ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NOTMUCH

    ลำดับตอนที่ #4 : [BIGGEST LIE] โกหกครั้งที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 57


    บทที่ ๔

     

     

    กระต่ายเรียก งูเหลือมยักษ์ เป้าหมายเดินลงมาเปิดประตูแล้วผมยืนยิ้มอยู่ในตู้โทรศัพท์มือ

    ขวาถือหวอด งูเหลือมยักษ์ ไอ้กอน กระต่าย เกดชื่อนกแก้ว ส่วนไอ้แดนนี่เป็นคิงคอง ชื่อพวกมันผมเป็นคนตั้งเองเลยนะจะบอกให้ เจ๋งป่ะล่ะ ส่วนมือซ้ายก็ถือโทรศํพท์เตรียมจะโทร

    “งูเหลือมยักษ์เรียกคิงคอง” ผมกดหวอด

    ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

    “ไอ้คิงคอง มึงอยู่ไหม”

    “กูรู้ว่างูเหลือมมึงไม่ได้ยักษ์ แล้วก็ไม่ต้องมาเรียกกูว่าคิงคอง” ผมยืนขำจนท้องแข็ง น้ำเสียง

    มันเหมือนไม่พอใจในชื่อที่มันได้รับเลย ตอนแรกมันอยากจะเปลี่ยนกับผม แต่ผมลงความเห็นแล้วว่าไม่มีใครเข้ากับชื่อนี้ได้เท่าผมอีกแล้ว

    “คิงคอง เวทจะไปถึงหรือยัง”

    “กูบอกว่าอย่าเรียกกูว่าคิงคองอีกประมาณ5นาที” ผมได้ยินเสียงมันถอนหายใจ แต่ก็ตอบ

    คำถามผมอยู่ดี

    “งูเหลือมยักษ์เรียก นกแก้ว โปรตีนเชคที่สั่งไป ไกล้มาถึงหรือยัง”

    “อีก10นาทีคาดว่าน่าจะไปถึงหลังจากเวทของคิงคิง”  เกดตอบกลับมาทางหวอด

    “งูเหลือมยักษ์เรียกทุกคน ขอบใจมาก เหลือมึงไอ้กระต่าย ส่งสัญญาณบอกรีแอคชั่นของ

    เป้าหมายให้กูด้วย”

    “กระต่ายเรียกงูเหลือม กูบอกไม่ถนัดกลัวเป้าหมายจับได้ กูส่งข้อความบอกมึงแล้วกัน”

    “โอเค”

     

     

    30 วินาทีต่อมา

    From I’Gorn – ไอ้ดินเปิดประตูรับกล่องเวทแล้ว กำลังทะเลาะกับเด็กส่งของอยู่

     

    To I’Gorn – มันทำไงต่อ

     

    From I’Gorn – ควักกระเป๋า

     

    จ่ายตังค์

     

     

    555 กูไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันยอมจ่ายตังค์ เดี๋ยวกูขอเขยิบเข้าไปไกล้อีกนิด กูไม่ค่อยได้ยิน

    หน้าเหมือนมันรู้สึกผิดว่ะ ด่าเขาซะยับ เด็กส่งของนี่หงอยไปเลย

     

    ผมหัวเราะก๊าก นึกสภาพหน้าเด็กส่งของที่หน้าสงสาร กับหน้าไอ้ดินโกรธหน้าดำคร่ำเครียด

    แต่จริงๆมันก็ยังใจดีอยู่นะครับ ยอมจ่ายตังค์ให้ของที่ตัวเองไม่ได้สั่งด้วย

    To I’Gornยังไงต่อวะ เร็วๆดิ๊

     

    From I’Gorn – มันส่งเด็กส่งของกลับไปละ

     

     5 นาทีต่อมา

     

    From I’Gorn – มันหงุดหงิดใหญ่เลยว่ะ ไม่รู้ใครอีกแล้วมากดออดหน้าบ้าน

    To I’Gornแล้วมึงอยู่ตรงไหนเนี่ย มันไม่เห็นมึงหรือไง

    From I’Gorn – นั่งเล่นเกมส์อยู่ห้องนั่งเล่น มันพึ่งเดินลงมาจากข้างบน

    กูแอบเขียนเอา ลำบากชิบ

    5 วิต่อมา

     

    From I’Gorn – 555555555555555555

    To I’Gorn – ??

    From I’Gorn – มึงนี่ก็บำรุงมันดีเนอะ มีเวทแล้วยังมีโปรตีนเชคตามมาด้วย

    To I’Gornของขวัญๆวันเกิดวันคริสมาสต์วันปีใหม่รอบเดียวไงมึง  20 กว่าลังเอง

    From I’Gorn – คิดดีเนอะ มันจะได้ไม่ต้องซื้อไปอีกปีเต็มๆ 555

     

    From I’Gorn – เวง มันหันมาถามกูว่ารู้ไหมว่าใครสั่ง

    To I’Gorn กำ กำ กำ มึงว่าไง

    From I’Gorn – กูบอกไม่รู้ มันหันไปด่าเด็กส่งของอีกแล้ว ไอ้เด็กส่งของบอกว่ามีคนเข้าไปสั่ง

    ในร้านให้มาส่งบ้านนี้ มันไม่รู้ใครเพราะมีคนสั่งต่อมาอีกที

    To I’Gorn เกดแม่งอัจฉริยะ

     

    From I’Gorn – ของมึงหมดหรือยังเนี่ย

    สัดดดดดด

     

    มันยังยกกล่องโปรตีนเชคไม่หมดเลย พิซซ่ามาอีกแล้วห้ากล่อง นี่ฝีมือมึงใช่มั้ย?

     

    To I’Gornเออ ของกูเอง เซอร์ไพรซ์ !!

    From I’Gorn – เออๆ อันนี้กูชอบ

    To I’Gorn แดกให้อร่อยนะคร้าบบบบ

     

    5 วินาทีต่อมา

    From I’Gorn – มันดึงคอเสื้อเด็กส่งพิซซ่าไว้ว่ะ คราวนี้ด่าหนักยิ่งกว่าใครๆเลยมึง

     5555 น่าสงสารชิบหายอ่ะ

    To I’Gorn ช่วยไม่ได้อ่ะนะ 

    From I’Gorn – เชี่ยละ คราวนี้มันถามเด็กส่งใหญ่เลย ไม่ยอมปล่อยไปไหนด้วย

    To I’Gorn มันจับกูไม่ได้หรอก กูใช้โทรศํพท์สาธารณโทรสั่ง ;P

    ผมวางโทรศัพท์ลงกับเครื่อง เดินออกมายืนอยู่หน้าตู้แล้วก็วอดบอกสถาณที่และเวลากับคนอื่นเพราะผมมีแผนต่อไปเรียบร้อยแล้ว แต่แล้วจู่ๆก็มีรองเท้าผ้าใบสีดำไซส์ราวๆสี่สิบห้ามาจอดอยู่ตรงหน้า ผมละสายตาจากโทรศํพท์ขึ้นมามองคนข้างหน้า ตั้งแต่เท้าขึ้นมาจนถึงใบหน้าโหดๆของไอ้ดิน

    แล้วโทรศัพท์ในมือของผมก็สั่นขึ้นมา

    From I’Gorn – เว้นเสียแต่ว่ามึงสั่งพิซซ่าจากร้านแถวๆนี้ เบอร์โทรศัพท์จากตู้แถวๆนี้น่ะสิวะ

     

     

    “ว่าไง”

     

     

    “วะว่าไง” ผมตีหน้าเซ่อ เหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด มันไม่รู้หรอกว่าผมเป็นคนสั่งอ่ะ แถมตู้

    โทรศัพท์แถวนี้ก็ไม่ได้มีแค่ตู้นี้ตู้เดียว (มองซ้าย) (มองขวา) เออ ตู้เดียวแล้วไงวะ

    “มาทำอะไรแถวนี้เหรอ” มันกัดฟันถาม ทั้งๆที่สีหน้าก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ามันรู้ว่าผมเป็นคนทำ

    “เดินผ่านมา”

    “ผ่านมาไกลจังนะ ให้ไปส่งบ้านไหม”

    “อ๋อ ไม่ต้องหรอกพี่ ผมเกรงใจ แค่14 กิโลเอง เดินกลับเองได้” อีกฝ่ายกระตุกยิ้ม เอามือมา

    จับข้อมือผมไว้แน่น ไม่ใช่แค่จับเฉยๆนะครับ แม่งบีบซะจนเจ็บอ่ะ แบบยังไงมึงก็ไม่รอดมือกูแน่อะไรทำนองนี้อ่ะ

    “จะให้ไปส่งดีๆ หรือจะไปอย่างเจ็บตัว” วินาทีนี้หน้าซีดปากสั่นแล้วครับผม ไอ้เชี่ยนี่หน้ากลัว

    ชิบหาย ผมละไม่น่ามาคนเดียวเลย น่าจะชวนให้เกดกะแดนนี่มาเป็นเพื่อน ดูตัวมันดิครับทั้งถึกทั้งมีกล้ามมีเนื้อ แล้วผมล่ะเด็กวัยรุ่นธรรมดาทั่วๆไป ออกกำลังกายมากสุดก็เตะบอลกับเพื่อนจะเอาอะไรที่ไหนไปสู้มัน

    “ไปก็ได้วะพี่ ไม่เห็นต้องขู่เลย”

    มันมองหน้าผมนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนจะให้แน่ใจว่าผมไม่หายไปไหนถึงปล่อยแขนแล้วเดิน

    นำไปที่รถ ไอ้ผมก็เดินกล้าๆกลัวๆตามมันไปนั่งเบาะคนขับ มองดูรอบๆรถเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่มีอาวุธอะไรซ่อนไว้ ไม่รู้มันคิดจะฆ่าหมักศพผมแล้วไปทิ้งสะพานลอยหรือเปล่า แต่มันคงไม่กล้าหรอก พ่อผมเป็นตำรวจ พ่อผมเป็นพ่อมัน แม่มันเป็นเมียพ่อผม 55555 (ยังมีเวลามาหัวเราะ)

    แล้วในที่สุดผมก็เข้ามานั่งข้างมันในรถ มันคาดเข็มขัดเสร็จเรียบร้อยหันมาเห็นผมยังนั่งนิ่ง

    มองมันเฉยๆมันเลยบอกสั้นๆว่า 

    “เข็มขัด”

    หน้าเหมือนโจรห้าร้อยอย่างมันเคารพกดจราจรกับเค้าด้วยว่ะครับ เหลือเชื่อเลยจริง

    ผมส่ายหน้าไปคาดเข็มขัดไป คิดแล้วก็อยากจะขำจริงๆ

    คาดไม่ทันเสร็จมันก็ขับรถออกมาจากบริเวณนั้นเร็วอย่างกับจะรีบไปลงนรก

    “โอ้ยยยยยย” ผมร้องเพราะหัวเกือบกระแทกกับคอนโซลรถ แต่เอามือบังไว้ทันแขนก็เลยโดน

    เต็มๆ เจ็บชิบ เข้าใจแล้วว่าทำไมมันถึงสั่งให้คาดเข็มขัด

    ผมหันมองมันเหวี่ยงๆ ไอ้ดินแม่งยกยิ้มเหมือนตั้งใจจะให้ผมเจ็บตัว

    “ขับรถช้าๆเป็นมั้ยวะ” ผมถาม

    “ลูกเขาตายขึ้นมาจะทำยังไง คนมีพ่อมีแม่นะเว้ย” ดราม่า ครับ ดราม่าใส่แม่งเลย

    “คนบ้าอะไรวะ ชอบใช้ความรุนแรง” บ่นกับตัวเองเบาๆ แต่ไอ้คนข้างๆมันหูดีเลยเบรกรถ

    อย่างกระทันหันแล้วหันมาทำหน้าหมาดุใส่ผม

    “แล้วคนสติดีที่ไหนสั่งของแพงๆมาให้คนอื่นจ่าย”

    ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่สนใจ

    “ใคร ที่ไหน ป๊าวววววววววววว” และไม่รู้ว่าเพราะความหมั่นไส้ หมั่นเขี้ยวหรือเกลียดชัง

