ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มัดใจคุณ...อย่างเป็นทางการ : Officially be Yours

    ลำดับตอนที่ #4 : 1 ความใส่ใจแม้เพียงน้อยนิด 3/3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.17K
      6
      12 มี.ค. 67


    “เดินเก่งขึ้นเยอะแล้วนี่จ๊ะ”

    เมื่อได้ยินเสียง เจ้าตัวน้อยพยายามกระโดดบนพื้นหญ้าเทียมมาหาผู้มาใหม่ ส่วนเปรี้ยวหวานสนุกใหญ่ที่เจอเพื่อนต่างสายพันธุ์หลังจากไม่เห็นหน้าค่าตากันมาเกือบหนึ่งอาทิตย์

    “ครับนายหญิง กินเก่งด้วยนะครับ น้ำหนักมากกว่าตัวอื่นที่ฟักออกจากไข่วันเดียวกันครับ ผมว่าอีกหน่อยอาจจะอ้วนจนพุงห้อย”

    ‘น้องนก’ ที่คนงานในฟาร์มรวมถึงธรณ์กับทรายรุ้งเรียกตามเปรี้ยวหวานคือนกกระจอกเทศอายุราวหนึ่งเดือน แต่พิเศษกว่าลูกนกตัวอื่นๆ ตรงที่มีขาเพียงข้างเดียวตั้งแต่เกิด และเหตุเพราะฟาร์มแห่งนี้ใช้เครื่องฟักไข่แทนการให้แม่นกกระจอกเทศกกไข่ตามธรรมชาติ คนงานจึงผลัดกันเลี้ยง จากลูกนกที่ดูแล้วรอดแหล่มิรอดแหล่ กลายมาเป็นนกกระจอกเทศตัวอ้วนฉุที่ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา

    แม้รู้ว่าหากเลี้ยงต่อไป ถึงอย่างไรเสียลูกนกตัวนี้ก็ไม่ได้สร้างมูลค่าใดๆ ให้กับฟาร์ม ทว่านายสัตวแพทย์ธรณ์ไม่เสียใจเลยที่ในวันนั้นไม่ตัดวงจรชีวิตของลูกนกพิการด้วยวิธีการุณยฆาต น้องนกของเปรี้ยวหวานกลายเป็นขวัญใจคนทั้งฟาร์ม เป็นเพื่อนเล่นของลูกสาวเขา แถมมันยังสู้ชีวิตจนลบปมพิการไปจนหมดสิ้น

    “คิดถึงพี่ไหมคะ”

    เปรี้ยวหวานนั่งยองๆ เอียงหน้าเล็กน้อย มือป้อมลูบขนหรอมแหรมบนหัวเจ้านกบ้าง ลูบขนสีเทาแซมเหลืองตามตัวบ้าง เสียงยามถามเจ้านกนั้นอ่อนโยนไม่ต่างจากพูดกับน้องสาว

    “ธารณ์ล่ะ” ธรณ์ถามหัวหน้าคนงานพลางมองรอบๆ โรงเรือน ฟาร์มแห่งนี้ชายหนุ่มบุกเบิกขึ้นมาและมีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายก็จริง แต่งานดูแลฟาร์มโดยรวมเขายกให้เป็นหน้าที่ของน้องสาวร่วมบิดา “เข้ามาตั้งแต่เช้าแล้วครับ แต่เมื่อกี้ไอ้พวกนั้นวิ่งมาบอกว่าลูกค้ามาพบ นายธารณ์เลยรับรองลูกค้าในออฟฟิศครับ” ยิ่งยงรายงาน

    “อืม” ธารณ์บอกไว้บ้างแล้วว่าจะมีลูกค้าเข้ามาดูคุณภาพนกกระจอกเทศเองถึงฟาร์ม แต่เขาไม่คิดว่าจะมาเช้าขนาดนี้

    “พ่อขา เปรี้ยวหวานอุ้มน้องนกได้ไหมคะ”

    บทสนทนาระหว่างธรณ์กับยิ่งยงจบลงทันทีที่นายน้อยของฟาร์มเอ่ยเรียกแล้วถาม ขณะที่ในมือเล็กทั้งสองประคองลูกนกกระจอกเทศไว้แล้ว รอแค่พ่ออนุญาตก็พร้อมอุ้มเข้าอ้อมแขน

    “ได้ลูก”

    “ขอบคุณค่ะ”

    น้องนกเข้าสู่อ้อมกอดเปรี้ยวหวานโดยมีทรายรุ้งคอยประคอง สาวน้อยดูมุ่งมั่นกับการอุ้ม เจ้านกขาเดียวก็แสนเชื่อง มันมองเจ้าของอ้อมกอดนิ่ง ไม่วอกแวกมองอย่างอื่น

    “เปรี้ยวหวานมีชื่อตั้งให้น้องนกหรือยัง” เรียกกันแต่ว่า ‘น้องนก’ จนติดปากมาเป็นเดือน พอเขาถามทีไร ลูกสาวมักบอกว่าขอคิดก่อนทุกครั้งไป

    “ให้ชื่อน้องนกค่ะ เปรี้ยวหวานไม่เปลี่ยนชื่อแล้ว”

    “ถึงเปลี่ยนชื่อ อายงก็คงไม่ชินครับนายน้อย”

    คราวนี้เป็นยิ่งยงที่ออกความเห็นบ้าง ชายหนุ่มหยอกล้อกับนายน้อยอีกครู่หนึ่งจึงขอตัวไปตรวจโรงเรือนนกกระจอกเทศพ่อพันธุ์ ภายในคอกของน้องนกจึงเหลือเพียงเจ้าของฟาร์ม ภรรยาเจ้าของฟาร์ม และทายาทวัยสี่ขวบ

    “น้องนกต้องเข้าโรงเรียนไหมคะ”

    ทรายรุ้งหยิบใบมะขามที่ติดอยู่บนเส้นผมออกให้ลูก คงติดมาตั้งแต่เดินจากบ้านมายังโรงเรือนแน่แล้ว และที่เปรี้ยวหวานถามเรื่องโรงเรียนก็เพราะเดือนหน้าเจ้าตัวจะเข้าเรียนชั้นอนุบาลหนึ่ง

    “เข้าค่ะ โรงเรียนของน้องนกก็คือฟาร์มนี้ไงคะ มีอาธารณ์ อายง และก็พี่ๆ ในฟาร์มเป็นคุณครู”

    “โอ้โห ! น้องนกมีคุณครูเยอะแยะเลย”

    “ค่ะ ที่โรงเรียนของเปรี้ยวหวานก็มีคุณครูใจดีเยอะแยะเหมือนกัน” ไม่รู้วันแรกที่เข้าโรงเรียนใครจะร้องไห้กันแน่ ระหว่างเธอกับลูกสาว

    “พ่อขา” คราวนี้สาวน้อยถามพ่อบ้าง “น้องนกไม่มีพ่อแม่หรือคะ”

    “มีสิลูก แต่พ่อกับแม่ของน้องนกอยู่คนละที่ น้องนกเลยต้องอยู่กับอายง”

    ไข่ทุกฟองและลูกนกทุกตัวในฟาร์มมีการทำสาแหรกไว้ หากจะตามหาพ่อแม่ของน้องนกก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ไม่จำเป็นก็เท่านั้น

    “ถ้าพ่อกับแม่อยู่คนละที่ เปรี้ยวหวานต้องอยู่กับอายงไหมคะ”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×