ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อบุตรสาวผู้โง่เขลาหวนคืน (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #5 : วิธีหาเงินของเหลียงหมิง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      80
      15 ก.ค. 67

    เหลียงหมิงเห็นมารดามีสีหน้าบึ้งตึง ก็พอจะเดาได้ว่าสาเหตุต้องมาจากเหลียงเค่ออิงแน่ แต่ใครจะผิดใจกันหรือไม่ประการใด ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่ดี

    "วันนี้ได้เงินเท่าไหร่หรือท่านแม่" 

    เหลียงฉานพ่นลมหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะแบมือออก 

    "ได้สิบสองอีแป๊ะ พวกเจ้าเอาไปแบ่งกันไป"  

    สิ้นเสียงอนุญาตบุตรสาวคนเล็กก็ปรี่เข้ามา ชิงเงินไปจากมือมารดาก่อน จนพี่ชายผู้ล่าช้าหลุดเสียงตะคอกดังลั่น

    "เอาส่วนของข้ามานะ! ท่านแม่ก็บอกอยู่มิใช่หรือ ว่าให้แบ่งกัน" 

    เหลียงหลานหลิงเบ้หน้าเป็นเชิงเยาะเย้ย ก่อนจะวิ่งเข้าห้องตัวเองอย่างว่องไว เหลียงหมิงวิ่งตามแต่ถูกอีกฝ่ายกระแทกประตูใส่เฉียดปลายจมูกไปนิดเดียว จนต้องล่าถอยมาเรียกร้องความเป็นธรรมกับมารดา

    "ท่านแม่ ท่านต้องจ่ายให้ข้าสิบสองตำลึงเท่าหลิงเอ๋อร์นะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ " 

    เหลียงฉานระบายความหงุดหงิดทางสีหน้า ทว่าอารมณ์ฉุนเฉียวของนางมิได้เกิดจากการถูกบุตรชายขู่เข็ญเอาเงิน หากแต่นึกไม่พอใจบุตรสาวคนรองต่างหาก ที่หาเงินมาได้เพียงน้อยนิด ทำให้สองพี่น้องต้องทะเลาะกัน

    "เบาเสียงลงหน่อยสิอาหมิง ประเดี๋ยวเค่ออิงจะได้ยิน" 

    จบประโยคห้ามปรามจากมารดา เหลียงหมิงผู้ได้รับการพะเน้าพะน้อจนเสียนิสัย จึงแสดงความไม่พอใจด้วยการตวัดสายตามองบุพการี 

    "ข้าจำได้ว่าท่านแม่ไม่เคยใยดีเค่ออิง หรือตอนนี้เปลี่ยนไปเอ็นดูนาง ไม่สนใจบุตรชายเช่นข้าแล้ว" 

    "ใช่ที่ไหนกันเล่า! "

    เหลียงฉานเหลือบมองไปทางห้องครัว ก่อนจะดันตัวเหลียงหมิงเข้าไปปรับความเข้าใจในห้องส่วนตัว มองบุตรชายคนโปรดด้วยสายตาจริงจังเจือแววปลาบปลื้ม

    "เจ้าเป็นบุรุษเพียงคนเดียว ที่จะนำพาสกุลเหลียงให้ก้าวหน้า หลิงเอ๋อร์ก็เช่นกัน ใบหน้าอันงดงามของนาง จะต้องดึงดูดบุรุษสมบูรณ์แบบเข้าในชีวิตได้แน่ แม่ฝากความหวังเอาไว้กับพวกเจ้าเพียงสองคนเท่านั้น ส่วนเค่ออิง...นอกจากจะไม่ฉลาดแล้ว หน้าตาก็ธรรมดามาก แม่คิดว่านางเหมาะที่จะช่วยผลักดันพวกเจ้าทั้งคู่ จึงไม่เคยคาดหวังอะไรจากนาง"

    "ช่วยผลักดันข้า! ท่านแม่หมายความว่าอย่างไร"

    คำอธิบายของผู้เป็นมารดา ดึงดูดความสนใจจากเหลียงหมิงได้เป็นอย่างมาก เขาใคร่อยากจะรู้ทุกอย่างให้กระจ่างชัดกว่านี้

    "แม่คิดจะส่งเจ้าเข้าสำนักศึกษา เจ้าเคยร่ำเรียนมามีความรู้ติดตัวไม่น้อย หากได้อาจารย์ดีช่วยชี้แนะ น่าจะมีโอกาสสอบขุนนางได้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า"

    เหลียงฉานบอกเล่าความคิดให้เหลียงหมิงรับรู้ บุตรชายเคยได้รับการสั่งสอนจากผู้ทรงความรู้มาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่สามีนางยังมีลมหายใจอยู่ จึงมีความรู้ติดตัวอ่านออกเขียนได้ หากตั้งใจอ่านตำราทบทวนความรู้บ่อย ๆ เข้า น่าจะก้าวหน้าได้ไม่ยากนัก

    "ข้าจะตั้งใจเรียน นำชื่อเสียงมาสู่สกุลเหลียงให้จงได้ ท่านแม่ต้องเร่งหาเงินมาส่งเสียข้านะ" 

    "แม่รู้แล้ว กำลังให้เค่ออิงช่วยหาอยู่ หากเจ้าอยากเข้าเรียนเร็ว ๆ ก็ต้องช่วยแม่ประหยัด" 

    "รอเงินจากเค่ออิงข้าคงแก่ตายพอดี ปีนี้ข้าอายุสิบแปดแล้วนะท่านแม่ ข้าไม่อยากรออีกแล้ว" 

    "ไม่อยากรอแล้วจะให้แม่ทำอย่างไร เราเหลือแค่บ้านกับที่ดินอีกแค่สามหมู่เท่านั้น แม่จะเก็บเอาไว้ให้เจ้ากับหลิงเอ๋อร์คนละครึ่ง" พอบุตรชายเร่งเร้า เหลียงฉานก็ร้อนใจแต่ไร้หนทางออก

    เหลียงหมิงแววตาเปล่งประกาย ครั้นนึกถึงสิ่งที่จะสานฝันของเขาจนบรรลุผลสำเร็จ

    "จะต้องขายบ้าน ขายที่ทำกินทำไม เค่ออิงสมควรออกเรือนได้แล้ว เหตุใดไม่ให้นางแต่งออกไป จะได้นำเงินสินสอดนางมาจ่ายค่าเรียนข้า"

    ข้อเสนอจากบุตรชาย ย่อมจูงใจมารดาผู้แสวงหาความสุขสบาย ให้คล้อยตามได้ไม่ยาก

    "จริงของเจ้า แม่ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปได้อย่างไร อาหมิง...เจ้าช่วยคิดหน่อยสิว่า เค่ออิงควรต้องแต่งกับใคร ถึงจะได้เงินสินสอดมากพอที่จะจ่ายค่าเล่าเรียนให้เจ้าได้" 

    เมื่อมารดาสนับสนุน พี่ชายผู้คำนึงถึงแต่ตัวเอง ก็คิดหานามบุรุษมีอันจะกินอย่างเร่งด่วน 

    "ท่านแม่ว่าจินเหิง เหมาะสมหรือไม่"  

    จินเหิงเป็นพ่อหม้ายวัยสามสิบ อาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้านกับมารดาเพียงสองคน เคยแต่งงานมาแล้วสามครั้ง แต่ภรรยาทุกคนล้วนอยู่ได้ไม่นานก็สิ้นใจ เพราะถูกสามีที่เป็นคนเดี๋ยวดีเดี๋ยว ร้ายทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนบอบช้ำภายในสิ้นใจอย่างน่าเวทนา

    ส่วนจินสุ่ยผู้เป็นบุพการีเป็นคนใจคอคับแคบ เห็นบุตรชายทุบตีลูกสะใภ้ แต่ไม่เคยคิดห้ามปราม จนจินเหิงได้ใจไม่หวั่นเกรงกฎหมายเพราะทุกครั้งที่มีคนล้มตายในบ้าน มารดาจะใช้เงินปิดปากคนในครอบครัวหญิงเคราะห์ร้ายเหล่านั้น ซึ่งญาติคนตายก็ยินยอมรับข้อเสนอ ด้วยเห็นแก่ค่าทำขวัญที่เขามอบให้

    ทั้งสามศพจึงตายเพราะป่วยไข้ เรื่องเลวร้ายไม่เคยถึงหูทางการ

    คนทั้งสองมีชื่อเสียงเลื่องลือในทางที่ไม่ดี แต่ก็ยังมีคนไม่น้อยที่หมายจะเกี่ยวดองกับสกุลจิน เพราะหวังในทรัพย์สินเงินทอง หนึ่งในนั้นก็คือหลียงหมิง ที่คิดจะใช้ชีวิตเหลียงเค่ออิงเป็นบันไดปีนป่ายสู่ความสำเร็จ

    "เจ้าคนเลี้ยงหมูนั้นหรือ"

    เหลียงฉานเอ่ยชื่อพลางนึกถึงชายรูปร่างใหญ่ ผิวคล้ำกระดำกระด่าง ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ตามตัวมีแต่กลิ่นสาบหมูปนกลิ่นคราบไคลน่าสะอิดสะเอียน เนื่องจากคลุกคลีอยู่ในคอกหมูทั้งวี่ทั้งวัน

    นอกจากเลี้ยงหมูไว้ขายแล้ว คนผู้นี้ยังเชือดหมูเป็น ๆ เพื่อขายเนื้ออีกด้วย จึงทำให้มีรายได้เข้ามาไม่ขาด นับได้ว่าเป็นคนมั่งคั่งในหมู่บ้านอีกผู้หนึ่ง 

    "ใช่แล้วท่านแม่ จินเหิงมีหมูอยู่ในคอกนับร้อย ๆ ตัว ท่านแม่ลองตรองดูเถิดว่า ถ้าหากเค่ออิงได้แต่งกับเขาจริง ๆ ถึงคราวที่เราเดือดร้อนขึ้นมา วันข้างหน้าอาจจะขอให้นางช่วยเหลือได้ ต่อไปเราจะมีเงินทองใช้จ่ายไม่ขาดมือ ไม่ต้องลำบากอีกแล้ว" เหลียงหมิงกล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นการกระตุ้นมารดา 

    เหลียงฉานเองก็มีสีหน้าไม่ต่างจากบุตรชาย คนทั้งสองเห็นพ้องต้องกันในเรื่องขอความช่วยเหลือ เหลียงเค่ออิงไม่เคยปฏิเสธพวกเขา ขอเพียงสร้างเรื่องขึ้นมา ทำตัวให้น่าสงสารเข้าไว้ คนใจอ่อนเช่นนั้นจะทนมองพี่น้องทุกข์ใจได้นานแค่ไหนกันเชียว

    "ลูกแม่...เจ้าหลักแหลมที่สุด พรุ่งนี้แม่จะลองไปคุยกับคนบ้านนั้นดู" 

    "หากคนบ้านนั้นตกลง ท่านแม่ต้องเรียกสินสอดมาก ๆ หน่อยนะ เค่ออิงเป็นคนขยัน บุรุษบคนไหนได้แต่งกับนาง ถือว่าโชคดีมากที่ได้นางไปช่วยแบ่งเบางานในเรือน"  

    "เรื่องนี้ขอให้เจ้าวางใจเถอะ แม่คิดเอาไว้แล้วว่าจะพูดเช่นไร ให้แม่ลูกคู่นั้นยอมจ่ายสินสอดแพง ๆ " 

    ข่าวลือในความอำมหิตของคนสกุลจิน ไม่กระทบต่อการตัดสินใจของเหลียงฉานสักนิด นางไม่ห่วงชีวิตบุตรสาวตัวเอง เพราะเล็งเห็นแล้วว่า ต่อให้เหลียงเค่ออิงจะพยายามมากเพียงใด ก็ไม่อาจหาเงินตามที่นางต้องการมาได้ทันเวลา

    ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าชายวิปริตอย่างจินเหิง ขาดคุณสมบัติการเป็นสามีที่ดี แต่สุดท้ายแล้ว...เหลียงฉานก็ตัดสินใจที่จะให้เหลียงเค่ออิงแต่งออกไป ตามคำแนะนำของเหลียงหมิงอยู่ดี 

    ทางด้านคนที่แอบฟังอยู่นอกหน้าต่าง ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทุกความเคลื่อนไหวของหญิงสาวหลังออกจากป่า ทุกคำสนทนาของคนในครอบครัวสกุลเหลียง กลางดึกคืนเดียวกัน ก็รู้ถึงหูผู้นำสกุลเหวิน

    ร่างหนาเปลือยท่อนบนหยุดโคจรลมปราณ หลังจากได้รับสมุนไพรบรรเทาอาการ ความร้อนในร่างกายเขาก็ลดลงตามลำดับ จนใกล้เคียงกับคนปกติ  

    ความเป็นไปของเหลียงเค่ออิง ทั้งเรื่องที่นางแอบนำเงินสองร้อยตำลึงไปฝาก แต่ไม่ยอมปริปากบอกคนในครอบครัว รวมถึงเรื่องการแต่งงานที่มารดากับพี่ชายผูกวาสนาให้ โดยที่ตัวนางเองก็มิได้ล่วงรู้เช่นกัน  

    เหมือนดังว่า คนในเรือนนั้นมีความลับซุกซ่อนด้วยกันทุกคน

    บุพการีที่คิดหมายจะเอาเงินสินสอดมาใช้จ่ายในเรือน เรื่องนี้ไม่แปลกอันใด เพราะชาวบ้านหาเช้ากินค่ำทั่วไป ต่างมุ่งหวังกับค่าเลี้ยงดูด้วยกันทั้งนั้น

    ทว่ามารดาที่ยอมให้บุตรสาวแต่งกับคนโฉดชั่ว ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก ยากนักที่จะพบเห็นได้ทั่วไป

    เห็นที่ว่าคนจิตใจอ่อนโยนเช่นเจ้าของสมุนไพรวิเศษ คงหนีไม่พ้นต้องแต่งกับคนต่ำช้าจนได้ เหวินหยุนซีใคร่อยากรู้บทสรุปเรื่องราว จึงสั่งให้คนลอบสืบข่าวคราวของนางต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×