ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kingdom Of The Darkness

    ลำดับตอนที่ #5 : ศาสตราแห่งวายุ (Element Of Wind)

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 49


    ตอนที่5 ศาสตราแห่งวายุ(Elemental Of Wind)

    ตอนที่5 ศาสตราแห่งวายุ(Elemental Of Wind)

    นครอิลันเต(เอลฟ์)

    เป็นเมืองที่มีน้ำล้อมรอบซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ยักษ์ซึ่งชาวเอลฟ์เรียกว่าต้นไม้ใหญ่ปกคลุมทั่วเมืองเพียงต้นเดียว จึงมีแต่ความร่มเย็นน่าอยู่


    "คุณพ่อค่ะขอหนูไปยังเซเรสเถอะค่ะ"อิซาเบลขอผู้อาวุโส

    คุณพ่อค่ะขอหนูไปยังเซเรสเถอะค่ะ"อิซาเบลขอผู้อาวุโส

    "แล้วถ้าข้าศึกมันมาตอนที่เจ้าไม่อยู่ล่ะอิซาเบล"อีริคตอบกลับ

    แล้วถ้าข้าศึกมันมาตอนที่เจ้าไม่อยู่ล่ะอิซาเบล"อีริคตอบกลับ


    "นักรบแห่งเอลฟ์มิได้มีแค่หนูคนเดียวหรอกนะค่ะ" อิซาเบลสวนกลับ

    นักรบแห่งเอลฟ์มิได้มีแค่หนูคนเดียวหรอกนะค่ะ" อิซาเบลสวนกลับ

    "มันก็ใช่แต่เจ้าเป็นที่ยึดเหนี่ยวของท่านนักรบเหล่านั้น"อีริคชักแม่น้ำทั้ง ห้า มาเพื่อห้ามอิซาเบล

    มันก็ใช่แต่เจ้าเป็นที่ยึดเหนี่ยวของท่านนักรบเหล่านั้น"อีริคชักแม่น้ำทั้ง ห้า มาเพื่อห้ามอิซาเบล

    "หากแต่ก่อนหนูก็ไม่เคยอยู่คราวนี้ท่านกลับไม่ให้ไปด้วยเหตุผลอะไรข้ามิทราบ" อิซาเบลพยายามครั้นพ่อของเธอ

    หากแต่ก่อนหนูก็ไม่เคยอยู่คราวนี้ท่านกลับไม่ให้ไปด้วยเหตุผลอะไรข้ามิทราบ" อิซาเบลพยายามครั้นพ่อของเธอ

    "ถ้าเจ้าอยากไปนักก็เชิญแต่ถ้าไม่ได้เซเรสเทก็อย่าวาให้เห็นเด็ดขาด" อีริคพูดคำขาดอิซาเบลได้ยินดังนั้นก็กลับไปยังห้องของตนเองเพื่อเก็บของเตรียมออกเดินทางด้วยยูนิคอร์นภูติมายาตัวโปรดของเธอเอง เธอตัดสินใจตั้งแต่เห็นป้ายประกาศแล้วแต่ไม่มีใครกล้าขอเอลเดอ(Elder)ไปกว่าเธอ

    ถ้าเจ้าอยากไปนักก็เชิญแต่ถ้าไม่ได้เซเรสเทก็อย่าวาให้เห็นเด็ดขาด" อีริคพูดคำขาดอิซาเบลได้ยินดังนั้นก็กลับไปยังห้องของตนเองเพื่อเก็บของเตรียมออกเดินทางด้วยยูนิคอร์นภูติมายาตัวโปรดของเธอเอง เธอตัดสินใจตั้งแต่เห็นป้ายประกาศแล้วแต่ไม่มีใครกล้าขอเอลเดอ(Elder)ไปกว่าเธอ

    ยูนิคอร์นของเธอชื่อไบร(Bride)ได้มาตอนไปทำสงครามกับดาร์คเอลฟ์มันยังเล็กเธอเจอเข้าเลยเอามาเลี้ยงไว้เป็นที่อิจฉาของผู้คนที่พบเห็นเพราะภูตมายายูนิคอร์นหาได้ไม่ง่ายนัก อิซาเบลตัดสินใจเดินทางในวันรุ่งขึ้น

