คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 2 ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว 2/3
“อย่ากินเยอะสิคะ กินข้าวเที่ยงไม่ได้กันพอดี”
“ไม่เป็นไรน่า ชิ้นสุดท้าย ว่าแต่คุณไม่ชิมหน่อยหรือ” ไส้อั่วอุ่นร้อนหั่นแฉลบด้วยฝีมือลูกสาวคนโตถูกคุณการุณย์ใช้ส้อมจิ้มแล้วยื่นตรงปากภรรยา “อร่อย”
คุณกาญจนากลัวสามีเสียน้ำใจจึงอ้าปากรับ นี่เป็นชิ้นที่สามของท่าน เพราะแอบกินในครัวไปสองชิ้นแล้ว
“กระเพาะตอนสายกับตอนเที่ยงอยู่แยกกัน ไม่มีปัญหาหรอกคุณ”
“ก็เป็นห่วงนี่คะ คุณอายุเยอะแล้ว” หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนหันไปทางคนซื้อมาฝาก “ขอบใจนะปราบ ไส้อั่วถูกใจพ่อเขาละ ชอบเหมือนกันกับซี”
“ครับคุณกาญจ์”
“คุณเคิณอะไรกัน เป็นรุ่นพี่ซีก็เหมือนเป็นลูกแม่อีกคน เรียกแม่เถอะ และก็ห้ามเรียกคุณการุณย์ด้วย เรียกพ่อเหมือนที่ยายม้าป่าเรียกนั่นแหละ”
นักวิจัยหนุ่มกลั้นหัวเราะ...
‘ยายม้าป่า’ สรรพนามเหมาะสมกับเจ้าตัว
“ครับ”
คุณกาญจนายิ้มตามแบบฉบับผู้ใหญ่ใจดี ก่อนขอตัวเข้าครัวทำกับข้าวต่อ มื้อนี้มีแขก ท่านจะโชว์ผีมือให้เต็มที่ มีผู้ช่วยดีอย่างทรายรุ้งยิ่งไม่ต้องห่วง
“กินข้าวเที่ยงด้วยกันนะปราบ กับข้าวบ้านนี้อร่อย รับรองติดใจ” คุณการุณย์โฆษณาเชิญชวน
“ครับ”
ทะเลจันทร์ที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยกันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนนอกอย่างไรอย่างนั้น พอแนะนำนักวิจัยให้พ่อกับแม่รู้จัก ท่านทั้งสองก็ชวนคุยไม่หยุดจนลูกสาวอย่างเธอตกกระป๋อง ยิ่งรู้ว่าปราบศึกคือรุ่นพี่ของเธอ พวกท่านยิ่งดีใจใหญ่ พูดแล้วพูดอีกว่าโลกกลม ส่วนพี่ปราบน่ะหรือ พูดจาแทบนับคำได้ ไม่เห็นเหมือนคนที่อบรมเธอเมื่อเช้าเลยสักนิด
“ซีไปกวาดดินหน้าบ้านก่อนนะพ่อ” ดินจากกระถางต้นแววมยุราที่เธอทำแตกเมื่อเช้ายังรอให้เก็บกวาด
“ไปเถอะลูก”
“พี่ปราบคุยเล่นกับพ่อไปก่อนนะ” หวังว่าพ่อจะไม่เผาลูกสาวตัวเองให้พี่ปราบฟัง “เอ มีใครจะใจดีช่วยน้ากวาดดินบ้างนะ”
“เปรี้ยวหวานค่ะ” มือน้อยชูสุดแขน เจ้าตัวเล็กยิ้มกว้างอวดฟันน้ำนม “ขี่หลังได้ไหมคะ”
“มาเล้ย”
ทะเลจันทร์ย่อตัวลง เด็กหญิงปั้นดาวกระโดดขึ้นหลังน้าสาวได้อย่างแม่นยำ เกาะหนึบแน่นเป็นแม่ลิงกับลูกลิง แล้วหัวเราะร่าพากันออกไปนอกบ้าน เมื่อถึงกองดินย่อมๆ เจ้าหลานก็กุลีกุจอหยิบไม้กวาดแถวนั้นมากวาดดินใส่บุ้งกี๋ที่น้าถือให้ พอช้าไม่ทันใจจึงเปลี่ยนมาใช้มือกอบดินแทน ดินเลอะตัวบ้าง เปื้อนหน้าบ้าง ทว่าผู้ที่ชอบเลี้ยงหลานสไตล์ลูกทุ่งก็ไม่ห้ามปราม ปล่อยให้เด็กสนุกไปตามวัย
“สองคนนั้นเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน”
“ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น”
“เมื่อเช้าก่อนไปรับปราบ ซีทำกระถางต้นไม้พ่อตกแตก เลยต้องหลอกล่อเปรี้ยวหวานไปช่วยกวาดดิน ลูกคนนี้ซุ่มซ่ามเป็นที่หนึ่ง ตอนอยู่กรุงเทพฯ ซีก่อเรื่องให้ปราบปวดหัวบ้างหรือเปล่า”
“มีบ้างครับ แต่ชินเสียแล้ว” เรื่องซุ่มซ่ามไม่เท่าไร แต่เรื่องคิดเองเออเองจนขาดการติดต่อกับเขาไปห้าปีสิเรื่องใหญ่กว่า หากไม่ได้เคลียร์กันเมื่อเช้า เขาบอกไม่ได้เช่นกันว่าจะลากยาวไปอีกนานเท่าไร
“ดีแล้วที่ชิน ห้าเดือนที่อยู่ฟาร์มจะได้ไม่ตกใจ แล้วบ้านพักพออยู่ได้ไหม”
“ดีเกินไปด้วยซ้ำ ขอบคุณมากครับ”
“ฟาร์มนี้เราอยู่กันเป็นครอบครัว ปราบทำตัวตามสบาย อย่าเกรงใจ มีอะไรขัดสนก็บอกซีเขา”
“ครับ”
“และก็อย่าฟ้องแม่ละว่าพ่อกินไส้อั่วไปหลายชิ้น” บอกจบ คุณการุณย์ก็จิ้มไส้อั่วอีกชิ้นเข้าปาก ชิ้นแล้วชิ้นเล่า ไม่มีวี่แววว่าจะถึงชิ้นสุดท้ายอย่างที่บอกภรรยาสักที
เพิ่งเจอกับครอบครัวนี้ครั้งแรก แต่ปราบศึกกลับสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอบอวลทั่วทั้งฟาร์ม พ่อแม่ลูกหยอกล้อกันแบบไม่หวานแต่น่ารักไปอีกแบบ
ดวงตาคมเข้มมองออกนอกตัวบ้าน ริมฝีปากหนาเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวเพียงแค่เห็นทะเลจันทร์เล่นกับหลานได้อย่างสนุกสนานแม้มีเพียงกองดินหนึ่งกอง ไม้กวาด และบุ้งกี๋
ความคิดเห็น