คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 2 ความจริง (2)
“หากมีโอกาสพี่จะไถ่โทษเรานะ”
เคลย์ตันยยืนมองหญิงสาวจนลับตาไปและตัดสินใจเดินเข้าห้องมาทุกอย่างที่เขาซื้อให้ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่างยังวางอยู่ที่เดิม ชายหนุ่มเดินไปหยิบกรอบรูปขึ้นมาขากถึงขยะและวางลงไว้ที่เดิม ต่อจากนี้เขาคงไม่ได้ยินเสียงหวานๆ นั้นอีกแล้ว
เสียงเพลงดังกระหื่มบวกกับแสงสปอร์ตไลน์ที่สาดส่องไปทั่วบริเวณกลิ่นบุหรี่ลอยคละคุ้งและสตรีมากหน้าหลายตาที่ออกมาโชว์ลวดลายอยู่หน้าเวที ผู้คนกับสนใจแต่ผิดกับเคลย์ตันที่นั่งหมดอาลัยตายอยากพร้อมกับยกเหล้าขึ้นดื่มเหมือนกับน้ำเปล่า
“ดื่มให้หมดจนเมายังไงก็ลืมเขาไม่ได้หรอกนะครับ”
ไซม่อนบอร์ดี้การ์ดมือดีของเคลย์ตันพูดขึ้นมาเพราะทนเห็นเจ้านายดื่มจนเมามายไม่ได้ คนเรานี่ก็แปลกรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะฐานะที่แตกต่างกัน
“หุบปาก! ไปเรียกเว่ยอิงมาดื่มอีกคนนายก็ดื่มด้วย”
เว่ยอิงบอร์ดี้การ์ดคนสนิทอีกคนที่ทำงานให้เขามาหลายปีจนเขาไว้ใจลูกน้องทั้งสองได้
“นายทำแบบนี้มีแต่นายที่จะเสียใจเอง”
“นายจะไปรู้อะไรไซม่อน ฉันต้องการอำนาจเพื่อดูแลปกป้องคนที่ฉันรัก”
ทั้งสองเมื่ออยู่นอกเวลางานจะพูดคุยกันเหมือนเพื่อนซึ่งเคลย์ตันและไซม่อนเป็นกันมานานไม่แปลกที่จะไว้ใจกัน
“ฉันหวังว่านายจะเลือกถูก”
ไซม่อนหนักใจหากเขาเป็นหญิงสาวคนนั้นชาตินี้คงไม่ขอพบเจออีก เป็นเขาก็ไม่กล้าไปพบหน้าด้วยเพราะความละอายใจ
“โห่พี่เจ้านายตัวหนักเป็นบ้าเลย”
“แบกไปใกล้ถึงรถแล้ว”
เว่ยอิงบ่นอุบอิบเพราะเขาต้องแบกเจ้านายที่เมามายลงมาจากไนต์คลับเพื่อจะพาไปส่งที่บ้านพักระหว่างนั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
“ฉันจางเจียลี่ว่าที่ภรรยาของคุณหวัง ขอฉันคุยกับเขาหน่อย”
“เจ้านายผมไม่สะดวก...”
“คุณมีอะไรกับผม!”
เคลย์ตันที่ยังคงประคองสติได้อยู่จึงหันมามองหญิงสาวตรงหน้าหน้าตาก็สวยดี แต่ก็ไม่มีใครแทนที่หญิงสาวที่เขารักได้สักคนและจะไม่มีใครมาแทนที่เธอ
“ฉันจางเจียลี่เป็นว่าที่...”
“อะไรก็ช่างผมไม่สนใจ”
เจียลี่หน้าเสียขึ้นมาหญิงสาวคิดว่าเขาจะหลงเสน่ห์ของเธอบ้างแต่ใครจะสนในเมื่องานแต่งงานของเธอและเขากำลังจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า
“คุณจะไม่สนใจเจียลี่สักนิดเลยหรือไงคะ”
“เพราะคุณ ทำให้ชีวิตผมต้องเสียคนที่รักไปต่อให้ผู้หญิงเหลืออยู่คนเดียวบนโลกผมก็ไม่รักคุณ ขึ้นรถ!”
เคลย์ตันพูดอย่างอารมณ์เสียและขึ้นรถไปทิ้งให้ผู้หญิงตรงหน้ายืนอยู่คนเดียว โดยไม่สนใจใยดี
“กรี๊ดดดด อีนั่นมันเป็นใครทำไมมันถึงได้หัวใจของคุณ”
เจียลี่กำหมัดแน่นเธอจะไม่มีวันเสียผู้ชายคนนี้ให้ใครเด็ดขาด เธอต้องรีบเร่งงานแต่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หวังชานเยจะได้อยู่ในกำมือของเธอตลอดไป
เมื่อเคลย์ตันเดินเข้ามาที่ห้องพักเขายังจำภาพของจินนี่ได้ทุกอย่างเขาอยากขอโทษอยากปลอบเวลาที่หญิงสาวร้องไห้ เขาก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าเธอเลยแต่เขาเลือกที่จะบอกเลิกเพราะพ่อของเขานั้นเลวร้ายเคลย์ตันหลับตาลงอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก
“เอาไว้พี่เคลียร์ตัวเองเสร็จพี่จะกลับไปหา”
หากทำให้หวังเฟยอินลงจากตำแหน่งได้ พ่อของเขาก็จะไม่มีอำนาจมาต่อรองกับเขาแค่ไม่กี่ปัหวังว่าหญิงสาวจะไม่เกลียดเขาไปมากกว่านี้
จินนี่ที่ตอนนี้กำลังเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างหญิงสาวร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมา เธอสัญญากับตัวเองว่าหลังจากนี้จะไม่เสียน้ำตาให้กับผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป
“แม่จ๋าจินเหนื่อยจังเลย”
หญิงสาวหยิบรูปมารดาขึ้นมาและพูดกับรูปถ่ายของมารดาหากเธออยู่เมืองไทยก็คงไม่ต้องมาพบเจอโชคชะตาแบบนี้ ทำไมมารดาถึงไม่เอาเธอไปอยู่ด้วย
หญิงสาวรู้แค่แม่เป็นเมียน้อยของจางเลี่ยงหลินตอนคลอดผู้ชายคนนั้นก็ไม่มาดูแลเลยสักนิดพอแม่เสียผ฿เป็นพ่อจึงพาเข้าไปอยู่ในบ้านให้ทุกคนตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อย
หลังจากอายุได้ประมาณสิบขวบแม่ของจางเจียลี่ก็เสียชีวิตลงยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพี่กับน้องยิ่งแย่ลงไป เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นหญิงสาวจึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านไปใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองใหญ่
ในวันที่ลำบากก็มีมือของเขายื่นเข้ามาช่วยเหลือคอยอยู่เคียงข้างไม่ไปไหนเขาทำให้เธอมีความสุขที่สุดในชีวิตและเขาก็ทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดเหมือนกัน
“จินนี่จะลืมมันไปให้หมด จินเจ็บตรงนี้ ฮึก” น้ำตาไหลอาบแก้มลงมาอีกรอบพร้อมกับมือที่กุมหน้าอกไว้เธอแค่อยากร้องไห้เพื่อระบายความเจ็บปวดออกมา
ไม่นานหญิงสาวจึงพล็อยหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาที่ยังติดอยู่บนใบหน้าสวย อยากลืมตาขึ้นมาแล้วลืมทุกอย่างที่เคยเจอไม่อยากรู้จักใครแค่อยากหายไปจากผู้คนที่ใจร้าย
“หากมีโอกาสพี่จะไถ่โทษเรานะ”
เคลย์ตันยยืนมองหญิงสาวจนลับตาไปและตัดสินใจเดินเข้าห้องมาทุกอย่างที่เขาซื้อให้ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่างยังวางอยู่ที่เดิม ชายหนุ่มเดินไปหยิบกรอบรูปขึ้นมาขากถึงขยะและวางลงไว้ที่เดิม ต่อจากนี้เขาคงไม่ได้ยินเสียงหวานๆนั้นอีกแล้ว
เสียงเพลงดังกระหื่มบวกกับแสงสปอร์ตไลน์ที่สาดส่องไปทั่วบริเวณกลิ่นบุหรี่ลอยคละคุ้งและสตรีมากหน้าหลายตาที่ออกมาโชว์ลวดลายอยู่หน้าเวที ผู้คนกับสนใจแต่ผิดกับเคลย์ตันที่นั่งหมดอาลัยตายอยากพร้อมกับยกเหล้าขึ้นดื่มเหมือนกับน้ำเปล่า
“ดื่มให้หมดจนเมายังไงก็ลืมเขาไม่ได้หรอกนะครับ”
ไซม่อนบอร์ดี้การ์ดมือดีของเคลย์ตันพูดขึ้นมาเพราะทนเห็นเจ้านายดื่มจนเมามายไม่ได้ คนเรานี่ก็แปลกรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะฐานะที่แตกต่างกัน
“หุบปาก! ไปเรียกเว่ยอิงมาดื่มอีกคนนายก็ดื่มด้วย”
เว่ยอิงบอร์ดี้การ์ดคนสนิทอีกคนที่ทำงานให้เขามาหลายปีจนเขาไว้ใจลูกน้องทั้งสองได้
“นายทำแบบนี้มีแต่นายที่จะเสียใจเอง”
“นายจะไปรู้อะไรไซม่อน ฉันต้องการอำนาจเพื่อดูแลปกป้องคนที่ฉันรัก”
ทั้งสองเมื่ออยู่นอกเวลางานจะพูดคุยกันเหมือนเพื่อนซึ่งเคลย์ตันและไซม่อนเป็นกันมานานไม่แปลกที่จะไว้ใจกัน
“ฉันหวังว่านายจะเลือกถูก”
ไซม่อนหนักใจหากเขาเป็นหญิงสาวคนนั้นชาตินี้คงไม่ขอพบเจออีก เป็นเขาก็ไม่กล้าไปพบหน้าด้วยเพราะความละอายใจ
“โห่พี่เจ้านายตัวหนักเป็นบ้าเลย”
“แบกไปใกล้ถึงรถแล้ว”
เว่ยอิงบ่นอุบอิบเพราะเขาต้องแบกเจ้านายที่เมามายลงมาจากไนต์คลับเพื่อจะพาไปส่งที่บ้านพักระหว่างนั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
“ฉันจางเจียลี่ว่าที่ภรรยาของคุณหวัง ขอฉันคุยกับเขาหน่อย”
“เจ้านายผมไม่สะดวก...”
“คุณมีอะไรกับผม!”
เคลย์ตันที่ยังคงประคองสติได้อยู่จึงหันมามองหญิงสาวตรงหน้าหน้าตาก็สวยดี แต่ก็ไม่มีใครแทนที่หญิงสาวที่เขารักได้สักคนและจะไม่มีใครมาแทนที่เธอ
“ฉันจางเจียลี่เป็นว่าที่...”
“อะไรก็ช่างผมไม่สนใจ”
เจียลี่หน้าเสียขึ้นมาหญิงสาวคิดว่าเขาจะหลงเสน่ห์ของเธอบ้างแต่ใครจะสนในเมื่องานแต่งงานของเธอและเขากำลังจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า
“คุณจะไม่สนใจเจียลี่สักนิดเลยหรือไงคะ”
“เพราะคุณ ทำให้ชีวิตผมต้องเสียคนที่รักไปต่อให้ผู้หญิงเหลืออยู่คนเดียวบนโลกผมก็ไม่รักคุณ ขึ้นรถ!”
เคลย์ตันพูดอย่างอารมณ์เสียและขึ้นรถไปทิ้งให้ผู้หญิงตรงหน้ายืนอยู่คนเดียว โดยไม่สนใจใยดี
“กรี๊ดดดด อีนั่นมันเป็นใครทำไมมันถึงได้หัวใจของคุณ”
เจียลี่กำหมัดแน่นเธอจะไม่มีวันเสียผู้ชายคนนี้ให้ใครเด็ดขาด เธอต้องรีบเร่งงานแต่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หวังชานเยจะได้อยู่ในกำมือของเธอตลอดไป
เมื่อเคลย์ตันเดินเข้ามาที่ห้องพักเขายังจำภาพของจินนี่ได้ทุกอย่างเขาอยากขอโทษอยากปลอบเวลาที่หญิงสาวร้องไห้ เขาก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าเธอเลยแต่เขาเลือกที่จะบอกเลิกเพราะพ่อของเขานั้นเลวร้ายเคลย์ตันหลับตาลงอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก
“เอาไว้พี่เคลียร์ตัวเองเสร็จพี่จะกลับไปหา”
หากทำให้หวังเฟยอินลงจากตำแหน่งได้ พ่อของเขาก็จะไม่มีอำนาจมาต่อรองกับเขาแค่ไม่กี่ปัหวังว่าหญิงสาวจะไม่เกลียดเขาไปมากกว่านี้
จินนี่ที่ตอนนี้กำลังเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างหญิงสาวร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมา เธอสัญญากับตัวเองว่าหลังจากนี้จะไม่เสียน้ำตาให้กับผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป
“แม่จ๋าจินเหนื่อยจังเลย”
หญิงสาวหยิบรูปมารดาขึ้นมาและพูดกับรูปถ่ายของมารดาหากเธออยู่เมืองไทยก็คงไม่ต้องมาพบเจอโชคชะตาแบบนี้ ทำไมมารดาถึงไม่เอาเธอไปอยู่ด้วย
หญิงสาวรู้แค่แม่เป็นเมียน้อยของจางเลี่ยงหลินตอนคลอดผู้ชายคนนั้นก็ไม่มาดูแลเลยสักนิดพอแม่เสียผ฿เป็นพ่อจึงพาเข้าไปอยู่ในบ้านให้ทุกคนตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อย
หลังจากอายุได้ประมาณสิบขวบแม่ของจางเจียลี่ก็เสียชีวิตลงยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพี่กับน้องยิ่งแย่ลงไป เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นหญิงสาวจึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านไปใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองใหญ่
ในวันที่ลำบากก็มีมือของเขายื่นเข้ามาช่วยเหลือคอยอยู่เคียงข้างไม่ไปไหนเขาทำให้เธอมีความสุขที่สุดในชีวิตและเขาก็ทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดเหมือนกัน
“จินนี่จะลืมมันไปให้หมด จินเจ็บตรงนี้ ฮึก” น้ำตาไหลอาบแก้มลงมาอีกรอบพร้อมกับมือที่กุมหน้าอกไว้เธอแค่อยากร้องไห้เพื่อระบายความเจ็บปวดออกมา
ไม่นานหญิงสาวจึงพล็อยหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาที่ยังติดอยู่บนใบหน้าสวย อยากลืมตาขึ้นมาแล้วลืมทุกอย่างที่เคยเจอไม่อยากรู้จักใครแค่อยากหายไปจากผู้คนที่ใจร้าย
ความคิดเห็น