คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
“มะ...หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ ชะ...เชิญพระชายานำอาหารไปได้ตามแต่พระทัยเลยเพคะ”
หนิงฮวาแสยะยิ้มก่อนจะผลักบ่าวรับใช้ในอุ้งมือไปให้พ้นทาง ทุกคนพากันแตกฮือออกเป็นวงกว้าง ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้นางเกินช่วงแขนเอื้อมถึง
“เอาไปให้หมดเลยนะเสี่ยวหนาน คืนนี้เราจะปาร์ตี้กัน”
“ปะ...ปาร์ตี้คืออะไรหรือเพคะ”
เสี่ยวหนานที่กำลังยกถาดไก่ชะงักพลางหันหน้ามาหาพระชายาของตน นั่นสินะ ยุคนี้ไม่น่าจะมีใครรู้จักคำว่าปาร์ตี้ได้
“ข้าหมายถึง...งานเลี้ยงน่ะ เจ้ารู้จักงานเลี้ยงใช่ไหม”
“อ๋อ...งานเลี้ยง แล้วพระชายาจะทรงเชิญผู้ใดมาร่วมงานบ้างหรือเพคะ หม่อมฉันจะได้จัดเตรียมสถานที่ให้”
เสี่ยวหนานถามน้ำเสียงจริงจัง หนิงฮวาเริ่มรู้สึกว่ายิ่งอธิบายยิ่งสับสน จึงหยุดพูดแล้วเข้าไปช่วยสาวรับใช้ของตนแบกถาดอาหารต่างๆ
“ไม่ต้องหรอกเพคะพระชายา หม่อมฉันถือเองได้”
“เอาน่า ช่วยกันถือ จะได้เร็วๆ ข้าหิวจะแย่แล้ว”
หนิงฮวาตอบแล้วเลือกแบกถาดผลไม้ออกไป เสี่ยวหนานรีบตามเสด็จไปติดๆ ด้วยกลัวว่าถ้าอยู่คนเดียวภายในโรงครัวนานเกินไปอาจถูกกลั่นแกล้งเอาได้
ทั้งสองพากันกลับมายังตำหนัก สายลมอ่อนพัดผ่านไปมาจนกลีบของดอกท้อปลิวร่วงหล่นมาเต็มพื้น แม้จะเป็นตำหนักที่ห่างไกลจากผู้คน ทว่ายังดีที่ยังมีต้นดอกท้อขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า พอให้ความสวยงามและนั่งชมยามเหงาได้เป็นอย่างดี
“กินด้วยกันสิ” นางเอ่ยชวนเสี่ยวหนาน
“หามิได้เพคะ พระชายาทรงเสวยก่อนเถิด หม่อมฉันรอทานทีหลังได้เพคะ”
เสี่ยวหนานเจียมเนื้อเจียมตัว ก้มหัวจรดพื้นรอให้หนิงฮวาทานอาหารทั้งหมดเสียก่อน
“เจ้า...ตามดูแลข้ามานานหรือยัง”
“หม่อมฉันได้อยู่เคียงข้างพระชายามาตั้งแต่วัยเยาว์เพคะ แม่ของหม่อมฉันรับใช้ท่านแม่ของพระชายา โชคดีที่หม่อมฉันและพระชายาอายุใกล้เคียงกันมาก จึงได้เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่ยังเยาว์เพคะ”
“งั้นหรือ...” หนิงฮวาพยักหน้ารับ
แปลว่านางและหนิงฮวาตัวจริงก็เปรียบเสมือนเพื่อนสมัยเด็กกันอย่างนั้นสินะ
“แล้วเจ้ากับข้าอายุเท่าไหร่หรือ”
คำถามของนางเรียกความแปลกใจให้เสี่ยวหนานไม่น้อย หากแต่อีกฝ่ายไม่กล้าถามถึงความเปลี่ยนไปของพระชายา จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบคำถามที่ถูกถามเท่านั้น
“สิบเก้าเพคะ”
“สะ...สิบเก้า!” หนิงฮวายกนิ้วขึ้นมาคำนวณอย่างรวดเร็ว
นางแต่งงานมาสามปีแล้ว เท่ากับว่านางแต่งงานกับองค์รัชทายาทตั้งแต่อายุสิบหกอย่างนั้นหรือ อย่างนี้ทั้งหนิงฮวาตัวจริงและเสี่ยวหนาน ต่างก็อายุน้อยกว่านางหมดเลยน่ะสิ
ก็โรซี่ในยุคปัจจุบันนั้น...อายุยี่สิบห้าแล้วนี่นา
“เจ้าขึ้นมานั่งข้างๆ ซิ”
“จะ...จะดีหรือเพคะพระชายา”
“น่าๆ ขึ้นมาเถอะ”
หนิงฮวาตบที่นั่งซึ่งยังว่างข้างกาย เสี่ยวหนานลังเล แต่ก็มิอาจขัดพระประสงค์ของพระชายาได้จึงต้องลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ ตามคำสั่ง
“กินซะ” หนิงฮวาฉีกน่องไก่ส่งให้นางชิ้นหนึ่ง
“อย่าเลยเพคะ พระชายาทรงเสวยก่อนเถิด”
“เจ้าก็รับชิ้นนี้ไปสิ เดี๋ยวข้าจะกินอีกชิ้น”
หนิงฮวาชี้ไปที่น่องไก่อีกชิ้น เสี่ยวหนานกลืนน้ำลายลงคอด้วยความอยากกิน ที่ผ่านมา นางได้ทานเพียงผักและเนื้ออันน้อยนิดที่หนิงฮวาเหลือไว้ให้ แม้ว่าอาหารที่ได้มาจะน้อยเกินอยู่แล้ว หากแต่หนิงฮวาก็ไม่เคยทานคนเดียวจนเกลี้ยงเลยสักครั้ง นางมักจะแบ่งกันทานกับเสี่ยวหนานอยู่ตลอด
“ขะ...ขอบพระทัยเพคะพระชายา”
เสี่ยวหนานรับน่องไก่ไปในที่สุด นางทานมันอย่างเอร็ดอร่อยราวกับคนไม่เคยทานมาก่อน หนิงฮวามองภาพนั้นด้วยความเอ็นดูปนสงสาร
แค่อาหารดีๆ สักอย่างที่จะมอบให้พระชายาของตนยังไม่มี องค์รัชทายาทเจียวลู่เหตุใดจึงได้ใจจืดใจดำเช่นนี้ คอยดูเถิด นางจะต้องทวงความยุติธรรมและทุกสิ่งทุกอย่างของหนิงฮวากลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว ไม่ใช่แค่เพื่อหนิงฮวาและเสี่ยวหนาน แต่ยังเพื่อตัวของนางเองด้วย!
นางอยากกลับไปยุคของตัวเองใจจะขาดแล้ว
หลังจากทานอาหารที่มีตรงหน้าจนหมด หนิงฮวาก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ สายตาเหลือบมองไปยังอาภรณ์ที่เสี่ยวหนานสวมใส่ราวกับชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่ใช้สาวใช้ของพระชายาในวังหลวง
หนิงฮวาตัวจริงนี่เป็นคนเช่นไรกันนะ แค่คนของตนยังดูแลปกป้องให้อยู่สุขสบายไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับโรซี่เป็นแน่ อะไรที่ควรจะเป็นของหนิงฮวา ก็คือของๆ นาง และนางจะช่วงชิงกลับมาให้หมด
“ไปกัน”
“ปะ...ไปไหนเพคะ”
“ข้าจะพาเจ้าไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าใหม่ ว่าแต่...ข้าเก็บเงินไว้ที่ไหนหรือ”
หนิงฮวาแบมือไปทางเสี่ยวหนานเพื่อขอเงิน
“มะ...ไม่มีหรอกเพคะ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา พระชายาไม่เคยออกไปนอกเขตวังหลวงเลย จึงไม่เคยได้รับเงินจากองค์รัชทายาทเพคะ”
“อะไรนะ แม้แต่เงินก็ยังไม่ให้เมียตัวเองหรือเนี่ย ไอ้เจ้าบ้านั่นมันน่าไม่อายจริงๆ!”
นางเหลืออด จะให้ใช้ชีวิตอยู่แบบลำบากยากเข็ญเช่นนี้คงได้อกแตกตายพอดี แสงสีเสียงในยุคนี้ทั้งหมด นางจะต้องได้เห็นและสัมผัส!
“ตำหนักขององค์รัชทายาทไปทางไหน”
“เอ๊ะ...”
“พาข้าไปเดี๋ยวนี้” หนิงฮวาออกคำสั่ง
เสี่ยวหนานรู้สึกได้ว่าจะต้องมีเรื่องยุ่งตามมาได้ แต่ก็มิอาจขัดคำสั่งพระชายาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินนำทางนางไปที่ตำหนักขององค์รัชทายาท ระหว่างทางไป มีทหารหนุ่มรูปงามมากมายยืนเฝ้าตามจุดต่างๆ ของวังหลวง ทั้งรูปร่าง และหน้าตา เป็นที่ถูกตาต้องใจโรซี่เหลือเกิน
“เจ้าชื่ออะไรหรือ”
ร่างบอบบางในอาภรณ์สวยงามตรงดิ่งเข้าไปหานายทหารหนุ่มผู้หนึ่งพลางแตะปลายคางอีกฝ่ายและเชยขึ้นเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ชัดเจน
‘โอ้ มาย ก็อด ผู้ชายในยุคนี้หล่อไม่บันยะบันยังขนาดนี้เชียวหรือเนี่ย!’
นางคิดในใจ
“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะพระชายา”
“จุ๊ๆๆ ไม่เอาๆ อย่ามาทำก้มตาก้มตาแบบนี้ บอกพี่สาวมาซิ ว่าเจ้าชื่ออะไร”
“เอ่อ กระหม่อม...” ทหารหนุ่มดูจะงุนงงไม่น้อย
เสี่ยวหนานรีบเข้ามาดึงพระชายาของตนเพราะเริ่มมีคนมองมามากขึ้น ลำพังข่าวลือที่ว่านางคบชู้กับองครักษ์เยว่เทียนก็ทำให้ภาพลักษณ์ย่ำแย่พอตัวแล้ว ขืนมีใครมาเห็นนางทำตัวสนิทสนมกับนายทหารเช่นนี้คงได้เกิดข่าวลือประหลาดขึ้นมาอีกเป็นแน่
“พระชายาเพคะ อย่าแตะตัวบุรุษใดนอกเหนือจากองค์รัชทายาทสิเพคะ”
“ทำไมกันเล่า ข้าไม่ได้ลากกันขึ้นเตียงเสียหน่อย” นางโต้เถียง
เสี่ยวหนานตาโตตกใจในคำตอบของหนิงฮวา รีบสั่นศีรษะไปมาด้วยเกรงว่าอาจมีใครได้ยินเข้า
“อย่าตรัสเช่นนี้สิเพคะ อาจจะถูกเข้าใจผิดเอาได้”
“ข้าไม่สนใจเสียหน่อย แล้วตกลง เจ้าชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไรหรือพ่อหนุ่ม”
“กะ...กระหม่อมมีนามว่า...”
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
ยังไม่ทันจะได้ฟังชื่อของบุรุษหนุ่มที่หมายปอง น้ำเสียงทุ้มต่ำทรงพลังก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน หนิงฮวาเบะปากทันทีด้วยพอจะเดาได้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร
“ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะจ๊ะ”
นางยิ้มหวานให้นายทหารหนุ่มก่อนจะหันกลับไปหาองค์รัชทายาทเจียวลู่ ที่ยืนตีหน้าเคร่งขรึมมองนางไม่วางตา ถึงรูปกายภายนอกจะหล่อเย้ายวนเพียงใด แต่จิตใจดำมืดไร้ความเมตตาต่อพระชายาของตนนั้นก็ทำเอาโรซี่ไม่สบอารมณ์เช่นกัน
“ข้าจะมาขอเงิน”
“อะไรนะ?”
“หูตึงหรือ ข้าบอกว่าข้าจะมาขอเงิน ข้าต้องการออกไปช้อปปิ้งนอกวังหลวง”
หนิงฮวาแบมือข้างหนึ่งไปที่หน้าองค์รัชทายาทเจียวลู่ มืออีกข้างเท้าสะเอวพลางเชิดหน้าใส่บุรุษหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวเหมือนทุกที
เจียวลู่หรี่ตามองสตรีตรงหน้าด้วยความแปลกใจ เป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว ที่ทุกครั้งยามเจอหน้ากัน นางจะเอาแต่ก้มหน้าคารวะเขาไม่เคยสบตาหรือเงยหน้าให้ได้เห็นถึงความงามชัดๆ เช่นนี้มาก่อน เอาแค่ยอมปริปากพูดคุยกับเขายังไม่เคยทำเสียด้วยซ้ำ
“ช้อปปิ้ง?” องค์รัชทายาทเจียวลู่ทวนคำ
“ข้าหมายถึง ข้าอยากออกไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ท่านลองดูสิ เสี่ยวหนานเป็นสาวใช้ของข้า แต่นางแต่งตัวราวกับชาวบ้านธรรมดา เสื้อผ้าหน้าผมไม่ได้เหมาะสมในการเป็นคนของพระชายาเลยสักนิด”
เจียวลู่มองไปที่เสี่ยวหนานก่อนจะเอื้อนเอ่ย
“เจ้าต้องการเสื้อใหม่อย่างนั้นหรือเสี่ยวหนาน”
“หะ...หามิได้เพคะ หม่อมฉัน...”
“เสี่ยวหนานไม่ได้ต้องการ แต่ข้าต้องการให้นางเอง มันเป็นสิ่งที่คนของพระชายาควรจะได้รับไม่ใช่หรือ”
หนิงฮวาดันตัวเสี่ยวหนานให้มาหลบอยู่ด้านหลังแล้วออกหน้าแทน การกระทำที่เปลี่ยนแปลงไปของพระชายาสร้างความแปลกใจให้แก่คนในวังหลวงไม่น้อย
“ที่ผ่านมาเจ้าไม่เคยเรียกร้อง”
“แต่ตอนนี้ข้าเรียกร้อง! และข้าจะเรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรเป็นของข้าคืนมา”
ประโยคหลังนางเอ่ยเสียงเบาให้ได้ยินแค่นางกับองค์รัขทายาทเจียวลู่สองคน ร่างสูงกำยำมองนางด้วยความสงสัย
เหตุใดจึงมีนิสัยแปลกไปได้เพียงชั่วข้ามคืน หนำซ้ำยังมาหาเข้าถึงตำหนักทั้งที่นางไม่ได้มาเหยียบที่นี่สองปีแล้ว นางมีจุดประสงค์อะไรกันแน่
“เจ้าเปลี่ยนไปนะ หนิงฮวา”
“ข้าไม่ได้เปลี่ยน ข้าแค่ไม่ยอมแล้วต่างหาก”
“ไม่ยอมเรื่องอะไรหรือ?” เขาถามกลับ
“ทุกเรื่อง...ใครทำอะไรกับข้าเอาไว้บ้าง ข้าจะตามสืบเสาะและเอาคืนให้จนสิ้น สาบานได้เลยว่าจากนี้ไปข้าจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่”
หนิงฮวาตอบกลับทันใด นางปะทะสายตากับองค์รัชทายาทเจียวลู่อย่างไม่เกรงกลัว นัยน์ตาหวานที่คอยแต่หลบหน้าเขามาตลอด บัดนี้กำลังจ้องมองเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“แล้วข้าจะคอยดู ทหาร ไปเตรียมรถม้ามา ข้าจะพาพระชายาของข้าไป...ช้อปปิ้ง”
บุรุษหนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้หนิงวาพลางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ใบหน้าที่เหมือนหมิงยู่ราวกับถอดแบบนั้นยิ่งทำให้นางเจ็บใจ เมื่อคนที่เคยอยู่ในโอวาทมาตลอด เวลานี้กลับอยู่เหนือกว่าในทุกทาง
ยุคปัจจุบันนางยังทำให้เขาหลงรักจนหัวปรักหัวปรำได้ ในยุคนี้นางก็จะทำให้ได้เช่นกัน!
พูดคุยท้ายตอนกับอีช้อยเองเจ้าค่ะ
จบตอนที่ 5 แล้วเจ้าค่ะ เริ่มมีบทให้องค์ชายเจียวลู่บ้างแล้ว จากนี้เรื่องราวของทั้งสองคนจะเป็นยังไงต่อนั้น ต้องมาร่วมลุ้นไปด้วยกันนะคะ เมื่อพระชายาผู้ที่เคยสงบเสงี่ยมและอยู่แต่ในตำหนักของคน ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ ผู้คนในวังหลวงจะรับมือกันได้หรือไม่ เอาใจช่วยโรซี่หรือหนิงฮวาไปพร้อมๆ กันจนกว่าจะจบเลยนะเจ้าคะ
คอมเมนต์ขอกำลังใจให้ช้อยบ้างนะเจ้าคะ กราบรอบทิศ...
ความคิดเห็น