ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Vampiric Murderer ปริศนารักคดีแวมไพร์

ลำดับตอนที่ #5 : เด็กใหม่(อีกคน) [1]

  • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 57


เขาที่ยืนหันหลังให้กับแสงจันทร์ที่สาดส่องมาทำให้ใบหน้าที่ซารีน่าเห็นถูกทาบทับด้วยเงาจนไม่อาจเห็นสีหน้าของเขาได้ชัดนัก เห็นได้ก็เพียงริมฝีปากบางที่คลี่เป็นรอยยิ้มอย่างจงใจ พร้อมกับคำพูดที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงยากจะบ่งบอกอารมณ์

                “ถ้าผมตอบว่าผมเป็นแวมไพรล่ะ”

                “เอ๊ะ...”

                “ถ้าผมเป็นแวมไพร์ที่ใครอย่างที่ใครต่อใครเขาพูดกันจริงๆล่ะ” ฮาลวิลลิสย่างก้าวเข้ามาใกล้ซารีน่าทีละก้าว “ถ้าหาผมเป็นแวมไพร์... คุณจะทำยังไงล่ะ”

                ซารีน่าก้าวถอยหลังอย่างเว้นระยะห่าง บรรยากาศบางอย่างทำให้เธอรู้สึกกลัวในใจลึกๆ ร่างของชายหนุ่มที่ย้อนแสงเป็นเงาดำค่อยก้าวเข้ามาหา ช่างดูน่ากลัวแต่ขณะเดียวกันก็น่าพิศวงจนไม่อาจะละสายตาราวกับเป็นแวมไพร์ที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดจริงๆ

                ฮาลวิลลิสหยุดก้าวเข้ามาแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าซารีน่าถอยหลังจนติดต้นไม้แล้ว เขาอยู่ใกล้กับซารีน่ามากกว่าแต่แรก

“นั่นสินะ...” เสียงพูดของเขาเบาราวเสียงกระซิบ เขาก้าวถอยออกไปจากร่มเงาของต้นไม้ สู่พื้นที่ที่มีแสงสว่างมากกว่า เขาไม่เหมือนแวมไพร์ในเงาดำอีกต่อไปแล้ว

“ถ้าหากผมเป็นแวมไพร์คุณก็คงจะกลัวผมไม่ต่างจากคนอื่นๆหรอก” สิ้นคำพูดนั้นก็ก็หมุนตัวแล้วเดินกลับไปสู่ทางเข้าหมู่บ้านโดยไม่รอคำตอบจากเธออีก

ไม่ใช่นะ!

“ดะ... เดี๋ยวก่อนสิ”

“ครับ” เขาหันกลับมาหาเธอ ตอบรับด้วยเสียงปกติราวกับเรื่องเมื่อกี้ไม่ใชสิ่งที่จำเป็นต้องใส่ใจ

“นายยังไม่ตอบเลยนะว่านายเป็นแวมไพร์จริงๆรึเปล่า”

“คุณก็ยังไม่ตอบผมเหมือนกันว่าถ้าผมเป็นแวมไพร์คุณจะทำยังไง” ฮาลวิลลิสยอกย้อนกลับมาหน้าตาเฉย มันทำให้ซารีน่าอึกอักไปพักหนึ่ง

“ชั้นไม่เชื่อหรอกนะว่านายจะเป็นแวมไพร์จริงๆ”

เธอได้ยินเสียงของชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ไม่แน่ใจว่าด้วยความสนุกหรืออย่างอื่น

“ครับ” เขาหันเดินต่อไป และคราวนี้ก็ไม่มีเสียงเรียกให้เขาต้องหยุดเดินอีก

 “...ขอบคุณครับ” ราวกับเป็นเสียงของสายลมที่พัดผ่านมา คำขอบคุณเบาๆได้แว่วมาแล้วจางหายไป

ซารีน่ายืนมองฮาลวิลลิสเดินเข้าไปในหมู่บ้านจนลับสายตาแล้วจึงเดินตามเข้าไป รู้สึผิดในใจทั้งที่ไม่คิดจะชื่อว่าเขาเป็นแวมไพร์แต่กลับไม่กล้าที่จะตอบคำถามของเขา ความคลางแคลงใจเพียงแค่นั้นดึงให้เธอไม่สามารถตอบอะไรออกไปได้

ถ้าหากผมเป็นแวมไพร์...คุณจะทำยังไง

ถ้าหากว่านายเป็นวมไพร์ชั้นอาจจะกลัวนายก็จริง ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังอยากรู้จักนายอยู่ดีไม่ว่านายจะเป็นมนุษย์หรือแวมไพร์ก็ตาม

ในวันพรุ่งนี้ถ้าเจอกันอีกเธอจะทำหน้ายังไงเพื่อทักทายเขาดีที่จะดูเป็นธรรมชาติและไม่ทำให้เขาหรือตัวเธอเองต้องคิดมาก 

...แต่อย่างไรเสีย ไม่ว่าเธอจะทักทายเขาแบบไหน เธอก็เชื่อว่าเขาจะยิ้มให้เธออยู่ดี ไม่ว่ารอยยิ้มนั่นจะปิดบังอะไรไว้อีกก็ตามที

 

“เอาล่ะ ผลจากการนับคะแนน ประธานนักเรียนใหม่ก็คือ ซารีน่า เวเอดิส ส่วนรองประธานก็คือ ฮาเวิร์ด ซีฟรอสนะ ...พวกเธอสองคนอีกแล้ว จริงๆเลย” เสียงอาจารย์ที่คุมการเลือกตั้งปรธานนักเรียนนของชั้นปีดังจากลำโพงของหอประชุมที่บัดนี้มีนักเรียนเพียงแค่ชั้นปีเดียวนั่งอยู่ ส่วนตัวอาจารย์เองก็แสร้งทำหน้าเบื่อหน่ายส่งไปให้เจ้าของชื่อทั้งสองคนอยู่ที่โพเดียม

ปกติแล้วชั้นปีอื่นๆจะเลือกประธานนักเรียนกันช้ากว่านี้ แต่ชั้นปีนี้เป็นชั้นเกือบจะสูงสุดการเลือกตั้งเลยเลื่อนมาให้เร็วขึ้น เนื่องจากเป็นปีที่ต้องรับผิดชอบสูงสุด เพราะสูงสุดจริงๆก็จะไม่ค่อยมีเวลามาทำงานกรรมการนักเรียนเท่าไร ส่วนใหญ่ก็มัวแต่จะวุ่นกับการเตรียมสอบเข้ามหาวิทลัยและการเรียนต่อ งานใหญ่ๆเลยตกเป็นของชั้นปีนี้วะส่วนใหญ่

 “เอ้า ปรบมือให้สองคนนั่นหน่อยซิ!” อาจารย์สั่ง

เสียงแกล้งเฮอย่างตื่นเต้นพร้อมเสียงปรบมือดังขึ้นจากเพื่อนร่วมชั้น ไม่เว้นกระทั่งลอลินที่นั่งอยู่ข้างซารีน่าก็หัวเราะออกมาชัดเจน ซารีน่ากับฮาเวิร์ดได้แต่นั่งยิ้มฝืดๆอยู่กับที่

“ลอลิน อย่าขำสิ ฉันขำด้วยไม่ออกนะ”

“เอาน่า ซารีน่าเธอจะเป็นประธานอีกแค่ปีนี้กับปีหน้าเองนะ สู้ๆน่านะ” ลอลินพูดไปด้วยปรบมือไปด้วย

ซารีน่าถอนหายใจ นึกอยากจะร้องไห้อยู่นิดๆ ไม่รู้งานปีนี้จะหนักขนาดไหน... ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าเพื่อนคงพร้อมใจกันยกตำแหน่งนี้ให้เธอแน่ๆ

 

ขณะที่อีกฝากของที่นั่งขอประชุม ฮาเวิร์ดก็มีอาการไม่ค่อยต่างจากซารีน่าเท่าไร รองประธานเนี่ยมันก็งานพอๆกับประธานนั่นแหละ

“เฮ้ย คุณรอง”ระหว่างเสียงปรบมือที่ดังอยู่นั้นเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้าข้างหลังของฮาเวิร์ดก็หันมาเรียกเขา “เหลืออีกแค่สองปีเอง เมื่อไรแกจะจีบคุณประธานซะทีล่ะ เห็นชอบมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ”

“ไม่รีบเดี๋ยวโดนใครตัดหน้าไปก่อนน้า” เพื่อนแถวนั้นอีกคนเสริม

ฮาเวิร์ดเหลือบไปทางหญิงสาวเรือนผมสีเหลืองส้มแล้วก็ทำหน้าเมื่อยถอนหายใจ “ช่างฉันเถอะน่า”

เรื่องที่เขาแอบชอบซารีน่าน่าจะรู้กันเฉพาะเพื่อนที่สนิทด้วยเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น ...หรือจริงๆอาจจะรู้ทั้งระดับชั้นแล้วก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือซารีน่ายังไม่รู้ เหมือนเพื่อนแต่ละคนจะสนุกเหลือเกินกับการที่เห็นเขาได้แต่มองซารีน่าตาละห้อย

...สองปีสุดท้ายแล้วสินะ

ฮาเวิร์ดรู้จักซารีน่ามาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว และแทบจะเป็นกรรมการนักเรียนมาด้วยกันตลอด เขาก็รู้ตัวว่าแอบมองซารีน่ามานานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่รู้จักกันมานาน จึงอาจจะพูดได้แค่ว่าหากซารีน่าจะชอบก็คงจะเป็นอย่างนั้นไปนานแล้วล่ะ

                “เอาล่ะๆ ต่อจากการเลือกประธานนักเรียน จะเป็นการบอกกำหนดการต่างๆของปีนี้ให้ฟังนะ ไหนๆปีหน้าพวกเธอก็ต้องตั้งใจกับการสอบเข้ามหาวิทลัย ปีนี้เลยจะมีกิจกรรมเข้าค่าย” เสียงอาจารย์คนเดิมขัดบรรยากาศเฮฮาของนักเรียน

“โดยปีนี้จะมีการเข้าค่าย... พวกเธออาจะบอกว่ามันก็มีเข้าค่ายทุกปีไม่ใช่หรอ แต่ปีนี้พวกเธอจะได้เลือกสถานที่เข้าค่ายเอง “ อาจารย์มองไปทางซารีน่าแล้พูดใส่ไมค์ “ประธาน หาเวลาจัดประชุมระดับชั้นด้วยล่ะว่าจะไปค่ายกันที่ไหน ติดต่อกันเองนะแล้วส่งเรื่องมาให้โรงเรียน ไม่ต้องรีบก็ได้แต่ต้องส่งภายในเทอมหนึ่งนะ”

นั่นไง งานมาแล้ว

“...ค่ะอาจารย์”

“ส่วนเรื่องกำหนดการสอบ....”

 

ตอนที่ซารีน่าไปถึงโรงอาหารคนก็นั่งกันเต็มแล้ว เพราะการประชุมเลิกช้าเป็นพิเศษ นักเรียนชั้นอื่นๆก็มาที่โรงอาหารนี้กันหมดแล้ว

“นั่งไหนกันดีล่ะ...” ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกโต๊ะก็มีแต่คนนั่งอยู่ก่อนแล้วทั้งนั้น ซารีน่าอยู่กับลอลินแล้วก็เพื่อนอีกสองคนที่ชื่อ รีวากับเฟลิน

ถ้าไม่นับลอลินที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอแล้ว ซารีน่าก็มีเพื่อนสนิทอีกของคนก็คือรีวากับเฟลินนี่แหละ น่าเสียดายที่ปีนี้ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับทั้งสองคน เลยต้องนัดกันกินข้าวด้วยกันบ่อยๆแทน

                “อ๊ะ ทางนี้ๆ” รีวาสอดส่องหาที่นั่งจนเจอจึงดึงมือของลอลินตามไปด้วย ซารีน่ากับเฟลินรีบเดินตามไป

                รีวาเดินไปที่โต๊ะนั่งขนาดห้าคนที่มีคนนั่งอยู่เพียงคนเดียว

                “อาดิเน่ พวกเราขอนั่งด้วยได้มั้ย”

                เจ้าเรือนผมสีทองยาวสลวยซึ่งกำลังนั่งทานอาหารอยู่นั้นเหลือบดวงตาที่เป็นสีฟ้าอ่อนขึ้นมองคนที่มาทักตน ใบหน้าสะสวยไม่ต่างจากดาราจ้องมาที่พวกเธออย่างนิ่งเฉยก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะเอ่ยช้าๆ

                “ตามใจเถอะค่ะ” อาดิเน่ตอบสั้นๆ

                ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงไม่มีใครกล้าขอมานั่งกับเธอทั้งที่เธอนั่งอยู่คนเดียว ก็เพราะท่าทางไม่รับแขกของเธอน่ะสิ

                “ขะ...ขอบใจมากนะ ซารี่ ลอลินจองที่ให้แป๊ปนึงสิ เดี๋ยวกลับมา” รีวาบอกรีบๆแล้ววิ่งไปซื้ออาหารพร้อมเฟลิน ซารีน่าก็ไม่ได้ว่าอะไรจึงนั่งลงที่โต๊ะตัวนั้น

                เจ้าของโต๊ะนั่งทานอาหารต่อไปแบบไม่สนใจพวกเธอเลย แต่ซารีน่ากลับมองไปที่อาดิเน่อย่างสนใจ อาดิเน่เป็นนักเรียนที่ย้ายเข้ามาตอนม.ต้นปีสาม เธอไม่เคยอยู่ห้องเดียวกับอาดิเน่ก็จริง แต่ก็รู้ว่าเธอเป็นคนสวยมากจนผู้ชายหลายๆคนแอบชอบเธออยู่ ถึงอย่างนั้นกลับมีแต่คนบอกว่าอาดิเน่เป็นคนที่เข้าถึงยาก เย็นชา พูดน้อยและมักจะชอบทำอะไรตัวคนเดียวเสมอ เรียกได้ว่าเธอไม่มีเพื่อนสนิทแม้แต่คนเดียว ขนาดตัวซารีน่าเองที่มั่นใจว่ารู้จักเพื่อนทุกคนยังไม่เคยคุยด้วยเลยซักประโยค

                “จริงสิ สรุปว่าฮาลวิลลิสย้ายไปอยู่หมู่บ้านเดียวกับเธอจริงๆใช่ไหม” ลอลินหาเรื่องชวนคุย ซึ่งต่อมาจากเมื่อเช้าที่ซารีน่าเล่าค้างไว้

                หญิงสาวดวงตาสีน้ำตาลส้มละสายตาจากสาวสวยที่ร่วมโต๊ะมาตอบ “อ้อใช่”

                “แล้วสรุปว่าเขาย้ายไปบ้านที่เธอบอกว่าเปิดเช่าไว้อยู่รึเปล่า”

                “ไม่รู้แฮะ... ไม่ได้ตามเข้าไปดูด้วยสิ”

                แม้ซารีน่าจะเล่าเรื่องที่เจอฮาลวิลลิสตอนค่ำเมื่อวานให้ลอลินฟัง แต่เธอไม่ได้เล่ารายละเอียดไปถึงบทสนทนาที่ได้คุยกัน เธอจะบอกลอลินยังไงล่ะว่าเธอแกล้งทำใจกล้าถามฮาลวิลลิสเรื่องแวมไพร์ แต่พอโดนถามกลับก็ดันตอบไม่ออก

                จะว่าไปแล้ว... วันนี้ทั้งเช้าเธอยังไม่เห็นตัวชายหนุ่มผมสีดำคนนั้นเลย ไม่รู้ว่าตอนเลือกตั้งเขาจะไปนั่งตรงไหน คงจะได้เจอกันอีกทีก็คาบบ่าย

                เพล้ง!

                ก่อนที่ซารีน่ากับลอลินจะได้คุยอะไรมากกว่านั้นก็มีเสียงเหมือนจะแตกดังมาจากที่ห่างออกไปหลายเมตร เมื่อมองไปก็พบว่ามีนักเรียนหญิงสองคนล้มอยู่ ข้างๆมีเศษแก้วที่แตกกระจายซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นต้นตอสองเสียงที่ได้ยิน

                นักเรียนหญิงที่มีผมสีดำคล้ายใครบางคนลุกขึ้นมาได้ก่อน ซารีน่าจำได้ว่าเธอคือนักเรียนใหม่อีกคนที่ย้ายเข้ามาพร้อมฮาลวิลลิสชื่อว่ารีเบคก้า เธอรวบผมแค่ครึ่งหัว ปล่อยให้ผมสีดำที่ยาวสยายกลางแผ่นหลังและผูกผมด้วยริบบิ้นสีขาวตัดกับผมโดยสิ้นเชิง เธอลุกขึ้นมาก่อนจะลูบจัดผมที่ยุ่งไปเพราะล้มเมื่อครู่ หน้าตาน่ารักยิ่งกว่าตุ๊กตาแสดงสีหน้าไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

                ...ที่จริง เธอไม่แม้แต่จะหันไปมองครู่กรณีด้วยซ้ำ

                “ขะ...ขอโทษนะ เป็นอะไรรึเปล่า” คู่กรณีเป็นนักเรียนหญิงอีกคนละล่ำละลักขอโทษ หากเธอก็ไม่ด้รับการตอบกลับจากนักเรียนใหม่หน้าตาน่ารักคนนั้น

                รีเบคก้าเหลือบมองคนที่ยังล้มอยู่ด้วยหางตา แล้วสะบัดหน้าเดินออกไป ทิ้งให้คนขอโทษเก้อมองตาค้าง สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นจะร้องไห้ ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะขอโทษไปแล้วแต่ดันโดนเมิน ร้อนถึงเพื่อนของเธอที่ต้องรีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุงขึ้นมา

                ถึงตอนนั้นภารโรงก็มาพอดี เธอมาพร้อมไว้กวาด แล้วก็โบกมือไล่นักเรียนหญิงคนนั้นออกไป เป็นอันจบเรื่อง

                “นักเรียนคนนั้นรู้สึกจะไปเติมน้ำ แต่ดันเดินสะดุดไปชนคนข้างหน้าล้ม ก็ผิดล่ะนะ” ซารีน่าได้ยินเสียงของเฟลินพูดข้างหลัง เพื่อนของเธอกลับมาพร้อมถาดอาหารที่มีแก้วน้ำใบคล้ายๆที่แตกไปอยู่

“แต่เด็กใหม่ก็เหลือเกินนะ ไม่สนใจจะรับคำขอโทษด้วยซ้ำ” รีวาเดินตามมาทีหลังด้วยอาหารหน้าตาคนละอย่างแสดงความเห็นบ้าง “เหมือนเด็กใหม่ของม.ต้นจะมีปัญหามากกว่าเด็กใหม่ของเราอีกนะ”

“เอ่อ... ก็จริงมั้ง”

  

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

1ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

1ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture