ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Reborn] Let Me Love You 5986

    ลำดับตอนที่ #4 : ใจอ่อน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 64


    ตอนที่ 4

    - ใจอ่อน -

     

     

    หลังจากที่โกคุเดระกลับไปแล้ว ฮารุค่อยๆบรรจงล้างจานจนเสร็จ ก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนที่สวมไว้ออกแล้วนำไปพาดไว้บนราวแขวน ร่างเล็กเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอน แววตาจับจ้องไปที่เพดานสีขาว สมองของเธอตอนนี้โล่งสนิท ไม่มีความคิดอะไรอยู่ภายใน

     

    ดวงตาสีน้ำตาลของเธอจ้องมองเพดานอยู่นาน ก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลลงมา

     

    ตั้งใจว่าจะไม่ร้องไห้แล้วแท้ๆ...

     

    ตอนนี้แม้แต่เรี่ยวแรงจะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตายังไม่มีเลย สาวน้อยจึงปล่อยให้น้ำตาไหลช้าๆอยู่บนแก้ม

     

    พระอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องแสงลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ค่อยๆเคลื่อนที่ขึ้นสูง แสงแดดแรงขึ้นบ่งบอกถึงช่วงเวลาเที่ยงวัน ก่อนจะค่อยๆคล้อยต่ำลง ส่องแสงจางลอดเข้ามาภายในห้อง

     

    ร่างเล็กของสาวน้อยยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน น้ำตาเหือดแห้งไปแล้ว แต่เธอยังคงจ้องมองเพดานต่อไป

     

    ไม่หิวเลย...

     

    ไม่ปวดใจด้วย...

     

    ไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด...

     

    แววตาไร้อารมณ์ของเธอจ้องมองเพดานสีขาว ในหัวเองก็ขาวโพลน อากาศเริ่มเย็นลงจนร่างเล็กเริ่มรู้สึกถึงอากาศหนาวในช่วงต้นเดือนมีนาคม นั่นทำให้เธอยอมลุกขึ้นมาในที่สุดเพื่อหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มร่างเล็กของตัวเอง

     

    แววตาจับจ้องไปที่ทิวทัศน์ข้างนอกหน้าต่าง พระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน ตึกรามบ้านช่องสะท้อนกับแววตาของเธอ เธอมองภาพนั้นอยู่นาน ก่อนจะหลับตาลงพร้อมๆกับพระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าไป

     

     

    ------------------------------------------

     

     

    ก๊อก ก๊อก

     

    เสียงเคาะประตูหน้าห้องพักของหญิงสาวดังขึ้น

     

    ชายหนุ่มผมสีเงินยืนอยู่ข้างหน้าบานประตูที่ไม่ใหญ่มา รอให้เจ้าของห้องเดินออกมาเปิดให้ ไม่นานประตูก็ค่อยๆถูกเปิดออก พร้อมกับรอยยิ้มสดใสเบื้องหน้า

     

    “อรุณสวัสดิ์ค่าคุณโกคุเดระ”

     

    เธอมอบรอยยิ้มสดใสให้เขา ก่อนจะผายมือเชิญเข้ามาข้างใน

     

    “วันจันทร์แล้วเธอไม่ไปทำงานรึไง”

     

    เขาถามแบบไม่ได้ต้องการคำตอบเท่าไร ถึงแม้ในใจจะนึกสงสัยอยู่เล็กๆ

     

    “ฮารุลาออกแล้วน่ะค่ะ”

     

    หญิงสาวตอบเขาด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ราวกับว่าเป็นการตอบเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป เห็นการตอบคำถามแบบนี้แล้ว เขาก็เลยไม่อยากจะถามต่อมากเท่าไร

     

    ช่างเถอะ...

     

    ทั้งคู่เดินเข้าไปในห้องพักของเธอ พลันได้กลิ่นหอมกรุ่นของอาหารยามเช้าลอยมา บนโต๊ะมีอาหารเช้าสองชุดถูกจัดเตรียมไว้ ถ้วยข้าวสวยที่มีงาดำโรยอยู่ข้างบนเล็กน้อย น้ำซุปที่ยังมีควันลอยขึ้นมาอยู่

     

    “ฮารุกำลังจะทอดทงคัตสึเลยค่ะ รอแปปนึงนะคะ”

     

    เขาไม่ได้ตอบอะไรเธอ ก่อนจะพาร่างของตัวเองนั่งลงบนเก้าอี้

     

    “ฮารุรู้ว่าคุณโกคุเดระหิว แต่รอหน่อยนะคะ”

     

    เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้สบตาคู่สนทนา เนื้อความในประโยคที่ราวกับว่าพูดออกมางั้นๆ เพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง

     

    มือเล็กค่อยๆบรรจงหยิบเนื้อลงไปทอด ตะเกียบในมือพลิกเนื้อในกระทะไปมา กลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่งทั้งห้อง โกคุเดระมองการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าเขา

     

    ‘ยัยนี่โอเคขึ้นรึยังนะ’

     

    ไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรต่อ เสียงเล็กก็อุทานขึ้น

     

    “โอ้ย!”

     

    “เป็นอะไร!”

     

    เขาลุกขึ้นยืนทันที เห็นร่างเล็กที่หันหลังให้เขาชักมือออกจากกระทะนั้น เธอหันมาหาเข้า ก่อนจะยิ้มประหม่านิดๆ

     

    “น้ำมันกระเด็นน่ะค่ะ”

     

    ดวงตาที่โค้งตามรอยยิ้มเล็ก แต่สีหน้าดูไม่ได้สดใสตามการกระทำเท่าไรนัก

     

    “ร้องซะฉันตกใจเลย”

     

    เขาบ่นอุบอิบ ก่อนจะค่อยๆนั่งลง ใบหน้าฉายแววประหม่า ดวงตาสีเขียวเบี่ยงมองไปทางอื่น มือใหญ่ยกขึ้นมาเท้าคางแก้เขินการกระทำก่อนหน้าของตัวเอง

     

    ‘ตกใจหมด นึกว่าเป็นอะไร’

     

    ไม่นานเกินรอ ฮารุก็เดินมาที่โต๊ะพร้อมจานที่มีทงคัตสึในนั้น ก่อนจะวางจานลงกลางโต๊ะ

     

    “เรียบร้อยแล้วค่า”

     

    เธอค่อยๆนั่งลงก่อนจะหยิบตะเกียบไม้ขึ้นมา พนมมือเล็กเข้าด้วยกัน

     

    “กินแล้วนะคะ”

     

    เสียงใสเอ่ยจบ ก่อนจะลงมือคีบอาหารตรงหน้ากิน โดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มอีกเลย เขาเองก็หยิบตะเกียบขึ้นมาก่อนจะลงมือกินเหมือนกัน

     

    ความกรอบของทงคัตสึ เนื้อข้างในนุ่มจนแทบละลายในปาก รสชาติที่เรียกได้ว่าอร่อยมาก ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเขาก็คงจะเพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้าได้ แต่บรรยากาศในตอนนี้และท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าเขา ทำให้เขากังวลเกินกว่าจะดื่มด่ำกับมันได้เต็มที่

     

    เนิ่นนานที่ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่ อาหารในจานค่อยๆหมดลง จนในที่สุดก็ว่างเปล่า ฮารุยืนขึ้นช้าๆ มือเล็กยื่นมาเก็บจาน ก่อนจะเอ่ยพูดกับชายตรงหน้า

     

    “พรุ่งนี้เช้าฮารุจะทำแกงกะหรี่ คุณโกคุเดระก็มาทานด้วยกันสิคะ”

     

    เธอพูดโดยไม่สบตาเขาอีกแล้ว

     

    “เธอต้องการอะไรกันแน่”

     

    เขาเริ่มทนไม่ไหวกับความกระอักกระอ่วนนี้แล้ว อย่างน้อยก็ควรจะคุยกันให้ชัดเจนหน่อย

     

    ฮารุเงยหน้าขึ้นมามองเขา เธอยิ้มเล็กๆ

     

    “เรามาคบกับไหมคะ”

     

    “...”

     

    โกคุเดระชะงัก การกระทำทุกอย่างหยุดนิ่งหลังจากได้ยินประโยคนั้น เธอเองก็ยังคงมองมาทางเขาด้วยสายตานิ่งๆ

     

    “อย่ามาพูดบ้าๆนะ ถึงเธอจะอกหักแต่ก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้รู้ไหม”

     

    เขาบ่นออกมา ใบหน้าฉายแววประหม่าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

     

    .

    .

    .

     

    ‘พูดเรื่องแบบนี้ด้วยสีหน้าแบบนั้น ใครมันจะไปยอมรับได้กันล่ะ’

     

    .

    .

    .

     

    ฮารุยังคงมองเขาด้วยสีหน้าเดิมไม่เปลี่ยน พลันส่งยิ้มออกมาเล็กๆ

     

    “ตอนนี้ฮารุไม่มีใคร คุณโกคุเดระก็ไม่มีใคร เราก็น่าจะคบกันได้ไม่ใช่หรอคะ?"

     

    ตรรกะของหญิงสาวตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มปวดหัว

     

    ‘เรื่องของรุ่นที่สิบ ทำยัยนี่เจ็บปวดขนาดไหนกันนะ’

     

    เขามองเธอด้วยสายตาเจ็บปวด หลังจากเริ่มเข้าใจความเจ็บปวดของเธอ

     

    “คนจะคบกันอย่างน้อยก็ควรรักกันนะ ไม่ใช่ใครก็ได้”

     

    เขาพูดออกมาหวังว่าจะเตือนสติหญิงสาวได้บ้าง ฮารุวางจานในมือลงบนโต๊ะ เธอมองหน้าชายหนุ่ม แววตาทั้งคู่สบกัน สีหน้าของเธอเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

     

    “ถ้างั้นฮารุเปลี่ยนมารักคุณโกคุเดระก็ได้ค่ะ”

     

    เธอพูดออกมาเรียบๆ ราวกับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยแม้แต่น้อย ประโยคนั้นทำให้ความเจ็บปวดในใจของโกคุเดระเด่นชัดขึ้น

     

    เขาเห็นเธอเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว

     

    สายตาทั้งคู่มองสบกันเนิ่นนาน แววตาสีน้ำตาลที่จ้องมองมาทางเขา ในนั้นไม่ได้ฉายแววความเจ็บปวด แต่ก็ไม่แสดงออกซึ่งอารมณ์ใดๆ แววตาที่ด้านชาจนเขาเจ็บปวดแทน สุดท้ายเป็นเขาเองที่เริ่มใจอ่อนกับเธอ

     

    “ถ้าจะเอางั้น อย่างน้อยเธอก็ควรเริ่มจากการเรียกฉันด้วยชื่อนะ”

     

    ฮารุฟังคำคนตรงหน้านิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ

     

    “ฮายาโตะ...”

     

    เจ้าของชื่อพลันรู้สึกเจ็บปวดในหน้าอก ราวกับมีอะไรมาบีบรัด การโดนเรียกชื่อนี่มันทำให้เจ็บปวดได้ขนาดนี้เลยหรอ

     

    ก่อนที่เขาจะเจ็บปวดใจไปมากกว่านี้ เขายืนขึ้นยื่นมือไปขยี้หัวหญิงสาวตรงหน้า ในแววตาสีเขียวฉายความใจอ่อนที่หญิงสาวไม่ทันสังเกตเห็น

     

    “เรียกชื่อฉันด้วยเสียงแบบนั้น ไม่ทำให้ฉันตกหลุมรักเธอง่ายๆหรอกนะ”

     

    เขาพูดบ่นแก้เขินตามแบบฉบับของเขา ฮารุที่โดนขยี้หัวพลันหน้าแดงนิดๆ

     

    ‘รู้สึกดีจัง การโดนลูบหัวแบบนี้’

     

    โกคุเดระสัมผัสได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเริ่มมีสติมากขึ้นกว่าเมื่อครู่ เขาจึงชักมือออก

     

    “ไปล้างจานไป ฉันเป็นแขกฉันไม่ช่วยล้างหรอกนะ”

     

    เขาพูดออกมาโดยไม่สบตาเธอ ก่อนจะเดินไปทางประตู มือบิดกลอนเปิดประตูออก ก่อนจะหันมาพูดทิ้งท้าย

     

    “พรุ่งนี้เช้า เดี๋ยวฉันมากินข้าวด้วย”

     

    ประตูถูกปิดลง พร้อมกับร่างของชายหนุ่มผมสีเงินที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าประตู นัยน์ตาสีเขียวมรกตฉายแววความเจ็บปวดกว่าเมื่อครู่ ใบหน้าหลุบต่ำลง

     

    เขาหยิบซองบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมามวนหนึ่ง ใช้ไฟแช็กจุดมันขึ้นช้าๆ ก่อนจะสูดควันเข้าไปเต็มปอด สักพักจึงพ่นควันสีเทาออกมาพร้อมกับสมองที่โล่งขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะก้าวขาเดินออกไป

     

     

    ------------------------------------------

    ------------------------------------------

     

     

    16 ก.ย. 2564

    ทงคัตสึยามดึกค่ะ เขียนไปหิวไป 5555 พรุ่งนี้ตั้งใจว่าจะอัพให้อีก 1-2 ตอน แล้วอาจจะเริ่มอัพช้าลงนะคะ พอดีตารางสัปดาห์หน้าของไรท์ยุ่งกว่าที่คิดเยอะเลย รักรี้ดทุกคนนะคะ เริ้บบบบบ ฟิคนี้สนองนี้ดล้วนๆค่ะ

     

     

    แก้ไขคำผิด จัดหน้านิยาย 27 ก.ย. 2564

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×