ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
The Promised Neverland Rey x oc

ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่4 : อยากเป็นเจ้าสาวของเรย์... 100%

  • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 63




"....."

"....."

พี่ๆน้องๆคนอื่นต่างมองเรย์และเอ็มม่าที่ถูกลงโทษ 

เอ็มม่าหนักหน่อย รายนั้นถูกมัดทั้งมือและขาติดกับเก้าอี้ไปไหนไม่ได้ ส่วนเรย์ก็ถูกแมสปิดปากไม่ให้พูดอะไร  

"ทำไมพวกเธอถึงไม่ยอมแพ้กันละหือ? นอร์แมนก็คงอยากอยู่เงียบๆด้วย" เด็กผู้ชายในกลุ่มเด็กโตเอ่ยขึ้นมาอย่างเหงื่อตก 

"แต่นอร์แมนจะต้องอยู่คนเดียวจนกว่าจะหายป่วยเลยนะ มันแย่ออก!" เอ็มม่าเหงื่อแตกพลั่กหลังตะโกน 

เธอลองนึกว่าตัวเองเป็นนอร์แมน แล้วต้องนอนติดเตียงคนเดียวทุกวัน ไปไหนไม่ได้ออกไปเล่นก็ไม่ได้ แค่คิดเอ็มม่าก็หน้าซีดแล้ว

"เอ็มม่า..." เด็กคนอื่นคิดว่าเด็กหญิงผมส้มช่างรักครอบครัวเหลือเกิน เห็นอกเห็นใจคนอื่นมาก โดยที่ไม่รู้ว่าเอ็มม่ากำลังคิดอะไรอยู่ 

เอ็มม่าแค่เห็นนอร์แมนต้องกลับไปนอนป่วยที่ห้องพยาบาล เธอก็เลยนึกย้อนไปถึงเอเลน่า ครั้งหนึ่ง.. เคยถูกลงโทษให้ไปนั่งสำนึกผิดข้างกำแพงคนเดียว 

เธอยังจำได้ไม่ลืมว่าเหงามากแค่ไหน เธอคันมือคันเท้าอยากกระโดดโลดเต้น แต่โดนสั่งให้อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นเอเลน่าจะไม่เล่นกับเธออีกเลย   

เพราะงั้นเธอเลยต้องอดทนจนหน้าสูบผอม(?)! 

"ฮึ่ม! อื้ม อืออืม อื้ม!" เรย์ที่ถูกแมสปิดปากหันขวับมาพูดอู้อี้เสียงดัง 

"ทะ โทษทีนะเรย์ แต่ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร...-" พี่คนโตพูดอย่างลำบากใจ

"เขาบอกว่าตัวเองห้ามเอ็มม่าแล้วแต่เธอไม่ฟังน่ะ" เสียงเล็กๆดังขึ้นมาข้างๆ ใบหน้าสวยน่ารักของอีกฝ่ายทำเด็กชายยิ้มบาง.. 

"อ้อ..งั้นเองเหรอ...."  

....

เฟ้ย 

ทำไมเธอฟังเขารู้เรื่อง!?

ไม่สิ!

"ทำไมเอเลน่าถึงไม่ได้โดนลงโทษอะไรเลยล่ะ!?" เด็กโตทุกคนหันขวับมามองพลางชี้นิ้วใส่เอเลน่า ที่นั่งพิงเรย์ข้างกระดิกขาอย่างสบายๆ

"....?" เอเลน่าหันมามองงงๆ

เด็กหญิงที่มีใบหน้าน่ารักและสวยงามมาก เรียกได้ว่ารู้เลยตั้งแต่วินาทีแรกเห็นถ้าโตมาต้องสะสวยมากแน่ๆ 

ผมบลอนด์ที่เริ่มยาวถูกมัดเป็นเปียข้างหลวมๆ เธอยังอยู่ในเสื้อเชิ้ตและกระโปรงสีขาวเรียบร้อย ไม่ได้โดนมัดมือมัดขาหรือปิดปากเหมือนเอ็มม่าและเรย์

"ทำไมน่ะเรอะคะ?"

ดวงตากลมโตสีฟ้าครามกระพริบปริบ ก่อนที่ใบหน้าขาวนวลจะเอียงคอดูน่ารัก...ทำท่าครุ่นคิดอย่างจริงจัง 

ท่าทางแบบนี้แทบทำให้พี่เด็กโตคนอื่นต่างใจละลาย 

อา น่ารักจังเลย~ 

ริมฝีปากแดงน่าจุ๊บค่อยๆยกยิ้มเบาบาง

"อาจเป็นเพราะมาม๊าไม่รู้ว่าหนูเป็นต้นคิดของเรื่องนี้ละมั้งคะ?" เอเลน่ายิ้มหวานให้พี่ๆจนพวกเขาเคริ้ม ก่อนจะได้สติกันเมื่อจับใจความได้ 

"เห~!?" 

เสียงอุทานอย่างพร้อมใจกันของทุกคน 

"นี่เธอเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดเองหรอกหรือเนี่ย!?" 

"แหม~" เอเลน่าลูบคอยิ้มเขินๆ เมื่อทุกคนพร้อมใจกันมองมาที่เธอคนเดียว

"ไม่ได้ชมเฟ้ย!" ทุกคนพากันตบมุข


ที่น่าตกใจกว่านั้น ทุกคนนึกไม่ถึงเลยว่าเด็กผู้หญิงที่พูดน้อยคนนั้นจะแสดงท่าทางเขินแบบนี้ออกมาได้

'จะว่าไปก็น่ารักดีนะ..'

ทุกคนเข้าสู่ภาวังค์ความคิดอีกครั้ง 

ส่วนเอเลน่านั้นเธอส่วนหัวพลางถอนหายใจ 'ช่วยไม่ได้หรอก ที่อิซาเบลล่าจะเข้าใจผิดก็ไม่แปลก'

ครั้งแรกที่ไปกับเอ็มม่าแล้วโดนจับได้แต่ก็ไม่ถูกลงโทษ แค่โดนบ่นเล็กๆน้อยๆ ครั้งที่สองเพราะเธอนั่งอยู่กับเรย์ไม่ได้ไปยืนที่หน้าประตูตอนมาม๊ามาเจอ  

หญิงสาวเลยคิดว่าตอนแรกคงเพราะฉันคล้อยตามเอ็มม่า จึงได้แหกกฎเพื่อช่วยเพื่อนตัวเอง โดยไม่รู้ว่าเธอนั้นแหละหัวโจก! 

