ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 5 : รอยจูบ (รีไรท์)
บทที่ 5 : รอยจูบ
พระอาทิตย์ลาลับไปนานแล้ว นานจนท้องฟ้าที่อาบแดงไปด้วยสีส้มแสดเปลี่ยนเป็นสีดำมืดไร้แสงและสีสัน ทว่าตั้งแต่บ่ายแก่จนถึงตอนนี้ ท่านหญิงโปรดกลับยังเห็นพวกทหารญี่ปุ่นเดินพลุกพล่านไปทั่ววัง พากันขนย้ายของบางอย่างเข้ามาในวังอัฐทิศ ยกมันขึ้นมาจากเรือ ลังแล้วลังเล่า ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
หญิงสาวแอบมองแถวทหารที่พากันลำเลียงของบางสิ่งแล้วหายลึกเข้าไปในสวนด้านหลังผ่านทางหน้าต่างห้องรับแขก แอบนับจำนวนได้หลายร้อยลัง แต่ไม่ว่าจะคะเนยังไงก็คิดไม่ออกว่ามีสิ่งใดข้างในลังเหล็กรูปร่างคล้ายโลงศพพวกนั้น รู้แต่ว่าของในนั้นต้องหนักมากๆ เพราะพื้นดินที่ถูกล้อรถลากผ่านไปคันแล้วคันเล่าปรากฏร่องลึกบดลงไปจนเป็นทางยาวอย่างชัดเจน
“ท่านหญิงเพคะ”
เสียงคุณถนัดที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกทำให้ท่านหญิงโปรดละสายตาจากภาพของเหล่าทหาร มองข้าหลวงอวุโสของวัง เมื่ออีกฝ่ายบังคมเธอ นางข้าหลวงสาวๆที่ตามมาทางด้านหลังก็บังคมตาม
“หม่อมฉันให้พวกนางเล็กๆ ขนที่หลับที่นอนขึ้นมาที่ตำหนักตามรับสั่งแล้วเพคะ จัดให้อยู่ที่ห้องหลังติดครัวพักนี้เอง แม่พวกนี้ดีใจกันยกใหญ่ทีเดียวที่ทรงกรุณาเพคะ”
ท่านหญิงโปรดยิ้มให้นางข้าหลวง “ดีแล้วล่ะ ว่าแต่ วันนี้มีจดหมายจากคนของเสด็จพ่อส่งมาไหม โปรดอยากทราบว่าทรงเข้าผ่าตัดหรือยัง”
“ไม่เลยเพคะ พวกญี่ปุ่นคุมเข้มนัก ไม่รู้ว่าไม่มีจดหมายมา หรือเพราะส่งเข้ามาไม่ได้กันแน่ แต่พรุ่งนี้เช้าหม่อมฉันจะหาเรื่องขอออกไปตลาด จะแอบไปตามข่าวที่ไปรษณีย์ให้เพคะ”
ท่านหญิงโปรดพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะกวาดตามองเหล่านางข้าหลวงคนอื่นๆ ซึ่งเวลานี้กลายเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ของเธอไปแล้ว
"นี้ก็ค่ำแล้ว ทุกคนก็ไปพักผ่อนเถอะ โปรดอยู่ตรงนี้อีกเดี๋ยวก็จะขึ้นห้องแล้ว ไม่ต้องอยู่เฝ้าหรอกค่ะ”
ท่านหญิงโปรดมองส่งจนร่างของเหล่านางข้าหลวงหายไปจึงถอนสายตากลับไปมองด้านนอกหน้าต่างอีกครั้ง ทว่าหนนี้เหล่าทหารกลับหายไปหมดแล้ว เรือขนส่งรูปร่างแปลกๆที่ตรงท่าน้ำก็หายไปด้วย หลงเหลือแต่เพียงคบเพลิงส่องแสงจางๆ ลุกโชนอยู่เพียงคบเดียว นอกนั้นเงียบสงบและไร้ผู้คน
หญิงสาวชะงัก รีบลุกขึ้นจากที่นั่งข้างหน้าต่างทันที
หายไป จู่ๆพวกทหารก็หายไปซะเฉยๆ?
คนเป็นท่านหญิงมองซ้ายมองขวาตรวจตรา เมื่อพบว่าไม่มีใครจริงๆก็รีบปิดหนังสือบนตักที่แสร้งอ่านหลอกๆมาหลายชั่วโมงลง หันไปคว้าผ้าคลุมไหล่มาคลุมตัวแล้วเดินออกจากวัง ตรงไปยังทางรอยลึกบนดิน แม้รู้ว่าทำแบบนี้มันอันตราย แต่วังอัฐทิฐคือบ้าน เธอจึงต้องรู้ ว่าพวกทหารกำลังทำอะไรกับบ้านของเธอ
วังอัฐทิศกินพื้นที่มากมาย บางจุดท่านหญิงโปรดไม่เคยเข้ามาสำรวจด้วยซ้ำ ทว่ายิ่งเดินกลับยิ่งพบว่าบริเวรด้านหลังของวังทั้งรกและทึบราวกับป่าย่อมๆ มันทั้งมืดและไร้แสงไฟ เห็นจะมีแต่ปลายทางที่กำลังเดินไปเท่านั้นที่มีแสงไฟอยู่
กระทั้งถึงจุดหมายปลายทาง ท่านหญิงโปรดถึงพึ่งได้รู้ว่าที่แท้ทหารญี่ปุ่นได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ พวกเขากำลังยืนล้อมโกดังเก่าหลังหนึ่งของวังเอาไว้ ช่วยกันขนถ่ายลังเหล็กที่ขนมาจากท่าน้ำเข้าไปวางซ้อนกันข้างใน
“โอะโซ่ย!" (เร่งมืออีก!)
ทว่าจู่ๆ นายทหารคนหนึ่งที่ท่านหญิงโปรดไม่คุ้นหน้าก็ตะโกนขึ้นอย่างหัวเสีย ผมสีเทาหงอกขาวทั้งหัวของเขาทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่เคยเห็น ที่สำคัญเขาคงมีตำแหน่งไม่ธรรมดาในกองทัพ เพราะหลังจากส่งเสียงอย่างนั้น เหล่าทหารซึ่งกำลังขนของก็ออกอาการลนลาน ทหารคู่หนึ่งเลินเล่อจนทำให้ลังเหล็กหลุดมือตกกระทบลงพื้นจนวัตุถุมันเลื่อมสีทองหลุดกระเด็นออกมา จำนวนของมันทำให้ท่านหญิงโปรดอุทานอย่างตกใจ ซึ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรทำอย่างที่สุดขณะแอบดูคนอื่น!
“นั้นใครน่ะ!!?”
หญิงสาวรีบวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ใกล้ๆทันที ทว่าในขณะที่สมองของเธอกำลังหมุนเร็วจี๋เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร จู่ๆมือๆหนึ่งก็โพล่มาอุดปากเธอไว้ ก่อนฉุดร่างของเธอแล้วลากจนตัวโยนพาถอยออกมา เธอตกใจและหวาดกลัวเพราะไม่รู้ว่าคือใคร จึงทั้งดิ้นและจิกตี อีกฝ่ายคงเจ็บพอดูจึงคำรามใส่หูเธอ
“หยุดดิ้นซะถ้าไม่อยากโดนหักกระดูก!”
“!!”
ท่านหญิงโปรดจำเสียงของเขาได้ในทันที ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ตอบกลับไป เสียงของพวกทหารตรงโกดังก็ดังขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนนาวาอากาศหนุ่มจะคาดเดาได้ว่ากำลังจะเกิดอะไรจึงกระชากแขนท่านหญิงโปรดให้ออกวิ่ง ความเคลื่อนไหวของทั้งสองจึงเผยที่ซ่อน พวกทหารดานหลังตะโกนก้อง ไล่ตามมาพร้อมอาวุธครบมือทันที!!
นาวาอากาศโทชิไม่ได้พาท่านหญิงโปรดไปในเส้นทางเดิมแต่กลับพาวิ่งลึกไปในเส้นทางเปลี่ยวที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์และไม้หนามขวางกั้น! พวกมันฟาดไปตามตัวและและใบหน้าของหญิงสาวขณะที่ถูกเขาทั้งลากทั้งกระชากให้วิ่งตามไป เธอรู้สึกทั้งเจ็บ แสบ และคันหยิบไปทั้งตัวแต่ก็ไม่คิดผ่อนฝีเท้าหรือทำตัวเป็นภาระ ด้านหลังยังคงมีเสียงเอ็ดตะโร ทหารยังคงไล่ตามมา! และใกล้เข้ามาทุกที!!
“โทชิ!”
เธอเรียกชื่อเขา อยากบอกว่ากลัวเหลือเกิน แต่เขาไม่ได้ขานตอบ เพียงแต่หันมารวบร่างเธอขึ้น ตัดสินใจอุ้มเธอแล้วพาวิ่งไปแทน!!
ในความมืดที่เต็มไปด้วยความอันตรายนั้น ใบหน้าของท่านหญิงโปรดถูกกดอยู่บนแผงอกที่กำลังหอบกระชั้นเพราะการวิ่งของนาวาอากาศหนุ่ม เขาดูราวกับม้าศึกตัวโตที่พยศหนัก ไม่ยอมให้ใครตามทันหรือจับตัวง่ายๆ ทามกลางอันตรายนั้น ท่านหญิงโปรดรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าชายหนุ่มแข็งแรงปานใด
ดูเหมือนโทชิต้องการหลอกล้อให้พวกทหารเข้าใจผิด เมื่อแน่ใจแล้วถึงได้พาเธอวกกลับไปทางวังอัฐทิศ เขายังคงใช้เส้นทางเปลี่ยวที่ไม่มีใครใช้ ผ่านเรือนข้าหลวงของวังที่เขาและแม่เคยอยู่ กระทั้งพาเธอเข้ามาในวังอัฐทิศได้สำเร็จ
ทว่าความสมบุกสมบันยังไม่จบ เพราะทันทีที่เข้ามาถึงด้านในวังนาวาอากาศหนุ่มก็โยนท่านหญิงโปรดลง เขากระชากแขนให้เธอเดินตามไปบนชั้นสอง โดยไม่หันกลับมามองเธอ ไม่สนว่าเธอจะสะดุดล้ม เซ หรือมีบาดแผลตรงไหนบ้าง พอถึงห้องบรรทมของเธอเขาก็เหวี่ยงเธอเข้าไปแล้วปิดประตูล็อคจากด้านใน
“ถอดชุด!”
ไม่ทันที่ท่านหญิงโปรดจะเริ่มตกใจด้วยซ้ำ เสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากก็ดังเอ็ดตะโรมาจากหน้าวัง รู้ตัวอีกทีมือของคนที่เคยช่วยให้พ้นอันตรายก็เปลี่ยนมาอุ้มเธอไปทางเตียงบรรทมแล้ว!
“โทชิ!”
เขาเริ่มกระชากชุดกระโปรงออกจากตัวเธอจนรังดุมสีเดียวกับชุดกระเด็นหลุดภายในครั้งเดียว เวลานี้ทั้งตัวของท่านหญิงโปรด เนื้อตัวที่ไม่เคยให้ใครได้ยล กลับเหลือเพียงชั้นในตัวบางปกป้องเอาไว้เท่านั้น!
“อย่า!”
หญิงสาวร้องห้ามอย่างตื่นตระหนกแต่ชายหนุ่มไม่ฟัง พอถอดเสื้อตัวบนของเขาออกบ้างก็โถมตัวเข้าหา เริ่มจากขืนมือเธอไว้ ใช้ร่างทั้งร่างกดทับร่างบางไปบนเตียงบรรทม ใช้มือดึงชั้นในชิ้นน้อยออกไปจนแธอปลือยเปล่า แล้วถึงก้มลงมา!
“อื้ออออ!!”
แผงอกของนาวาอากาศหนุ่มร้อนระอุยามทาบลงมาบนเนื้อตัวที่ไร้เสื้อผ้าใดๆ ของท่านหญิงโปรด ความร้อนจากตัวเขาและแรงของบุรุษที่กดทับลงมาทำกายอ่อนนุ่มขยับแทบไม่ได้ เรี่ยวแรงและลมหายใจคล้ายถูกสูบหายไปด้วยริมฝีปากของเขาที่เข้ามาครอบครอง จนเราสองไร้ช่องว่างใดต่อกัน!
