ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
[ทำมือ+E-book] Drink On Me | NEED

ลำดับตอนที่ #4 : ไออุ่นของคิว : Chapter 3

  • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 64







3

 

“เฮ้อ ต้องทำยังไงดีเนี้ย”  

ฉันซบหน้าลงกับโต๊ะพร้อมกับร้องครวญครางออกมาแบบนี้สักสิบนาทีได้แล้วมั้ง 

“แต่น้องเขาเป็นบาเทนเดอร์นะมึง มันคนละอย่างปะวะ” 

“โอ๊ยไอ้อุ่น!” หลังจากจบประโยคของฉันเรย์ก็กรีดร้องออกมาในทันที “ก่อนหน้านี้มึงเพิ่งบอกพวกกูว่าจะให้น้องเขาเป็นอาหารตาผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงแม่งหาข้ออ้างอีกแล้วนะมึง” 

“เป็นไบโพลาร์รึไง? กราฟสมทบ 

“พวกมึงอา...” ตอบได้เท่านี้เพราะไม่มีอะไรจะไปเถียงคำพูดของมัน ฉันไม่ได้ไปหาน้องคิวเป็นอาทิตย์ได้แล้วมั้งเนื่องจากว่าต้องทำงานของวิชาบังคับของ 
มหา’ลัยที่จะต้องพรีเซ็นต์ภายในอีกสองวันข้างหน้า เนี้ยตอนนี้สามทุ่มแล้วฉันยังต้องนั่งประชุมกับไอ้พวกนี้อยู่เลย 

“เป็นไงล่ะ อยากเจอร้านใหม่แต่ไม่ยอมบอกเพื่อนดีนัก สมน้ำหน้า” เคนตะที่กำลังใช้ผ้าเช็ดแว่นของตัวเองอยู่ปรายตาขึ้นมามองฉันพลางแสยะยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ย 

“ถ้ามันลำบากนักก็ใส่คอนแทคเลนส์เหมือนที่มึงชอบใส่ประจำเวลาไปตี้สิวะ ทำตัวกลางวันเป็นเด็กเนิร์ดกลางคืนเป็นเสือร้ายเหมือนในนิยายไปได้ไอ้บ้านี่” เพราะก่อนหน้านี้มันว่าฉันฉันจึงตอกกลับไปซะเลย เคนตะไม่ได้พูดอะไรกลับมานอกจากกระตุกมุมปากพร้อมกับสวมแว่นไปแบบเดิม 

“จัดการกับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ก็มาพาลใส่เพื่อน” ฉันหันควับไปทางซีพร้อมกับถลึงตาใส่จนอีกฝ่ายหลุดหัวเราะออกมา โอ๊ย...ทำไมทุกคนไม่เข้าข้างฉันบ้างเลยวะเนี้ย! 

“โอ๋ๆ ไม่งอนนะคนเก่ง” คำพูดแบบนี้กับการเอามือมาส่ายตรงหน้าคล้ายกับฉันเป็นเด็กนี่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจากไอ้พี่ม่อน 

“เงียบไปเลยพี่ม่อน” ฉันปัดมือเขาออกอย่างนึกรำคาญ 

“เลิกเล่นกันได้แล้ว จะกลับมั้ยเนี้ยวันนี้” ประโยคของกราฟส่งผลให้ทุกคนกลับมาโฟกัสที่งานต่อเพราะไม่อย่างงั้นมีหวังวันนี้โต้รุ่งอีกแน่ๆ แต่ถึงหูจะฟังสิ่งที่เพื่อนๆพูดกันแต่ในหัวกลับไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย 

อยากเจอน้องคิวจังอะ ฮือ... 

 

สองวันผ่านไป  

“ในที่สุดไอ้งานนรกนี่ก็เสร็จสักที!” เรย์ตะโกนออกมาลั่นทางเดินของอาคารเรียนเมื่อการพรีเซ็นต์มาราธอนจบลงไม่กี่นาทีก่อนหน้า ถึงแม้จะขัดๆไปบ้างแต่ก็ถือว่าราบรื่นดี 

“ขออย่าได้พบได้เจอกันอีกเลยนะการพรีเซ็นต์” พี่ม่อนทำท่าขยะแขยงส่งผลให้ซีเดินเข้ามาตบบ่าเบาๆพร้อมกับพูดว่า 

“คงต้องลาออกอะ” ทุกคนในกลุ่มส่งเสียงหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินนานหลายนาทีเหมือนคนบ้าก่อนที่เคนตะจะเป็นคนหยุดการหัวเราะนี่ด้วยการพูดแทรกขึ้นมา 

“ทำงานเสร็จแล้วอยากดื่มอะ” 

“จริง” พี่ม่อนพยักหน้าสมทบ 

“งั้นไปไหน ที่เดิมปะ? ฉันส่งเสียงถาม 

“ร้านประจำมันปิดวันนี้ไม่ใช่เหรอ? กราฟพูดขึ้นมาพร้อมกับโชว์หน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงหน้าเพจเฟสบุ๊คของร้านที่ว่าซึ่งเนื้อความในนั้นบ่งบอกว่าสิ่งที่กราฟพูดเป็นความจริง 

“งั้นไปDNAมั้ย? ฉันเสนอ มันเป็นชื่อร้านเหล้าน่ะ 

“เหอะ งั้นกูขอบายอะ พวกมึงไปกันเถอะ” เรย์รีบสวนขึ้นมาทันควันก่อนจะทำท่าทำทางเหมือนขนลุกอะไรสักอย่าง 

“แต่ความจริงก็อยากนอนว่ะ” 

“ยังไม่ห้าโมงเลยไหมวะพี่ม่อน จะรีบนอนอะไรขนาดนั้น” กราฟดูนาฬิกาพลางเลิกคิ้วไปยังเจ้าของคำพูดก่อนหน้า นั่นดินี่เพิ่งจะสี่โมงกว่าเองจะไปนอนเนี้ยนะ

“อ้าว” พี่ม่อนกอดอก “ก็กูเหนื่อยกูจะพักไม่ได้ไง? 

“นอนตอนนี้แล้วจะไปตื่นตอนไหนวะ? เคนตะถามออกมา 

คนถูกถามทำท่านึกอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะตอบกลับมาว่า “เที่ยงมั้ง” 

“เที่ยงคืน? 

“เที่ยงวัน” 

หลับหรือซ้อมตายวะเพื่อนกู... 

“งั้นแยกย้ายจบ” ซีถอนหายใจ เขาทำหน้าที่เป็นคนสรุปประเด็นนี้ “ต่างคนต่างไป ใครอยากดื่มก็ดื่ม ใครอยากนอนก็นอน” 

“กูก็ว่างั้นแหละ” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของซี หลังจากนั้นเราทั้งหกก็หาอะไรกินรองท้องก่อนจะแยกย้ายกันไป 

 

...ฉันอยากดื่ม... 

สองตามองไปยังจอโทรทัศน์ขนาดยี่สิบสี่นิ้วอย่างเหม่อลอย ตั้งแต่แยกกับพวกนั้นแล้วตรงมาบ้านก็ปาไปจะสี่ชั่วโมงแล้วที่ฉันนั่งๆนอนๆอยู่อย่างคนไม่มีอะไรทำแบบนี้ 

เบื่อ...การที่มีเวลาว่างมากมายแต่ไม่รู้จะทำอะไรนี่มันน่าเบื่อที่สุดเลย จะโทรไปหาพ่อแม่ก็กลัวจะถามเรื่องการเรียน เพื่อนก็ดันไม่ตี้เพราะไอ้พี่ม่อนอินดี้อยากพักผ่อนบ้าบอทั้งๆที่ปกติแม่งแดกเอาๆ 

โอ๊ย! เบื่อๆๆๆ 

เพราะฉะนั้นฉันจึงตัดสินใจลุกขึ้นยืนไปกดปิดโทรทัศน์พร้อมกับคว้ากระเป๋าเงินและโทรศัพท์ตรงไปหน้าบ้านในทันที บริเวณตรงข้ามหน้าปากซอยมีร้านสะดวกซื้อขนาดกลางอยู่ ฉันตั้งใจจะไปที่นั่น 

ไม่รู้แหละฉันอยากดื่มและจะต้องได้ดื่มด้วย 

ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีฉันก็มายืนอยู่หน้าตู้ขายน้ำภายในร้านพร้อมกับจ้องมองหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อที่ตนชอบกินอยู่บ่อยๆ 

เอ๊ะ...ยี่ห้อนี่ออกรสใหม่นี่นา โห้...อีกยี่ห้อก็ลดราคาแฮะ 

รู้อีกทีทั้งเหล้าทั้งเบียร์ก็เต็มตะกร้าไปหมด 

“พี่ไออุ่น? ในระหว่างที่กำลังเดินเลือกซื้อกับแกล้มก็มีเสียงทุ่มต่ำดังออกมาจากทางด้านหลัง ฉันหันควับกลับไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะพบว่าเป็น... 

น้องคิว! 

“โอ้โห้” ผู้ชายหน้าหวานตรงหน้าหลุบตาลงมองของในตะกร้าฉันพลางอุทานออกมา “ดื่มเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ? 

“อะ เอ่อ...คือว่า” ฉิบละ ตอนอยู่ในร้านแม่งแสดงออกไปว่าดื่มไม่เก่งแต่ดูจากของพวกนี้แล้วสิ่งที่ทำไปทั้งหมดนั้น...พัง 

“ขืนพี่ดื่มเยอะดื่มบ่อยขนาดนี้มีหวังหมดตัวแน่” มันก็จริงอย่างที่น้องเขาพูดอะนะ หากคำนวณเงินที่ฉันเสียไปให้กับของพวกนี้คร่าวๆก็เป็นหมื่นแล้วมั้ง หรือแสนวะ? แต่ช่างเถอะมันความสุขฉันนี่ 

ใครว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ คนที่พูดอย่างนั้นแสดงว่ามีเงินไม่มากพอต่างหาก... 

...ซึ่งฉันก็ไม่ใช่หนึ่งในคนที่มีเงินด้วยอะนะ แฮะ 

น้องคิวเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าตะกร้าไปถือไว้แทน ฉันที่กำลังจะร้องประท้วงก็ถูกเขาพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน 

“เอาอย่างนี้ไหมครับ” 

“หืม? เอา? เอาอะไร?  

“ที่ห้องผมมีน้ำแข็ง” เขาว่างั้นอะ “พี่ลองมาดื่มในห้องผมดู ผมชงฟรี...ไม่คิดเงินครับ” 

เชี่ย...น้องแม่งเอาว่ะ 

“ทะลึ่งแล้วเรา” ฉันเก็บอาการขวยเขินด้วยการพยายามหุบยิ้มแล้วแย่งตะกร้ามาแต่อีกฝ่ายกลับเร็วกว่า เขาดึงมันไปซ่อนไว้ข้างหลัง 

“ผมล้อเล่นนา” น้องคิวยิ้มกว้าง “พูดไปงั้นแหละ เผื่อฟลุ๊ค” 

เกือบฟลุ๊คแล้วค่ะน้อง พี่เกือบตอบตกลงไปแล้วค่ะ! 

ร่างสูงตรงหน้ายกตะกร้าขึ้นก่อนจะระบายยิ้มกว้างอีกรอบ “เอางี้ ผมมีทำเลดีๆสำหรับเจ้าพวกนี้ด้วยแหละ” 

“หา? 

...ทำเลดีๆที่เจ้าตัวว่าคือศาลาริมน้ำประจำหมู่บ้านที่ฉันเดินผ่านอยู่บ่อยๆแต่ไม่ค่อยได้มานั่งเท่าไหร่ 

“ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นพี่ที่ร้านเลย” พอนั่งลงบนม้านั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วน้องคิวก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยในขณะที่มือบรรจงเปิดขวดแอลกอฮอล์พร้อมชงให้ฉันเสร็จสรรพ 

“ทำไมอะ นี่สังเกตพี่ด้วยเหรอ? แทนที่จะตอบคำถามน้องเขาฉันกลับไปถามย้อนซะงั้น ก็แหม่...มันติดเป็นนิสัยไปแล้วนี่นา 

ผู้ชายข้างๆยื่นแก้วที่เพิ่งซื้อมาและตนเพิ่งชงเสร็จให้ฉัน พอฉันรับมันมาอีกฝ่ายก็เอียงคอเล็กน้อยพร้อมกับระบายยิ้ม “ของมันแน่อยู่แล้วหนิครับ พี่ไออุ่นสำคัญกับผมจะตาย” 

ใจพี่แหลกเป็นโจ๊กแล้วน้องเอ๊ย... 

“ช่วงนี้ตัวทำงานที่คณะ นี่ก็เพิ่งได้มาว่างนั่งชิลแบบนี้อะ” ฉันตอบคำถามเมื่อสองนาทีที่แล้วของเขา น้องคิวพยักหน้ารับรู้ก่อนจะระบายยิ้มอ่อน 

“แสดงว่าหลังจากนี้ผมก็จะได้เจอพี่บ่อยเหมือนเดิมใช่ไหมครับ? 

“แล้วนี่ไม่ไปทำงานเหรอ? ฉันเมินคำถามของคนตรงหน้าจนอีกฝ่ายยู่ปากคล้ายเด็กถูกขัดใจ มันไม่อยากรับปากนี่นา ฉันยิ่งเหมือนเป็นไบโพลาร์อยู่ด้วยช่วงนี้ เดี๋ยวอยากเจอเดี๋ยวไม่อยากเจอ 

“เบี่ยงประเด็นด้วย” เจ้าของประโยคบ่นอุบอิบ เมื่อเห็นว่าฉันไม่มีท่าทีสนใจเขาจึงพูดต่อ “ผมก็ต้องหยุดบ้างสิครับ จะให้ทำงานมันทุกวันเลยรึไง” 

อ้าวอิเด็กนี่...เหมือนกวนตีนฉันอะ 

“อืม” ตอบในลำคอพร้อมกับกระดกแก้วขึ้น บรรยากาศเย็นและสงบแทรกเข้ามาเมื่อต่างคนต่างเงียบ คือฉันต้องทำยังไงต่อวะ ชวนคุยงี้เหรอ? แต่ก่อนหน้านี้ฉันก็ชวนไปแล้วอะถ้าชวนอีกมันจะดูอยากคุยเกินไปปะวะ โอ๊ย! เครียดกว่าตอนสอบไฟนอลอีก 

“พี่ไออุ่นอยู่แถวนี้เหรอครับ?  

“หือ? ฉันรีบหันไปทำหน้าเลิ่กลั่กเพราะอยู่ดีๆน้องคิวก็พูดขึ้นมา ฉันซึ่งไม่ได้ตั้งใจฟังเลยไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร  

คนตรงหน้าเบ้ปากเล็กน้อยที่ฉันไม่ตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาถามก่อนจะพูดอีกรอบ “ผมถามว่าพี่อยู่แถวนี้เหรอ? 

“อ๋อ” ฉันครางเสร็จจึงตอบคำถามด้วยการพยักหน้า “อืม อยู่ในหมู่บ้านนี้อะ” 

“จริงจังไหมครับ? ทันทีที่ฉันพูดจบน้องคิวก็ตาลุกวาว 

“แล้วทำไมพี่ต้องโกหกด้วยอะ” 

“เฮ้ย” อยู่ๆน้องเขาก็ปรบมือดัง ‘เปร๊าะ!’ พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง ฉันขมวดคิ้วงงกับท่าทางของอีกฝ่าย “พรหมลิขิตแน่ๆเลย” 

“ทำไมอะ? คือฉันงงจริงๆนะ 

รุ่นน้องตรงหน้าระบายยิ้มกว้าง “ก็ผมอยู่หมู่บ้านนี้เหมือนกัน” 

“เฮ้ย! จริงดิ? ฉันอ้าปากหวอพร้อมเบิกตาโตกับสิ่งที่ได้รับ โอ้แม่เจ้าน้องคิวอยู่หมู่บ้านเดียวกับฉันเหรอ ทำไมก่อนหน้านี้ฉันถึงไม่เห็นผู้ชายน่ารักคนนี้ไปได้ล่ะเนี้ย!

อ๋อ ลืมไปกว่าจะกลับบ้านก็นู่นแหละ...อีกวัน 

...ซึ่งน้องเขาคงกลับหลังฉันยาวๆ 

“แต่เอ๊ะ” ฉันที่คิดอะไรออกจึงหันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย “แต่ร้านที่คิวทำงานอยู่ไกลจากที่นี่มากเลยนะ” ไกลพอสมควรเลยอะ “ทำไมไปทำงานไกลบ้านขนาดนั้น? ฉันดูเสือกเรื่องของเขาเกินไปปะ?... ก็ไม่นะ ธรรมดา

 “นั่นสิ” อีกฝ่ายเหมือนพึมพำกับตัวเองก่อนจะเงยมาทำหน้ามุ่ยที่น่ารักที่สุดที่ฉันเคยเห็นตั้งแต่เกิดออกมาจากท้องแม่ “ก็เฮียเขาไปเปิดตรงนั้นหนิครับ” 

“หา? ฉันอ้าปากอีกรอบ “หมายถึงเจ้าของร้านเหรอ?  

น้องคิวพยักหน้าแทนการตอบคำถาม 

“ไกลบ้านไกลมอ.ด้วย” พอเริ่มเงียบน้องคิวก็เป็นฝ่ายทำลายมันอีกเช่นเคย คำพูดของเขาส่งผลให้ฉันนึกบางอย่างออก 

“ว่าแต่เราอยู่มอ.อะไรเหรอ? จำได้ไหมว่าฉันเหมือนเคยเห็นคนที่คล้ายน้องคิวตอนอยู่ในมหา’ลัยน่ะ 

“ให้ทาย” 

“อย่าบอกนะว่า...” ฉันชี้หน้าเขาพร้อมกับบอกชื่อมหา’ลัยของตัวเองออกไปแล้วต้องตาค้างอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า 

แม่เจ้า นี่มันไม่ใช่พรหมลิขิตแล้ว...มันเนื้อคู่กันชัดๆ! 

“พี่ไออุ่นก็อยู่มอ.เดียวกันเหรอ? 

“อาห่ะ” ฉันพยักหน้าอย่างอึ้งๆ 

น้องคิวระบายยิ้มกว้างจนตาหยีแล้วพูดด้วยน้ำเสียงน่ารัก “ผมบอกแล้วว่าเราสองคนมันพรหมลิขิตกันชัดๆเลย” 

พี่ก็ว่างั้นแหละค่ะ แต่งงานกันเลยไหมคะ

“บังเอิญจังเลยเนอะ” ฉันยิ้มมุมปากก่อนจะกระดกแก้วในมือต่อ “แล้วนี่เราอยู่คณะอะไรอะ? 

คนถูกถามรินแอลกอฮอล์ใส่แก้วของตัวเองก่อนจะเงยหน้ามาตอบฉัน “อยู่ศิลปกรรมครับ แล้วพี่ไออุ่นล่ะ? 

“นิเทศน่ะ” ถ้าอยู่คณะเดียวกันนี่ฮาเลยนะ แต่เป็นไปไม่ได้หรอกเพราะฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย คณะฉันมันก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดที่ว่าจะไม่มีทางเดินสวนกันเข้าสักวัน 

“นิเทศเหรอ” อีกฝ่ายจับคางทำหน้าครุ่นคิด “ผมไม่ค่อยไปแถวนั้นเลยอะ” 

แหงล่ะ ตึกนิเทศกับศิลปกรรมอยู่ห่างกันเป็นวา เป็นฉันถ้าไม่มีธุระสำคัญอะไรก็ไม่ไปเหยียบหรอก ไกลอะขี้เกียจ 

“แต่ว่าแบบนี้...” เงียบไปประมาณห้าวินาทีได้น้องคิวก็ส่งสายตาบางอย่างที่อ่านไม่ออกแต่ดูอ้อนเป็นพิเศษมา “ผมคงต้องไปแถวนั้นบ่อยๆแล้วล่ะ” 

อะไรนะ“หมายความว่า...” 

“บ้านพี่อยู่ตรงไหนเหรอ? ไม่ทันที่จะได้ถามจนจบประโยคอีกฝ่ายก็แทรกขึ้นมา “มันดึกแล้วเดี๋ยวผมเดินไปส่ง” 

“ไม่เป็นไรหรอก” ฉันโบกมือ ลำพังแค่น้องเขาเลี้ยงเหล้าแถมยังมานั่งเป็นเพื่อนก็เกรงใจจะแย่แล้ว “อยู่แค่นี้เอง” 

แค่นี้ที่ว่าคือหลังสุดท้ายในซอยค่ะ 

“ไม่เอาอะ ผมไปส่งดีกว่า” พูดเสร็จก็จัดการเก็บของโดยไม่ฟังคำพูดคัดค้านใดๆทั้งสิ้น แต่คิดไปคิดมามีคนไปส่งก็ดีเหมือนแถมเป็นน้องคิวแล้วด้วย ไม่รู้จะปฏิเสธไปทำไม...เนอะ 

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็เดินมาส่งฉันอย่างที่พูดไว้จริงๆ ระหว่างทางเราคุยกันเรื่อยเปื่อย ฉันถามถึงงานที่ร้านเขาบ้างส่วนเขาก็ถามถึงงานพรีเซ็นต์นรกนั้นของฉันด้วย เอาตามตรงฉันชอบบรรยากาศแบบนี้นะ ไม่รู้สิอาจจะเป็นเพราะว่าเราทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในร้านเหล้ารึเปล่าฉันเลยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงลูกค้าแล้วเขาเป็นบาเทนเดอร์ที่คอยบริการตามหน้าที่ 

ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกว่าตัวเอง...พิเศษ 

“แค่นี้ของพี่นี่เล่นสุดซอยเลยนะครับ” พอเดินมาจนถึงหน้าบ้านตามการบอกทางของฉันแล้วน้องคิวก็หัวเราะแห้งๆออกมา ก็แหม่ตอนนั้นไม่รู้ผีรักนวลสงวนตัวตัวไหนสิงถึงได้ตอบไปแบบนั้นนี่นา 

“สำหรับพี่มันแค่นี้เองไง” แถ แถไปอีกจ้า 

“ฮ่าๆ” อีกฝ่ายหัวเราะร่ากับท่าทีขยี้หัวแก้เก้อของฉัน สีหน้าเขาตอนนี้มันยิ่งทำให้ฉันอย่างจะบอกทางวนไปวนมารอบหมู่บ้านนี้สักสิบรอบเพื่อให้ได้อยู่กันสองต่อสองเลยให้ตายเถอะ 

น่ารักเกินไปแล้ว 

“งะ งั้นพี่เข้าบ้านก่อนนะ” ดูดิ เพราะความน่ารักของน้องเขาทำเอาฉันพูดตะกุกตะกักเลยเห็นไหมเนี้ย 

“ครับ พี่รีบเข้าบ้านเถอะ”  

“เราก็กลับไปได้แล้ว” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังยืนอยู่ที่เดิมฉันจึงออกปากไล่ 

“เดี๋ยวผมรอพี่เข้าบ้านก่อนถึงจะค่อยกลับ” 

“บ้านก็อยู่ตรงหน้าเนี้ย มันไม่มีล้อหนีไปไหนหรอก” กลัวจะมีคนมาฉุดฉันรึไง แต่ถึงอย่างนั้นน้องเขาก็ส่ายหัวไม่ยอมท่าเดียวเลยว่ะ 

“พี่รีบเข้าไปเถอะไม่งั้นผมก็ไม่ได้กลับนะ” 

“เฮ้อ” เมื่อพูดยังไงเขาก็ไม่ไปฉันเลยตัดสินใจไขกุญแจรั้วพร้อมกับแทรกตัวเองเข้าไปข้างในแล้วล็อคประตูเสร็จสรรพเพราะกลัวอีกฝ่ายจะสั่งให้ล็อคก่อนถึงจะไปอีก “เข้ามาแล้ว” 

“ดีมากครับ” น้องคิวยกนิ้วโป้งให้ฉัน ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงด่าว่าปัญญาอ่อนหรือประสาทไปแล้วแต่นี่มันน้องคิวไง ในหัวมีแต่คำว่า... 

น่ารัก น่ารัก น่ารัก! 

“ไปได้แล้ว” ฉันไล่อีกรอบ 

“โอเคครับคุณพี่” คนตรงหน้าลากเสียงยาวก่อนจะหมุนตัวกลับไปฉันจึงหันหลังจะเดินเข้าไปในบ้านบ้างแต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าคนข้างนอกก็ส่งเสียงขัดเอาไว้ซะก่อน “เดี๋ยวครับ” 

“หือ...ว่าไง? ฉันเลิกคิ้วถาม  

“พรุ่งนี้พี่มีเรียนไหม? 

“ก็มีนะ” ปกติมีเรียนถ้าวันไหนขี้เกียจก็ไม่มีค่ะ 

“โอเคงั้นเจอกันที่มอ.” 

“ทำเหมือนจะเจอกันง่ายๆอะ คณะเราอยู่ห่างกันมากเลยนะแถมมหา’ลัยก็กว้างมากด้วย” ฉันประท้วง เอาจริงๆบางคนเจอกันรอบเดียวก็ไม่เห็นหน้าอีกเลยประมาณนั้น 

“ต้องเจอสิครับ” อีกฝ่ายกระพริบตาปริบๆ มันดูใสซื่อจนน่าจับมาฟัดซะให้เข็ด 

แต่แค่คิดอะนะ ฉันแค่คิด 

ฉันกระตุกยิ้มมุมปากพลางกอดอกจ้องมองไปยังคนที่อยู่นอกรั้วพร้อมกับแกล้งถามขึ้นว่า “ทำไม จะเดินตามหาพี่เหรอ?  

“ครับ” แต่ผิดคลาดที่เขาไม่ได้ปฏิเสธแถมยังยอมรับมาดื้อๆ “ไม่ตามหาแล้วผมจะได้เจอพี่เหรอครับ” 

“…” 

“แล้วถ้าไม่เจอ...” มุมปากทั้งสองข้างยกยิ้มขึ้นมา “ผมจะหายคิดถึงพี่เหรอครับ” 

พูดเสร็จก็หมุนตัวเดินออกไปทิ้งฉันไว้กับคำพูดของเขาที่วนไปมาราวกับเปิดเทปซ้ำ 

ที่น้องเขาพูด...หมายความว่าอะไร





[อัปครบ]

100% : น้องคิวคะ ใครไม่เขินแต่เราเขินแล้วนะคะ!
เม้นๆเป็นกำลังใจกันได้น้าาา หรือจะพูดคุยเกี่ยวกับความอ่อยของยัยน้องก็ได้55555



"ลอยแล้วยัยน้องงงง..."


67% : ไม่ค่ะไออุ่น ตราบใดที่เป็นเรื่องของคนที่เราสนใจมันคือการใส่ใจรายละเอียดค่ะ555555555 ส่วนน้องคิวนี่ก็ขยันหยอดเกิ๊นนนนน ใจจะวายเอาเด้อออ 



"พรหมลิขิตแน่ๆเลยครับ"


38% : นี่ขนาดไม่ได้ไปที่ร้านยังเจอเลย แบบนี้มันพรมลิควิดดดด555555
ปล.เมื่อวานมึนค่ะ นึกว่าอัปแล้วแงงงงงง้


0% : ว้าวซ่าาาา มาเจิมกันค่าาาา


1 เมนต์ = 1กำลังใจน๊า

พูดคุยกันได้ที่
 Facebook : Black Paradises คลิก
Twitter : @black_paradises #ไออุ่นของคิว

Drink on me SET ]




ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture