ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Sydney ที่รัก

ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5

  • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 55



บทที่ 5
 
 
*******************
 
 
 “วันนี้เราจะทานอะไรกันดีคะพี่ธัญ” หญิงสาวถามเสียงหวาน พร้อมมองกล่องอาหารสำเร็จรูป4-5 กล่องในตู้เย็น ก่อนจะเอ่ยต่อ 
 
“อาหารที่เอามาจากร้าน มีผัดกระเพรา ผัดไทย แล้วก็เสือร้องไห้ มีซีฟู๊ดอยู่ในถุงด้วย หรือเราจะทำกับข้าวกันดี” เธอบอกพร้อมชูอาหารในมือแต่ละอย่างที่กล่าวมาให้แฟนหนุ่มดู
 
“พี่ว่าอุ่นอาหารกล่องดีกว่านะ ลินจะได้ไม่เหนื่อยไง” ชายหนุ่มออกความเห็น พร้อมลุกจากโต๊ะกับข้าว เข้าไปชะโงกหน้าใกล้ ๆตู้เย็นก่อนจะตวัดแขนรวบเอวคอดของแฟนสาวไว้ แอบสูดความหอมละมุนของเส้นผมสลวยและแก้มนุ่ม
 
“อื้อ....พี่ธัญ อย่าซนซิคะ ลินจะอุ่นกับข้าวให้นะ”  เธอว่าพร้อมกับฟาดฝ่ามือใส่แขนเกร่งเบา ๆ เป็นสัญญาณบอกให้ปล่อย ก่อนจะเลือกอาหารสำเร็จรูป ใส่ในไมโครเวฟ แล้วกดตั้งเวลา
 
ชายหนุ่มมองแฟนสาวจัดการกับอาหารกล่องตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกาย ไม่ว่าจะมองมุมไหนแฟนของเขาก็ช่างน่ารักน่าใคร่ ๆ จริง ๆ 
 
เกือบจะครบสัปดาห์แล้วที่เขาเดินทางมาถึงซิดนี่ โดยมีแฟนสาวไปรอรับที่สนามบิน ก่อนจะเดินเดินทางเข้าพักที่คอนโดของแฟนสาว ซึ่งเธอต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี พาเขาไปเที่ยวรอบ ๆ เมือง ทั้ง ๆ ที่เธอก็เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน เธอกับเขาตัดสินใจที่จะพักห้องเดียวกัน เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ให้ตายซิ เมื่อก่อนเขากับเธอได้แค่จับมือถือแขน เขาก็ยังไม่ทรมานเท่ากับตอนนี้ที่ความสัมพันธ์คืบหน้า ได้นอนกอดเธอทุกคืน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น เพราะสาวเจ้าไม่ยินยอม และเขาก็ไม่อยากฝืนใจ ถึงแม้ว่าเขาจะทรมานแค่ไหนก็ตาม ต้องแอบไปปลดเปลื้องในห้องน้ำก็หลายครั้ง
 
“ติ๊ง”  
 
เสียงสัญญาณครบกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ของไมโครเวฟดังขึ้น ทำให้คนที่มัวแต่มองแฟนสาวของตัวเองเพลิน ได้โอกาสยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ อีกครั้ง ก่อนจะทำจมูกฟุดฟิต 
 
“หอมจัง” 
 
เขาว่า แต่สายตาไม่ได้ละไปจากดวงหน้าหวาน จนคนตัวเล็กค้อนขวับ  จะเอี้ยวตัวไปหยิบจานในตู้ แต่ก็ถูกวงแขนของคนที่รอโอกาสอยู่แล้วตวัดเอวบางไว้ในวงแขนอีกครั้ง 
 
“อุ๊ย...พี่ธัญจะทำอะไรคะ” หญิงสาวถามเสียงตื่น พร้อมยกมือบางกันไว้ที่หน้าอกเขาด้วยความตกใจ
 
“ขอพี่ชิมก่อนได้มั้ย ไม่รู้จะอร่อยรึเปล่า หอมขนาดนี้” เขาว่า ตาเป็นประกายวาววับ จ้องริมฝีปากเล็กบางสีเชอร์รี่ของแฟนสาว
 