    อะไรมันถึงได้เอามือมาจับหลังหัวผม โขกกับคอนโซลรถอีกรอบ คราวนี้เอามือบังไม่ทัน ผมรู้สึกได้เลยว่าหน้าผากตัวเองต้องเป็นรอยแดงชัวร์

    “โอ้ยยยยยยยยย ไอ้เวรดิน” อุ๊บส์ OXO

    “ว่าไงนะ ไหนพูดใหม่ดิ๊” ผมเอามือตัวเองคว้ามือมันออกจากหลังหัวผมก่อนเพื่อความ

    ปลอดภัย

    “ได้ยินชัดแล้วจะถามอีก” ผมเอามือลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ มันมองตามนิดหนึ่งเหมือนจะ

    เป็นห่วง แต่คนอย่างมันน่ะเหรอจะห่วงผม

    “เด็กปากจัด ฉันอายุมากกว่านาย อย่ามาเรียกไอ้เวร”

    “รู้แล้วน่า” ผมบ่น

    “รู้แล้วก็เรียกใหม่”

    “ครับ พี่ดิน” ผมพูดเบาจนแทบไม่ได้ยิน

    “ไม่ได้ยิน พูดใหม่”

    ไอ้บ้าเอ้ย !

    “ครับ พี่ดินครับ ชัดเจนไหมครับพี่” ผกระแทกเสียงประชด ไอ้เวรนี่อยากได้ยินนักก็ฟังจนหูแตกไปเลยไป

    “ดี ทีนี้ส่งโทรศัพท์มา” มันแบมือ ทำหน้าตากวนโอ้ย

    “ว่าไงนะ”

    “เอาโทรศัพท์มา ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง หรือต้องเอาหัวเคาะกับรถอีกรอบถึงจะเข้าใจ”

    ไอ้คนบ้า ไอ้ป่าเถื่อน ไอ้คนชอบขู่ ไอ้ตัวโต ไอ้มนุษย์กล้าม ไอ้ ไอ้ ไอ้

    “พึมพำอะไร ส่งมาเร็วๆ” มันย้ำ เลิกคิ้วให้ผม

    “อ่ะ เอาไป” ผมส่ง มันรับไปกดขยุกขยิกอะไรสักพักเสร็จแล้วก็โยนให้ผม รับเกือบไม่ทัน

     “ลงรถ”

    “ห๊ะ อะไรนะ” ผมเบิกตากว้าง นี่ไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม

    “บอกให้ลงรถ”

    “ผีบ้าอะไรเข้าอีกวะ”

    “จะลงดีๆ แค่อ้าปากแม่งก็เห็นลิ้นไก่

    “หรือจะลงอย่างเจ็บตัว” ผมตอบแทนแม่ง มันทำหน้าเหมือนภาคภูมิใจในคาแรคเตอร์อัน

    โดดเด่นหรืออะไรสักอย่างของตัวเองก่อนจะ ปลดล็อคที่คาดเข็มขัดให้ผม

    “ลง”

    “แล้วผมจะกลับยังไงอ่ะ นี่มันกลางป่านะเว้ย” มันส่งสายตาประมาณ

     กูไม่สน แล้วก็เปิดประตูให้ผม ด้วยความหงุดหงิดผมก็เลยลงรถ คนบ้าอะไรวะ นึกจะให้ขึ้นก็ขึ้น นึกจะให้ลงก็จะ ลง ลง ลง ประสาทเสียชิบหาย ผมเลยลงมายืนหน้าหงิกทำหน้าบึ้ง แล้วก็ปิดประตูรถมันเสียงดัง โครม!ขอให้หมาวิ่งข้ามถนน หักรถหลบลงชนต้นไม้ข้างทาง

     

    รถมันวิ่งออกไปจนลับสายตา ผมยืนทำหน้างงๆอยู่ที่เดิมจนกระทั่งมีเสียงข้อความเข้าจาก

    ชื่อคนที่ผมจำได้ว่าไม่เคยเมมชื่อใครไว้แบบนี้

     

    From สุดหล่อ : สมน้ำหน้า ไอ้เด็กแสบ

     

     

    ไอ้ … !!!  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×