ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธะรัก คู่ปรับร้าย

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่2 ออกเดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 62



    บทที่2 ออกเดินทาง

    บ้านบดินทร์นุกูล

    07.00น.วันศุกร์

    “กลัวฉันเบี้ยวรึไงวะสิงห์” พันตำรวจตรีศารทูลหรือสารวัตรเสือนายตำรวจหนุ่มสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบไพรีเอ่ยถามแฝดผู้น้องอย่างนายแพทย์สีหราชหรือหมอสิงห์สูตินารีแพทย์หนุ่มที่เคาะประตูอยู่หน้าห้องนอน หึ...คงกลัวเขาเบี้ยวทริปไปเที่ยวภูเก็ตครั้งนี้เหมือนที่เขาเคยบอกว่าจะไปร่วมทริปกับเดอะแก็งแต่เบี้ยวนัดทุกครั้งไป

    “แหง่ล่ะแกเบี้ยวมาสี่ห้าครั้งแล้วยังไงครั้งนี้ฉันต้องเอาแกไปด้วยให้เวลาอาบน้ำครึ่งชัวโมงเร็วๆ” นายแพทย์สีหราชเอ่ยบอกวันนี้เขาอุตส่าห์มาปลุกแฝดผู้พี่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่จะได้เจอใครคนนั้น

    “ที่อยากให้รีบเนี่ยเพราะจะได้ไปหาคะนิ้งล่ะสิ ชอบก็บอกๆไปดิวะฉันเห็นแกชอบคะนิ้งตั้งแต่ม.ต้นจนตอนนี้ยังไม่เคยบอกเขาเลย” ศารทูลเอ่ยอย่างเอือมระอาเขารู้ว่าน้องชายชอบเพื่อนสาวในกลุ่มแต่ไม่เคยบอกให้เธอคนนั้นรู้

    “สะเออะ ไปอาบน้ำเลยไปจะได้กินข้าวแม่กับพ่อและก็ยัยทรายรออยู่ให้ไว ชักช้าอยู่ได้” หมอหนุ่มเอ่ยบอกก่อนดันหลังพี่ชายเข้าไปในห้องแล้วมุ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเรื่องไม่อยากให้โดนคนรู้แกวมาล้อกัน

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา

    ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นสบายๆไม่ติดกระดุมข้างในเป็นเสื้อกล้ามกับกางเกงสีเทาของศารทูลเดินลงบันไดมาพร้อมกับสีหราชที่ใส่เหมือนกันแค่เปลี่ยนเป็นเสื้อสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสีขาวทำให้สัตวแพทย์หญิงสิรินทราหรือหมอทรายผู้เป็นน้องสาวถึงกับมองตาเป็นมัน

    “กรี๊ด พี่เสือพี่สิงห์หล่อเท่บึกบึนกันมากคร่า โอ๊ยน้องใจละลอย ทำไมหล่อๆแบบนี้เกิดมาเป็นพี่ชายของทรายด้วยเนี่ยเกิดเป็นสามีไม่ได้รึไง” สิรินทราเอ่ยบอกพร้อมทำหน้าแสนเสียดายพี่ชายเธอหล่อเป็นที่ต้องการของตลาดเธอไม่ได้คิดไปเองดาราบางคนยังต้องชิดซ้ายติดโพลอันดับหนึ่งสองหนุ่มฮอตที่สาวๆอยากกอดอยากจูบมาแล้วทั้งคู่

    “อย่าเว่อร์ยัยทราย แก่แดดจริง ๆ เรา” ศารทูลเอ่ยปรามน้องสาวที่ออกอาการโอเว่อร์จนเกินเหตุไม่น่าเป็นสัตวแพทย์เลยควรไปเป็นนักแสดงมากกว่าโอเว่อร์แอตติ่งมาเต็ม

    “แก่แดดที่ไหนน้อง26แล้วไม่ใช่16โตพอจะพูดเรื่องนี้ได้แล้ว” สิรินทราเอ่ยบอกก่อนจะโดนสีหราชใช้นิ้วดีดหน้าผากก่อนจะเดินไปนั่ง

    “เจ็บนะพี่สิงห์น้องจะฟ้องพ่อ พ่อขาดูพี่สิงห์สิคะรังแกทรายอ่ะ” สิรินทราหันมาฟ้องผู้เป็นพ่อก่อนจะต้องกินแห้วเมื่อบิดาเข้าข้างพี่ชาย

    “ก็เราเถียงพี่ๆเค้าก่อนนี่ ไงเจ้าเสือได้ยินว่าเมื่อคืนสาหัสเลยนี่กับคนร้ายนะเบาๆบ้างสิ” พลตำรวจโทสัตยาเอ่ยบอกก่อนจะหันไปพูดกับศารทูล หลังจากเมื่อเช้าเขาได้รับรายงานจากลูกน้องเกี่ยวกับการบุกจับแก็งค้ายาเสพติดเมื่อคืนที่บุตรชายคนโตเป็นหัวหน้าทีมว่าผู้ต้องหามีอาการบาดเจ็บสาหัสหลังจากต่อสู้กับศารทูล

    “มันกวนตีนผมก่อนนะพ่อ มาหาว่าหน้าหล่อๆแบบนี้คงอ่อนหัดให้ไปเป็นดาราดีกว่าตำรวจ ก็เลยจัดให้มันรู้ว่าผมเหมาะจะเป็นสยบไพรีไม่ใช่ดารา” ศารทูลเอ่ยบอกอย่างโมโหระดับตัวเด่นในชุดปฏิบัติการสยบไพรีแบบเขาถูกไอ้ลูกน้องปลายแถวพ่อค้ายาสบประมาทมันสมควรโดนแล้ว

    “หล่อแต่โหดเถื่อนซาดิสม์ สาวๆยิ่งชอบโอ๊ยพี่ชายของน้อง” สิรินทราเอ่ยขึ้นก่อนจะโดนหล่อแต่โหดเถื่อนใช้ซ้อมป้อนไส้กรอกเข้าเต็มปาก

    “กินไปเลยเรานะ แกด้วยสิงห์ถ้ารีบก็รีบๆกิน” ศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะหันไปพูดกับสีหราชที่นั่งตรงข้ามที่กำลังหัวเราะกับสภาพของน้องสาว

    “โหดจริง ๆอารมณ์เสียไรวะไม่ดีใจรึไงจะได้เจอคู่ปรับตลอดกาลในรอบหลายปี” สีหราชเอ่ยถามทั้งที่รู้คำตอบดีว่าเพราะชื่อคู่ปรับนี่แหละพี่ชายจึงอารมณ์เสีย

    “หึ แค่นึกถึงก็อารมณ์เสียแล้ว” ศารทูลเอ่ยบอก หึจะไปพักทำใจถึงถิ่นเขาแล้วยังมาว่าเขาอีกยัยเอเลี่ยนนั่น อกหักให้ตายเขาก็ไม่สงสาร ยัยผู้หญิงปากจัดนั่นแฟนทิ้งน่ะสมแล้ว

    “หึ เกลียดหนูอลินมาก ๆ ระวังจะได้มาเป็นสะใภ้แม่ล่ะ โบราณยิ่งว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้นเคยได้ยินมั้ย” แพทย์หญิงกานรวีเอ่ยบอกลูกชาย

    “ไม่มีทางครับแม่ ผมไม่เชื่อคำโบราณอะไรนั่นหรอก” ศารทูลเอ่ยบอกลงมือทานอาหารต่อแต่ประโยคต่อไปของมารดาทำให้เขาถึงกับติดคอ

    “แต่แม่ฟันธงได้เลยเรากับหนูอลินนะหนีกันไม่พ้นได้กันชัวร์ หมอกานต์คอนเฟิร์ม หมอกานต์ฟันธง” แพทย์หญิงกานรวีเอ่ยพลางทำท่าคล้ายๆหมอดูชื่อดังที่เห็นตามหน้าจอทีวี

    “แค่ก ๆ แม่คอยดูผมจะทำให้เห็นว่าแม่แค่หมอเดามั่วไม่มีทางเป็นจริงผมไม่มีทางเอายัยเอเลี่ยนนั้นเป็นเมียต่อให้โลกนี้เหลือผู้หญิงคนเดียวบนโลกเป็นยัยนั้นผมยอมบวชเป็นพระหรือเป็นเกย์ดีกว่า อิ่มแล้วฉันไปรอที่รถนะไอ้สิงห์รีบๆ” ศารทูลเอ่ยบอกด้วยความโหและบอกด้วยน้ำเสียงมาดมั่นก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้ทั้งสามส่ายหน้าอย่างเอือมระอา อะไรกันนักหนานะอริสากับศารทูลเนี่ย ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เบื่อบ้างรึไงกัน

    ท่าอากาศยานดอนเมือง

    09.30.น.

    “อลินทางนี้” เสียงเรียกทำให้อริสาที่เดินหากลุ่มเพื่อนเดินเข้าไปหาต้นเสียงทันที

    “คิดถึงพวกแกจังมาให้กอดหน่อย” อริสาเอ่ยบอกก่อนจะเข้าไปสวมกอดแพทย์หญิงสัตวแพทย์ปริมาหรือหมอปริมสัตวแพทย์คนสวยตามด้วยอนิกาหรือครูอุ้มครูสอนนาฏศิลป์สาวสุดเรียบร้อยแล้วเดินไปกอดอติกาหรือครูแอ้มครูพละสุดห้าวแฝดผู้พี่ของอนิกาจากนั้นจึงมาสวมกอดนลินญาหรือคะนิ้งมัณฑนากรสาวแว่นสุดสวยและตบท้ายด้วยการกอดแพนธีรา

    “พวกแกสบายดีกันป่ะโจ เต้ย ป็อบ แบงค์” หลังจากสวมกอดเพื่อนสาวจนพอใจแล้วอริสาก็หันมาถามเพื่อนชายที่ยืนยิ้มอยู่

    “ก็ดีนะถ้าคุณนายไม่หาเมียให้” บุญภัทรหรือแบงค์วิศวกรหนุ่มเอ่ยบอก

    “ฉันก็ดีแค่ต้องคอยสับรางให้สาวๆ” ตติยะหรือเต้ยเจ้าของโรงแรมหรูเอ่ยบ้างอย่างมั่นหน้า

    “สับราง...เชอะคอยดูจะโดนสับไอ้นั้นเจ้าชูนัก “ ปรัชชาวีหรือป็อบอัยการหนุ่มเอ่ยแทรก

    “นั่นดิวะฉันห่วงหนอนน้อยแกว่ะ ไอ้เต้ย” เรืออากาศเอกเจษฏาหรือผู้กองโจทหารอากาศหนุ่มเอ่ยในเชิงสบประมาทเพื่อนรัก

    “หนอนน้อยเหรองั้นแกก็ลูกหนอนเพิ่งเกิดแหละ” ตติยะเอ่ยสวนกลับอย่างโมโห

    “นี่พวกแกพวกเรายืนอยู่นี่ตั้ง6คนเกรงใจกันบ้างหนอนนงหนอนน้อยอะไร” อนิกาเอ่ยปรามพลางหน้าแดงระเรื่อ

    “ว่าแต่อีสองแฝดนรกคงไม่เบี้ยวนะ” อติกาเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสองหนุ่มเพื่อนซี้ยังมาไม่ถึง

    “กรี๊ด” เสียงปริมากรีดร้องทำให้ทุกคนหันไปมอง

    “ใครเหยียบหางแกวะปริม” อติกาถาม ปริมาไม่ตอบแต่ชี้ไม้ชี้มือไปที่ชายหนุ่มสองคนที่เหมือนจะธรรมดาแต่ความหล่อไม่ธรรมดาทุกสายตามองตามปลายนิ้วของปริมารวมถึงอริสาด้วยสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าอาจละลายใจสาวเกือบครึ่งสนามบินที่มองกันเหลียวหลังแต่เธอไม่อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นแน่นอน

    “เชอะทำเป็นเท่น่าหมั่นไส้ ไอ้เสือกระดาษเอ้ย” อริสาเอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้

    “มันหนักหัวเธอนักรึไงวะยัยเอเลี่ยนถูกทิ้ง” ศารทูลที่ได้ยินถึงกับต้องตอกกลับหึแค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วว่ามารดาเขามั่วสิ้นดีการเจอกันครั้งแรกในรอบ5ปียัยนี้ยังด่าเขาเลย



    เจอหน้าปุ๊บก็แยกเขี้ยวใส่กันปั๊บเลยคู่นี้555+ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×