

              “บอกฉันหน่อยสิว่าฉันยอมแพ้ไม่ได้”

              แล้วกำมือแน่นเสมือนกลืนกินจันทร์เสี้ยวไว้ด้วยกำมือ

     





    ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านผลงานค่ะ

    สายอีบุ๊ก คลิกลิงก์ได้เลยค่ะ

    กลพยาบาท จันทร์ซ่อนเงา


    ปรารถนาเพียงเธอ Love you so madly



    ขอบคุณที่แวะเข้ามานะคะ
    ผลงานที่อัพจบแล้ว
    หัวใจเศรษฐี



    ผลงานที่กำลังอัพ
    สิ้นแสงสุรีย์




    อยากคุยกับไรท์ กดแอดเฟรนด์หรือกดติดตามเลยค่า
    https://www.facebook.com/mylifeiswritingmydream/

    หรือไลค์เพจไว้จะได้ไม่พลาดข่าวอัพนิยาย



    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

    ฤดีวัลย์
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×