ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
☾ guerilla.

ลำดับตอนที่ #5 : insight 3.5 – i have three best friends.

  • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ค. 64


         



            เธอมีเพื่อนสนิท 3 คนหนึ่งคนที่มักพึ่งแค่ตนเอง หนึ่งคนที่ก้ำกึ่ง และหนึ่งคนพยายามที่จะเป็นเช่นนั้น


          การสบตากับเพื่อนร่วมห้องในวันที่เข้ามาเรียนวันแรกคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง... ดวงตาที่เปรียบเสมือนอัญมณีเม็ดงามคู่นั้นเป็นประกายระยิบระยับ และเด็กสาวที่ชื่อว่า นิชิมิยะ เร็น อีวอนน์ ก็ไม่รีรอที่จำเข้าไปทำความรู้จักกับหล่อน


         เราสบตากัน เพราะฉะนั้นมิตรภาพจึงต้องก่อเกิดขึ้นทันทีอย่างไรล่ะ!


          ในตอนแรกโทปาซค่อนข้างเงียบเป็นความเงียบที่แตกต่างจากอิวันน่าผู้ซึ่งถูกบทความในสมาร์ทโฟนดึงดูดความสนใจบ่อยครั้งหรือมาริซอลที่เปิดประเด็นสนทนาไม่ค่อยเก่ง มันเข้าข่ายกับความประหม่าที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดออกมาจะสมควรเสียมากกว่า


          และที่ตลกร้ายก็คือจวบจนอยู่ไฮสคูลก็แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงนัก แม้ว่าโทปาซจะพูดเยอะขึ้น แต่มันก็มีหลายประเด็นที่หล่อนแทบจะไม่แตะหรือเอ่ยถึงเลย หรือหากเอ่ยออกมาก็มักจะจบด้วยการเปรียบเป็นเรื่องขบขันทั่วๆไปเสียอย่างนั้น


          ใจก็แอบคิดมาตลอด... ว่าอัญมณีคู่นั้นอาจจะไม่ได้เปล่งประกายในแบบที่ตนเองต้องการ


          บางทีหล่อนอาจจะ หลุด ไปในท้ายที่สุด หากไม่ติดตรงที่การมีตัวตนอยู่ของคำสาปกับบทลงโทษตามธรรมชาติของมัน... และบางทีระยะห่างที่ไม่รู้ว่ามากน้อยนั่นอาจเป็นส่วนที่ทำให้กลายเป็นเช่นนี้


         แต่เธอจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น!


          มีชาเขียวไหมอ่ะ?


          มีน้ำอัดลม


          กลิ่นชาเขียว?


          กลิ่นปกติมันมีแบบชาเขียวด้วยเรอะ?


          ตั้งแต่ทำบทความเรื่องรสและกลิ่นน้ำอัดลมปีที่แล้ว อะไรๆมันเป็นไปได้หมดสำหรับฉันแล้วแหละ


          ซีเรียส?


          ซีเรียส


          งั้นไว้เจอจะถ่ายรูปส่งไปให้ดูก็แล้วกันหล่อนเอ่ยจบประเด็น และเร็นก็เพียงแต่เอนพิงผนังขณะมองเพื่อนสาวที่ตัดสินใจกดซื้อน้ำอัดลมจากตู้อัตโนมัติเงียบๆ


          อย่างน้อยก็เป็นเช่นนั้นจนกระทั่งกระป๋องนั่นตกลงมายังช่องด้านล่าง...


          ตุบ!


          สาบานว่าเห็นประกายบางอย่างในดวงตาคู่นั้นของโทปาซที่แน่นอนคือสายตาเธอคงไม่ได้แต่งแต้มทุกรายละเอียดในชีวิตประจำวันผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง หากจะบอกว่าเป็นฟิลเตอร์ก็คงเกิดขึ้นได้ยาก


          ยังโอเคอยู่ไหมอ่ะ? ตอนทดสอบก็มีคนปากมากด้วยแล้วก็เอ่ยถามออกไปในท้ายที่สุด


          ใบหน้าดุของเพื่อนสาวหันมามองเธอ คิ้วเรียวคู่นั้นเลิกขึ้นด้วยความสงสัย ทว่าก็ยังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สูงกว่าปกติเล็กน้อยแสดงออกซึ่งความงวยงงที่มีอย่างชัดเจน


          ก็เฉยๆนะ


          แล้วจึงกล่าวเอ่ยขยายความออกมาหลังจากผ่านไปไม่ถึงนาที


          พอได้ซัดอะไรแล้ว อารมณ์มันก็ดีขึ้นน่ะ”


          อ่าฮะ...


          แต่เหมือนอะดรีนาลีนยังหลั่งอยู่มั้ง ยามันมีผลกับส่วนที่เป็นคำสาปมากกว่านี่นา


          เรากลับไปซัดหมอนั่นได้นะ ฉันว่าเขาน่าจะไม่ได้ไปไหนไกล


          ขอร้องเถอะ!” หล่อนกลั้วหัวเราะ


          นี่ไงๆ เธอได้คนที่จะตีด้วยแล้วปรับพื้นฐานก่อนฝึก


          แย่มาก


          แต่จริงๆเลยนะ... คนเราต้องการอะไร ถึงได้พูดแบบนั้นออกมากันล่ะ?


          มันอาจจะเป็นเรื่องที่ต้องทำตัวให้คุ้นชินการที่มีคนมาแสดงความเห็นกับหลายต่อหลายเรื่องในชีวิตเราน่ะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยผ่านความน่ารำคาญนั่นได้เลย


         ทั้งๆที่เพื่อนเธอทำแบบนั้นไปเพราะว่าอยากจะมีชีวิตที่ ปกติ ดังใจต้องการแท้ๆ


          อย่างไรโอกาสที่จะมีคนบอกว่า มันเป็นเรื่องนิดเดียว ก็ยังคงมีอยู่ และนั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เธอไม่อยากจะตะโกนบอกเรื่องราวผ่านมุมมองของโทปาซใส่หูใครอีกหนึ่งคือเจ้าหล่อนไม่ได้สะดวกใจจะป่าวประกาศเบื้องหลังเบื้องลึกของชีวิตตนเองให้คนอื่นรู้


ทุกปัญหาก็คือปัญหา ต่อให้มันจะดูมากน้อยเพียงใดก็ตาม... และน่าเสียดายที่ยังคนจำนวนหนึ่งที่ยังคิดจะลดทอนทุกอย่างที่ไม่ได้มีผลกระทบทางกายภาพชัดเจน


          เด็กผู้หญิงที่ต่อให้มีคนแปลกๆเดินมาทักทายด้วยความสนิทสนมราวกับรู้จักกันมานาน เพียงแค่เพราะว่าสบตากับแป๊บเดียวคนนั้นน่ะ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เหมาะกับการอยู่ในกรอบโง่ๆนั่น และควรได้ทำเรื่องบ้าๆบอๆตามใจตนเองไม่ใช่หรือไงกัน?


          ปาซๆ รู้ไหมว่าเธอเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน?


          “หือ?


          ถึงการเปลี่ยนทันทีจะดูกะทันหันไปหน่อย แต่ว่าถ้ามีอะไรก็บอกกันได้เสมอเลยนะฉันจะเป็นที่พึ่งให้เธอเอง ไอฟ์กับมาริก็ด้วย!”


          รอยยิ้มขอบคุณที่แลดูจริงใจนั้นเหมาะกับเพื่อนของเธอเป็นที่สุด...


          แต่อย่าบอกไอฟ์เรื่องนี้นะ เดี๋ยวเป็นห่วงอีก


          ก็ไม่ได้ดูเลวร้ายสักหน่อย


          “แต่ไอฟ์แอบดุ


          “เพราะไบแอสหรอก


          “เอ๊อะ—”


          “แต่ไว้ตอนอยากเล่าให้ฟังค่อยเตี๊ยมกับมาริก่อนก็แล้วกัน

 


___


    

          “เธอว่าแอนโธนี่มีอะไรที่สามารถบอกใบ้ฉันได้ว่าลอตเตอรี่งวดต่อไปคืออะไรหรือเปล่า? ปกติเราไม่เจอเขาสองครั้งติดในวันเดียวกัน


          เขาไม่มีดวงเรื่องนี้ เชื่อฉัน


          บู้!


          สองขาของคนที่หัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีของเธอก้าวเดินอย่างช้าๆไปยังคนที่ถูกกล่าวถึงอีกครั้ง ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกนั้นเม้มแน่น ก่อนที่จะตัดสินใจหายใจเข้าลึกๆไม่รู้ว่าโทปาซคิดว่าการพบเจอแอนโธนี่ติดต่อกันเป็นความบังเอิญที่โชคชะตากำหนดเหมือนกับเธอหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆก็คือไม่ได้หยุดฝีเท้าตนเอง


         อ๋า...


          ยิ่งดูในระยะประชิดก็ยิ่งรู้ว่าไม่ชินชา ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจสำหรับคนสองคนที่ปกติแทบจะไม่เคยทักทายกันในยามที่เจอกันระหว่างคาบเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นโทปาซที่เบี่ยงเบนความสนใจไปยังสิ่งอื่นทันที การที่แอนโธนี่จะประหลาดใจในคราวที่หล่อนเอ่ยทักไปเมื่อก่อนหน้าจึงไม่ได้ดูแปลกนัก


          แต่ถ้าให้พูดตามตรง ตัวเธอเองก็ประหลาดใจอยู่เหมือนกัน...


         แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องดี


          อ่าหวัดดีอีกรอบ


          แล้วสรุปทันกันไหม?


          ก็ฉิวเฉียด เล่นเอาแทบหมดแรงเลยด้วยซ้ำโทปาซเอ่ย ดวงตาคู่นั้นเหล่มองมายังเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนกลับไปสบตากับแฝดน้องตนเอง ระหว่างนั้นก็กำๆแบๆมือเพื่อลดปริมาณของอุปสรรคในบทสนทนาครั้งนี้


          เร็นยิ้มอ่อนชั่งใจว่าการสายตาดังกล่าวนั้นบ่งบอกถึงการขอความช่วยเหลือหรือไม่


โชคดีที่ไม่ได้พาเริ่มคลาสเลทกัน


แต่อย่างไรก็ตามเถอะ จังหวะการพูดที่เพื่อนสาวเว้นไว้ให้นั้นหมดลงเพียงในพริบตาเสียด้วยซ้ำ จึงทำให้เหลือเพียงตัวเลือกเดียวคือการยิ้มทักทายและให้กำลังใจโทปาซผ่านสายตาอันแรงกล้าไปแทน...


จบจากตรงนี้เมื่อไหร่ เธอจะเข้าไปกอดหล่อนแน่นๆเลย


          แต่ปกติก็มีคนเลทประจำนี่


          ให้ตายเถอะแอนดี้ นายก็รู้ว่าฉันไม่ชินเดี๋ยวนะ นี่นายต้องการจะสื่อกับฉันว่า เข้าเรียนสายได้ เหรอ?


          เปล่า


          ...


          “...


          “อืม


          แล้วแอนโธนี่ก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ท่ามกลางบรรยากาศมึนงงที่สีหน้าของโทปาซอธิบายได้อย่างชัดเจน


          ล้อเล่นๆ


อะไรกัน?


เพิ่งรู้ว่าเขามีอารมณ์ขันแบบนี้เซอร์ไพรส์ดีแฮะ

 


___

 


           วันศุกร์เป็นวันที่เน้นพวกวิชาเสรีเกี่ยวกับเวทมนตร์มากเป็นพิเศษหมายความว่าหากไม่ได้ลงอะไรเพิ่มเติม หลังจากพักเที่ยงและชั่วโมงชมรม (ถ้าไม่นับการทดสอบสมรรรถภาพของวิชาพลศึกษาที่มีแค่อาทิตย์แรก) ก็ว่างสนิท

         และมันก็หมายความว่าจะไม่มีอะไรมาหยุดบทสนทนา ณ ปัจจุบันง่ายๆอีกแล้วด้วย


          “ก็คือปีนี้เธอต้องลงพละสินะ” บุหลันเอ่ย มือนั้นไล่เปิดสมุดเลคเชอร์และสองตาช้อนขึ้นสบกับของโทปาซเป็นระยะ


แม้จะไม่ได้สนิทสนมกันมากเสียขนาดนั้น แต่เดิมทีกรรมการนักเรียนส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างจะเป็นกันเองกับทุกคนอยู่แล้ว— ประสบการณ์การเคยถกเถียงเรื่องสัพเพเหระระหว่างเธอกับบุหลันสามารถยืนยันได้ และหลักฐานเสียงแหบในวันถัดมาก็ยังคงอยู่ในคลังโพสต์ออนไลน์ของปีที่แล้วเหมือนเดิม


          อืม... แต่ก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไหร่หรอก


          นั่นน่ะสินะ


          อย่างไรก็เถอะ ถ้าแก้ระบบของคำสาปได้ก็คงเอาตรงพลังกายออกไป ฉันกับพละไม่ใช่ของคู่กันเลย


          อ่า... ก็จริง


เร็นเพียงแต่พยักหน้าไปเรื่อยๆระหว่างฟังบทสนทนา เอนอิงล็อกเกอร์ของใครสักคนและพยายามแกะกระป๋องน้ำอัดลมดื่ม


          แก๊ก!


ปลายเล็บที่สั้นกุดนั้นเป็นอุปสรรคต่อทั้งการคลายความกระหายน้ำของตนเองและต่อการมีส่วนร่วมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นตราบใดที่ยังเปิดไม่ได้ก็ไม่อยากจะพูดอะไร คอเธอต้องการอะไรสดชื่นๆเพื่อเพิ่มพลังงานก่อน


แต่ฝาของมันช่างใจร้ายกับเธอเสียเหลือเกิน


 “แต่ว่าตารางเราอาจตรงมีตรงกันบ้างก็ได้นะ ปีนี้ฉันกะจะกลับไปเล่นฟุตบอลแล้ว


อ้อใช่ เธอพักไป 1 ปีนี่


          ใช่ เพื่อเก็บพอร์ตกับเน้นพวกงานกน.เป็นหลักน่ะ... ตอนก่อนเปิดเทอมก็มีคุณหัวทักมาบอกว่า หลังจากนี้ก็ให้พวกเกรด 11 จัดการต่อได้แล้ว ด้วย


          แก๊ก!


สุดท้ายก็เลยยื่นให้ฮานันที่ยืนอยู่ข้างๆช่วยเปิดให้เสียแทน...


ได้แล้ว


เธอกล่าวขอบคุณเขาไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยกกระป๋องน้ำอัดลมขึ้นดื่มอย่างรวดเร็ว


          ก็ปีสุดท้ายแล้วนี่นะ


          อันนั้นน่ะเก็ท... แต่ขอกระซิบเล็กๆน้อยๆว่าเจ้าตัวคนพูดดันไม่วางตำแหน่ง มันตลกชะมัดยาดบุหลันกลั้วหัวเราะยามที่เห็นแอนโธนี่เบ้ปากเล็กน้อย


          อย่าเผากันระยะประชิดสิเขาเอ่ย


          แต่มันก็ไม่สมเหตุสมผลจริงๆนะ... การดำรงตำแหน่งหลักอีกเทอมหนึ่งมันเอาไปใส่ในพอร์ตไม่ได้เสียหน่อย


อ่า...


และมันก็ใช่ว่านายไม่ได้ไม่ไว้วางใจรุ่นน้องคนอื่นด้วยนี่...”


          คำว่า อยาก เป็นเหตุผลที่โอเคอยู่นะ สำหรับฉันน่ะ


          ก็เข้าใจได้ โทปาซเอ่ย เข้าร่วมบทสนทนาอีกครั้งหนึ่ง


          อัญมณีเม็ดงามปรายมองสีหน้าของคนทั้งสอง พิจารณาบางอย่างในห้วงความคิด และสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรนอกเหนือจากนั้นไป


          ถ้าอยากน่ะ เข้าใจได้อยู่แล้ว... แต่อยากทำแบบนั้นจริงหรือเปล่าล่ะ? บุหลันดึงหน้ากระดาษหนึ่งออกมาจากสมุดตนเอง ก่อนจะวางมันไว้ในล็อกเกอร์ แล้วหยิบขึ้นปากกาขึ้นมาขีดเขียนข้อความหนึ่งลงไปสายตาไม่ได้ละออกจากมันขณะเอ่ย ไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่


          เร็นเพียงแต่ดื่มน้ำอัดลมเงียบๆต่อไป


          บุหลัน


เจ้าของชื่อถอนหายใจ


          มันเป็นไปได้อยู่แล้ว ถ้าฉันจะตีความไปแบบนั้นหลังจากได้ยินมิสเคนเนดี้คุยกับนายไปตอนปิดเทอมน่ะ ไหนจะเรื่องชมรมโทปาซเร็วๆนี้อีก


          “...


          “...


...


          ให้ตายเถอะทำไมมันถึงลากมาเรื่องนี้นี้ได้ล่ะเนี่ย?


         สายตาเขาคล้ายกับกำลังเคลือบแคลงใจมากกว่าเสียอารมณ์ และเธอที่ไม่รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของความสนิทสนมนี้ก็ไม่กล้าคิดเอาเองว่าบุหลันแค่รอโอกาสที่จะโยงมาเรื่องนี้โดยตลอด แอนโธนี่ไม่พอใจที่มันถูกยกมาตอนที่โทปาซอยู่ด้วย หรือว่าทั้งหมดนี่เป็นแค่การหยอกล้อที่อาจรุนแรงเกินไปจนพวกเขาเข้าใจผิดกันแน่


          เร็นเหล่มองไปยังโทปาซ... และภาพของเล็บที่เริ่มยาวจนจะแทงเข้ากระป๋องน้ำอัดลมจนเละไม่เป็นชิ้นดีก็ไม่ได้แลดูน่าอภิรมย์กว่าเลย


          อึ๋ย...


          ความรู้สึกอึดอัดก่อตัวขึ้น และเธอมั่นใจว่าน้ำอัดลมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้น่าเศร้าอยู่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงรู้สึกสบายใจกว่าเยอะเลย


         ในเวลาแบบนี้ก็ชักจะคิดถึงสองคนนั้นแล้วสิ


          เร็นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงรีบยกประเด็นหนึ่งขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ณ ปัจจุบันไม่ให้เลวร้ายไปกว่าเดิม... อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจในเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีมากสักเท่าไหร่หรอก


จะว่าไปนะ ปีนี้จะมีการเปลี่ยนพวกระบบนั่นนี่ไหมอ่ะ? ได้ยินมาลางๆว่ามีคนยื่นเรื่องการออดิชั่นไปแล้ว


ควันถ่านเป็นเพียงคำเปรียบเปรยถึงสีดวงตาของตนเอง ทว่าเร็นก็พอจะจินตนาการได้ว่าตอนนี้เธอกำลังพยายามพัดให้มันเข้าไปหาฮานัน มาซูดคนที่ดูพึ่งพาได้มากที่สุด ณ ตอนนี้ ด้วยผลงานล่าสุดเป็นการเปิดฝากระป๋องน้ำอัดลมสำเร็จ


          ความจริงสำหรับหลายชมรมมันก็เหลือแค่เอาคำว่า ออดิชั่น ออกแล้ว


         Nice!


แต่สำหรับพวกชมรมทางดนตรีที่ค่อนข้างเคร่งนี่ก็...


          ไม่ว่าอย่างไรก็จัดแจงไม่ได้ง่ายๆสินะ


          อืม งบสำหรับชมรมมันก็จำกัดด้วย


          พยักหน้าขณะพูดคุยกับเขาไปด้วยความเข้าใจ เหล่มองคนอื่นๆที่นิ่งเงียบเป็นระยะ และได้แต่หวังว่าจะช่วยทำให้บรรยากาศกระอักกระอ่วนนั้นลดลง... ไม่มากก็น้อย


          ระบบออดิชั่นเคยเป็นการคัดกรองนักเรียนแต่ละคนสำหรับแต่ละชมรมไม่ให้จำนวนนั้นเฟ้อจนเกินไป ทว่าผลตอบรับที่ได้มาก็ไม่ค่อยดีนักสักเท่าไหร่ ในเมื่อการคัดกรองนั้นเอื้อแก่คนที่มีสามารถตรงกับความสนใจมากกว่า— มันเป็นหนึ่งสิ่งที่เหมือนจะหายไปในปัจจุบัน แต่ก็ไม่เสียทีเดียว ยังคงมีการโยกย้ายนักเรียนไปยังอีกชมรมซึ่งมีกิจกรรมใกล้เคียงกันหลังสัมภาษณ์อยู่ และมันก็น่ารำคาญพอตัว


          การที่มีหลายชมรมซึ่งสัมภาษณ์เพื่อมอบหมายหน้าที่และดูความสามารถไปก่อนก็ไม่ได้ทำให้ภาพรวมมันดีขึ้นแต่อย่างใดเลย...


         และไปๆมาๆเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะเบาสมองแฮะ


          อาริสะกำลังคุยๆอยู่ อาจจะได้อีกทีปีหน้า เขาบอกตอนปิดเทอมว่าแก้ไม่ได้ เพราะว่าอาจารย์ทุกคนเตรียมรายละเอียดนั่นนี่กับพวกแจกแจงงบประมาณไปเรียบร้อยแล้วแอนโธนี่เอ่ย น้ำเสียงที่ไม่ได้ดูอารมณ์ดีกว่าเดิมนัก แต่ก็ยังคงความสงบเสงี่ยมไว้ได้อยู่


          ต้องเป็นประเด็นไปอีกปีสินะ...


อืม ปีนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะผลาญไปกับรางวัลนักเรียนดีเด่นอะไรอีก


เนื้อความนั่นทำให้โทปาซแค่นหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้


คนอยากเล่นคีย์บอร์ดให้วงสตริงก็โดนย้ายไปเปียโนของวงคลาสสิก เพราะว่าเก่งสายนั้นมากกว่าต่อไปแหละนะ...


          มองในแง่ดีก็คือยังมีโอกาสที่ปีนี้จะเป็นปีสุดท้าย


          คงงั้น


          ปัง...


          เสียงปิดล็อกเกอร์อย่างระมัดระวังนั้นดังขึ้นหลังจังหวะสิ้นเสียงถอนหายใจของโทปาซพอดิบพอดีตอนนั้นเองที่เร็นสังเกตเห็นว่าฮานันกำลังส่งสัญญาณบางอย่างให้กับบุหลันผ่านทางสายตา


          ก็เข้าใจอยู่หรอกนะ มันก็โดนอะไรแบบนี้มาตั้งแต่รุ่นแรกๆแล้วด้วย และปัญหาส่วนใหญ่ก็อยู่ที่การเบิกงบประมาณนี่แหละหล่อนเอ่ย ก่อนจะหันไปทางแอนโธนี่อีกครั้งหนึ่ง


          หัว เราเตรียมใบสำหรับรวบรวมรายชื่อประกอบการเสนอไปเผื่อๆหรือยังนะ?


          เตรียมแล้ว แต่อาจารย์หลายคนบอกว่าให้เลยช่วงออดิชั่นปีนี้ไปก่อน


          ต้องเว้นระยะเพื่อความเหมาะสมด้วยไหม? โอกาสที่จะโดนเรียกไปพูดเรื่องจังหวะเวลาพวกนี้ก็มีสูงอยู่ รุ่นพี่ปีก่อนๆก็โดนไปเยอะอยู่


          แอนโธนี่เงียบไปครู่หนึ่งครุ่นคิดเรื่องดังกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


          อาจจะต้องรอดูอีกสักหน่อย...


อืม


แต่ฉันอยากให้เป็นหลังจากช่วงนี้ทันทีเลย เขาเอ่ยเสริม


เขาจะได้พอเดาๆกันออกว่าเรื่องมันถูกลากยาวมานาน


...แบบนี้มันนับว่าดีขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่านะ?

 


___

 


ความสนใจแปรเปลี่ยนไปยังเรื่องเคร่งเครียดอีกเรื่องไปเสียอย่างนั้น และถึงจะมองในแง่ดีว่าอย่างน้อยสองคนดังกล่าวก็ปล่อยผ่านเรื่องเมื่อครู่ไปชั่วคราวก็ตาม โทปาซที่ปกติแทบจะไม่แสดงออกมากมายนั้นก็เป็นคนที่เธอควรจะใส่ใจมากพอๆกันเธอไม่อยากทำให้หล่อนอึดอัด ยิ่งถ้าเป็นเพราะวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีของตนเองแล้วด้วย


แปะๆ!


แต่ดูเหมือนว่าโทปาซจะได้รับความสามารถในการอ่านใจมาด้วย


         ปากนั้นกำลังเตรียมตอบถ้อยคำหยอกล้อเล็กน้อยที่มักจะเอ่ยออกมา ทว่าก็ยังช้ากว่ามือข้างดังกล่าวของโทปาซที่เปลี่ยนไปยกทักทายใครสักคนไปเสียได้


มันเร็วเร็วเสียจนเกือบจะคิดไปเองว่าหล่อนกะจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรกและกำลังรอจังหวะอยู่ หากไม่ติดว่านั่นจะดูผิดวิสัยเกินไป


ไรอ่ะ?”


ควับ!


ราวกับอัญมณีคู่นั้นกระทบกับแสงอะไรสักอย่างไปเพียงชั่วครู่หนึ่ง แววตาที่แลดูไม่คุ้นชินของเพื่อนสาวนั้นกระตุ้นให้ต่อมความอยากรู้อยากเห็นทำงาน สมองจึงสั่งการให้หันหน้าไปยังทิศทางดังกล่าวเพื่อไขข้อสงสัย


 “ฮึ?”


ก่อนจะหันไปมองแอนโธนี่ในเวลาต่อมา และเลิกคิ้วให้กับเขาที่มีสีหน้างวยงงไม่แพ้กัน


เมื่อเทียบกับบุหลันและฮานัน ปฏิกิริยาของพวกเธอสองคนแทบจะตลกไปเลยทั้งกะพริบตาปริบๆให้กับเรื่องน่าประหลาดใจอีกเรื่องของวัน ยิ้มทักทายแอรีส โจนาห์ตามประสาคนรู้จัก แล้วพร้อมใจกันจ้องไปยังอีกคนที่ยังไม่ได้อัปเดทชีวิตส่วนที่เหลือให้ฟังน่ะ


ก็คือรู้จักกัน... สินะ


อ่าฮะ


โลกมันคงกลมกว่าที่คิดสำหรับโทปาซน่ะ


เรื่องมันยาวหน่อย เลยกะจะเล่าให้ฟังแบบลงลึกพร้อมกัน 4 คนน่ะ


อ๋อ


คือฉันไม่ได้คิดว่าจะเจอแจ็กพอตวันนี้หรือวันอื่นๆ


ไม่เป็นไรๆ เข้าใจได้


เธอมีเพื่อนสนิทอยู่ 3 คน— หนึ่งชอบเล่าเรื่องเชิงบอกใบ้ให้ตีความเอาเอง หนึ่งแทบจะไม่มีความลับใดๆกับกลุ่มเพื่อน และหนึ่งก็เริ่มจะเปิดเผยกว่าเดิม... ติดแค่ว่าดวงชะตานั้นไม่ต่างอะไรกับซีรี่ส์ซิทคอม


แต่ดูทรงแล้วเธอควรจะเล่าให้เขาฟังก่อนนะ เร็นบุ้ยหน้าไปทางแอนโธนี่


อ่าก็จริง


หวังว่ามันจะไม่กลายเป็นเรื่องเครียดไปอีกเรื่องนะ

 

                   

          

 
งานเยอะจนทำอย่างอื่นไม่ได้แล้วค่ะ แทบน็อค กี้ด แง ;;
แต่คือสุดท้ายก็แว๊บมาจนได้ก่อนสิ้นเดือนนะคะ555555555555555
ก็คือซีนพระเอกเรามาแบบกรุบกริบพอ ตอนหน้าค่อยให้แอร์ไทม์แบบจัดเต็ม รอบนี้ก็เป็นอินไซต์ยัยเร็นนี่นะ
อินไซต์เร็นก็จะต่างกับของปาซชัดเจนเลยตรงจุดโฟกัสที่เปลี่ยนไปมาเล็กน้อย แต่อย่างที่เห็นก็คือยังไงยัยน้องก็รักเพื่อนนะคะ
ถึงบางครั้งจะไม่ได้คิดดีๆก่อนพูดก็เถอะ (ส่วนเรื่องที่ผิดก็ว่าไปตามผิด)

ก็คือมีใบ้ถึงซับสตอรี่ของแอนโธนี่เล็กๆน้อยๆด้วย เครสจะเล่น parallel ของคู่แฝดบ่อยเลยในเรื่องนี้ ของไดแอนกับรู๊บส์ก็ด้วย
และแก๊งกน.ก็คือวางคาร์สนุกมาก ถึงตอนนี้ตอนนี้ออกมาแค่สองคนครึ่ง (เพราะคนนึงมาแค่ชื่อ)
แต่วางไดนามิกกับ interaction ทุกคนไว้สำหรับอนาคตไปบ้างแล้วล่ะค่ะ55555555

และเผื่อใครสงสัยนะคะ ปกติแก๊งกน.เค้าคุยงานทั้งในและนอกประชุมประจำค่ะ อย่างน้อยก็แอนดี้นี่แหละที่คุยได้ทุกเวลา--
ส่วนมาริกับไอวี่คือทดสอบสมรรถภาพกันอยู่ค่ะ สองคนนั้นลงเรียนวิชาเสริมก่อนพละคาบแรกทั้งคู่
(และใช่ค่ะ รีสเค้ารู้จักคนเยอะอยู่ เร็นก็รู้จัก แอนดี้ก็รู้จัก แต่คือตลอดห้าปีกว่าที่เรียนมานี่ไม่เคยคุยกับปาซ--)

เล็กๆน้อยๆ :
วันก่อนเครสฟังเพลง Peppermint ของ Jack Stauber แล้วดันตีความออกมาเป็นสตอรี่พี่น้องแอนเดรียได้ด้วยแหละค่ะ
นึกเป็นภาพคือรู้สึกถึงความขมอย่างชัดเจนเลย แต่แบบเป็นตัวอักษรนี่ไม่แน่ใจว่าจะสื่อออกมาได้เป๊ะเท่ามั้ย
ถ้าได้ก็เดี๋ยวเจอกันใน haus ค่ะ (ดองแพลน o/s เพิ่มไปอีกตอน--)
ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×