    -+-+-+-+-+-+-+-+--+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+

    " เรเว็นเรเว็น" เสียงเรียกของชิลลเลนทำให้เรเว็นรีบลุกมาหาเธอ

    เรเว็นเรเว็น" เสียงเรียกของชิลลเลนทำให้เรเว็นรีบลุกมาหาเธอ

    "ไปเก็บสมุนไพรกันเถอะ" ชิลเลนชวนเรเว็นด้วยสีหน้าระรื่นอารมณ์ดี

    ไปเก็บสมุนไพรกันเถอะ" ชิลเลนชวนเรเว็นด้วยสีหน้าระรื่นอารมณ์ดี

    "ได้แปบหนึ่งนะจ้ะ" เรเว็นตอบเสียงหวานกลับไป

    ได้แปบหนึ่งนะจ้ะ" เรเว็นตอบเสียงหวานกลับไป

    "ไปตรงไหนดีล่ะ ยอดเขาเซวซิลดีมั้ย" ชิลเลนถาม

    ไปตรงไหนดีล่ะ ยอดเขาเซวซิลดีมั้ย" ชิลเลนถาม

    "ได้ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นถ้ามีชิลเลนอยู่" เรเว็นหยอกเล่นชิลเลน

    ได้ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นถ้ามีชิลเลนอยู่" เรเว็นหยอกเล่นชิลเลน

    "อืม" ชิลเนลเขินขณะเดินทางไปยังยอดเขาเซวชิลพวกเขาก็คุยกันตามประสาคู่รักทั่วไปได้ครู่หนึ่งใหญ่ๆแต่ก็ได้แค่นั้น เมื่อเริ่มมีกลิ่นเหม็นสาบไหม้และควันพฟุ้งไม่เว้นแม้แต่ในป่าทึบเรเว็นปีนต้นไม้ขึ้นดูความถนัดก็ได้เห็นจับตาเมื่อเห็นไฟไหม้หมู่บ้านดาร์คกลางป่าและได้ยินเสียง วี๊ด!!!ร้องโหยหวนขึ้นมาไม่ขาดสายและเริ่มขนลุกเมื่อนึกถึงภาพที่น่าจะเป็นคือเขาเห็นพวกโครงกระดูกและสัตว์อสูร กระจายเต็มหมู่บ้านของเขา

    อืม" ชิลเนลเขินขณะเดินทางไปยังยอดเขาเซวชิลพวกเขาก็คุยกันตามประสาคู่รักทั่วไปได้ครู่หนึ่งใหญ่ๆแต่ก็ได้แค่นั้น เมื่อเริ่มมีกลิ่นเหม็นสาบไหม้และควันพฟุ้งไม่เว้นแม้แต่ในป่าทึบเรเว็นปีนต้นไม้ขึ้นดูความถนัดก็ได้เห็นจับตาเมื่อเห็นไฟไหม้หมู่บ้านดาร์คกลางป่าและได้ยินเสียง วี๊ด!!!ร้องโหยหวนขึ้นมาไม่ขาดสายและเริ่มขนลุกเมื่อนึกถึงภาพที่น่าจะเป็นคือเขาเห็นพวกโครงกระดูกและสัตว์อสูร กระจายเต็มหมู่บ้านของเขา

    "เรเว็นเกิดอะไรขึ้น"ชิลเลนถามเมื่อเห็นสีหน้าเรเว็นเริ่มไม่ดี

    เรเว็นเกิดอะไรขึ้น"ชิลเลนถามเมื่อเห็นสีหน้าเรเว็นเริ่มไม่ดี

    "หมู่บ้านของเรา" เรเว็นพูดครางเบาๆ

    หมู่บ้านของเรา" เรเว็นพูดครางเบาๆ

    "หมู่บ้านของเราทำไม"ชิเลน กระตุกเท้าของเรเว็นและถามเขา

    หมู่บ้านของเราทำไม"ชิเลน กระตุกเท้าของเรเว็นและถามเขา

    "หมู่บ้านของเราโดนบุก "เรเว็นตอบสั่นๆ

    หมู่บ้านของเราโดนบุก "เรเว็นตอบสั่นๆ

    " หาโดนบุก…..ใครใครบุก????" ชิลเลนอึ้งถามไม่เป็นคำ

    หาโดนบุก…..ใครใครบุก????" ชิลเลนอึ้งถามไม่เป็นคำ

    " เราต้องกลับไป"ชิลเลนบอกเรเว็นหนักแน่น

    เราต้องกลับไป"ชิลเลนบอกเรเว็นหนักแน่น

    " ไปหมู่บ้าน"เรเว็นโดดจากต้นไม้แล้วรีบวิ่งไปยังหมู่บ้านด้วยความรวดเร็วก็ต้องตกใจสุดขีดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไฟไหม้บ้านเรือนเป็นตอตะโกไร่ผักถูกเหยียบเสียไปหมดและคนในหมู่บ้านตายเรียบถึงรอดก็คงรอดไม่นาน

    ไปหมู่บ้าน"เรเว็นโดดจากต้นไม้แล้วรีบวิ่งไปยังหมู่บ้านด้วยความรวดเร็วก็ต้องตกใจสุดขีดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไฟไหม้บ้านเรือนเป็นตอตะโกไร่ผักถูกเหยียบเสียไปหมดและคนในหมู่บ้านตายเรียบถึงรอดก็คงรอดไม่นาน

    "แม่!!! แม่!"ชิลเลนเรียกเฟเรียที่โดนต้นไม้ล้มทับเลือดท่วมกายอยู่ข้างวิหาร

    แม่!!! แม่!"ชิลเลนเรียกเฟเรียที่โดนต้นไม้ล้มทับเลือดท่วมกายอยู่ข้างวิหาร

    "ลูกแม่…" เฟเรียเรียกชิลเลนทำให้เธอน้ำตาไหลไม่

    ลูกแม่…" เฟเรียเรียกชิลเลนทำให้เธอน้ำตาไหลไม่

    "เกิดอะไรขึ้นค่ะ" ชิลเลนถามเธอด้วยเสียงที่อดเศร้าไม่ได้

    เกิดอะไรขึ้นค่ะ" ชิลเลนถามเธอด้วยเสียงที่อดเศร้าไม่ได้

    "ปีศาจ"

    "อยู่กับเรเว็น….นะอ่า….." เฟเรียพูดประโยคสุดท้ายและสิ้นใจไปในที่สุด

    ปีศาจ"

    "อยู่กับเรเว็น….นะอ่า….." เฟเรียพูดประโยคสุดท้ายและสิ้นใจไปในที่สุด

    อยู่กับเรเว็น….นะอ่า….." เฟเรียพูดประโยคสุดท้ายและสิ้นใจไปในที่สุด

    "แม่!!!! ไม่ไม่จริง" ชิลเลนร้องไห้ไม่หยุดเธอกอดเฟเรียไว้แนบอก

    แม่!!!! ไม่ไม่จริง" ชิลเลนร้องไห้ไม่หยุดเธอกอดเฟเรียไว้แนบอก

    "ไปเถอะชิลอาจมีคนรอดชีวิต" เรเว็นชวนเธอเดินสำรวจในหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านพวกเขาเดินตามทางเรื่อยๆ ผ่านบ้านหลังแล้วหลังเล่าก็ยังไม่เจอคนรอดชีวิต จนกระทั่งมาถึงวิหารกลางป่า(ซิส)ซึ่งถูกถล่มไม่ต่างกับในหมู่บ้านแต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ถูกทำลายคือ รูปปั้นหินเทพเจ้าฮาเดส ซึ่งตั้งตะหง่าอยู่โดดเดียวเรเว็นเห็นดังนั้นจึงจูงมือชิลเลนเข้าไปใกล้ๆ ก็พบร่างชายผ้าคลุมสีดำนอนแผ่สิ้นลมหายใจอยู่ข้างหลังเทวรูปที่มีสิ่งหนึ่งอยู่ซึ่งกำแน่นเรเว็น จึงเปิดผ้าคลุมหน้าออกจึงเห็นว่านั้นเป็นปู่ของตัวเองและจับมือนั้นมาแกะเอาสิ่งที่อยู่ในมือนั้นออกมาดูพบก้อนหินสลักอักษรความว่า

    ไปเถอะชิลอาจมีคนรอดชีวิต" เรเว็นชวนเธอเดินสำรวจในหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านพวกเขาเดินตามทางเรื่อยๆ ผ่านบ้านหลังแล้วหลังเล่าก็ยังไม่เจอคนรอดชีวิต จนกระทั่งมาถึงวิหารกลางป่า(ซิส)ซึ่งถูกถล่มไม่ต่างกับในหมู่บ้านแต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ถูกทำลายคือ รูปปั้นหินเทพเจ้าฮาเดส ซึ่งตั้งตะหง่าอยู่โดดเดียวเรเว็นเห็นดังนั้นจึงจูงมือชิลเลนเข้าไปใกล้ๆ ก็พบร่างชายผ้าคลุมสีดำนอนแผ่สิ้นลมหายใจอยู่ข้างหลังเทวรูปที่มีสิ่งหนึ่งอยู่ซึ่งกำแน่นเรเว็น จึงเปิดผ้าคลุมหน้าออกจึงเห็นว่านั้นเป็นปู่ของตัวเองและจับมือนั้นมาแกะเอาสิ่งที่อยู่ในมือนั้นออกมาดูพบก้อนหินสลักอักษรความว่า