จูบของเขารุนแรง มันทั้งรีบร้อน ขบเน้นไปทั่วริมฝีปากของท่านหญิงโปรดอย่างไม่ออมแรง ทว่าในจังหวะที่หญิงสาวแทบหมดลมหายใจเขาก็ถอนจูบออก ไล่เลื่อนมาจูบดูดดึงซอกคอเธอบ้าง
“ไม่นะ หยุดเถอะ!”
“หยุดอะไร!?" เขาถามเสียงต่ำราวกับกำลังกดความโกธร ผิดกับสีหน้าท่าทางที่พร้อมรุนแรงใส่ท่านหญิงโปรดเต็มที่ “ท่านหญิงคงไม่เคยรู้ ว่ากองทัพญี่ปุ่นมักลงโทษพวกสอดแนมยังไง!”
“ไม่ได้สอดแนม” เธออธิบายพร้อมดิ้นรน “โปรดแค่อยากรู้ว่าพวกเธอคิดจะทำอะไรกับวังอัฐทิศ จึงตามไปดู จนได้ยินและเห็นว่าของในกล่องเป็น…”
ชายหนุ่มไม่รอให้คนเป็นท่านหญิงพูดจนจบก็รีบปิดปากเธอเอาไว้ ฝ่ามือของเขาที่กดลงมาทำเธอเจ็บไปหมด
เวลานี้ท่านหญิงโปรดทั้งเจ็บทั้งอายจนร้องไห้ออกมา ไม่มีแรงแม้จะขัดขืน ได้แต่ใช้สายตาฟ้องกับเขาว่าที่เขากำลังทำ ทำเธอเจ็บและตกใจแค่ไหน
ทว่านัยน์ตาสีดำมืดที่อยู่ใกล้เหลือเกินกลับยิ่งดูแข็งกระด่างอย่างที่สุด นั้นทำให้ท่านหญิงโปรดรู้ว่าวินาทีแรกที่พบกัน เขายังไม่ได้ปล่อยความโกธรเกลียดที่มีต่อเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาแสดงความโกธรออกมาได้มากกว่านั้นอีก
“บทลงโทษของพวกสอดแนมคือทรมานจนกว่าจะสารภาพความจริงออกมา! แต่ไม่มีใครรู้ ว่านรกที่แท้จริงคือหลังจากที่บอกความลับแล้วต่างหาก! เพราะพวกทหารจะเริ่มทรมานช้าๆ ควักลูกตา ตัดลิ้น พระองค์จะไม่มีปากให้ร้องครวญครางอย่างที่กำลังทำอยู่ด้วยซ้ำ! พวกทหารจะกระทำเลวทรามอย่างที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะนึกได้! ความทรมานของพวกสอดแนมจะกลายเป็นความสนุก! หากเป็นหญิงก่อนตายคงจะได้ถูกเวียนข่นขืน ทั้งทหารเด็ก ทหารแก่ นับพันนับหมื่นนาย ถูกกระทำย่ำยีเหมือนแม่หมูในคอกสกปรกๆตัวหนึ่งจนหมดศักดิ์ศรีความเป็นคน! ร้องให้ตายพวกเขาก็จะไม่หยุด! เพราะเราไม่จำเป็นต้องมีความเห็นใจให้ศัตรู!"
ท่านหญิงโปรดน้ำตาไหลพราก ส่ายหน้าไปมา กลัวในสิ่งที่เขากำลังพูดจับใจ
“นี่คือสงครามท่านหญิง! ความเห็นใจมันไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น! ท่านหญิงอย่าทรงลืมว่ากองทัพญี่ปุ่นคือศัตรูของพระองค์! ทหารพวกนั้นพร้อมทำร้ายพระองค์ได้เสมอ เพราะทรงโดดเดี่ยว ไร้ที่พึ่งที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัว! เวลานี้ทรงอยู่ในฐานะตัวประกันของกองทัพ รัฐบาลไทยไม่กล้ายื้นมือช่วย กองทัพญี่ปุ่นก็ไม่กลัวเกรง! ไม่มีใครจะช่วยหรือเป็นที่พึ่งของพระองค์ได้นอกจากต้องระวังองค์เอง!”
หญิงสาวตัวสั่นเทา ทรงรู้ว่าชายหนุ่มกำลังเตือนให้เห็นความจริง กำลังย้ำให้เธอเข้าใจ ว่าอย่าได้วางใจ อย่าได้เชื่อใจใครนับจากนี้!!
ไม่นานเสียงกลุ่มคนก็บุกขึ้นมาถึงหน้าประตู ทว่าก่อนที่คนข้างนอกจะได้พังเข้ามา ชายหนุ่มที่ขู่จนท่านหญิงโปรดหวาดกลัวไปหมดก็ดึงร่างเธอขึ้น จับให้มานั่งอยู่บนตักเขา ให้เส้นผมของเธอบดบังแผ่นหลังเปลือยเอาไว้ ทำให้เวลานี้ ท่าทางของเราดูเหมือนว่ากำลัง…เหมือนเธอกำลังเป็นฝ่ายที่…
“ปัง!”
ประตูห้องถูกถีบเข้ามาอย่างแรง ทว่าทันทีที่ทหารพวกนั้นเห็นว่าในห้องมีผู้บัญชาการของเขาอยู่ด้วย ซ้ำยังดูเหมือนกำลัง…ก็ชะงักไป เป็นนายกองโอซามุที่ได้สติก่อน จึงก้าวเข้ามารายงาน
“ท่านพันตรี เมื่อครู่มีพวกสอดแนมหนีมาจากทางโกดัง ผมตรวจสอบแล้วไม่พบจึง”
“ในนี้ไม่มีใคร นอกจากฉันกับท่านหญิง”
ท่านหญิงโปรดได้ยินโทชิตอบพวกทหารไปด้วยภาษาของพวกเขา ส่วนเธอไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมอง ได้แต่ก้มหน้างุด ใช้สองมือกอดร่างชายหนุ่มไว้แน่น เสมือนใช้เขาเป็นเครื่องปิดบังเนื้อตัว เธอแสนอาย แต่อายเขาดีกว่าจะให้ทหารทั้งกองที่ด้านหลังมองเห็น
เหมือนเขาจะรู้ จึงดึงผ้าขึ้นคลุมไล่เธอ พวกทหารมองดูการกระทำเหล่านั้นอย่างอึกอัก ก่อนรีบเซหน้าหลบ
“จะยืนดูอีกนานไหม ยังไม่รีบไปตรวจสอบที่อื่นอีก!”
“เอ่อ พันเอกเซย์อิคคิดว่าคนที่แอบไปสอดแนบพวกเราอาจเป็นคนในวังนี้ พวกเราจึงคิดว่าจะ”
“งั้นก็ไปเค้นกับข้าหลวงคนอื่นๆ เพระฉันอยู่ในห้องนี้กับท่านหญิงตลอด ไม่มีทางที่เธอจะไปสอดแนมพวกนายได้”
นาวาอากาศหนุ่มกล่าวเสียงขรึม ก่อนปัดผมหญิงสาวบนตักออกเล็กน้อย เผยต้นคอและแผ่นหลังที่มีรอยจูบของเขาประทับอยู่ ดูไกลๆ ราวกลีบกุหลาบสีแดงเรื่อ ไม่ต้องบอกพวกทหารก็รู้ว่าคือรอยอะไร…
“เห็นแล้วก็ออกไปได้แล้ว”
นายกองโอซามุรีบทำความเคารพก่อนนำกองทหารออกไป ทว่าในขณะที่ประตูกำลังจะถูกปิด นาวาอากศหนุ่มกลับเห็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพ ‘พันเอกเซย์อิค’ ทหารผมขาวที่ท่านหญิงโปรดเห็นเมื่อครู่กำลังยืนมองเข้ามาในห้องบรรทมโดยไม่กล่าวอะไร
สายตาของอีกฝ่ายจับจ้องมาที่ร่างแบบบางในอ้อมกอดของนาวาอากาศหนุ่ม ก่อนเลื่อนสายตามาจ้องมองเขา กระนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ได้เอ๊ะอะขัดขวาง ปล่อยให้โอซามุปิดประตูห้องบรรทม และเดินจากไปเงียบๆ
เมื่อไร้คนอื่นท่านหญิงโปรดก็รีบร้อนลงจากตัวนาวาอากาศหนุ่ม รีบก้มหน้างุดหลบสายตา ใช้ผ้าห่มเพียงผืนเดียวนั้นปกป้องตัวเอง
โทชิมองตามเนื้อตัว แขน และขาของท่านหญิงโปรดที่ปรากฏบาดแผลจากต้นหญ้าหนามซึ่งได้มาจากทางเปลี่ยวเมื่อครู่ เนื้อบอบบางมีเลือดไหลซึมออกมาไม่น้อย ทว่าเขากลับไม่คิดจะเรียกให้ข้าหลวงของวังเข้ามาช่วยทำแผลให้เจ้าหล่อน
“ช่วยเหลือตัวเองสะ คืนนี้ห้ามออกไปไหน และห้ามบอกกับใครถึงเรื่องที่เห็นทั้งนั้น…นี่จะเป็นการช่วยครั้งสุดท้าย"
ว่าจบเขาก็หยิบเสื้อขึ้นมาสวม ท่านหญิงโปรดเองก็รีบร้อนใส่เสื้อผ้าตัวเอง ไม่นานเสียงร้องไห้ระงมของเหล่านางข้าหลวงที่ด้านนอกก็ดังขึ้น เธอรู้ได้ในทันทีว่าพวกทหารกำลังเค้นความจริงจากสาวๆพวกนั้น ทว่าพอใจคิดจะวิ่งออกไปช่วยก็ถูกนาวาอากาศหนุ่มกระชากตัวกลับมา เขาเหมือนจะรู้ว่าท่านหญิงโปรดคิดทำอะไร จึงเดินไปล็อคประตูห้องบรรทมก่อนจับหญิงสาวโยนกลับไปบนเตียงบรรทมอีกครั้ง
“บรรทมซะ”
เธอเห็นเขาเดินกลับไป ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างห้อง คล้ายกำลังสังเกตสังกาอะไรอยู่
“คนขอเธอ จะไม่ทำอะไรพวกนางข้าหลวงใช่ไหม”
ชายหนุ่มหันกลับมามองท่านหญิงโปรด เพราะในห้องบรรทมเปิดโครมไฟไว้เพียงดวงเดียว เธอจึงเห็นสีหน้าเขาไม่ชัด
“ห่วงชีวิตตัวเองก่อนเถอะ”
เท่านั้นท่านหญิงโปรดก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ล้มตัวลงนอน พยายามเงียหูฟังเสียงของเหล่านางข้าหลวง เมื่อพบว่าเสียงพวกนั้นสงบลงแล้วก็วางใจ ก่อนหลับลงอย่างเหนื่อยล้าโดยไม่รู้เนื้อตัว
ห้องบรรทมถูกรี่แสงไฟลง ทว่ากองกำลังทหารญี่ปุ่นที่ด้านนอกกลับยังคงเดินตรวจตราอยู่รอบๆวัง พยายามแกะรอยหาคนร้ายไม่หยุด ไม่นานนายทหารคนหนึ่งก็วิ่งตรงไปหาพันเอกเซย์อิคที่ยืนเงียบจ้องมองตัววังอัฐทิศ ก่อนส่งผ้าสีหวานผืนหนึ่งที่ตรวจพบเข้าที่เขตป่าด้านหลังให้นายทหารอาวุโส พร้อมรายงานจุดที่พบด้วยภาษาของพวกเขา
นายทหารชั้นอาวุโสรับผ้าผืนนุ่มมาไว้ในมือ ดมกลิ่นหอมอ่อนๆของผู้หญิงที่ติดอยู่บนเนื้อผ้าอย่างพิจรณา ก่อนมองขึ้นไปยังหน้าต่างห้องบรรทม สุดท้ายหมุนตัวเดินลงเรือไปโดยไม่พูดอะไร
_______________________________
ตอนนี้เปิดให้สั่งจองนิยาย คนละภพ+พร้อมเล่นพิเศษ รอบพิมพ์ซ้ำอยู่นะคะ ใครรออยู่กดสั่งเลยน้า
กดสั่งตรงนี้จ้ะ >> http://chermabookshop.com/product
เปิดให้สั่งในรอบสองปีเลย และคงไม่เปิดแล้้วน้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น