ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนิงฮวา ชายาเจ้าสำราญ

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 65


    ตอนที่ 5




    “มะ...หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ ชะ...เชิญพระชายานำอาหารไปได้ตามแต่พระทัยเลยเพคะ”


    หนิงฮวาแสยะยิ้มก่อนจะผลักบ่าวรับใช้ในอุ้งมือไปให้พ้นทาง ทุกคนพากันแตกฮือออกเป็นวงกว้าง ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้นางเกินช่วงแขนเอื้อมถึง


    “เอาไปให้หมดเลยนะเสี่ยวหนาน คืนนี้เราจะปาร์ตี้กัน”


    “ปะ...ปาร์ตี้คืออะไรหรือเพคะ”


    เสี่ยวหนานที่กำลังยกถาดไก่ชะงักพลางหันหน้ามาหาพระชายาของตน นั่นสินะ ยุคนี้ไม่น่าจะมีใครรู้จักคำว่าปาร์ตี้ได้


    “ข้าหมายถึง...งานเลี้ยงน่ะ เจ้ารู้จักงานเลี้ยงใช่ไหม”


    “อ๋อ...งานเลี้ยง แล้วพระชายาจะทรงเชิญผู้ใดมาร่วมงานบ้างหรือเพคะ หม่อมฉันจะได้จัดเตรียมสถานที่ให้”


    เสี่ยวหนานถามน้ำเสียงจริงจัง หนิงฮวาเริ่มรู้สึกว่ายิ่งอธิบายยิ่งสับสน จึงหยุดพูดแล้วเข้าไปช่วยสาวรับใช้ของตนแบกถาดอาหารต่างๆ


    “ไม่ต้องหรอกเพคะพระชายา หม่อมฉันถือเองได้”


    “เอาน่า ช่วยกันถือ จะได้เร็วๆ ข้าหิวจะแย่แล้ว”


    หนิงฮวาตอบแล้วเลือกแบกถาดผลไม้ออกไป เสี่ยวหนานรีบตามเสด็จไปติดๆ ด้วยกลัวว่าถ้าอยู่คนเดียวภายในโรงครัวนานเกินไปอาจถูกกลั่นแกล้งเอาได้


    ทั้งสองพากันกลับมายังตำหนัก สายลมอ่อนพัดผ่านไปมาจนกลีบของดอกท้อปลิวร่วงหล่นมาเต็มพื้น แม้จะเป็นตำหนักที่ห่างไกลจากผู้คน ทว่ายังดีที่ยังมีต้นดอกท้อขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า พอให้ความสวยงามและนั่งชมยามเหงาได้เป็นอย่างดี


    “กินด้วยกันสิ” นางเอ่ยชวนเสี่ยวหนาน


    “หามิได้เพคะ พระชายาทรงเสวยก่อนเถิด หม่อมฉันรอทานทีหลังได้เพคะ”


    เสี่ยวหนานเจียมเนื้อเจียมตัว ก้มหัวจรดพื้นรอให้หนิงฮวาทานอาหารทั้งหมดเสียก่อน


    “เจ้า...ตามดูแลข้ามานานหรือยัง”


    “หม่อมฉันได้อยู่เคียงข้างพระชายามาตั้งแต่วัยเยาว์เพคะ แม่ของหม่อมฉันรับใช้ท่านแม่ของพระชายา โชคดีที่หม่อมฉันและพระชายาอายุใกล้เคียงกันมาก จึงได้เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่ยังเยาว์เพคะ”


    “งั้นหรือ...” หนิงฮวาพยักหน้ารับ


    แปลว่านางและหนิงฮวาตัวจริงก็เปรียบเสมือนเพื่อนสมัยเด็กกันอย่างนั้นสินะ


    “แล้วเจ้ากับข้าอายุเท่าไหร่หรือ”


    คำถามของนางเรียกความแปลกใจให้เสี่ยวหนานไม่น้อย หากแต่อีกฝ่ายไม่กล้าถามถึงความเปลี่ยนไปของพระชายา จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบคำถามที่ถูกถามเท่านั้น


    “สิบเก้าเพคะ”


    “สะ...สิบเก้า!” หนิงฮวายกนิ้วขึ้นมาคำนวณอย่างรวดเร็ว


    นางแต่งงานมาสามปีแล้ว เท่ากับว่านางแต่งงานกับองค์รัชทายาทตั้งแต่อายุสิบหกอย่างนั้นหรือ อย่างนี้ทั้งหนิงฮวาตัวจริงและเสี่ยวหนาน ต่างก็อายุน้อยกว่านางหมดเลยน่ะสิ


    ก็โรซี่ในยุคปัจจุบันนั้น...อายุยี่สิบห้าแล้วนี่นา


    “เจ้าขึ้นมานั่งข้างๆ ซิ”


    “จะ...จะดีหรือเพคะพระชายา”


    “น่าๆ ขึ้นมาเถอะ”


    หนิงฮวาตบที่นั่งซึ่งยังว่างข้างกาย เสี่ยวหนานลังเล แต่ก็มิอาจขัดพระประสงค์ของพระชายาได้จึงต้องลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ ตามคำสั่ง


    “กินซะ” หนิงฮวาฉีกน่องไก่ส่งให้นางชิ้นหนึ่ง


    “อย่าเลยเพคะ พระชายาทรงเสวยก่อนเถิด”


    “เจ้าก็รับชิ้นนี้ไปสิ เดี๋ยวข้าจะกินอีกชิ้น”


    หนิงฮวาชี้ไปที่น่องไก่อีกชิ้น เสี่ยวหนานกลืนน้ำลายลงคอด้วยความอยากกิน ที่ผ่านมา นางได้ทานเพียงผักและเนื้ออันน้อยนิดที่หนิงฮวาเหลือไว้ให้ แม้ว่าอาหารที่ได้มาจะน้อยเกินอยู่แล้ว หากแต่หนิงฮวาก็ไม่เคยทานคนเดียวจนเกลี้ยงเลยสักครั้ง นางมักจะแบ่งกันทานกับเสี่ยวหนานอยู่ตลอด


    “ขะ...ขอบพระทัยเพคะพระชายา”


    เสี่ยวหนานรับน่องไก่ไปในที่สุด นางทานมันอย่างเอร็ดอร่อยราวกับคนไม่เคยทานมาก่อน หนิงฮวามองภาพนั้นด้วยความเอ็นดูปนสงสาร


    แค่อาหารดีๆ สักอย่างที่จะมอบให้พระชายาของตนยังไม่มี องค์รัชทายาทเจียวลู่เหตุใดจึงได้ใจจืดใจดำเช่นนี้ คอยดูเถิด นางจะต้องทวงความยุติธรรมและทุกสิ่งทุกอย่างของหนิงฮวากลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว ไม่ใช่แค่เพื่อหนิงฮวาและเสี่ยวหนาน แต่ยังเพื่อตัวของนางเองด้วย!


    นางอยากกลับไปยุคของตัวเองใจจะขาดแล้ว




    หลังจากทานอาหารที่มีตรงหน้าจนหมด หนิงฮวาก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ สายตาเหลือบมองไปยังอาภรณ์ที่เสี่ยวหนานสวมใส่ราวกับชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่ใช้สาวใช้ของพระชายาในวังหลวง


    หนิงฮวาตัวจริงนี่เป็นคนเช่นไรกันนะ แค่คนของตนยังดูแลปกป้องให้อยู่สุขสบายไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับโรซี่เป็นแน่ อะไรที่ควรจะเป็นของหนิงฮวา ก็คือของๆ นาง และนางจะช่วงชิงกลับมาให้หมด


    “ไปกัน”


    “ปะ...ไปไหนเพคะ”


    “ข้าจะพาเจ้าไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าใหม่ ว่าแต่...ข้าเก็บเงินไว้ที่ไหนหรือ”


    หนิงฮวาแบมือไปทางเสี่ยวหนานเพื่อขอเงิน


    “มะ...ไม่มีหรอกเพคะ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา พระชายาไม่เคยออกไปนอกเขตวังหลวงเลย จึงไม่เคยได้รับเงินจากองค์รัชทายาทเพคะ”


    “อะไรนะ แม้แต่เงินก็ยังไม่ให้เมียตัวเองหรือเนี่ย ไอ้เจ้าบ้านั่นมันน่าไม่อายจริงๆ!”


    นางเหลืออด จะให้ใช้ชีวิตอยู่แบบลำบากยากเข็ญเช่นนี้คงได้อกแตกตายพอดี แสงสีเสียงในยุคนี้ทั้งหมด นางจะต้องได้เห็นและสัมผัส!


    “ตำหนักขององค์รัชทายาทไปทางไหน”


    “เอ๊ะ...”


    “พาข้าไปเดี๋ยวนี้” หนิงฮวาออกคำสั่ง


    เสี่ยวหนานรู้สึกได้ว่าจะต้องมีเรื่องยุ่งตามมาได้ แต่ก็มิอาจขัดคำสั่งพระชายาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินนำทางนางไปที่ตำหนักขององค์รัชทายาท ระหว่างทางไป มีทหารหนุ่มรูปงามมากมายยืนเฝ้าตามจุดต่างๆ ของวังหลวง ทั้งรูปร่าง และหน้าตา เป็นที่ถูกตาต้องใจโรซี่เหลือเกิน


    “เจ้าชื่ออะไรหรือ”


    ร่างบอบบางในอาภรณ์สวยงามตรงดิ่งเข้าไปหานายทหารหนุ่มผู้หนึ่งพลางแตะปลายคางอีกฝ่ายและเชยขึ้นเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ชัดเจน




    ‘โอ้ มาย ก็อด ผู้ชายในยุคนี้หล่อไม่บันยะบันยังขนาดนี้เชียวหรือเนี่ย!’




    นางคิดในใจ


    “ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะพระชายา”


    “จุ๊ๆๆ ไม่เอาๆ อย่ามาทำก้มตาก้มตาแบบนี้ บอกพี่สาวมาซิ ว่าเจ้าชื่ออะไร”


    “เอ่อ กระหม่อม...” ทหารหนุ่มดูจะงุนงงไม่น้อย


    เสี่ยวหนานรีบเข้ามาดึงพระชายาของตนเพราะเริ่มมีคนมองมามากขึ้น ลำพังข่าวลือที่ว่านางคบชู้กับองครักษ์เยว่เทียนก็ทำให้ภาพลักษณ์ย่ำแย่พอตัวแล้ว ขืนมีใครมาเห็นนางทำตัวสนิทสนมกับนายทหารเช่นนี้คงได้เกิดข่าวลือประหลาดขึ้นมาอีกเป็นแน่


    “พระชายาเพคะ อย่าแตะตัวบุรุษใดนอกเหนือจากองค์รัชทายาทสิเพคะ”


    “ทำไมกันเล่า ข้าไม่ได้ลากกันขึ้นเตียงเสียหน่อย” นางโต้เถียง


    เสี่ยวหนานตาโตตกใจในคำตอบของหนิงฮวา รีบสั่นศีรษะไปมาด้วยเกรงว่าอาจมีใครได้ยินเข้า


    “อย่าตรัสเช่นนี้สิเพคะ อาจจะถูกเข้าใจผิดเอาได้”


    “ข้าไม่สนใจเสียหน่อย แล้วตกลง เจ้าชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไรหรือพ่อหนุ่ม”


    “กะ...กระหม่อมมีนามว่า...”


    “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”


    ยังไม่ทันจะได้ฟังชื่อของบุรุษหนุ่มที่หมายปอง น้ำเสียงทุ้มต่ำทรงพลังก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน หนิงฮวาเบะปากทันทีด้วยพอจะเดาได้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร


    “ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะจ๊ะ”


    นางยิ้มหวานให้นายทหารหนุ่มก่อนจะหันกลับไปหาองค์รัชทายาทเจียวลู่ ที่ยืนตีหน้าเคร่งขรึมมองนางไม่วางตา ถึงรูปกายภายนอกจะหล่อเย้ายวนเพียงใด แต่จิตใจดำมืดไร้ความเมตตาต่อพระชายาของตนนั้นก็ทำเอาโรซี่ไม่สบอารมณ์เช่นกัน


    “ข้าจะมาขอเงิน”


    “อะไรนะ?”


    “หูตึงหรือ ข้าบอกว่าข้าจะมาขอเงิน ข้าต้องการออกไปช้อปปิ้งนอกวังหลวง”


    หนิงฮวาแบมือข้างหนึ่งไปที่หน้าองค์รัชทายาทเจียวลู่ มืออีกข้างเท้าสะเอวพลางเชิดหน้าใส่บุรุษหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวเหมือนทุกที


    เจียวลู่หรี่ตามองสตรีตรงหน้าด้วยความแปลกใจ เป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว ที่ทุกครั้งยามเจอหน้ากัน นางจะเอาแต่ก้มหน้าคารวะเขาไม่เคยสบตาหรือเงยหน้าให้ได้เห็นถึงความงามชัดๆ เช่นนี้มาก่อน เอาแค่ยอมปริปากพูดคุยกับเขายังไม่เคยทำเสียด้วยซ้ำ


    “ช้อปปิ้ง?” องค์รัชทายาทเจียวลู่ทวนคำ


    “ข้าหมายถึง ข้าอยากออกไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ท่านลองดูสิ เสี่ยวหนานเป็นสาวใช้ของข้า แต่นางแต่งตัวราวกับชาวบ้านธรรมดา เสื้อผ้าหน้าผมไม่ได้เหมาะสมในการเป็นคนของพระชายาเลยสักนิด”


    เจียวลู่มองไปที่เสี่ยวหนานก่อนจะเอื้อนเอ่ย


    “เจ้าต้องการเสื้อใหม่อย่างนั้นหรือเสี่ยวหนาน”


    “หะ...หามิได้เพคะ หม่อมฉัน...”


    “เสี่ยวหนานไม่ได้ต้องการ แต่ข้าต้องการให้นางเอง มันเป็นสิ่งที่คนของพระชายาควรจะได้รับไม่ใช่หรือ”


    หนิงฮวาดันตัวเสี่ยวหนานให้มาหลบอยู่ด้านหลังแล้วออกหน้าแทน การกระทำที่เปลี่ยนแปลงไปของพระชายาสร้างความแปลกใจให้แก่คนในวังหลวงไม่น้อย


    “ที่ผ่านมาเจ้าไม่เคยเรียกร้อง”


    “แต่ตอนนี้ข้าเรียกร้อง! และข้าจะเรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรเป็นของข้าคืนมา”


    ประโยคหลังนางเอ่ยเสียงเบาให้ได้ยินแค่นางกับองค์รัขทายาทเจียวลู่สองคน ร่างสูงกำยำมองนางด้วยความสงสัย


    เหตุใดจึงมีนิสัยแปลกไปได้เพียงชั่วข้ามคืน หนำซ้ำยังมาหาเข้าถึงตำหนักทั้งที่นางไม่ได้มาเหยียบที่นี่สองปีแล้ว นางมีจุดประสงค์อะไรกันแน่


    “เจ้าเปลี่ยนไปนะ หนิงฮวา”


    “ข้าไม่ได้เปลี่ยน ข้าแค่ไม่ยอมแล้วต่างหาก”


    “ไม่ยอมเรื่องอะไรหรือ?” เขาถามกลับ


    “ทุกเรื่อง...ใครทำอะไรกับข้าเอาไว้บ้าง ข้าจะตามสืบเสาะและเอาคืนให้จนสิ้น สาบานได้เลยว่าจากนี้ไปข้าจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่”


    หนิงฮวาตอบกลับทันใด นางปะทะสายตากับองค์รัชทายาทเจียวลู่อย่างไม่เกรงกลัว นัยน์ตาหวานที่คอยแต่หลบหน้าเขามาตลอด บัดนี้กำลังจ้องมองเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย


    “แล้วข้าจะคอยดู ทหาร ไปเตรียมรถม้ามา ข้าจะพาพระชายาของข้าไป...ช้อปปิ้ง”


    บุรุษหนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้หนิงวาพลางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ใบหน้าที่เหมือนหมิงยู่ราวกับถอดแบบนั้นยิ่งทำให้นางเจ็บใจ เมื่อคนที่เคยอยู่ในโอวาทมาตลอด เวลานี้กลับอยู่เหนือกว่าในทุกทาง


    ยุคปัจจุบันนางยังทำให้เขาหลงรักจนหัวปรักหัวปรำได้ ในยุคนี้นางก็จะทำให้ได้เช่นกัน!






    พูดคุยท้ายตอนกับอีช้อยเองเจ้าค่ะ


    จบตอนที่ 5 แล้วเจ้าค่ะ เริ่มมีบทให้องค์ชายเจียวลู่บ้างแล้ว จากนี้เรื่องราวของทั้งสองคนจะเป็นยังไงต่อนั้น ต้องมาร่วมลุ้นไปด้วยกันนะคะ เมื่อพระชายาผู้ที่เคยสงบเสงี่ยมและอยู่แต่ในตำหนักของคน ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ ผู้คนในวังหลวงจะรับมือกันได้หรือไม่ เอาใจช่วยโรซี่หรือหนิงฮวาไปพร้อมๆ กันจนกว่าจะจบเลยนะเจ้าคะ


    คอมเมนต์ขอกำลังใจให้ช้อยบ้างนะเจ้าคะ กราบรอบทิศ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×