    "จงไปจากที่นี้ไปยังวิหาน้ำแข็งตามหามังกรวารีและติดตามมันไป" และซักครู่พวกเค้าก็ต้องวิ่งหลบบางสิ่งหลังจากได้ยินเสียงวิ่นมายังจุดที่พวกเค้ายืนอยู่และก็พบว่าเสียงนั้นคือบราโก้นั้นเอง

    จงไปจากที่นี้ไปยังวิหาน้ำแข็งตามหามังกรวารีและติดตามมันไป" และซักครู่พวกเค้าก็ต้องวิ่งหลบบางสิ่งหลังจากได้ยินเสียงวิ่นมายังจุดที่พวกเค้ายืนอยู่และก็พบว่าเสียงนั้นคือบราโก้นั้นเอง

    "บราโก้!!!!" ชิลเลนเรียกบราโก้เสียงดัง

    บราโก้!!!!" ชิลเลนเรียกบราโก้เสียงดัง

    "มันเกิดอะไรขึ้นทำไมบ้านเมืองเป็นแบบนี้"บราโก้ถามด้วยความสงสัย

    มันเกิดอะไรขึ้นทำไมบ้านเมืองเป็นแบบนี้"บราโก้ถามด้วยความสงสัย

    "แล้วนายไปอยู่ไหนมา" เรเว็นถาม

    แล้วนายไปอยู่ไหนมา" เรเว็นถาม

    " สะกดรอยตามพวกนายไปแล้วหลงป่าซะเองอ่ะ ก็ได้ยินเสียงดังและมีควันไฟจึงรีบวิ่งมีนี้ไง" บราโก้ตอบด้วยความกลัวสิ่งที่เกิดขึ้น

    สะกดรอยตามพวกนายไปแล้วหลงป่าซะเองอ่ะ ก็ได้ยินเสียงดังและมีควันไฟจึงรีบวิ่งมีนี้ไง" บราโก้ตอบด้วยความกลัวสิ่งที่เกิดขึ้น

    "มีสัตว์อสูรถล่มหมู่บ้านเรา" เราต้องตามหามังกรวารีที่วิหารน้ำแข็งในนครเซเรส" เรเว็นบอกบราโก้

    มีสัตว์อสูรถล่มหมู่บ้านเรา" เราต้องตามหามังกรวารีที่วิหารน้ำแข็งในนครเซเรส" เรเว็นบอกบราโก้

    "ฉันจะไปกับเซเรสพวกเธอพวกนายจะไปด้วยรึเปล่า" เรเว็นถามทุกคน

    ฉันจะไปกับเซเรสพวกเธอพวกนายจะไปด้วยรึเปล่า" เรเว็นถามทุกคน

    " แน่นอนฉันจะไป!" บราโก้รีบตอบ

    แน่นอนฉันจะไป!" บราโก้รีบตอบ

    " ฉันคงเลี่ยงไม่ได้ละมั่ง" ชิลเลนตอบพร้อมทำหน้าเศร้าเมื่อนึกถึงคำพูดเฟเรียหลังจากนั้นพวกของเรเว็นก็ตระเตรียมสิ่งของจำเป็นสะเบียงที่มีอยู่และอาวุธต่างๆ และออกเดินทางในรุ่งอรุณวันต่อมา เรเว็นต้องเดินทางผ่านป่าและหุบเขามากมายจนมาถึงทางราบซึ่งที่โล่งกว้างแต่เบี่องหน้าห่างออกไป

    ฉันคงเลี่ยงไม่ได้ละมั่ง" ชิลเลนตอบพร้อมทำหน้าเศร้าเมื่อนึกถึงคำพูดเฟเรียหลังจากนั้นพวกของเรเว็นก็ตระเตรียมสิ่งของจำเป็นสะเบียงที่มีอยู่และอาวุธต่างๆ และออกเดินทางในรุ่งอรุณวันต่อมา เรเว็นต้องเดินทางผ่านป่าและหุบเขามากมายจนมาถึงทางราบซึ่งที่โล่งกว้างแต่เบี่องหน้าห่างออกไป

    "นี่มันอะไรกันเนี่ยฉันไม่เคยเห็นพื้นที่อย่างนี้มาก่อน" บราโก้อุทานทั้งหน้าตาตกใจอึ้งทึ่งสุดขีด

    นี่มันอะไรกันเนี่ยฉันไม่เคยเห็นพื้นที่อย่างนี้มาก่อน" บราโก้อุทานทั้งหน้าตาตกใจอึ้งทึ่งสุดขีด

    "เราคงต้องผ่านที่นี้ไป" เรเว็นเอ่ย

    เราคงต้องผ่านที่นี้ไป" เรเว็นเอ่ย

    "พักก่อนเถอะนะ" ชิลเลนร้องขอเรเว็น

    พักก่อนเถอะนะ" ชิลเลนร้องขอเรเว็น

    " นี่ใกล้มืดแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยเถอะ "บราโก้เสริม

    นี่ใกล้มืดแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยเถอะ "บราโก้เสริม

    " อืมแล้วแต่พวกนายเถอะนะ แล้วพวกเขาก็กองไฟขึ้นมาและนั่งล้อมรอบกองไฟ

    อืมแล้วแต่พวกนายเถอะนะ แล้วพวกเขาก็กองไฟขึ้นมาและนั่งล้อมรอบกองไฟ

    "เรเว็นนี้เธอจะทำยังไงต่อไปที่เซเรสล่ะ "ชิลเลนถามเรเว็นทางกลางความมืดที่มีเพียงกองไฟเพียงกองเดียว

    เรเว็นนี้เธอจะทำยังไงต่อไปที่เซเรสล่ะ "ชิลเลนถามเรเว็นทางกลางความมืดที่มีเพียงกองไฟเพียงกองเดียว

    " ก็คงต้องตามหามังกรวารีละนะ" เรเว็นตอบเหม่อๆ

    ก็คงต้องตามหามังกรวารีละนะ" เรเว็นตอบเหม่อๆ

    "ฉันอยากให้เวทย์มนต์ของฉันช่วยพวกเธอได้มั่ง" ชิลเลนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนบอกถึงความไม่สบายใจ

    ฉันอยากให้เวทย์มนต์ของฉันช่วยพวกเธอได้มั่ง" ชิลเลนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนบอกถึงความไม่สบายใจ

    "ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกคน" ชิลเลนพูดต่อ

    ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกคน" ชิลเลนพูดต่อ

    "เธอไม่ได้เป็นตัวถ่วงหรอก" เรเว็นให้กำลังใจ

    เธอไม่ได้เป็นตัวถ่วงหรอก" เรเว็นให้กำลังใจ

    "ใช่มั้ย??บราโก้" เรเว็นพูดเสียงใสถามบราโก้นิ่งเงียบ การกระทำของบราโก้ครั้งนี้ทำให้เรเว็นหน้าเบ้..อย่างหนัก แต่ก็ทำให้ชิลเลนอดขำไม่ได้อย่างหนัก และคืนนั้นก็เป็นคืนที่สงบอีกคืนหนึ่ง

    ใช่มั้ย??บราโก้" เรเว็นพูดเสียงใสถามบราโก้นิ่งเงียบ การกระทำของบราโก้ครั้งนี้ทำให้เรเว็นหน้าเบ้..อย่างหนัก แต่ก็ทำให้ชิลเลนอดขำไม่ได้อย่างหนัก และคืนนั้นก็เป็นคืนที่สงบอีกคืนหนึ่ง

    f f f f f f f f f f f f f f f f

    f f f f f f f f f f f f f f f f

    ว่ากันวว่ายูนิคอร์นวิ่งและพลิ้วดุจสายลมบนที่ราบการเดินทางของอิซาเบลยังดำเนินต่อไปต่อไป ตอนนี้เธอเดินทางมาถึงทะเลสาบซีเนียแล้วและเธอก็ต้องหยุดพักบ้างการเดินทางที่ติดต่อกันเป็นเวลานานๆทำให้เธอเหนื่อยล้าเพราะอย่างน้อยก็เป็นสตรีชาวเอลฟ์แห่งอิลันเตคนหนึ่ง

    g g g g g g g g g g g g g g g g g g

    "โอเค! มีแค่นี้ใช้มั้ยซับเซนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย" รินดาเห็นสมบัติที่ไปปล้นมาเมื่อคืนก่อน

    โอเค! มีแค่นี้ใช้มั้ยซับเซนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย" รินดาเห็นสมบัติที่ไปปล้นมาเมื่อคืนก่อน

    "ข้าวสาร ทองแท่ง อาวุธ…. โดยรวมก็มีแค่นี้ล่ะนะ"ซับเซนตอบ

    ข้าวสาร ทองแท่ง อาวุธ…. โดยรวมก็มีแค่นี้ล่ะนะ"ซับเซนตอบ

    แต่หนึ่งในนั้นได้มีอาวุธ สอง ชิ้นที่พิเศษนั้นคือธนูที่มีตัวคันธนูเป็นสีเขียวมรกต และดาบยักษ์ที่มีตัวด้ามเป็นสีเขียวสวยงาม ทั้งคู่มีเปล่งออกมา เทียเห็นธนูนั้นก็นึกชื่นชมและหยิบคันธนูสีเขียวมรกตนั้นขึ้นมายลโฉม และลองตึงสายดูและคันธนูก็มีรูปร่างเปลี่ยนไปทันทีเทียรู้สึกแปลกใจและตกใจมาก