“อยากชิมก็ อื้อ...” เสียงหวานหายไปในลำคอ เมื่อคนใจร้อนประกบปากหนาลงมาทันทีทันใด ก่อนจะใช้มืออีกข้างช้อนท้ายทอยของแฟนสาวให้แหงนหงายรับจุมพิตอย่างถนัดถนี่ ลิ้นร้อนตวัดเลียรอบริมฝีปากเล็ก ก่อนจะลุกล้ำเข้าไปดูดชิมความหวานภายในโพรงปากบาง เฝ้าปรนเปรอความหวานให้แก่กันอยู่กว่าห้านาที พร้อมเสียงคราวแผ่ว ๆ จากลำทั้งสองที่ประสานกัน และดูท่าว่าความร้อนแรงของจุมพิตจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงจากลำคอหนาครางแหบพร่า เรียกสติของคนตัวเล็ก ก่อนที่มือบางจะทุบอกแกร่งเบา ๆ เป็นสัญญาณให้พอก่อน เขาจึงถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย มองดวงหน้าหวานที่ตอนนี้แดงกร่ำ ตาปรอย
 
“อืม...อร่อยจริง ๆ ด้วย” เขาว่าล้อเลียนก่อนจะกดศรีษะเล็กให้แนบอกกว้าง ก่อนจะหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินเสียงดัง “ปั๊ก” จากการใช้กำปั้นน้อยทุบอกเขา พร้อมเสียงบริภาษ จากคนตัวเล็กกว่า 
 
“พี่ธัญบ้า”
 
“บ้าก็บ้ารักนะครับ”

เขายังล้อเลียนไม่หยุด ทำให้กำปั้นนั้นทุบเขาไม่หยุดเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะดึงแขนคนตัวเล็กให้เดินตามไปที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม รู้สึกเอ็นดูคนตัวเล็กแต่ทว่าอวบอิ่มจับใจ ก่อนจะจับตัวแฟนสาวให้นั่งบนเก้าอี้
 
“นั่งรอตรงนี้แหละฮะ เดี๋ยวส่วนที่เหลือพี่จัดการต่อเอง” เขาบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัว จัดการเทอาหารลงจานและทยอยนำอาหารพวกนั้นไปไว้ที่โต๊ะบริการแฟนสาว ก่อนจะกลับเข้ามาชงชาเย็นของโปรดของคนขี้อาย และยกออกมาให้ด้วย
 
“ขอบคุณคะ” เธอกล่าวพร้อมรับแก้วชาเย็นจากเขา ในขณะที่หน้ายังแดงไม่หาย น่ารักเสียจนเขาอดไม่ได้ที่จะฟังจูบลงบนแก้มนุ่มอีกครั้ง
 
“พี่ธัญ” หญิงสาวแหว ก่อนจะคว้างค้อน ทำตาประหลับประเหลือก เมื่อเขาทำหน้าทะเล้น แล้วยังยิ้มกริ่ม แถมยังยักคิ้วให้ด้วย ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ใกล้ ๆ 
 
“พี่ว่าพี่จะเริ่มหางานทำแล้วหละ” เขาเอ่ยขึ้นน้ำเสียงจริงจัง หลังจากทานข้าวกันไปซักพัก จนทำให้เธออดที่จะเงยหน้าขึ้นมองไม่ได้ 
 
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้คะพี่ธัญ พักผ่อนให้หายเหนื่อยก่อนก็ได้ เพิ่งมาถึงแท้ ๆ” อยากจะให้เขาพักก่อนซักระยะ เพราะรู้ว่าก่อนมาเขาเหนื่อยขนาดไหน 
 
“ไม่ได้หรอกลิน พี่ต้องแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลินด้วย  มีพี่มาอยู่ด้วยแบบนี้ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว” คนเกรงใจแฟนสาวเอ่ย เงินที่เก็บมาทั้งหมดจ่ายไปกับค่าตั๋วเครื่องบิน และให้ที่บ้านไว้ใช้ เขามีเงินเหลือติดตัวมาไม่กี่หมื่นบาท ซึ่งถ้าเทียบเป็นเงินเหรียญแล้ว ถือว่าน้อยมาก
 
“ก็ได้คะ แต่ระวังหน่อยนะ พี่ธัญถือวีซ่าท่องเที่ยว ตามกฎหมายที่นี่ทำงานไม่ได้ อย่าบอกใครล่ะว่าถือวีซ่าท่องเที่ยว ให้บอกถือวีซ่านักเรียนนะคะ ระวังตัวเองไว้ดีกว่า แล้วลินจะถามเพื่อน  ๆ ให้อีกทางว่า ร้านไหนเปิดรับคนบ้าง” เสียงหวานบอกแฟนหนุ่ม ไม่คิดดึงดันให้เขาหยุดพัก เพราะเห็นด้วย รู้ดีว่าถ้าเขาหยุดนาน ๆ  การเงินของเธอจะต้องมีปัญหา และรู้ว่าพูดไปแฟนหนุ่มก็ไม่ฟัง ทางที่ดีแนะนำและหาทางช่วยเขาแก้ไขดีกว่า เธอเคยได้ยินมาว่าหลายคนโดนส่งกลับประเทศเพราะลักลอบทำงาน โดยถือวีซ่าท่องเที่ยวอย่างแฟนของเธอ 
 
“จ๊ะ” แฟนหนุ่มรับคำ ก่อนจะพลัดกันตักอาหารให้อีกฝ่าย และปิดท้ายด้วยการออกไปเดินเล่นย่อยอาหารที่โอเปร่าเฮ้าส์ สถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของซิดนี่ย์
 
 
*******************************************

 

“จริงเหรอ แอล” น้ำเสียงตื่นเต้นของหญิงสาวทำให้สองหนุ่มสาวฮังการี่หันมามอง  พร้อมทั้งตั้งหน้าตั้งตาฟังสองหนุ่มสาวจากไทยและเอกัวดอร์อีกคู่คุยกัน
 
“จริงซิ ลองให้แฟนเธอไปสมัครดู เห็นว่าเขาต้องการคนด่วนอยู่นะ” เพื่อนหนุ่มหน้าคร้ามคมกล่าว ในขณะที่เพื่อนสาวพยักหน้าหงึกหงัก  
 
“ขอที่อยู่ร้านได้มั้ย” คนตัวเล็กว่า ก่อนจะควักสมุดและปากกาที่อยู่ในกระเป๋าออกมาเตรียมพร้อมจดที่อยู่ของร้านอาหาร ที่เพื่อนหนุ่มบอกว่าต้องการคนทำงานด่วน
 
“โห...อยู่ตั้งโซน 4 แนะนั่งรถไฟเกือบชั่วโมง” เสียงหวานว่า พร้อมทำตาโต หลังจากได้ที่อยู่ร้านอาหารดังกล่าวจากเพื่อนหนุ่ม คิดคำนวณระยะทางจากที่พักของเธอไปยังสถานที่ทำงาน ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าต้องไปทำงานที่โน่นทุกวันจะเหนื่อยขนาดไหนกับการเดินทางของแฟนหนุ่ม
 
“อืม...ไกล แต่เขาให้เงินดีนะ ถ้าวันไหนยอดขายทะลุเป้า เขายังให้ทิปพิเศษอีก” หนุ่มหน้าคมว่า ก่อนจะมองหน้าเพื่อนสาวที่ทำหน้าแหย 
 
“เธอจะกังวลอะไรนักหนา แฟนเธอน่ะ เขาเป็นผู้ชายนะ เรื่องแค่นี้เอง”  เขาว่า ซึ่งเธอได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก แต่ใจก็อดห่วงแฟนหนุ่มไม่ได้ กังวลว่าเขาจะเหนื่อยเกินไปรึเปล่า
 
“อืม...เราจะลองคุยกับเขาดูละกันนะ” 
 
“นี่ลิน แฟนเธอมาที่นี่แล้วแบบนี้ แล้วอาจารย์สุดหล่อของเราล่ะ” สาวเสียงเล็กจากฮังการี่เอ่ยถาม เมื่อเห็นเพื่อนคุยเรื่องงานกันเสร็จแล้ว
 
“อาจารย์เขาก็อยู่ส่วนของอาจารย์ซิ เกี่ยวอะไรกับเราล่ะ” เธอว่าก่อนจะหันหน้าไปมองคนถาม พร้อมเลิกคิ้วโก่ง
 
“นี่อย่ามาทำอินโนเซ้นท์นะ เธอก็รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอ จะจับปลาสองมือรึยังไงยะ โน่นก็จะเอา นี่ก็จะเอา” เพื่อนสาวว่า ค้อนควับ เมื่อเห็นท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ของอีกฝ่าย
 
“นี่ ยัย นีน่า แล้วฉันบอกเธอเมื่อไหร่ว่าฉันจะเอาทั้งสองทางนะฮึ” เธอว่าก่อนจะถลึงตาคู่โตใส่เพื่อนสาวอย่างดุ ๆ 
 
“ฉันคบกับแฟนมาตั้งหลายปี แล้วก็จริงจังมากด้วย... ส่วนอาจารย์มันก็แค่ความเผลอไผลเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่าการชอบนิสัย ใจคอเท่านั้นหรอกยะ ถ้าเธอกลัวอาจารย์จะอกหัก ชอกช้ำใจละก็ เธอก็มาเป็นยาใจให้เขาซิ” เธอว่า พร้อมหอบชีทเรียนปึกหนาขึ้นแนบอก สะพายกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน  ส่วนคนที่ถูกแนะนำถึงกับทำหน้าไม่ถูก เพราะจริง ๆ แล้วเธอก็แอบชอบอาจารย์หนุ่ม ทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงออกไปไม่ว่าจะทำท่าคลั่งไคล้ หลงใหล ส่งสายตาหวานเยิ้มให้เขา มากเกินควร เหมือนกับว่าเธอล้อเล่น แต่จริง ๆ แล้วมันออกมาจากใจส่วนลึก แต่ที่ทำให้มันสุดโต่งแบบนั้นก็เพราะเขิน ต่างหากเล่า
 
“คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ” เสียงทุ้มที่ได้ยิน ทำให้ทั้งหมดหันหน้าไปตามเสียงที่ประตู ก็เห็นคนที่พวกเธอนินทาเมื่อครู่กำลังเดินเข้ามาในห้องเรียนที่พวกเธอนั่งอยู่
 
คนที่ถูกเพื่อนแนะนำเมื่อครู่ทำหน้าปั้นยาก ส่วนคนที่แนะนำเพื่อนสาวกลับส่งยิ้มให้อาจารย์หนุ่มก่อนเอ่ยตอบ
 
“ ไม่มีอะไรหรอกคะ คุยกันเรื่องทั่วไปนะ อาจารย์ยังไม่กลับอีกเหรอคะ” เธอถามอาจารย์หนุ่ม เมื่อเห็นว่าเลยเวลาเลิกมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
 
“กำลังจะกลับฮะ พอดีเห็นลูกศิษย์ยังนั่งคุยกันอยู่ ก็เลยแวะเข้ามาถามไถ่” เขาว่าพร้อมขยิบตาให้กลุ่มลูกศิษย์อย่างมีเสน่ห์ 
 
“ผมไปส่งนะครับลิน” อาจารย์หนุ่มถาม เมื่อเห็นลูกศิษย์สาวทำท่าเหมือนกำลังเตรียมของจะกลับบ้าน คนถูกถามอึกอักมองหน้าเพื่อนสาว ก่อนจะพยักหน้าตอบตกลงอาจารย์หนุ่ม ก็ดีเหมือนกันเธอจะได้บอกเขาเรื่องแฟนของเธอด้วย จะได้ไม่มีอะไรติดค้างในใจอย่างนี้
 
“งั้นเรากลับแล้วนะทุกคน เจอกันพรุ่งนี้จ๊ะ” เธอกล่าวลาเพื่อน ๆ พร้อมทั้งเดินไปหาอาจารย์หนุ่มที่ยืนคอยอยู่หน้าห้อง ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่สุภาพบุรุษเมื่อเธอเดินไปถึงโดยการช่วยถือเอกสารปึกใหญ่ที่เธอหอบมาก่อนจะเดินตามกันไปที่รถ
 
 
 
*******************************************
 
 
 
“นี่เป็นเบอร์แล้วก็ที่อยู่ของร้านนะคะพี่ธัญ"

หญิงสาวยื่นกระดาษที่จดชื่อ ที่อยู่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของร้านอาหารที่เพื่อนแนะนำมาให้แฟนหนุ่ม ก่อนจะย้ายสะโพกกลมกลึงขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงข้างๆเขา ชายหนุ่มยื่นมือข้างหนึ่งมารับไว้ ส่วนอีกข้างรั้งร่างบางของแฟนสาวให้พิงกับหัวไหล่หนาของตน
 
"ร้านมันอยู่ค่อนข้างไกล แต่เห็นเพื่อนบอกว่าเขาให้เงินดีนะคะ"

บอกพร้อมอิงศีรษะเข้ากับอกแกร่ง ก่อนจะวาดแขนเรียวโอบรอบเอวหนา ได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นตึกตัก ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะฝังจมูกโด่งลงบนเส้นหอมกลุ่นของแฟนสาว  มือหนาวางกระดาษแผ่นเล็กไว้ตรงหัวเตียง หลังจากพิจารณามันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะวาดมือหนาโอบแฟนสาวไว้ทั้งตัวก่อนเอ่ยถามไปอีกเรื่องที่คาใจอยู่ตอนนี้มากกว่า
 
"ลินยังไม่เล่าเรื่องอาจารย์คนนั้นให้พี่ฟังเลย"

เขาว่าเสียงทุ้ม ปกติถ้าวันไหนแฟนสาวทำงานเธอต้องกลับมาที่ห้องพักก่อน แล้วเขากับเธอก็จะออกไปพร้อมกัน เขาจะเป็นคนพาเธอไปส่งที่ทำงานโดยนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปอีกฝาก ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ในระหว่างนั้นก็จะชี้ชวนให้ดูความสวยงามของเมืองทั้งสองฝากฝั่ง เมื่อไปถึงร้านก็ทานอาหารกันก่อนที่แฟนสาวจะเริ่มงาน ส่วนตัวเขาก็ไปเดินเล่นตามชายหาด สำรวจโน่นนี่นั่นเรื่อยเปื่อยก่อนจะกลับที่พัก รอจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาที่แฟนสาวจะเลิกงานถึงได้ออกไปรับ หรือบางวันก็จะมีพี่ที่ร้านพามาส่งซึ่งเธอจะโทรมาบอกเขาก่อนเสมอ แต่วันนี้แฟนของเขาบอกว่าอาจารย์หนุ่มคนนั้นอาสาพาไปส่งที่ทำงาน ตอนแรกเขาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่เมื่อเธอบอกว่ามีเหตุผล อยากจะคุยกับคนนั้นให้เป็นกิจจะลักษณะเกี่ยวกับเรื่องของเขา ทำให้อารมณ์ร้อนในใจเพลาลงบ้าง แต่ก็ยังอดระแวงไปเสียไม่ได้ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจแฟน แต่เขาไม่ไว้ใจไอ้อาจารย์นั่นต่างหาก ขนาดรู้ว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดเขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว มันยังไม่วายมาบอกว่าชอบ ยังงี้มันน่าจะโดนซักหมัด
 
คนโดนแฟนหนุ่มหึงเงยหน้าหวานของตัวเองขึ้นสบตาคม ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจูบแก้มสากเบาๆ และเริ่มเล่าในสิ่งที่เขาอยากรู้ เสียงใสเจื้อยแจ้วเล่าให้ฟังตั้งแต่อาจารย์หนุ่มมารับที่ห้องเรียน ในระหว่างที่นั่งรถไปกับเขาเธอก็บอกว่าแฟนหนุ่มได้บินมาถึงซิดนี่ย์แล้ว และเธอกับเขาก็พักอยู่ด้วยกัน ปิดท้ายด้วยการบอกว่าแฟนของเธอขี้หึงขนาดไหน และเธอเองก็ไม่อยากทำให้แฟนหนุ่มไม่สบายใจด้วยการออกไปไหนมาไหนกับเขาอีก ดูเหมือนว่าแฟนหนุ่มของเธอจะพออกพอใจในสิ่งที่เธอได้เล่าให้เขาฟัง เพราะมือไม้ของเขาเริ่มอยู่ไม่สุข จากเมื่อกี้ที่มันลูบเบาๆ ที่บ่าบอบบางและแขนเรียวของเธอ ตอนนี้มือหนาของเขามันวางแมะอยู่บนสะโพกกลมกลึง ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาที่เอวคอด มืออีกข้างเฉยคางแหลมบังคับกลายๆ ให้เธอเงยหน้าสบตาเขา เหมือนจะพิสูจน์ความจริงในสิ่งที่เธอได้เล่าให้เขาฟังไปแล้ว ตาสองคู่สบกันนิ่งก่อนที่ตากลมโตของหญิงสาวจะหลับพริ้มเมื่อใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้ ปากหนาประกบกับริมฝีปากบาง ค่อยๆเลาะเล็มความหอมหวานไปทั่วริมฝีปากสีเชอร์รี่ ก่อนจะรุกล้ำเข้าไปดูดดื่มน้ำผึ้งหวานข้างใน จุมพิตอ่อนโยนเมื่อครู่ทวีความร้อนแรงขึ้นตามลำดับ มือหนาที่ลูบเอวคอดเมื่อครู่เลื้อยไล่มาตามหน้าท้องแบนราบ ก่อนที่มันจะผลุบหายไปในชายเสื้อสัมผัสกับผิวนุ่มลื่นโดยตรง และเลื้อยขึ้นมาจนถึงทรวงอกอวบอิ่ม ก่อนจะบีบเคล้นสัมผัสความหนุ่มหยุ่น ในขณะที่ริมฝีปากหนาก็ไล้มาตามลำคอระหง มาบรรจบกันกับมือหนาที่ทำหน้าที่รออยู่ก่อนแล้ว เธอไม่รู้ตัวเลยว่ากระดุมผ่าหน้าเสื้อตัวบางของชุดนอนที่สวมใส่อยู่เมื่อครู่หลุดจากกันตั้งแต่ตอนไหน จนกระทั่งลิ้นร้อนเขาดูดดึงเม็ดบัวสีชมพูบนทรวงอกอิ่ม และทำกับอีกข้างเหมือนกับจะไม่ยอมให้ข้างไหนน้อยหน้าไปกว่ากัน เธอหมดแรงต่อต้านซึ่งไม่คิดที่จะทำตั้งแต่ตอนแรก ได้แต่หยัดตัวขึ้นรับสัมผัสจากเขาตามแรงอารมณ์ที่เขาก่อขึ้น และอยากจะสนองกลับไปให้เท่ากัน จนกลั้นเสียงครางที่เก็บไว้ไม่ไหว 
 
“อืม...พะ..พี่ธัญ...อือ...”

ได้ยินเสียงแหบพร่าของเขาดังบอกรักเธอไม่หยุด จนริมฝีปากที่บอกรักเธอเมื่อครู่เลื่อยลงมาหยุดที่สะดือบุ๋ม ทำการสำรวจและทำท่าว่าจะไหลต่ำลงมาเรื่อย มือบางรีบจับกระชับศีรษะได้รูปของเขาไว้แน่นไม่ยอมให้มันเลื้อยต่ำไปกว่านี้ เสียงหวานละล่ำละลักบอก
 
"พะ...พอแค่นี้เถอะนะคะพี่ธัญ ละ...ลินกลัว" 
 
ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่พยักหน้าคมอยู่กับหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะขยับร่างหนาขึ้นมากอดคนตัวเล็กไว้ทั้งตัวอีกรอบ พยายามสกัดกลั้นอารมณ์ที่มันพุ่งกระฉูดให้เข้าที่เข้าทาง พร้อมขยับตัวให้คลายความอึดอัดจากอะไรที่กำลังโป่งพอง
 
"ลินแกล้งพี่อีกแล้วนะครับ"

เขาว่าชิดผมนุ่ม ด้วยน้ำเสียงยังแหบพร่า ก่อนจะฝังจูบลงบนหน้าผากบางอีกรอบ
 
"ลินเปล่านะคะ กลัวจริงๆ"

คนหน้าแดง ตัวแดงบอก นอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขา เรียนรู้จากประสบการณ์หลายวันที่ผ่านมาว่าถ้าหากเธอขยับตัวช่วงนี้ เขาอาจจะเริ่มต้นสำรวจเธออีกรอบ คราวนี้ไม่แน่ใจว่าจะห้ามใจตัวเองและเขาได้รึเปล่า
 
"ลินขอเวลาซักพักนะคะ"ซึ่งเขาก็พยักหน้า
 
"ครับ พี่เข้าใจ"

เขาว่า เข้าใจถึงความรู้สึกสับสนและหวาดกลัวของแฟนสาว เขาไม่อยากจะบุ่มบ่าม หักหาญเอาแต่ใจ อยากจะค่อยๆสร้างความคุ้นชินให้เธอกับสัมผัสของเขา และรอวันที่หญิงสาวยินยอม และตกลงด้วยความสมัครใจ
 
"นอนเถอะนะ พรุ่งนี้เช้าพี่จะโทรไปร้านนั้นเอง ฝันดีนะครับ"

เขาว่าพร้อมลูบผมสลวยของแฟนสาวราวกลับจะปลอบโยน แล้วมอบกู๊ดไนท์คิสให้เธออีกหนึ่งครั้ง ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน

 
 
**************************************************



ขอคอมเม้นต์ด้วยนะฮ้าบบบบ


 
 





 
 
 
ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

2ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

2ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture