ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่๕ คนของฉันต้องทำได้ทุกอย่าง
ห้องนอนของทยาทัพตกแต่งด้วยสีกรมท่ากับสีเท่าให้บรรยากาศดุดันพอตัว
หญิงสาวสอดส่องโดยรอบอย่างตื่นตาตื่นใจ
ข้าวของเครื่องใช้แต่ละอย่าง ราคาแพงลิ่วทั้งนั้น
เตียงนอนขนาดคิงไซส์หนานุ่มหรูหรา โคมไฟระยิบระยับส่องแสง
ด้านข้างห้องมีหน้าต่างที่ส่องพอดีกับบ้านของผู้หญิงที่ชื่อลิลัวพอดี
ชายหนุ่มเดินไปนั่งที่เก้าอี้แล้วกวักมือเรียก
“นั่งลงสิ”
“ค่ะ”
“ชื่ออะไร?”
“โชติกา ปราการสวัสดิ์”
“ประวัติการทำงานล่ะ?”
“โชเคยทำงานที่ผับเดบิโต้กับร้านอาหารอีกร้านสองร้านค่ะ
ทำอาหารได้ทุกแนว”
โชติกาเอามือปิดตัวเองไม่อยากให้เขาเห็นเรือนร่างมากเพราะเขาดูน่ากลัวนัก
ยิ่งอยู่ในห้องสองต่อสอง เกิดทำอะไรเธอขึ้นมาแล้วเธอคงสู้ไม่ได้แน่ๆ
ต่อให้หนีออกมาได้มันก็ไม่คุ้มอยู่ดี ทยาทัพหัวเราะในลำคอ
“นี่
เลิกทำท่าทีหวงเนื้อหวงตัวสักทีเถอะ มันตลก ฉันไม่ชอบเธอ และจะไม่มีวันชอบด้วย”
“โชแค่ไม่ชินนี่คะ”
“ไม่ชิน? เธอไม่เคยอยู่ในห้องกับผู้ชายเหรอ?”
“เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องรู้”
“ทำตัวใสซื่อเหมือนสาวแรกแย้มนี่ฉันรำคาญมากเลย
โตๆ กันแล้วไม่ใช่เด็กประถม เธอมีแฟนหรือยัง?” แม้จะไม่เกี่ยวและไม่จำเป็นต่อการทำงาน แต่ทยาทัพก็หลุดปากถามออกไป
“ฉันถามก็ตอบสิ ฉันอยากรู้อะไรเธอต้องตอบทุกอย่าง ว่าไง? มีแฟนหรือยัง?
ถ้ามีเคยมีมาแล้วกี่คน?”
“เคยมีสมัยเรียนค่ะ
คนเดียว แต่เลิกกันไปแล้ว”
“ใครทิ้งใครล่ะ?”
“เขาทิ้งโช”
“สมน้ำหน้า” ทยาทัพหัวเราะยียวน
ทำเอาคนถูกถามหัวเสียพอสมควรที่โดนไล่ต้อนทุกวิถีทาง “ทำไมเลิกกันซะล่ะ? ใครบอกเลิกใครก่อน?”
“โชต้องบอกคุณด้วยเหรอคะ?”
โครม!
“เธอจะปิดบังฉันเหรอ?” ชายหนุ่มตบโต๊ะลั่น ร่างเล็กของโชติกาสะดุ้งไปตามแรงตบ เขาโมโหร้ายมากๆ
แค่เธอไม่ยอมตอบก็ต้องทุบข้าวของ
แบบนี้เธอจะเอาชีวิตรอดไปจากคฤหาสน์นี้ภายในเวลาหนึ่งปีได้ยังไง
แค่คิดก็กลัวบอกไม่ถูก หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วพยายามตอบอย่างใจเย็น
“เปล่าค่ะ”
“งั้นก็ตอบมา”
“เขาบอกว่าเขาไม่รักโชแล้วค่ะ
เราก็เลยเลิกกัน”
“ดี สม”
ทยาทัพกระตุกยิ้มทำเอาโชติกาอ้าปากค้าง คนแบบนี้ก็มีด้วย
โตแล้วยังทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ “แล้วเธอไม่อยากรู้เหรอว่าฉันมีแฟนหรือยัง?”
“ไม่อยากรู้ค่ะ”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็มันเป็นเรื่องของเจ้านาย
ไม่ได้เกี่ยวกับงานของโช เดี๋ยวโชถามไปคุณชายก็หาว่าโชจุ้นจ้านอีก ”
โชติกาตอบเสียงเรียบไม่ได้มีเจตนากวนประสาท มันไม่ใช่เรื่องของเธอนี่นา
ใครจะมีแฟนแล้วหรือไม่มี ก็ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขในชีวิตมากขึ้นหรือน้อยลง
จะไปสนใจเรื่องชาวบ้านทำไมให้ปวดหัว
“แต่เธอต้องรู้
ฉันยังไม่มีแฟน ความจริงเคยมีมาหลายคนแล้วแต่เลิกกันไปหมด”
พูดถึงตรงนี้หญิงสาวก็หัวเราะออกมา “เธอขำอะไร?”
“เปล่าค่ะ”
โชติกากลั้นหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดง
ก็จะไม่ให้ขำได้ยังไงเล่า จริงอยู่
ถ้าเลือกได้ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คงอยากได้แฟนหล่อรวยมีชาติตระกูล แต่ถ้าหล่อแล้วร้ายกาจ
ป่าเถื่อน เอาแต่ใจ อารมณ์รุนแรงแบบนี้ใครมันจะไปทนได้ ทยาทัพขมวดคิ้วไม่พอใจที่เธอหัวเราะ
แต่ก็ยังพูดต่อ
“ฉันชอบคุณลิลัว”
“ค่ะ
โชไม่แปลกใจ พี่ลิลัวสวยมาก ผู้ชายคนไหนก็ต้องชอบ”
“ใช่ ใครๆ
ก็ชอบเขา แต่ฉันไม่ยอมหรอกนะ ฉันต้องจีบเขามาเป็นแฟนให้ได้” ทยาทัพพูดเสียงหนักแน่น
สีหน้าของเขาเมื่อพูดถึงสาวสวยเป็นไปอย่างชวนฝัน ทำเอาเธออดหมั่นไส้ไม่ได้
“เธอต้องช่วยฉัน ไม่ว่าคุณลิลัวอยากกินอะไร เธอต้องทำให้เขากิน ศึกษาเอาไว้ด้วย
เพราะอีกหน่อยเขาก็ต้องแต่งงานกับฉัน มาเป็นคุณหญิงของบ้าน”
“คุณรู้จักกันนานหรือยังคะ?”
“ก็สามสี่ปีแล้ว
ฉันเห็นเขาปุ๊บก็หลงรักเลยล่ะ”
“แล้วพี่ลิลัวชอบคุณไหมคะ?”
“ชอบสิ
ฉันหล่อขนาดนี้ เป็นคุณชายของอัครศิริประเสริฐ ใครจะอยากปฏิเสธฉัน”
“หลงตัวเอง”
“เธอพูดว่าอะไรนะ?” ได้ยินเสียงแว่วๆ เขาก็หันมาจ้องเขม็ง โชติกายิ้มแหยๆ ให้ “ฉันหลงรักคุณลิลัว
รักอย่างที่ไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนมาก่อน ไม่ว่ายังไง จะต้องแข่งกับผู้ชายกี่สิบคน ฉันจะต้องจีบคุณลิลัวมาเป็นแฟนฉัน
มาเป็นคุณหญิง เป็นคู่ชีวิตที่อยู่กับฉันตราบสิ้นลมหายใจ”
“คุณชายมีมุมแบบนี้ด้วยเหรอคะ?”
“มีสิ
เธอทำเหมือนเป็นเรื่องแปลกมาก”
“ก็... นิดนึงแหละค่ะ”
“คุณพ่อฉันเป็นคนโรแมนติก
ไปพบกับคุณหญิงแม่ที่เกาหลี แม่ฉันน่ารักมาก ตัวเล็กๆ ประมาณเธอนี่แหละ” ทยาทัพเผลอพูดด้วยความรู้สึกดีๆ
แม่ของเขาไม่สวยมากแต่ตัวเล็กและยิ้มหวานเหมือนโชติกาไม่มีผิด “เท่าที่รู้
คุณลิลัวชอบกินขนมเค้ก เบเกอรี่ คุณทำเป็นใช่ไหม?”
“ทำเป็นค่ะ”
“รีบไปทำมา
คุณลิลัวต้องได้กินเค้กใบเตยหลังกลับจากที่ทำงาน คนของฉันต้องทำได้ทุกอย่าง”
“ค่ะ คุณชาย”
......................................................................................................................................................
เพียงเพราะคำสั่งของทยาทัพทำให้โชติกาต้องมีงานเพิ่มอีกอย่าง
หญิงสาวหยิบขนมร้อนๆออกจากเตาอบ
ส่งกลิ่นกรุ่นน่ากินไปทั้งบ้าน คำแก้วถึงกับเดินมาดู
“ทำอะไรจ้ะหนูโช?”
“เค้กใบเตยค่ะ
คุณชายบอกให้ทำไปฝากพี่ลิลัว เห็นบอกว่าพี่เขาชอบกินเค้ก นี่ก็หกโมงกว่าจะทุ่มแล้ว
พี่ลิลัวน่าจะใกล้กลับบ้าน จะได้มากินเค้กอร่อยๆ”
โชติกาประมาณเวลาเพราะปกติพนักงานทั่วไปจะเลิกงานราวๆ ห้าโมง “จริงสิคะ
คุณชายไปไหน? โชไม่เห็นเลย?”
“อ่อ
ชายทัพไปทำงานนะ พอดีที่คฤหาสน์ของเรามีโฮมออฟฟิศอยู่
ถ้าไม่ใช่วันประชุมหรืองานสำคัญจริงๆ ชายจะได้ไม่ต้องไปบริษัท
ตระกูลเราทำธุรกิจไดมอนด์เซ็นเตอร์ หนูก็น่าจะรู้นะ”
คำแก้วเล่าถึงห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่ใครๆ ก็ต้องเคยได้ยิน โชติกาเองก็ไปบ่อยๆ
สมัยที่ยังมีเงิน
“เรื่องนี้โชรู้ค่ะ
แต่โชไม่รู้ว่าที่คฤหาสน์นี้มีโฮมออฟฟิศด้วย”
“วันไหนให้แก๊ปมันขับรถกอล์ฟพาเที่ยวก็ได้”
“ไม่ต้องรบกวนแก๊ปหรอกค่ะ
โชเดินเองได้ สมัยก่อนโชเดินไปเรียนประจำ” โชติกาพูดประสาคนอดออม
ถึงก่อนจะโดนหลอกติดหนี้เธอจะไม่ได้จน แต่เธอก็ไม่ได้ร่ำรวยเช่นกัน
ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นโดยการเดินไปมหาวิทยาลัยเพราะมันค่อนข้างใกล้บ้าน
“ถ้าเขาเดินเองได้ก็ให้เดินไปเลยครับ”
“คุณชาย?”
“ในเมื่อเก่งนัก
ก็ให้ทำกับข้าวไปส่งผมที่ออฟฟิศด้วย เดินเท่านั้นนะ
อย่าให้รู้ว่าแอบนั่งรถกอล์ฟไป” ทยาทัพเดินเข้ามา หยิบเค้กชิ้นหนึ่งยัดเข้าปาก
“ผู้หญิงสมัยนี้ร้ายนะครับคุณย่า เห็นหน้าหงิมๆ นี่ตอนนั่งรถไปอาจจะอ่อยไอ้แก๊ปมัน
เดี๋ยวเด็กมันก็ใจแตกกันพอดี ไอ้แก๊ปมันยิ่งซื่อๆ ไม่ทันผู้หญิงอยู่”
“คุณเลิกคิดว่าผู้หญิงจะเหมือนกันทั้งโลกได้ไหมคะ? โชไม่เคยไปอ่อยใคร!”
“ไว้ฉันจะคอยจับตาดู
เอาเค้กมา ฉันจะเอาไปให้คุณลิลัว”
ทยาทัพหยิบเค้กจากโต๊ะ
บรรจงจัดจานให้สวยเท่าที่คนป่าเถื่อนอย่างเขาจะจัดได้แล้วเดินออกไป
สภาพของเขาตอนนี้เหมือนหมาป่าอ้อนสาวไม่มีผิด โชติกาเห็นแล้วอดขำไม่ได้กับท่าทีดังกล่าว
“คุณลิลัวครับ
เค้กครับ”
“ขอบคุณนะคะคุณทัพ
รู้ได้ไงเนี่ยว่าฉันชอบกินเค้กใบเตย?”
“อ่อ
ผมเห็นคุณกลิ่นเหมือนใบเตยครับ”
“หวาน...
หรือน่ากิน?” ลิลัวใช้นิ้วเรียวปาดครีมแล้วเอาเข้าปาก
จ้องหน้าเขาอย่างยั่วเย้า ทยาทัพใจเต้นแรงกับสาวสวยตรงหน้า ให้ตายเถอะ
เธอจะเซ็กซี่ไปถึงไหน เกิดมาก็ไม่ใช่เป็นหนุ่มน้อยไร้เดียงสาไม่เคยเข้าใกล้สตรี
แต่ผู้หญิงคนอื่นมายืนแก้ผ้าตรงหน้ายังทำให้เขาหวั่นไหวสู้ลิลัวที่แต่งตัวมิดชิดไม่ได้สักนิด
ลิลัวไม่ใช่ผู้หญิงแต่งตัวโป๊
เสื้อผ้าก็ไม่ได้แบรนด์เนมอะไร แต่เธอมีสไตล์และรสนิยมดี
สามารถหยิบจับเสื้อผ้าตัวละเก้าสิบเก้าบาทมาประดับตัวแล้วดูเหมือนซื้อเสื้อสั่งตัดตัวละห้าพันได้ไม่ยาก
ส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ ทำให้เธอดูเพรียวและหุ่นดีมาก ผอมแต่ไม่เก้งก้าง
ดูสง่าและสะดุดตา
“ทั้งคู่เลยครับ”
“คุณก็พูดไป
ทำเหมือนฉันเป็นขนมซะอย่างนั้น ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะสำหรับเค้ก
ฝากขอบคุณน้องโชด้วยนะคะ เธอทำอร่อยมาก” ลิลัวกล่าวชมแล้วยิ้มให้ “ยังไงฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ
วันนี้เหนื่อยมากเลย ทำงานทั้งวัน คุณเองก็พักผ่อนเยอะๆ นะคะ ฉันเป็นห่วง”
“เอ่อ
คุณลิลัวครับ เสาร์นี้ว่างไหมครับ?”
“ทำไมเหรอคะ?”
“ผมอยากชวนคุณไปเที่ยวนะครับ”
“ไว้ฉันดูก่อนนะ
คุณก็รู้ว่าคิวฉันเยอะ” ลิลัวพูดติดตลกแล้วเดินกลับบ้านไป ทยาทัพมองอย่างไม่อาจละสายตาด้วยความหลงใหล
คำแก้วส่ายหน้า ระอากับความบ้ารักของหลานชาย และลิลัวที่ทีเล่นทีจริง
ไม่มีท่าทีจะจริงจังอะไรกับทยาทัพเลย เหมือนแค่จะยั่วให้หลงไปวันๆ
ความคิดเห็น