    "ธนูอะไรเนี่ยเปลี่ยนรูปได้ด้วย" เทียตกใจร้องออกมาอย่งลืมตัว

    ธนูอะไรเนี่ยเปลี่ยนรูปได้ด้วย" เทียตกใจร้องออกมาอย่งลืมตัว

    "เทียเกิดไรขึ้นทำไมธนูนั้นเปลี่ยนไป" ซารุถามอย่างตกใจ ไม่แพ้กัน

    เทียเกิดไรขึ้นทำไมธนูนั้นเปลี่ยนไป" ซารุถามอย่างตกใจ ไม่แพ้กัน

    "ไม่รู้ซิพอจับมันก็กลายเป็นแบบนี้แต่ก็เหมาะมือดีนะ" เทียตอบอย่างพอใจในธนูคันนั้น

    ไม่รู้ซิพอจับมันก็กลายเป็นแบบนี้แต่ก็เหมาะมือดีนะ" เทียตอบอย่างพอใจในธนูคันนั้น

    "แล้วนั้นล่ะ" ซารุถามเมื่อเห็นดาบใหญ่ยักษ์สีเดียวกับธนูของเทีย

    แล้วนั้นล่ะ" ซารุถามเมื่อเห็นดาบใหญ่ยักษ์สีเดียวกับธนูของเทีย

    "ดาบนั้นเหรอ" เทียตอบ

    ดาบนั้นเหรอ" เทียตอบ

    "ไม่รู้สิยังไม่ได้จับเลยแต่ฉันขอธนูอันนี้ละนะ" เทียหันหน้าไปหารินดา

    ไม่รู้สิยังไม่ได้จับเลยแต่ฉันขอธนูอันนี้ละนะ" เทียหันหน้าไปหารินดา

    "ก็ตามใจซิ "รินดาตอบพรางสำรวจสินค้าต่อ

    ก็ตามใจซิ "รินดาตอบพรางสำรวจสินค้าต่อ

    อืบ….!

    "ยกไม่ไหวแฮะ!"ซารุบอกทุกคน

    "ยกไม่ไหวแฮะ!"ซารุบอกทุกคน

    " แล้วอย่างนี้จะเอาไปสู้ได้อย่างไร "ซารุพูดต่อ

    แล้วอย่างนี้จะเอาไปสู้ได้อย่างไร "ซารุพูดต่อ

    " ไหนดูดิลองหน่อย "ซับเซนเดินมาหาพร้อมทำท่าทางล้อเลียนซารุ

    ไหนดูดิลองหน่อย "ซับเซนเดินมาหาพร้อมทำท่าทางล้อเลียนซารุ

    " ก็ไม่เห็นหนักเท่าไหร่นี่แต่มันก็ไม่เบาเลยละ" ซับเซนบอกพร้อมกับว่างดาบนั้น

    ก็ไม่เห็นหนักเท่าไหร่นี่แต่มันก็ไม่เบาเลยละ" ซับเซนบอกพร้อมกับว่างดาบนั้น

    ลงแต่ดาบสีเขียวนั้นก็พลัดหลุดจากมือตกลงบนพื้นบ้านบนต้นไม้ของเขา

    ตูม!

    ปิ้ง ฉึก!

    ตกทะลุพื้นบ้านและฝ่ากิ่งต้นไม้ลงไปปักพื้นหินข้างล่างพอดี

    "เสร็จกันนายทำอะไรนะซับเซน" ซารุพูดตำหนิซับเซนด้วยเสียงล้อเลียนทำให้ลูคังที่อยู่ข้างล้างรู้สึกตกใจไปด้วย

    เสร็จกันนายทำอะไรนะซับเซน" ซารุพูดตำหนิซับเซนด้วยเสียงล้อเลียนทำให้ลูคังที่อยู่ข้างล้างรู้สึกตกใจไปด้วย

    ตึบตึบ….ตึบเสียงเหมือนมีกองทัพกำลังเดินผ่านมาทำให้ลูคังรีบปีนขึ้นต้นไม้ไปหาพวกของรินดา

    "เกิดไรขึ้น" ลูคังถาม

    เกิดไรขึ้น" ลูคังถาม

    "ไม่รู้สึ" รินดาซุ้มมองที่หน้าต่างเช่นเดียวกับทุกคน

    ไม่รู้สึ" รินดาซุ้มมองที่หน้าต่างเช่นเดียวกับทุกคน

    "ดูเหมือนจะเป็นกองทัพที่อัปลักษณ์มาเลย" เทียบอก

    ดูเหมือนจะเป็นกองทัพที่อัปลักษณ์มาเลย" เทียบอก

    " ไม่มากเท่าไหร่พอจัดการได้"รินดาบอก

    ไม่มากเท่าไหร่พอจัดการได้"รินดาบอก

    " ฉันซารุซับเซนลงไปสู้เทียลองใช้ธนูอันใหม่ ลูคังเธออยู่กับเทียยิงธนู" รินดาบอกแผนการแก่ทุกคน

    ฉันซารุซับเซนลงไปสู้เทียลองใช้ธนูอันใหม่ ลูคังเธออยู่กับเทียยิงธนู" รินดาบอกแผนการแก่ทุกคน

    ฟิ้วฉึก!!!!

    "ตายแล้ว! แม่เจ้าเธอเปลี่ยนแผนไปลุยหมดนี้เลยละกันไฟจะไหม้แล้ว" รินดาอุทานดังลั่น แล้วทั้ง ห้า ก็กระโดดออกมาจากบ้านหลังนั้นแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา เลยที่จะตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น และพอถึงพื้นพวกเขาก็ต้องเจอกับกองทัพปีศาจ

    "ตายแล้ว! แม่เจ้าเธอเปลี่ยนแผนไปลุยหมดนี้เลยละกันไฟจะไหม้แล้ว" รินดาอุทานดังลั่น แล้วทั้ง ห้า ก็กระโดดออกมาจากบ้านหลังนั้นแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา เลยที่จะตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น และพอถึงพื้นพวกเขาก็ต้องเจอกับกองทัพปีศาจ

    "ว้าวววสุดยอดนี้ไม่ใช้คนนะเนี่ย!" ซารุอุทานแล้วสัตว์อสูรเหล่านั้นก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขาทำให้พวกเขาจำเป็นต้องสู้ทั้งที่อยากหลบหลีก

    ว้าวววสุดยอดนี้ไม่ใช้คนนะเนี่ย!" ซารุอุทานแล้วสัตว์อสูรเหล่านั้นก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขาทำให้พวกเขาจำเป็นต้องสู้ทั้งที่อยากหลบหลีก

    ย้า!!…..ซารุชักมีดและเชือกศัตรูอย่างเลือดเย็นแต่เทียกลับวิ่งหนีและปีนขึ้นต้นไม้ที่ใกล้ที่สุดและยิงคุ้มกันตามความถนัด

    "เฮ!!!ธนูใหม่นี้ถูกใจจังเลย" เทียร้องเสียดัง แต่พวกข้างล่างก็สู้กันอย่างมันมือและไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย กันเลยทุกคนสู้กันอย่างเมามันส์แต่ไม่มีทีท่าว่าศัตรูจะลดลงเลย เทียเริ่มแปลกใจเมื่อมีสัตว์อสูรที่ตายกันหายไปไหนหมดและเทียก็ลองยิงสัตว์อสูรตัวหนึ่งและก็เห็นสิ่งเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ลูกศรไปปักโดนสัตว์อสูรเหล่านั้นกลายเป็นทรายสีขาวบริสุทธิ์กระจายฟุ้งและมองอีกทีสัตว์ที่พวกรินดาฆ่านั้นคืนชีพขึ้นมา

    เฮ!!!ธนูใหม่นี้ถูกใจจังเลย" เทียร้องเสียดัง แต่พวกข้างล่างก็สู้กันอย่างมันมือและไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย กันเลยทุกคนสู้กันอย่างเมามันส์แต่ไม่มีทีท่าว่าศัตรูจะลดลงเลย เทียเริ่มแปลกใจเมื่อมีสัตว์อสูรที่ตายกันหายไปไหนหมดและเทียก็ลองยิงสัตว์อสูรตัวหนึ่งและก็เห็นสิ่งเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ลูกศรไปปักโดนสัตว์อสูรเหล่านั้นกลายเป็นทรายสีขาวบริสุทธิ์กระจายฟุ้งและมองอีกทีสัตว์ที่พวกรินดาฆ่านั้นคืนชีพขึ้นมา

    "นี้รินดาไปหยิบสีเขียวนั้นมามันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์" เทียตะโกนบอกรินดาและเธอก็วิ่งไปที่ดาบยักษ์เล่มนั้นและดึงดาบออกแต่ดึงไม่ขึ้น

    นี้รินดาไปหยิบสีเขียวนั้นมามันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์" เทียตะโกนบอกรินดาและเธอก็วิ่งไปที่ดาบยักษ์เล่มนั้นและดึงดาบออกแต่ดึงไม่ขึ้น

    "ฉันดึงไม่ขึ้น" รินดาตะโนกลับแล้วซักพักฝุ่นก็กระจายเป็นวงกว้างจนมาถึงจุดที่รินดาอยู่

    ฉันดึงไม่ขึ้น" รินดาตะโนกลับแล้วซักพักฝุ่นก็กระจายเป็นวงกว้างจนมาถึงจุดที่รินดาอยู่

    "พวกมนุษย์" อิซาเบลอุทานออกมา

    พวกมนุษย์" อิซาเบลอุทานออกมา

    "ดาบยักษ์" เธออุทานอีกครั้ง

    ดาบยักษ์" เธออุทานอีกครั้ง

    "ขอถามอย่างหนึ่งดาบยักษ์วินโธร์(Wind Thro)มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง?" อิลเบลถามพร้อมกับต่อสู้ไปบนหลังม้ายูนิคอร์น

    ขอถามอย่างหนึ่งดาบยักษ์วินโธร์(Wind Thro)มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง?" อิลเบลถามพร้อมกับต่อสู้ไปบนหลังม้ายูนิคอร์น

    "พวกฉันทำมันตกลงมาปักมันหนักมาก" ซับเซนตอบแทรกขึ้นมา

    พวกฉันทำมันตกลงมาปักมันหนักมาก" ซับเซนตอบแทรกขึ้นมา

    "ฉันชอบดาบนี่ลองจับหน่อย" อิซาเบลพูด

    ฉันชอบดาบนี่ลองจับหน่อย" อิซาเบลพูด

    "เชิญคุณผู้หญิง" รินดาพูดเชื้อเชิญ

    เชิญคุณผู้หญิง" รินดาพูดเชื้อเชิญ

    ฟิ้วฟิ้ว...ฟิ้วอิซาเบลชักดาบมากวัดแกว่งอย่างง่ายดาย

    "ใครว่าล่ะเบาเหมือนขนนกเลย" อิซาเบลกล่าว

    ใครว่าล่ะเบาเหมือนขนนกเลย" อิซาเบลกล่าว

    " งั้นฉันจะเดินทางไปกับเธอ" รินดาพูด

    งั้นฉันจะเดินทางไปกับเธอ" รินดาพูด

    "ฉันจะไปหามังกรวารีที่เซเรส" อิซาเบลตอบ

    ฉันจะไปหามังกรวารีที่เซเรส" อิซาเบลตอบ

    "ดี" รินดาตอบและดาบที่เอลฟ์สาวถืงเปลี่ยรูปร่างทำให้เหมาะกับมือของเธออย่างมากเทียตกใจที่เห็นดาบยักษ์นั้นเปลี่ยนรูปร่างเหมือนธนูของตนแต่พวกของซารุก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดแต่ด็ไม่หมดเสียที่อิซาเบลจึงวาดลวดลายดาบของเธอทำให้สัตว์อสูรกระเด็นออกไปเป็นวงกว้าง

    ดี" รินดาตอบและดาบที่เอลฟ์สาวถืงเปลี่ยรูปร่างทำให้เหมาะกับมือของเธออย่างมากเทียตกใจที่เห็นดาบยักษ์นั้นเปลี่ยนรูปร่างเหมือนธนูของตนแต่พวกของซารุก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดแต่ด็ไม่หมดเสียที่อิซาเบลจึงวาดลวดลายดาบของเธอทำให้สัตว์อสูรกระเด็นออกไปเป็นวงกว้าง

    "ยือ ยะ ย้า"เทียง้างธนูสีเขียวของสุดแรงและก็ปรากฎแสงสว่างจ้า และยิงออกกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปพวกสัตว์อสูรตนหนึ่งและก็ระเบิดแสงจำนวนมากทำให้สัตว์อสูรกลายเป็นทรายและการรบครังนี้ก็จบลงด้วยของอิซาเบลและเธอก็พูดขึ้น

    ยือ ยะ ย้า"เทียง้างธนูสีเขียวของสุดแรงและก็ปรากฎแสงสว่างจ้า และยิงออกกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปพวกสัตว์อสูรตนหนึ่งและก็ระเบิดแสงจำนวนมากทำให้สัตว์อสูรกลายเป็นทรายและการรบครังนี้ก็จบลงด้วยของอิซาเบลและเธอก็พูดขึ้น

    "นั้นมันตัวอะไร"

    นั้นมันตัวอะไร"

    h h h h h h h h h h h h h h h h

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×