ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปรากฏว่าเป็นรัก

    ลำดับตอนที่ #46 : มรดก

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 67


    อู่อี้เทียนรู้อยู่แล้วว่าจ้าวลี่หยางนั้นเป็นตาแก่สารพัดพิษ แต่เขาก็นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าตาเฒ่านั้นจะพิษสงเยอะขนาดว่าลงไปนอนอยู่ในหลุมแล้วยังสามารถสร้างเรื่องสร้างราวให้เขาได้ไม่หยุด ช่างเป็นคนที่น่ารำคาญอะไรขนาดนี้ ในพินัยกรรมของตาแก่นั่นเขาทิ้งทุกอย่างไว้ให้จ้าวเวยหลงไปตามคาด ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้อู่อี้เทียนรู้สึกอยากจะไปขุดจ้าวลี่หยางขึ้นมาจากหลุมเพื่อเขย่าตัวของฝ่ายนั้นแรงๆ แล้วตะโกนถามเขาว่าจริงๆ แล้วนั้นตั้งใจจะทำบ้าอะไร

    นอกเหนือจากตำแหน่งผู้นำตระกูลในพินัยกรรมท่านยังมอบเงินและบ้านให้กับซูเจิน หากว่าซูเจินต้องการเลิกทำงาน เธอก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปจนวันตาย ส่วนลูกชายอย่างจ้าวซ่งเหยี่ยนนั้นจ้าวลี่หยางเขียนไว้เพียงว่าจ้าวซ่งเหยี่ยนจะได้ใช้ชีวิตทุกอย่างตามเดิมตราบใดที่ไม่ตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับผู้นำคนใหม่ ซึ่งนั่นคงต้องเป็นรายละเอียดที่ตัวของจ้าวเวยหลงต้องไปจัดการเองอีกที

    และแม่ของเขา...จ้าวเฟยหรงนั้นจะต้องรับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของบ้านแลกกับเงินเดือนก้อนใหญ่ทุกเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่อ่านพินัยกรรม ไปจนกระทั่งจ้าวเวยหลงจะเข้าพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการและรับภรรยาเข้าบ้านเรียบร้อย ซึ่งหมายความว่าแม้การอ่านพินัยกรรมจะเสร็จสิ้นลงไปแล้ว แต่ครอบครัวของอู่อี้เทียนก็ยังติดแหง็กอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็จนกว่าจะหมดช่วงไว้ทุกข์ที่จ้าวเวยหลงและเหมือนฝันจะแต่งงานกันได้

    แม้ว่าในพินัยกรรมนั้นจ้าวลี่หยางจะบอกว่าหากจ้าวเฟยหรงปฏิเสธ ให้ยกเงินและหน้าที่ดูแลบ้านให้ต่อซูเจินได้ แต่อู่อี้เทียนรู้ดีว่าสถานการณ์เช่นนี้แม่ของเขาคงไม่วางใจทิ้งบ้านไว้กับคนอื่น ต่อให้คนคนนั้นจะเป็นซูเจินที่อยู่กับครอบครัวมานานก็ตาม จ้าวเฟยหรงย่อมตอบรับหน้าที่นี้

    ส่วนเรื่องที่น่าแปลกสำหรับอู่อี้เทียนที่นั่งหน้าเบื่อๆ เพราะคำพูดมากมาย ระหว่างที่เขาก้มมองหน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือว่าเมื่อไหร่การอ่านพินัยกรรมจะจบเสียที เขาอยากไปเจอคนรักของเขาเต็มทีแล้ว เขานั้นนึกสงสัยกับตัวเองไปได้ไม่เท่าไหร่ ทนายของครอบครัวก็ล้วงกล่องเครื่องประดับขนาดใหญ่ออกมาจากกระเป๋าเอกสารที่นำติดตัวมาด้วย เขาเปิดกล่องนั้นออกแล้วทุกคนนั้นห้องก็เห็นว่าด้านในนั้นเป็นชชุดเครื่องประดับเพทาย มีของทุกอย่างตั้งแต่สร้อยไปจนต่างหูและกำไลข้อมือขาดก็แต่แหวนเท่านั้น ก่อนจะเลื่อนเจ้ากล่องนั้นมาด้านหน้าแล้วก้มอ่านรายละเอียดวรรคสุดท้ายในพินัยกรรม

    ทันทีที่เครื่องประดับชุดนี้ถูกเปิดออกสายตาของทุกคนในห้องก็เบิกกว้าง คนที่ที่รู้ถึงความสำคัญของมันต่างผุดลุกจากเก้าอี้ จ้าวโจวเหวินที่รักษาสีหน้าเฉยเมยของตัวเองตลอดการอ่านพินัยกรรมเองก็ยังไม่วายแสดงอาการตกใจออกมา คิดว่าเขาต้องตาฝาดอย่างแน่นอน ไม่มีทางเลยที่จ้าวลี่หยางจะนำเครื่องประดับชุดนี้ออกมา หลังจากที่เก็บซ่อนมันจากเขามาทั้งชีวิต

    “เครื่องเพชรชุดนี้มอบให้ภรรยาในอนาคตของอู่อี้เทียน หลานชายคนโตของข้าพเจ้า”

    คำนั้นทุกคนตกใจภายในห้องตกใจราวกับว่ามีสายฟ้าฟาดลงมาที่หลางห้อง ไม่แว้นแม้แต่เข้าของชื่อที่ได้รับมรดกส่วนนี้ อู่อี้เทียนถลึงตัวจากเก้าอี้ด้วยความเร็วอันน่าเวียนหัว เขาจ้องทนายของจ้าวลี่หยางอย่างไม่อยากเชื่อหูและตาของตัวเอง

    จ้าวลี่หยางทิ้งเครื่องเพชรไว้ให้เขาเนี่ยนะ...บ้ากันไปใหญ่แล้ว

    ในบรรดาราละเอียดของพินัยกรรมนั้นเห็นจะมีแค่ข้อนี้ ที่บรรดาลูกหลานตระกูลจ้าวกังขากับมันที่สุดแต่ก็ไม่มีใครได้แย้งอะไรออกมา จ้าวเฟยหรงและจ้าวซ่งเยี่ยนเหล่มองชายชราอย่างพร้อมกัน ก่อนที่เป็นจ้าวเฟยหรงที่รั้งตัวลูกชายของตัวเองไว้ไม่ให้อู่อี้เทียนเข้าใกล้จ้าวโจวเหวินไปมากกว่านี้ ด้วยเธอนั้นสามารถคาดเดาความรู้สึกตอนนี้ของจ้าวโจวเหวินจากสีหน้าและแววตาวาววับเพราะแรงโทสะได้ไม่ยาก ซึ่งโชคดีที่ฝ่ายเขายังจ้าวเวยหลงคอยคุมเชิงผู้อาวุโสของครอบครัวอีกแรง ผิดกับเหมือนฝันที่นั่งอยู่เงียบๆ ด้วยเธอนั้นไม่อาจมีปากมีเสียงเรื่องนี้ได้ เจ้าหล่อนได้แต่มองความเป็นไปภายในห้องในใจก็นึกถึงพี่สาวคิดว่าหากมาสฟ้าอยู่ตรงนี้ด้วยเธอคงไม่รู้สึกหัวเดียวกระเทียมลีบเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

    “เชิญคุณอี้เทียนมารับไปได้เลยครับ”

    “เพชรนั่นต้องเป็นของคนบ้านจ้าว” เสียงเหี้ยมเกรี้ยมของจ้าวโจวเหวินดังขึ้นก่อนที่อู่อี้เทียนจะได้ก้าวออกมารับมรดกส่วนของเขา “แน่ใจเหรอว่าไม่มีอะไรผิดพลาด”

    “ทุกอย่างถูกต้องตามที่คุณลี่หยางเขียนเอาไว้ครับ” ทนายของครอบครัวบอกด้วยสีหน้าสงบนิ่ง มั่นใจกับเอกสารในมือของตนอย่างมาก “เครื่องเพรชชุดนี้เป็นของส่วนตัวของคุณซูฮวา ไม่เคยถูกนับรวมกับทรัพท์สินของตระกูล ฐานะทายาทคนเดียวของคุณซูฮวาคุณลี่หยางย่อมมีสิทธิ์ที่จะมอบมันให้กับใครก็ได้”

    “อย่าพูดเล่นหน่อยเลยน่า ใครบ้างไม่รู้ว่าเครื่องเพชรนั่นเป็นของคุณพ่อ” จ้าวโจวเหวินเวยลอดไรฟัน เขาจวนจะอาละวาดออกมาอยู่ร่อมร่อ เมื่อคิดถึงภรรยาคนแรกของผู้เป็นบิดา...แม่ของจ้าวลี่หยาง “กล้าดียังไงมายกให้คนอื่นง่ายๆ”

    “เรื่องนี้ถูกเขียนไว้ชัดเจนแล้วครับ เพทายชุดนี้เป็นสินเดิมของคุณซูฮวา ไม่เคยเป็นของตระกูลจ้าวเลย” ทนายผู้รับสืบทอดเอกสารเรื่องทรัพย์สินของตระกลจ้าวมาจากรุ่นพ่ออีกทีนั้นยืนยัน เอกสารทุกชิ้นไม่เคยขาดหายแต่ยังอยู่ครบทุกชิ้นจึงไม่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเข้าใจคลาดเคลื่อน “คุณเหวินอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วล่ะครับ ทั้งช่วงเวลาที่คุณลี่หยางปกครองตระกูลจ้าวก็นานหลายปี การจะแยกว่าชิ้นไหนเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ชิ้นไหนเป็นของตระกูลจ้าวมันเลยค่อนข้างยาก เพราะอย่างนั้นทุกคนจึงควรมีพินัยกรรม” ว่าแล้วทนายของครอบครัวก็ปิดแฟ้มเอกสาร เป็นการประกาศว่าหากใครต้องการเปลี่ยนข้อเท็จจริงของเอกสารในมือเขาตอนนี้ไม่มีทางทำได้แล้ว “หน้าที่ของผมเสร็จเรียบร้อย มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ คุณเวยหลง”

    “ตอนนี้ยังไม่มีครับ”


     


     

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×