แถมเอ็มม่าและเรย์ก็ไม่ได้บอกอิซาเบลล่าว่าเธอเป็นคนต้นคิดเรื่องนี้เอง จึงไม่ได้ถูกจับมัดแน่นไว้เหมือนสองคนนั้น 

ด้วยความรู้สึกผิดเธอจึงมานั่งอยู่ข้างพวกเขาทั้งสองคนตลอดที่โดนกักบริเวณเป็นเพื่อน

แล้วทำไมฉันจึงไม่บอกอิซาเบลล่า? ไม่ใช่ไม่บอกนะ...

เธอบอกตั้งแต่ที่ทั้งสองคนถูกหญิงสาวหิ้วมามัดเก้าอี้แล้วล่ะ แต่ด้วยความที่หลักฐานไม่แน่นพอ พยานปากในมือ(เรย์กับเอ็มม่า)ไม่ปริปากบ่น 

มาม๊าจึงเข้าใจไปอีกทางว่า เพราะเธอเป็นห่วงทั้งคู่จึงออกมารับผิดแทน(จริงๆไม่ใช่เลย) ฉันจึงไม่โดนลงโทษแถมยังได้ลูกอมมาปลอบใจสองเม็ดอีกต่างหาก 

ให้ตายสิ...รู้สึกตัวเองเลวจริงๆ 

"เอ็มม่า อ้า~" ฉันจึงแกะลูกอมในมือก่อนจะเรียกเอ็มม่าให้หันมามอง 

"อ้า..?" เด็กหญิงอ้าปากอยากงงๆก่อนที่มือเล็กจะป้อนลูกอมเม็ดขาวเข้าปาก 

"อื้ม~"

เอ็มม่าร้องอยากมีความสุขเมื่อสัมผัสได้ถึงความหวานของรสนม ดอกไม้บานสะพรั่งรอบๆเอ็มม่า

'เด็กยังไงก็เป็นเด็กละนะ..'

ฉันยิ้มเอ็นดูเอ็มม่าพลางคิดในใจว่า'ตัวเอกช่างน่ารักจริงๆ'ก่อนจะแกะอีกเม็ดที่เหลือสุดท้ายนี้จะให้เรย์

"เธอกินเถอะ ฉันไม่ชอบ" เรย์ที่ถูกเด็กหญิงน่ารักผมบลอนด์เปิดผ้าปิดปากออก เขารู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรเขาจึงปฏิเสธหันหน้าหนี

"อย่าดื้อสิ" 

เมื่อเรย์รู้ความคิดของเธอ ฉันก็รู้ความคิดของอีกฝ่าย เจ้าตัวต้องเห็นว่ามาม๊ายื่นลูกอมให้เธอสองเม็ดแน่ๆ เพื่ออยากให้เธอกินเขาจึงบอกไม่ชอบ 

อุก น่ารักจริงๆพ่อคนซึนของฉัน~

เมื่อตอนแรกๆเธอไม่ค่อยชอบเด็กเลยจริงๆ อาจเพราะนอกจากจะร้องไห้ง่าย เบราะบางแล้วยังโวยวายเสียงดังน่ารำคาณด้วย แต่เรย์นี้เป็นข้อยกเว้นตั้งแต่แรกในชีวิตของเธอจริงๆ 

เพราะว่าในสามตัวเอก คนที่เธอชอบและเชียร์มากที่สุดก็เรย์นี่นา~

เธอเริ่มเข้าใจอารมณ์รักเด็กขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะ

"ถ้างั้น..." เธอนิ่งคิด ก่อนจะหักลูกอมในมือ โชคดีที่ลูกอมไม่แข็งมาก แรงน้อยในร่างเด็กแบบเธอจึงหักได้ 

บ๊อก!

"....."

เฟ้ย

แต่พอหักออกมาแล้วดันไม่พอดีกันซะงั้น!

อันหนึ่งเล็กกว่าอีกอันอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เรย์จะได้พูดอะไรฉันรีบยัดอันเล็กสุดเข้าปาก ก่อนจะยื่นที่เหลือให้เรย์

"....." เรย์มองลูกอมในมือเธอนิ่งๆ 

"เรย์~ อ้า~"  

เมื่อรู้ตัวว่าเขาจะไม่ยอมกินง่ายๆ เอเลน่าจึงงัดไม้ตายขึ้นมา ดวงตากลมโตที่เหมือนมีหมอกน้ำตลอดเวลามองปริบๆ เธอบีบเสียงหวานหยดจนแอบขนลุกตัวเองในใจ

งับ

แต่เรย์ก็ยอมอ้าปากงับลูกอมไปในที่สุด เขาก้มหน้าไม่พูดไม่จาอะไรเลย แต่เธอแอบเห็นว่าหูเขาแดงแปร๋ด...! 

เป็นอีกครั้งที่เธออยากกู่ร้อง!!

โชตะค่อนจงเจริญ!

".........."

".........."

พี่ๆคนโตที่ยังไม่ได้จากไปไหนก็เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น เด็กผู้ชายพากันมองเรย์อย่างอิจฉา ทำไมน้องสาวถึงไม่เข้าหาพวกเขาบ้าง!

...

สุดท้ายพวกเราก็ไม่ได้ถูกปล่อย จนพี่ๆพากันไปหามาม๊าและช่วยกันขอร้องให้ปล่อยนอร์แมนออกมา 

เหมือนกลุ่มม็อบเล็กๆกำลังประท้วง หลังจากที่เห็นเอ็มม่า เรย์และเอเลน่าถูกทำโทษ ช่วยจุดประกายไฟให้กับพวกเขา

"แค่นิดเดียว! ขอให้เห็นนอร์แมนเถอะ"

"ได้โปรดมาม๊า!"

"ก็ได้...แต่พวกเธอต้องคอยจนกว่าเขาจะหายดีนะ" 

แปล-พวกเธอต้องรอจนกว่านอร์แมนจะหาย ถึงจะได้เห็นเขา  

สิ้นคำพูดของอิซาเบลล่า เด็กผู้หญิงที่โตๆพากันคอตกเดินกลับไป... ก่อนที่จะมีอีกกลุ่มมาประท้วงต่อ

"ปล่อยเขาไปเถอะ!"

"ให้พวกเราได้คุยกับเขาสักที!"

"แค่ได้ยินเสียงเขาก็พอแล้วครับ..."

"ฉันไม่ได้ลักพาตัวไปนะ" อิซาเบลล่าเหงื่อตกเมื่อเห็นท่าทางโอเวอร์ร้องไห้พูมฟายของเด็กๆผู้ชาย

ท่ามกลางเด็กๆโวยวาย ไปจนกระทั่งน้องเล็ก ต่างออกมาช่วยด้วย 

"ผมเก็บสมุนไพรจากป่าได้!" เด็กๆพากันชูสมุนไพรในมือที่เก็บมา อิซาเบลล่าหันมามองอย่างตกใจ

"นั่นมันแค่วชพืชจ๊ะ.." 

...คำขอยังคงดำเนินไปทั้งคืน แต่ก็ไม่มีใครให้เข้ามาได้...

''..ท่าทางสนุกกันดีนะ..' 

นอร์แมนที่อยู่อีกฟากของประตูได้ยินเสียงพี่น้องของเขาอยู่ข้างนอก เขารู้สึกว่ามันช่างครึกครืนดีจัง...

เด็กชายยิ้มเศร้า มันจะดีกว่านี้นะถ้าเขาได้ไปร่วมแจมกับทุกคนด้วย

วันต่อมา

ประตูห้องพยาบาลถูกพันเทปว่าห้ามเข้าตัวหนังสือแดงๆเต็มประตู นอร์แมนเหงื่อตกเมื่อรู้ว่ามาม๊าในที่สุดก็เอาจริงแล้ว

ท่ามกลางความเงียบ ไม่มีเสียงที่โวยวายอยู่ข้างนอกเหมือนเมื่อก่อน นอร์แมนนอนมองเพดานคิดเงียบๆ 

'...เหงาจัง....'

เหมือนได้กลับไปอยู่คนเดียวเหมือนตอนเด็กๆ ในตอนที่เอเลเน่ยังไม่มาพบเขา ขณะที่ทุกคนออกไปวิ่งเล่น เขากลับถูกขังอยู่ในห้องนี้.... 

แต่ไม่เป็นไรหรอกเขาเข้าใจมันดี เพื่อตัวเองและคนอื่น

จะทำให้ทุกคนลำบากไม่ได้นะ

แค่ก..แค่ก

เสียงไอดังลอดออกมาจากห้องพยาบาล เอ็มม่าที่นั่งอยู่หน้าประตูหันมามอง ก่อนจะครุ่นคิด....และวินาทีถัดไปเธอรีบวิ่งออกไปหาเอเลน่ากับเรย์ 

.....

"กลับมาแล้ว!"

"!?"

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน นอร์แมนตื่นขึ้นมาก่อนจะตกใจเมื่อเห็นเอ็มม่าข้างเตียง พร้อมเจ้าตัวยื่นแก้วกระดาษให้

"อ่ะ เอาไป"

'แก้ว?'

"เอ็มม่า! เลิกลอบเข้ามาทุกครั้งได้แล้ว"

เสียงตะโกนก่อนที่ร่างสูงเพียวของหญิงสาวจะเดินเข้ามา เอ็มม่าสะดุ้งเฮือกก่อนจะโดนจับหิ้วออกไปเหมือนทุกที 

"ไว้คุยกันในไม่ช้านี่นะ นอร์แมน" เสียงกระซิบของเอ็มม่าได้ยินไปในหูของเด็กชาย เขาหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะเข้าใจคำว่า'ในไม่ช้า'นี้

มีด้ายเชื่อมต่อไปยังประตูที่ปิดอยู่ นอร์แมนนอนมองเงียบๆก่อนจะเอาแก้วกระดาษเข้าหู 

"นอร์แมน... นอร์แมน..." เสียงกระซิบพร้อมสายที่ตรึง เขาได้ยินเสียงเล็กๆของเอ็มม่าดังลอดมา

"ฮัลโหล? ตอนนี้ก็คุยกันได้โดยไม่ต้องเข้าใกล้แล้วนะ!"

เสียงกระซิบร่าเริงทำให้นอร์แมนนึกภาพได้ทันที เขาได้ยินเสียงเอเลน่ากับเรย์และเสียงพี่น้องคนอื่นดังมาแว่วๆ 

นอร์แมนหัวเราะยิ้มคิกคักคนเดียวในห้องที่กว้างใหญ่ 

บรรยากาศในห้องที่เงียบเหงาได้เปลี่ยนไปเพราะอย่างนี้เอง....

......................


มันมืด.


ทั้งหมดที่จำได้คือเสียงของการหายใจหนักของผู้หญิงที่คุ้นเคย เสียงคนอื่นสองคนพูดคุยกันในขณะที่รีบวิ่งด้วยเหตุผลบางอย่าง

และ...เสียงของเด็กที่กำลังร้องไห้ พร้อมเสียงกระซิบของเครื่องจักรที่เขาไม่เข้าใจ

“ โอ้ที่รักคุณจะเป็นนักเรียนที่น่าทึ่งมาก” เด็กทารกได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยของผู้หญิงคนอื่น ไม่รู้ว่าพวกเธอเป็นใคร เด็กน้อยร้องไห้หนักขึ้น จึงต้องกลับไปที่แขนของผู้หญิงที่คุ้นเคยอีกครั้ง  

ดวงตาที่ยังคงมองไม่เห็น ค่อยๆเริ่มเห็นภาพใบหน้าที่อุ้มตัวเองอย่างพร่ามัว 

"เราจะพาเธอไป ..."

รอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนแต่รู้สึกดูเศร้า

"เพื่อเลี้ยงดูในสวนเกรซ "

....

เสียงกรีดร้องของเด็กๆ เสียงดังจนน่าปวดหัว 

ภาพสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่แวะเวียนมามองพวกเขาผ่านตู้กระจกใสทุกวัน  ดวงตาสีเลือดพวกนั้นดูกระหายบางอย่างจนนึกหวั่น 

เหมือนกำลังเลือกสินค้าชิ้นหนึ่ง.. นิ้วมือที่เหมือนรากไม้แห้งเหี่ยวชี้มายังพวกเขาทีละคน ก่อนที่เด็กคนที่ถูกเลือกนั้นจะถูกอุ้มพาออกไป  

สุดท้ายแล้วเด็กพวกนั้นไม่เคยได้กลับมาอีกเลย

เหตุการณ์ซ้ำๆที่เคยเห็นแวะเวียนจนชินตา เขาไม่เคยเข้าใจภาพเหล่านั้น   

จนกระทั่ง..

ปลายนิ้วนั้นชี้มายัง'เธอ'

เขายังจำได้ไม่ลืม

พวกเราสองคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย กลับต้องถูกพรากจากกัน

ตอนนั้นเขารู้สึกหวาดกลัวเป็นครั้งแรก

กลัวที่จะไม่ได้เห็นเธอคนนั้นอีก 

ดวงตาที่ชุ่มน้ำตาจนมองภาพเธอจากไกลๆไม่เห็น

ปลายนิ้วที่ยังเกาะกันแน่น ถูกกระชากออกไป 

นับวินาทีนั้น....เขาก็รู้ว่า


เธอคนที่คอยจับมือข้างนี้อาจจะไม่มีวันได้กลับมาอีก


.......


ในคืนที่เงียบสงัน พี่น้องในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต่างพากันหลับใหล บนเตียงสีขาวสะอาดมีร่างเด็กน้อยคนหนึ่ง สะดุ้งตื่นลุกขึ้นมากลางดึก

"แฮ่ก... แฮ่ก..."

เสียงหอบหายใจระรัวและใบหน้าที่ชื่นเหงื่อ มือเล็กเกาะกุมหน้าอกจนเสื้อยับยู่ยี่ หัวใจเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะกระโดดออกมา เส้นผมสีดำยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงบดบังดวงตาสีดำอมม่วงที่ดูเจ็บปวด

เขาฝันอีกครั้ง ครั้งนี้ครั้งที่3

เขาเห็นมัน... 

บางอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์ บางอย่างที่ทำให้เขานึกกลัว

'แต่มันคืออะไรกันล่ะ?'

เรย์พยายามนึกถึงภาพความทรงจำที่โพล่ขึ้นมา ภาพเริ่มปะติปะต่อกับชีวิตประจำวัน ภาพบางอย่างที่อยู่ๆก็แวบเข้ามาในหัวอย่างไม่ทันตั้งตัว บางครั้งมันก็ทำให้เขานึกสับสน 

อันไหนคือเรื่องจริงเรื่องเท็จกันแน่... 

เรย์ไม่รู้ว่ามันคือความฝันหรืออดีต...แต่มันทำให้เขาสงสัย

ที่นี่...มันคือที่ที่เขาควรอยู่จริงๆงั้นเหรอ?

ในขณะที่พยายามคิดแทบสมองระเบิดจนเริ่มรู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมา กลิ่นหอมเย็นๆที่พัดผ่านจมูก เส้นประสาทที่เต้นตุบๆก็ค่อยๆเริ่มทุเลาลง

เรย์เหมือนเพิ่งได้สติจากภาวังค์ สายตาหันไปมองเตียงข้างๆ ใบหน้าที่หลับพริ้มเหมือนกำลังฝันดีของใครบางคนทำให้ใจเขาสงบลง... 

มือของเขายื่นออกไปสัมผัสกับมือนุ่มนิ่มข้างเตียง 

น่าแปลก... กลิ่นหอมเย็นๆประจำตัวของหญิงสาว ที่ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไงแต่มันช่วยทำให้ใครก็ตามที่เข้าใกล้เธอจะรู้สึกสงบและเผลอผ่อนคลายลงอย่างไม่รู้ตัว 

หมับ..

สองมือประสานกันแน่นอย่างไม่รู้ตัว รู้แต่ว่าเจ้าของมันไม่อยากปล่อยมือข้างนี้ไปอีก 

ไม่อยากสูญเสียเธอไปอีกแล้ว..

ถึงตอนนี้เขาจะยังไม่เข้าใจเรื่องบางอย่าง

แต่มีอย่างหนึ่งที่เขารู้แน่ๆคือ... ไม่ว่าจะในความทรงจำหรือความเป็นจริง

เธอคนนี้ก็ยังคงอยู่'เคียงข้าง'เขานับตั้งแต่แรก

"อย่าหายไปอีกนะ...เอเลน่า" เสียงกระซิบเล็กๆอย่างสั่นครือ

ดวงตาสีอเมทิสต์เย้ายวนหลุบตาลงอย่างเจ็บปวด สองมือที่กุมกันแน่นและร่างเล็กบนเตียงที่ค่อยๆขยับเข้าใกล้อีกฝ่าย

สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่คุ้นเคยของอีกคนบนเตียง

ตอนนั้นเองที่เด็กชายรู้สึกหัวใจสงบและสามารถหลับลงได้หลังจากเจอฝันร้าย 

.......................................
...................
........ 
....

ฝนตกหนักเมื่อคืนวาน ทำให้อากาศเย็นฉ่ำ ยากนักที่เด็กบางคนจะลุกขึ้นจากเตียงนอนไหว 

ยามเช้าได้มาถึงพระอาทิตย์ส่องแสงผ่านผ้าม่านมาเบาบาง

ในห้องกว้างแห่งหนึ่งภายในบ้านพัก ทุกมุมของห้องมีเตียงขนาบข้างกันต่อมาเรื่อยๆฝั่งละหกเตียง

บนเตียงสีขาวสะอาดเตียงหนึ่ง ใต้ผ้าห่มสีขาวที่ดูสบาย ห่อเด็กน้อยอายุประมาณสี่ถึงห้าขวบที่งดงามเป็นพิเศษเอาไว้ในนั่น 

เส้นผมสีบลอนด์ยาวระดับสะโพกสีทองนุ่มนวล เรือนผมหยักโสกงดงามคลอเคลียหน้าผากและเปลือกตาสีไข่มุกเล็กน้อย ก่อนวินาทีต่อมา ขนตาหนาเป็นแพรยาวขยับพรือเบาๆ...

ก่อนจะเปิดเผยให้เห็นถึงท้องฟ้าขนาดเล็กภายในนั่น 

'เอเลน่า'ขยับตัวลุกขึ้นนั่งเหม่อมองไม่ได้โฟกัสอะไรเป็นพิเศษ ก่อนจะยืดแขนขาอ้าปากหาววอดเบาๆ 

แต่ละท่วงท่านั่นช่างน่ารักน่าเอ็นดู จนน่าเสียดายที่ไม่มีใครได้มาเห็น คอเสื้อเชิ้ตแขนขาวลู่ลงเล็กน้อยเผยให้เห็นคอสีขาวน้ำนม กระดูกไห้ปลาล้าเล็กๆที่น่ารัก  

เธอลุกขึ้นนั่งขยี้ตาเบาๆเพื่อเรียกสติ ก่อนจะเหล่สายตาหันไปมองเตียงข้างๆที่ว่างเปล่า...ใบหน้าที่ง่วงนอนตื่นเต็มตาทันที

เอ๋!

เรย์หายไปไหน!?

ภายในใจแอบตื่นตระหนก 

เธอหันไปมองเตียงฝั่งด้านขวาที่มีเอ็มม่ากำลังนอนน้ำลายไหล แขนขายื่นออกนอกผ้าห่ม ข้างๆเตียงเอ็มม่าคือนอร์แมนที่ลงนอนวางมือบนตัก ไม่ว่าจะนอนแบบไหนนอร์แมนตื่นมาก็ยังคงนอนเรียบร้อยอยู่แบบนั่น

เด็กคนนี้ช่างมีความสามารถจริงๆ 

เธอทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะชะงักนิดๆ เมื่อรู้สึกว่ามีแรงดึงบนเสื้อผ้าเอาไว้ ทำให้เธอรู้ว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ใต้ผ้าห่ม 

ฉันเปิดผ้าห่มบนตัวออกก่อนจะถอนหายใจ

'เรย์'ตัวน้อยที่หายไปจากเตียงข้างๆ กำลังนอนหลับอยู่ใต้ผ้าห่มของฉันนั้นเอง ใบหน้าด้านข้างที่งีบหลับดูสงบน่ารักเหมือนแมวนมตัวน้อย ทำให้เธอตัดสินใจปลุกไม่ลง  

ว่าแต่...

ทำไมเขาแอบมานอนที่เตียงเธอได้กันละ? 

เธอนั่งมองเงียบๆและจิ้มแก้มของเขาอย่างสนุก รู้สึกเพลิดเพลินไปกับความนุ่มนิ่มจนเคริ้ม 

"อื้อ.." เสียงครางเล็กๆอย่างรำคราณ พร้อมเจ้าของใบหน้าเด็กชายที่มุดลงบนเตียงเพื่อตัดปัญหา เด็กหญิงเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่วินาทีต่อมาจะยื่นนิ้วเล็กป้อมๆจิ้มบนใบหน้าอีกคนใหม่ 

เสียงหัวเราะคิกคักเล็กๆในห้องที่เงียบสงบไม่ได้ปลุกให้เด็กในห้องคนอื่นตื่นขึ้นมาดูเหตุการณ์ 

เอเลน่าที่แกล้งเรย์จนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว กำลังจะลุกขึ้น...

ทันใดนั้น


กริ่ง___งงง


"......"

เสียงระฆังดังขึ้นเธอถึงได้รู้ตัวเดียวนั้นเองว่าตัวเองเผลอนั่งเล่นแก้มของใครบางคนจนเวลาหมด


50%

มันเป็นวันที่ดี เมฆที่คมชัดและสีขาวเหมือนดอกตูมฝ้ายท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเหมือนไพลิน ไม่มีอะไรสามารถทำลายบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบ อย่างน้อยก็ยังไม่...

♩♬ อื้มม .. ♪♪ อือ ~ ♫

เสียงฮัมเพียงไม่เป็นเมโลดี้ของเด็กหญิงผมสีส้ม เรียกให้เด็กๆคนอื่นที่ทำกิจกรรมอยู่ต่างหยุดหันมามอง เอ็มม่าที่กำลังแสดงออกทางสีหน้าว่ามีความสุขเป็นอย่างมาก 

วันนี้เป็นวันที่นอร์แมนได้รับอนุญาตจากมาม๊าฮิซาเบลล่าให้ออกมาเล่นข้างนอกได้ เนื่องจากอาการไข้ของเขาดีขึ้นจนลุกเดินเล่นได้ปกติ 

เด็กสี่คนสี่สไตร์ร่วมกันอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เป็นกลุ่มเป็นก้อนนับตั้งแต่วันที่เผลอหลับในห้องพยาบาลวันนั้น นับจากวันนั้นมาทุกคนก็เห็นทั้งสี่คนสนิทสนมกันเรื่อยๆ 

เป็นภาพที่น่าเอ็นดูของพี่ๆในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า 

มันตลกเสมอที่เห็นขบวนเด็กสี่คนเดินตามกันไป ไล่เรียงจากสีดำ,เหลือง,ส้ม,เทา

เรย์เป็นเด็กคนแรกที่เดินนำด้วยใบหน้านิ่งๆ ตามด้วยเอเลน่าที่จับชายเสื้อผ้าของเรย์อย่างขี้เกียจ หนังสือที่เอามาก็ยังให้เรย์ถือ 

และเอ็มม่าที่ตามหลังเอเลน่ามาอีกทีอย่างตระตือรือร้น พยายามคิดว่าวันนี้จะเล่นอะไรกับทุกคนดี เธอเป็นหัวโจกของกลุ่มที่ชวนเพื่อนเล่นแพลงๆ 

ตบท้ายด้วยนอร์แมนที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนมองตามหลังทั้งสามคน นัยน์ตาของเด็กชายมองเพื่อนวัยเดียวกันด้วยความอบอุ่นดั่งเช่นทุกที 

ตอนนี้ฉันและเหล่าตัวเอกทั้งสามต่างเติบโตขึ้นจนอายุได้5ขวบมาหลายเดือนแล้ว และตอนนี้ก็เพิ่งผ่านช่วงฤดูหนาวไป สำหรับฉัน5ปีมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใกล้นับถึงเวลาตายเข้ามาทุกที..ทุกที 

เอ็มม่า เรย์และนอร์แมนที่เติบโตขึ้นมาก แต่ก็ยังเป็นหัวไซเท้าขาวตัวเล็กอยู่ ด้วยใบหน้ากลมแก้มป่องแดงระเรื่อที่ดูสุขภาพดี 

สำหรับฉันแล้วพวกเขาช่างน่ารักมากมายจนน่ารังแกเหลือเกิน... ความรู้สึกที่ว่าอยากหยิบมาขย้ำขยี้และกลืนลงท้องทั้งๆแบบนั้นน่ะ

จริงๆนะ

แก้มป่องขาวดูน่ากัดมาก.. ด้วยความคันไม้คันมือ ฉันเลยชอบหยิกแก้มของเอ็มม่าประจำด้วยความหมั่นเขี้ยว

ส่วนเรย์? รายนั้นไม่ยอมให้ฉันจับแก้มเขาอีกเลย(หลังจากมีครั้งแรกไป...)เขาหาว่าฉันแรงเยอะ กระซิกๆ ฉันเสียใจมาก เพราะเด็กที่ตัวติดฉันทุกวันนี้มาทำตัวตีห่างเพราะเรื่องแค่นี้(?) ฉันจึงต้องหาเหยื่อ-เอ้ย คนรายต่อไป..

และนอร์แมนที่เป็นคน(เหยื่อ)ต่อไป รายนั้นไม่ปรีปากบ่นทั้งที่หยิกจนแก้มแดง ยิ้มอบอุ่นทั้งน้ำตาเล็ด...

"......"

เอาเป็นว่า

ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ว่าอะไร แต่ฉันก็แกล้งต่อไม่ลง แค่ก! ...มีแค่เอ็มม่านี้แหละที่ทนไม้ทนมือฉันดี

"นี้ๆทางนี้นอร์แมน ฐานทัพลับของพวกเรา!" 

เอ็มม่าเป็นคนแรกที่วิ่งผ่านพุ่มไม้หนา ก่อนจะชี้ชวนไปทางต้นไม้และพุ้มหญ้ารอบๆ 

นอร์แมนดูตื่นเต้นกวาดสายตาไปทั่วอย่างสนใจ เขาเป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาข้างนอกในรอบหลายเดือนจึงสนใจทุกอย่าง  

ฉันที่โดนเรย์จูงมือมาหันไปมองรอบๆอย่างสงบ มันก็สถานที่ปกติเหมือนเดิมๆไม่ใช่หรอกเรอะ 

แต่เรื่องนั้นช่างเถอะ... เอเลน่าแอบเหลือบมองมือที่ถูกเรย์จับเอาไว้ วันนี้เรย์เกาะเธอเหนียวหนึบกว่าทุกที ตั้งแต่ก้าวออกจากในบ้านเขาก็ยังไม่ปล่อยเลย

นี่ยังไม่พูดถึงที่เขาแอบมาตีเนียนนอนบนเตียงเธออีกนะ

"พวกเรามีฐานทัพลับตั้งแต่เมื่อไหร่?"  เรย์เอ่ยถามคำถามที่ฉันสงสัยอย่างพอดี 

นั้นน่ะสิ ได้ข่าวว่าเธอเล่นชวนเปลี่ยนทีเล่นไปทั่วไม่ใช่เรอะ?

"ก็ตอนนี้ไง!"  เอ็มม่ายิ้มหวานตอบเสียงดังฟังชัด ดูไม่ละอายกับคำถามเมื่อครู่นี้เลย 

เรย์ : กะแล้ว..

ฉัน : สมกับเป็นเธอ...


หลังจากที่โดนพวกเราสองคนมองว่ายัยนี่ถ้าจะงี่เง่าไป เอ็มม่าก็พองแก้มอย่างโมโหแล้วบ่นให้พวกเรา ส่วนนอร์แมนก็ยืนหัวเราะแห้งๆเพราะเขาเดาออกแต่แรกแล้ว

"จริงสิ" 

วันนี้อากาศดีทำให้เธอนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เธออยากทำมานานแล้ว

"นี่ ทำไมพวกเราไม่ลองไปดูที่หนึ่งกันละ" 

"หืม?"

เด็กทั้งสามคนหันมามองผู้พูดอย่างงงๆ เอเลน่าแสร้งทำเป็นยิ้มตื่นเต้นก่อนจะตีเนียนเดินนำทุกคนไปที่'น่าสนใจ'

"ตามมาสิ!" 

แต่ทิศทางที่อีกฝ่ายกำลังไปมันคือทิศทางที่มาม๊าไม่ให้ไปนี่นา.. อย่าบอกนะว่าเอเลน่าคิดจะแหกกฏอีกแล้ว?

นอร์แมนกับเอ็มม่าจ้องมองแผ่นหลังของเด็กหญิงผมเปียอย่างสงสัย แต่ก็ยังคงติดตามไปอย่างเชื่อใจ เมื่อทุกคนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าตัวเองได้ เอเลน่าที่กำลังยิ้มอยู่ค่อยๆหุบลงพร้อมกับใบหน้าค่อยๆโดนเส้นผมบดบัง

มันน่าจะถึงเวลาแล้วล่ะ...

"....." 

เรย์ที่กำลังเดินตามรั้งท้ายกว่าเพื่อน เขาแอบเม้มริมฝีปากตัวเองเล็กน้อยเมื่อรู้ทิศทางที่กำลังจะไป ก่อนจะตัดสินใจรีบตามไปเพื่อไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง 

ให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขาคิดมันคือจริงหรือเท็จ

...

ลานที่มีกำแพงสูงตระหง่านและประตูเหล็กท็อปส์ซูรั้วสูง ประตูเหล็กมีมุมแหลมและมุ้งเหล็กป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้ามา และ...ยังป้องกันไม่ให้คนภายในได้ออกไป..

กึก

ปลายรองเท้าหนังเหยียบบนพื้นหญ้า เด็กทั้งสี่คนเดินทางไกลมาถึงสุดขอบของกำแพงที่มีประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ 

"ที่นี่...มันที่ไหนเหรอ?" เอ็มม่ากลืนน้ำลายเมื่อมาถึง เด็กหญิงผมสีส้มสอดส่องมองข้างในแต่ก็มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความมืด ประตูเหล็กสีดำน่ากลัว มันสูงตระหง่ามเหนือพวกเขาจนมองไม่เห็นข้างบน 

"มันคือประตูที่เชื่อมระหว่างภายในและภายนอกไงล่ะ" 

น่าแปลกที่คนที่คิดว่าจะตอบกลับไม่ใช่ซะอย่างนั้น 

เด็กชายเรือนผมดำสนิทเหมือนขนอีกา ผมปรกตาข้างหนึ่งเป็นคนตอบคำถาม นัยน์ตาสีดำอมม่วงมองผ่านกรงเหล็กเข้าไป พร้อมจับกรงเหล็กสีดำแน่น

เอ็มม่าไม่สงสัยว่าเรย์รู้ได้อย่างไร ในเมื่ออีกฝ่ายชอบอ่านหนังสือหาความรู้บ่อยๆ 

"...." เอเลน่าเหลือบมองไปที่เรย์อย่างสังเกต 

'เขารู้แล้วจริงๆด้วย' แล้วทำไมเรย์ถึงไม่เล่าให้เธอฟังกันเล่า...

เอ๊ะ หรือว่าพวกเรายังสนิทกันไม่พอ???  ก็ไม่นะ 

ฉันกอดอกทำท่าครุ่นคิด ไม่เข้าใจว่าทำไมเรย์ถึงไม่บอกเธอ 

"ข้างนอกเหรอ? ไม่เคยได้ไปมาก่อนเลย.." เอ็มม่าครางอย่างเศร้าใจ ทำให้ฉันอดยื่นมือลูบหัวเพื่อนตัวเล็กตัวเองไม่ได้ พวกเราตอนนี้อยู่ในวัยที่แก้มกำลังป่องดูน่าเอ็นดูสุดๆจนอดไม่ได้ที่จะหยิก 

ว่าแล้วก็ขอหยิกสักหน่อย

"ก็นะ ตั้งแต่เกิดมาพวกเราก็อยู่ที่นี่มาตลอดเลยนี่นา" เสียงหวานกล่าวแอบสัมผัสได้ถึงความเยาะเย้ยเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเป็นปกติ

นอร์แมนแอบมองเรย์และเอเลน่าที่ดูเหมือนแปลกไป แต่เขาไม่รู้ว่าแปลกไปที่ตรงไหน.. 

"แต่มาม๊าก็บอกอยู่ตลอดเลยนะ ว่าอย่าเข้าใกล้ประตูหรือรั้วที่อยู่ในป่าลึก เพราะว่ามันอันตราย" 

เอ็มม่าหันมามองเอเลน่า เพื่อนสาวที่เหมือนภาพวาดหรือเหมือนตุ๊กตาชั้นเลิศ หน้าตาน่ารักมีเรือนผมสีบลอนด์อ่อนยาวสลวย ปล่อยยาวถัทเเปียคลอเคลียไหล่ 

เอ็มม่าชอบเพื่อนหญิงคนนี้มาก เพราะเธอสวยเหมือนตุ๊กตา

"เรื่องนั้นน่ะ ไม่ใช่ว่าโกหกหรอกเหรอ?" ฉันพูดเสียงเบา แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวอะไร  

"ต้องโกหกอยู่แล้วสิ" เรย์ตอบเสียงไร้อารมณ์ สายตาสีเข้มดูมั่นใจอย่างมาก เหมือนเขารู้อะไรบางอย่าง มันอดทำให้เด็กหญิงผมบลอนด์ยื่นนิ้วเข้าไปจิ้มแก้มเขาเบาๆไม่ได้ 

เรย์ถอนหายใจก่อนจะจับมือคนข้างๆให้หยุดเล่น แต่เมื่อฉันจะดึงมือออกเรย์ก็ไม่ปล่อยซะงั้น 

 "อ๊ะ จริงสิ!" เอ็มม่าตาเป็นประกายเมื่อนึกอะไรได้

"นี่เอเลน่า! ถ้าได้ออกไปข้างนอกเธอจะทำอะไรเหรอ" เอ็มม่าหันมาเกาะแขนเอเลน่าที่ยืนข้างๆอย่างตื่นเต้น 

"ทำอะไรน่ะเหรอ..." ฉันเลิกคิ้วมอง 

สิ่งที่อยากทำเหรอ...

มองไปที่เรย์ก่อนจะนึกอะไรสนุกๆขึ้นมาได้ 

"อยากเป็นเจ้าสาวของเรย์...ละมั้ง?" เอ่ยตอบเสียงนิ่งอย่างไม่แน่ใจ ภายในใจคิดอีกอย่าง

"มันคืออะไรอ่ะ?" 

เอ็มม่ากับนอร์แมนและเรย์หันมามองอย่างงงๆ 

โดยเฉพาะเรย์ที่ถูกเอาชื่อเข้าไปเอี่ยวด้วย ดูเหมือนว่าเขาก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าสาวมันคืออะไรเช่นกัน 

"ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฟังดูดีนะ" เธออมยิ้มหยีตาเป็นสระอิให้พวกเขาไปเพื่อตัดบท 

แต่ภายในใจเธอกำลังหัวเราะขำก๊าก 

อยากรู้นักถ้าในอนาคตเรย์รู้ว่าเจ้าสาวคืออะไรเขาจะมีสีหน้าแบบไหน

"เหตุผลแค่เนี้ย!? แล้วทำไมต้องเป็นเรย์ด้วยล่ะ! เป็นฉันไม่ได้เหรอ???" เอ็มม่าพูดอย่างงงๆ เอ็มม่าไม่เข้าใจหรอกว่าเจ้าสาวคืออะไร แต่อาการหึงหวงเพื่อนสนิทมันกำเริบ

ฉันหันไปมองเอ็มม่าในใจแอบเหวอนิดๆ เห้ย!..ไม่ได้!? 

แอบเหลือบมองนอร์แมนฉบับย่อส่วนที่ยังยิ้มบริสุทธิ์อยู่

ฉันไม่อยากลองของหรอกนะ เดียวนอร์แมนในอนาคตได้หมายหัวเธอพอดี-แค่ก 

พูดเล่นหรอกน่า..อย่างนอร์แมนน่ะเหรอ หมอนั่นคงแอบไปร้องไห้สักทีแน่ๆถ้าเธอทำเอ็มม่าเปิดประตูใบใหม่

ในเฮาส์แห่งนี้คนที่เอ็มม่าเห็นว่าสนิทมากที่สุดก็คือเอเลน่า นอกจากจะอายุเท่ากันแล้วเธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันด้วย แต่ดูเหมือนว่าเอเลน่าจชอบคอยมองหาเรย์อยู่ตลอด เอ็มม่าจึงต้องเล่นกับเนอร์แมนแค่สองคนทุกที 

ถ้าเอเลน่ารู้ว่าเอ็มม่าคิดอะไร ถ้าบอกได้เธอคงบอกว่าที่คอยเฝ้าตามอยู่กับเรย์เพราะคอยจับผิดเจ้าตัวอยู่ต่างหาก 

เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าใครติดใคร เรย์ติดเธอหรือว่าเธอไปติดเรย์ แค่ก เอาเป็นว่าถ้าตามหาเรย์คือมีเธออยู่ที่นั้น

เพราะเรย์ชอบปริตัวไปอ่านหนังสืออยู่คนเดียว และเอเลน่าจะไปนั่งอ่านข้างๆมากกว่าออกไปเล่น จนบ้างครั้งเอ็มม่าก็รู้สึกอิจฉาเรย์ ถ้าไม่ติดว่าเธอเล่นหนังสือแล้วไม่สนุกละก็นะ.. ปานนี้คงไปร่วมแจมด้วยแล้ว

"ฉันก็ไม่ได้บอกว่าอยากได้นิ" เรย์บ่นพึมพำแต่ไม่มีใครสนใจ 

ในอนาคตเมื่อโตขึ้นกว่านี้ จะมีสองคนที่รู้ความหมายแท้จริงแล้วเกิดอับอายจนอยากหนีไปซุกในดิน... หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าไม่ใช่เอเลน่า

"ไม่รู้สิ แล้วเอ็มม่าล่ะ? เธออยากทำอะไร" ฉันจงใจเปลี่ยนหัวข้อ พร้อมไม่สนใจเรย์ที่หันมาขมวดคิ้วใส่เพราะไม่มีใครฟังเขา 

เอ็มม่าชะงักไปนิดก่อนที่ดวงตาสีเขียวจะเป็นประกายตื่นเต้นทันที  

"อยากขี่ยีราฟ! แล้วพาเอเลน่านั่งไปด้วยกัน"  

คำตอบที่ฟังดูสดใสมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก ไม่ถามด้วยซ้ำว่าฉันอยากจะไปนั่งด้วยหรือเปล่า-จะว่าไปฉันก็ไม่ถามเรย์ด้วยเหมือนกันนี่นา? 

ฉันกับนอร์แมนไม่รู้หรอกว่าขี่ยีราฟมันดูน่าสนุกยังไง 

เราสองคนมองเอ็มม่าแล้วอมยิ้ม มีเรย์คนเดียวที่ถอนหายใจเอ่ยเสียงรำคาณ "พยายามเข้าก็แล้วกันนะ" 

"....." เนอร์แมนที่ไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่มาถึง ดวงตาสีน้ำทะเลและเส้นผมสีขาวออกเทานิดๆ กำลังมองเข้าไปที่ประตูเหล็ก ก่อนจะยื่นมือไปแตะอย่างสงสัย  

"ประตูเหล็กนี่น่ะ มันใช้ปกป้องเราจากอะไรกันนะ?

คำถามของนอร์แมนทำฉันนิ่งเงียบ เธอยื่นมือออกไปจับเหล็กสีดำบ้าง หูก็ฟังนอร์แมนพูดถึงเรื่องโลกภายนอกกับเอ็มม่าและเรย์กันสามคน 

กลิ่นโลหะเก่าปนเปื้อนบนผ่ามือเมื่อยามจับแท่งเหล็ก 

เธอได้กลิ่นมัน กลิ่นเหม็นชวนอ้วก 

มันทำให้เธอนึกถึงอเล็ก.... ปานนี้เขาคง

"เอเลน่า~ ไปเล่นกันต่อเถอะ" 


เฮือก

ไม่รู้ว่าเผลอเหม่อไปนานเท่าไหร่ เอ็มม่าตะโกนเรียก พลางโบกมือให้เมื่อเห็นว่าเอเลน่ายังไม่วิ่งมา ส่วนนอร์แมนกับเรย์พวกเขาวิ่งนำออกไปแล้ว 

"จะไปเดี๋ยวนี้!" เธอตะโกน ก่อนที่จะหันหลังให้ประตูเหล็กสีดำตรงหน้า ผละออกไปตามหลังเพื่อนๆอีกสามคนเพื่อเล่นกันต่อ 

กึก

แต่ก่อนที่จะไปปลายเท้าได้เผลอหยุดชะงัก ดวงตาสีฟ้าหันกลับมามองความมืดมิดในประตูเหล็กเล็กน้อย เธอเลือกที่จะไม่บอกพวกเขา


ว่าจมูกเธอนั้นไวต่อกลิ่น 


กลิ่นของเลือด  




ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

8ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

8ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture