คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่2 ความสุขสงบ
กาลเวลาแห่งความสงบสุขหมุนเวียนผ่านไปจวบจนเข้าปีที่สามหลังการแต่งงาน
บนเตียงนอนกว้างขวางภายในเรือนของเฮ่อเหลียนยังคงมีสามีแสนดีอย่างหลี่ชางคอยเพิ่มความอบอุ่นกระชับอ้อมแขนโอบกอดอย่างแนบแน่นไม่ห่างหาย
“เหลียนเอ๋อร์ของข้า โตขึ้นอีกหนึ่งปีแล้ว”
เส้นเสียงแหบพร่าเอ่ยเบาๆ ที่ใบหูนาง ยามไล้ปลายนิ้วสำรวจเรือนร่างระหงที่งดงามเย้ายวนใจไม่สร่างซา
ไม่ว่าจะเป็นทรวงอกกลมกลึงเต่งตึงที่หยุ่นนุ่มและใหญ่ขึ้นจากปีที่แล้ว เอวเล็กคอดกิ่วไม่เปลี่ยนแปลง สะโพกผายโค้งเว้างามงอนละมุมมือไม่ต่างจากเดิม
“ผิวของเหลียนเอ๋อร์นุ่มเหลือเกิน หอมหวานเหลือเกิน” หลี่ชางกระซิบเสียงกระเส่ายั่วเย้านางใต้ร่างไม่รู้เบื่อ
“ท่านพี่...” เจ้าของผิวเนื้ออิ่มน้ำเขินอายเหลือเกิน ใบหน้าแดงซ่านไปหมด กระทั่งผิวพรรณของนางผุดผ่องนุ่มนิ่มอมชมพูระเรื่อไปทั่ว
เฮ่อเหลียนอยากจะตีมือคนช่างเย้าให้ออกห่างนัก แต่งงานกันมาสามปีแล้ว ทำกิจกรรมระหว่างกันมานับครั้งไม่ถ้วน ยังจะพูดจาเกี้ยวกันอีกหรือ?
“เช้าแล้ว ลุกขึ้นได้แล้วเจ้าค่ะ” หญิงสาวบอกกล่าวย้ำเตือนสามีอีกครา เมื่อเห็นได้ชัดว่าบางสิ่งที่กำลังแตะแต้มตรงโคนขาของนางกำลังร้อนผ่าวและขยายใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งยังเหมือนว่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“อีกประเดี๋ยวค่อยลุกก็ได้ นะ...” หลี่ชางเอ่ยคำเว้าวอน ส่งสายตาออดอ้อนคนงามผู้เป็นภรรยา เพื่อขอทำนางต่ออีกสักรอบหนึ่งก่อนลุกขึ้นไปทำงาน
“ท่านพี่...อื้ม” ยังมิทันได้ตอบรับ ริมฝีปากแดงช้ำก็ถูกประทับเพื่อช่วงชิงลมหายใจ
ร่างสูงของหลี่ชางไม่เคยผ่อนปรนต่อร่างระหงอ่อนนุ่มของเฮ่อเหลียนเลยสักครั้ง ในเมื่อนางคือภรรยาอันเป็นที่รักเพียงหนึ่งเดียวของเขา การมอบความรักให้ ย่อมมีเพียงนางที่ได้รับไป
ชายหนุ่มพลิกกายขึ้นคร่อม สองแขนตระคองกอด แล้วจูบหญิงสาวอย่างดูดดื่มอย่างเอาแต่ใจ ฝ่ามือกอบกุมที่เอวบาง เรียกเสียงครวญครางแว่วหวานผสานเสียงครางต่ำกระเส่าแหบพร่าอย่างสุขสมครั้งแล้วครั้งเล่า
เนิ่นนานทีเดียวกว่าสองสามีภรรยาจะได้เวลาลุกขึ้นจากเตียงนอนร้อนอุ่น แล้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวล้างคราบกลิ่นกรุ่นจนสะอาดหมดจด ก่อนพากันออกจากเรือนตน ไปยังเรือนกลางเพื่อกินอาหารกับนายท่านผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่า
เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องโถงกลางเรือน ก็เห็นผู้เฒ่าทั้งสองกำลังนั่งคุยกันอย่างชื่นมื่น
“คุยเรื่องใดกันอยู่หรือขอรับ ท่านพ่อท่านแม่” หลี่ชางเอ่ยถามเสียงทุ้มขณะประคองภรรยาให้นั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม
ฮูหยินผู้เฒ่าผินหน้ามาตอบบุตรชายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ฮูหยินซุนน่ะสิ ได้บุตรชายอีกหนึ่งคนแล้ว เพิ่งคลอดเมื่อวานนี้เอง นางแต่งเข้าบ้านซุนได้แค่ปีเดียวก็ได้ลูกชายแล้วถึงสองคน หัวปีท้ายปีเลยเชียว”
คำตอบยาวเหยียดของแม่สามีนั้นทำเฮ่อเหลียนต้องตัวเกร็งไปชั่วขณะ ก่อนจะกะพริบตามองสามี เห็นเขาตัวเกร็งไปชั่วขณะหนึ่งเช่นกัน
“แล้วเมื่อไหร่บ้านเราจะมีข่าวดีบ้างเล่า ข้าอยากอุ้มหลานชายเหลือเกิน” เสียงนี้เป็นเสียงของนายท่านผู้เฒ่า เขาเอ่ยกับบุตรชายและลูกสะใภ้ตามตรง
ภายในห้องอาหารพลันเงียบงันในบัดดล
เรื่องนี้มิใช่ว่าสองสามีภรรยาในวัยหนุ่มสาวจะไม่ตระหนัก แต่ทว่าแต่งงานกันมาเนิ่นนานแล้ว ร่วมรักอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่กระนั้นกลับยังไม่มีข่าวดีเสียที
ในท้องของเฮ่อเหลียนยังคงมีระดูตามปกติ ไม่เคยขาดเลยสักเดือนเดียว
ยาบำรุงมากมายก็มิใช่ว่าไม่หมั่นกิน ท่านหมอยังบอกว่านางร่างกายแข็งแรงดีทุกประการ
แต่กระนั้นสัญญาณชีพใดๆ ล้วนไม่ถือกำเนิดตรงท้องของนางเสียที
การกินข้าวร่วมกันของคนบ้านหลี่ยังคงดำเนินต่อไปเฉกเช่นทุกวัน ทว่ากลับมีความรู้สึกบางประการเพิ่มขึ้นมาบางเบา กระทั่งเข้มขึ้นทุกคราในทุกๆ วัน
ความรู้สึกนั้นมิใช่ว่าเฮ่อเหลียนไม่เข้าใจ ทุกวันนางยิ่งมีความรู้สึกกดดันของหน้าที่ที่ภรรยาพึงมี
การให้กำเนิดทายาทแก่วงศ์ตระกูล…
หญิงสาวไม่อาจไม่ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่นี้
แต่งงานมาเนิ่นนานปีแต่ยังไม่อาจทำหน้าที่สำคัญได้สมบูรณ์เสียที กระทั่งพ่อสามีและแม่สามีใช้สายตากดดันกันทางอ้อมมาไม่รู้กี่คราต่อกี่ครา จวบจนวันนี้ที่พวกท่านยกเรื่องของฮูหยินซุนมากล่าวอ้าง และมีคำถามตรงไปตรงมา
ความไม่สบายใจสายหนึ่งพลันบังเกิดขึ้นแก่เฮ่อเหลียน
คงอีกไม่นานความเปลี่ยนแปลงในบ้านหลี่คงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
หญิงสาวล้วนรู้แจ้งอยู่แก่ใจ สายตาคู่งามลอบชำเลืองไปมองสีหน้าของชายผู้เป็นสามี เห็นเขานั่งเงียบไป ไม่พูดไม่จา
มิรู้ได้ว่ากำลังคิดสิ่งใด?
ริมฝีปากพลันขบกันแน่น ชั่วจังหวะหนึ่งหัวใจของนางพลันเต้นแรงอย่างไม่อาจควบคุมได้
เฮ่อเหลียนกำลังหวาดหวั่นต่อชีวิตรักของเราสอง
นางกำลังกลัวเหลือเกิน...
นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค
|
ความคิดเห็น