คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : มิติ
รัญละดาตกใจมากเพราะเพียงแค่หลับตาและคิดถึงสถานที่แห่งนั้นที่เรียกว่าแดนนิมิต ตัวเธอก็เข้ามาอยู่ในนี้แล้วหรือนี่
“เป็นไปได้ยังไง หรือว่าเราฝันไปนะ”
“นี่คุณ คุณครับ” เสียงเรียกจากภายนอกดังเข้ามาได้ทำให้เธอรีบลืมตาขึ้น
“ขอโทษค่ะ รัญจอดผิดที่ใช่ไหมคะ จะรีบขยับรถเดี๋ยวนี้ค่ะ” ปรากฏว่าเป็นยามที่คอยคุมการจอดรถด้านหน้าสถาบันกวดวิชาชื่อดังแห่งนี้นั่นเอง พอขยับรถไปที่ใหม่และใส่เบรกมือจนแน่ใจดีแล้ว รัญละดาก็เอนหลังไปกับเบาะก่อนจะหลับตาลงเพื่อกลับเข้ามิติต่อไป
“ว้าวนี่มันมิติจริงๆ เหรอเนี่ย เห็นเพื่อนที่ชอบอ่านนิยายเล่าให้ฟัง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีของวิเศษรึเปล่า” รัญละดาใช้เวลาสำรวจมิติอยู่นาน ลูกสองคนเรียนวิชาแรกเสร็จก็ลงมาพักและเดินหาแม่ตรงลานจอด
เด็กสองคนเดินเมาท์เรื่องอาจารย์ตุ๊ดที่สอนพวกเธอเสียงดังมากจนรัญละดาได้ยิน
“พักแล้วเหรอลูก แม่ไปซื้อชานมไข่่มุกให้นะ ภูมิเอากาแฟเย็นหรือเปล่า”
“เอาฮะแม่ ว่าแต่แม่หลับอยู่เหรอครับ ถ้าเหนื่อยแม่ก็เอนเบาะนอนไปเลยนะแม่”
“ไม่หรอกแม่แค่พักสายตาน่ะ ไปไปหาร้านนั่งกันเถอะ” เป็นเพราะว่่าย่านสยามมีร้านกาแฟตราสีเขียวร้านใหญ่โตอยู่
แต่ว่าคิวยาวมาก ยาวจนท้ายแถวเกือบติดประตูทางเข้า
“หนูไปจองโต๊ะก่อน พี่ภูไปมะ”
“ภูสั่งให้ครับแม่ไปนั่งไป” สองสาวไปนั่งจองโต๊ะ ปล่อยให้ภูธนะต่อแถว แต่ว่าภูธนะมองไปข้างหน้าเห็นผู้ใหญ่ใส่ชุดสูทเรียบเดินตรงจากประตูเข้าไปที่เคาท์เตอร์เลย
“ไม่ต่อแถว ได้ไงอ่ะ” ภูธนะกอดอกและเอียงคออย่างไม่สบอารมณ์ พนักงานก็ดูทำท่าแทบจะเลียมือผู้ยิ่งใหญ่คนนี้แล้ว พอรับกาแฟก็เดินไปที่โต๊ะอันว่างเปล่าเหมือนกับได้จองล่วงหน้าไว้อย่างนั้นแหล่ะ
“มันจะเกินไปแล้วเว้ย ใหญ่มาจากไหนอ่ะ ร้านนี้มีเส้นด้วย”
“รับอะไรดีคะ” พอมาถึงคิวของภูธนะเขาก็รีบเปลี่ยนอารมณ์ยิ้มให้คนขายจนสาวน้อยหน้าแดงด้วยความหล่อระดับนายแบบของภูธนะ พอได้ของที่สั่งก็กลับไปหาแม่กับน้อง
“นิสัยไม่ดี”
“อะไรเหรอพี่ภู โกรธใครอ่ะ คนขายเหรอ”
“ภูเป็นอะไรลูก คนเราต้องมีมารยาทถ้อยทีถ้อยอาศัยนะลูก อย่าถือตัวเองเป็นใหญ่ลูก” รัญละดารู้นิสัยใจร้อนของลูกชายที่ได้รับสืบทอดมาจากภูวิสุตผู้พ่อ
“ก็โต๊ะนั่นไงแม่ เล่นแซงคนอื่นไม่ยอมต่อแถว ดูสิยังนั่นเต๊ะจุ้ยอวดดีอีก”
พอรัญละดาหันหน้าไปมองตามที่ลูกชายชี้ไปก็แทบเป็นลม เพราะโต๊ะตรงนั้นมีภูวิสุตในชุดหล่อบาดใจสวมสูทเนี๊ยบพอดีตัวรัดแน่นแถบหน้าอกกับต้นแขนขยี้ใจเพศหญิงทุกคนในร้านกาแฟแห่งนี้
ที่สำคัญเขายังสวมแว่นดำไร้ขอบดูโฉบเฉี่ยวอีก
“โหแม่ดาราหรือเปล่าอ่ะ หล่อเท่ห์สุดๆ อย่างนี้ต้องแอบถ่าย”
“อย่าถ่ายนะภู นิสัยไม่ดี อยู่ในร้านยังจะใส่แว่นกันแดดอีก” ภูธนะเกลียดคนไม่ยุติธรรม ถึงเขาจะเอาแต่ใจตัวเองเป็นบางครั้งแต่ก็ไม่เคยดูถูกหรือเอาเปรียบใครอย่างนี้แน่ๆ
รัญละดาทำตัวไม่ถูก ลูกๆ ได้เจอพ่อแต่กลับด่าอีกฝ่ายเสียๆ หายๆ
ที่จริงภูวิสุก็ไม่ควรทำตัวเด่นขนาดนี้เลยนี่นา เธอเหนื่อยหน่ายนิสัยลูกคนรวยของเขาจริงๆ
“เราไปกินกันต่อในรถไหมลูก ในนี้คนเยอะ”
“ไม่ครับ ทำไมเราต้องหนีด้วย แม่จะหนีเขาเหรอ”
ภูธนะไม่ชอบยอมแพ้ รัญละดาอยากหนีเข้ามิติจริงๆ
“มิติเหรอ จริงด้วย” คิดได้แล้วเธอก็บอกให้ลูกๆ เข้ามานั่งใกล้ๆ จากนั้นก็มองหาถ้วยแข็งๆ ใบหนึ่งแล้วปาไปที่ประตู
“แก๊งงงง” ได้ผล ทุกคนในร้านหันไปมองกันหมดรวมถึงภูวิสุตด้วย
“แว้บบ” รัญละดากอดลูกสองคนไว้และบอกให้หยิบแก้วเครื่องดื่มมาด้วย จากนั้นเธอก็คิดถึงมิติและหลับตา
“ปิ๊งงง”
“ได้ผล พวกเราเข้ามาแล้ว”
“......” ภูธนะกับภูระดา
ลูกๆ กำลังงงและอึกอักทำเหมือนทอปปิ้งชานมติดคอ
“แม่แม่ นี่มันที่ไหนคะ ภูกลัววว”
“แม่นี่แม่เล่นมิติด้วยเหรอครับ”
“ภูลูกรู้จักมิติด้วยเหรอ แม่เพิ่งได้มาน่ะ เลยอยากลองใช้หลบภัยดู”
ความคิดเห็น