ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปรากฏว่าเป็นรัก

    ลำดับตอนที่ #37 : แจ้งให้ทราบ

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 67


    การเดิทางไกลครั้งแรกตั้งแต่ที่มาสฟ้าสูญเสียนิมิตไปอย่างถาวรนั้นทำให้หัวใจของมาสฟ้าเต้นไม่เป็นส่ำ ประหม่าเกินกว่าที่จะจัดการความรู้สึกที่ท้วมท้นของตัวเองได้ ก่อนหน้านี้มาสฟ้าจะไม่สบายใจเวลาที่ต้องออกไปข้างนอกเพราะรู้ว่าคงเลี่ยงที่จะเห็นนิมิตมากมายได้ยาก แต่ยามนี้ทุกอย่างรอบตัวของเธอเงียบสนิทแต่กลับไร้ซึ่งความสบายใจ ไม่เหมือนอย่างที่เธอเคยจินตนาการเอาไว้ว่าชีวิตที่ไร้นิมิตรบกวนนั้นจะเป็นแบบไหน

    “เป็นอะไรครับ เงียบตั้งแต่ออกมาจากบ้านแล้ว” อู่อี้เทียนที่สังเกตเห็นความผิดปกติของคนรักนั้นกระซิบถาม ตั้งแต่ที่พวกเขาออกจากบ้านของมาสฟ้านั้นหญิงสาวก็เงียบลงไปแปลกๆ แม้ว่าเจ้าหล่อนนั้นไม่ใช่คนช่างพูดเป็นทุนเดิมแต่ท่าทางของมาสฟ้าก็อดที่จะทำให้เขาเป็นห่วงเธอไม่ได้ “คุณบอกผมได้นะ”

    “เปล่าค่ะ แค่แปลกๆ” มาสฟ้ากวาดตามองรอบกาย เครื่องบินส่วนตัวลำนี้เป็นของครอบครัวของอู่อี้เทียน ซึ่งมาสฟ้าไม่อยากจะถามรายละเอียดเรื่องการเดินทางในครั้งนี้ เพราะคิดว่าถามไปก็เท่านั้นเพราะยังไงเธอก็ต้องไปเซี่ยงไฮ้พร้อมกับเขาอยู่ดีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ลึกๆ มาสฟ้าก็รู้ว่าที่ทุกอย่างถูกจัดการอย่างอยู่บนเงื่อนไขของความปลอดภัยของเขาและตัวเธอเป็นที่ตั้ง “ซีเฉินอยู่ไหนเหรอคะ”

    “เขาอยู่อีกห้องครับครับ ห้องโดยสารนี้มีแค่เรา” ตอนที่อู่อีเทียนตอบมาสฟ้าก็เหลือบมองประตูที่กั้นระหว่างห้องโดยสารสองห้อง แล้วพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงรับรู้ก่อนจะถอนหายใจยาว จากนั้นจึงเอนหลังทิ้งน้ำหนักตัวเข้ากับที่นั่งอย่างไร้เรี่ยวแรง อู่อี้เทียนที่เห็นท่าทางเหน็ดเหนื่อยของคนรักก็อดที่จะเป็นห่วงมาสฟ้าขึ้นมาอีกหนไม่ได้ พาลคิดไปไกลว่าที่หญิงสาวเป็นเช่นนี้คงเพราะว่าเธอต้องมาอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่มีคนมากมาย จึงถูกรบกวนด้วยนิมิตเกินจำเป็น “ผมขอโทษ ผมนึกว่าผมกันซีเฉินไปอยู่อีกห้องแล้วคุณจะไม่เห็นนิมิต”

    “ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกค่ะอี้เทียน” มาสฟ้าหลุดขำ เอ็นดูความพยายามของชายคนรักจนอดที่จะสอดมือเข้าไปในอุ้งมือสากระคายของเขาไม่ได้ นิ้วมือทั้งห้าของทั้งคู่ผสานเข้าหากันเป็นเนื้อเดียวแต่อู่อี้เทียนก็ยังไม่พอใจเขาจึงยกมือของมาสฟ้ามาประทับจูบหนักที่หลังมืออีกหลายครั้ง ก่อนจะกดมันแนบต้นขนแกร่งของตัวเอง “แค่รู้สึกแปลกๆ น่ะค่ะ ไม่รู้จะบอกยังไงเหมือนกัน”

    “อย่างนั้นไม่ต้องเล่าก็ได้ครับ” อู่อี้เทียนที่อยากรู้หนักหนาก่อนหน้านี้เสนอทางออกให้คนรักเสร็จสรรพ “แต่ถ้ามีอะไรบอกผมได้เลยนะ โอเคไหม”

    “ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรฉันจะบอกคุณคนแรก”

    “ผมคุยกับเวยหลงแล้ว เราจะอยู่ที่บ้านในเมืองของเขา” เมื่อมาสฟ้าไม่พูดต่ออู่อี้เทียนก็ยกเรื่องอื่นขึ้นมาเล่า หวังให้มาสฟ้าคลายความตึงเครียดลง “ที่บ้านจะมีแค่เรา”

    “คุณพ่อกับคุณแม่คุณล่ะค่ะ” มาสฟ้าหรี่ตา ในใจรู้สึกว่านี่เป็นแผนของอู่อี้เทียนที่ต้องการจะอยู่กับเธอเพียงลำพัง แม้ว่าปากจะบอกว่าเพื่อเลี่ยงไม่ให้เธอเห็นนิมิตรบกวน แต่สำหรับมาสฟ้าแล้วเธอก็ยังรู้สึกว่ามันฟังไม่ขึ้นอยู่ดี อีกอย่างตอนนี้เธอก็ไม่มีนิมิตแล้วถึงอู่อี้เทียนจะยังไม่รู้ก็เถอะ “ท่านไม่อยู่กับเราด้วยเหรอคะ”

    “คุณอยากให้ท่านอยู่ด้วยเหรอ?” อู่อีเทียนเหล่มองหน้างามหยดข้างตัวด้วยสายตาพราวระยับ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มของเขาทำให้มาสฟ้ารู้สึกหมั่นไส้จนอดไม่ได้ที่จะหยิกหมับเข้าที่หน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาแรงๆ หนึ่งทีจนอีกฝ่ายร้องลั่น “โอ๊ย!”

    “อย่ามารอบจัดกับฉันนะอี้เทียน” มาสฟ้าเอ่ยลอดไรฟันอย่างคาดโทษ ผิดกับคนโดนคาดโทษที่หัวเราะลั่น ลืมเจ็บที่โดนหยิกไปเมื่อครู่เป็นปลิดทิ้ง

    “ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมตั้งใจจะพาคุณขึ้นเตียงน่ะ อย่าบอกนะว่าลืม”

    “ไม่มีใครลืมได้หรอกค่ะ” มาสฟ้ามองค้อน “อีกอย่างก็ไม่มีใครบ้าพอที่จะบอกว่าอยากพาฉันขึ้นเตียงตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากันด้วย ฉันคงไม่จำคุณสลับกับคนอื่นหรอก”

    “ดีจัง” อู่อี้เทียนกระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วยกมือของมาสฟ้าขึ้นจูบหนักๆ ติดกันอีกหลายครั้งเกินกว่าจะห้ามใจ “ไม่น่าเชื่อว่านอกจากผมแล้วจะไม่มีคนอื่นที่รักคุณ”

    “ก็คงจะมีคนพิศวาสฉันอยู่บ้างแหละค่ะอี้เทียน เพียงแต่ไม่มีใครไร้มารยาทเท่าคุณ เขาเลยไม่พูดออกมา” มาสฟ้าพึมพำ แล้วพริ้มตาหลับด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าโดยมีอู่อี้เทียนช่วยจัดท่านอนและห่มผ้าห่มให้เธอเสร็จสรรพ

    “งั้นก็เป็นโชคดีของผม” เสียงทุ้มกระซิบชิดขมับของมาสฟ้า ก่อนตามมาด้วยการประทับจูบหนักๆ จนมาสฟ้านั้นแอบหัวโยกไป แต่เธอก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเพราะเคยชินแล้วกับรสจูบหนักๆ ของคนข้างตัว จนบางทีมาสฟ้าเองก็ยังแปลกใจกับตัวเองเหมือนกันว่าอะไรหนอที่ทำให้เธอรู้สึกคุ้นคิดกับความเป็นเขารวดเร็วขนาดนี้

    แต่มาสฟ้าก็ปลงเพราะตั้งแต่ที่อู่อี้เทียนขวางนิมิตของเธอแล้วรักษาชีวิตรอดมาได้ไม่ตายเหมือนอย่างนิมิตที่เธอเห็น มาสฟ้าก็แอบแยกอู่อี้เทียนเอาไว้ในตำแหน่งแห่งที่ที่ใครก็ไม่สามารถเฉียดเข้าใกล้ได้แม้แต่ปลายก้อย เขาที่เป็นคนแรกที่ทำให้มาสฟ้าตั้งคำถามกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตั้งแต่เขากลับเข้ามาในชีวิตเธอกระทั่งวันนี้ที่เธอปราศจากนิมิตโดยสิ้นเชิง มาสฟ้าก็ยังมือแปดด้านไม่มีคำตอบให้ตัวเอง เว้นแต่ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยยามที่มีเขาอยู่ข้างกายที่ช่วยให้เธอไม่เสียสติ หญิงสาวก็ไม่รู้จริงว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขานั้นมันคืออะไรกันแน่ หรือจริงๆ เธออาจจะรู้แต่ยังไม่กล้ายอมรับกับตัวเองเธอก็ไม่แน่ใจ

    การเดินทางของทั้งคู่นั้นถึงที่หมายปลายทางตามกำหนด โดยที่อู่อี้เทียนนั้นตื่นขึ้นและเดินมาสั่งงานซีเฉินและทีมบอดี้การ์ดของเขาก่อนที่เครื่องจะลงจอด ขณะที่มาสฟ้านั้นยังพริ้มหลับอยู่ภายในห้องโดยสารอีกห้อง

    “กระเป๋าเดินทางของเหมือนฝันให้ส่งไปที่บ้านใหญ่ ฉันกับมาสฟ้าจะพักกันในเมืองก่อน” อู่อี้เทียนสั่ง สีหน้าของเขานั้นคล้ายมีเรื่องกวนใจเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยสั่งงานต่อ “คงต้องบอกแม่ก่อนว่าเราจะไม่เข้าไปบ้านใหญ่เลย เรื่องนี้ฉันจัดการเอง”

    “ครับ”

    ซีเฉินเห็นด้วย ก่อนนี้คุณเฟยหรงก็โทร.หาเขาหลายครั้งต่อหลายครั้งเรื่องกำหนดการเดินของเจ้านาย กระทั่งมั่นใจว่าอู่อี้เทียนและมาสฟ้ามุ่งหน้าไปสนามบินจริงๆ ท่านจึงยอมรามือ ไม่โทรมากดดันเขาและทีมอีก นี่หากรู้ว่าลูกชายสุดที่รักของตนคิดลีลาจะยังไม่เข้าไปที่บ้านใหญ่ของตระกูลเจ้าทันทีที่มาถึงเซี่ยงไฮ้ ซีเฉินไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น สู้ปล่อยให้อู่อี้เทียนจัดการเรื่องนี้เองดีกว่า

    “ก่อนนี้ไม่มีโอกาส แต่คนของเราที่ติดตามคุณท่านกับคุณผู้หญิงแจ้งมาว่าที่บ้านใหญ่ตระกูลจ้าวค่อนข้างวุ่นวายเลยครับ”

    “แม่ก็เอาไม่อยู่เหรอ” เรื่องสร้างความปวดหัวนั้นเป็นความสามารถพิเศษของตระกูลจ้าวอยู่แล้ว อู่อี้เทียนจึงไม่แปลกใจที่ได้ยิน

    “คุณเฟยหรงกับคุณซ่งเหยี่ยนไม่ได้ใส่ใจอะไรพวกเขาครับ แต่ผมเดาว่าคุณเวยหลงกับคุณเหมือนฝันคงโดนเล่นงานไม่น้อยเลย”

    “อ้อ งั้นก็เป็นโชคร้ายของพวกเขา” อู่อี้เทียนว่ายิ้มๆ มั่นใจว่าการที่แม่ของเขาและอาที่แสนจะห่างเหินนั้นเลิกที่จะเพิกเฉยใส่ญาติคนอื่นๆ พวกท่านคงคิดมาดีแล้ว ว่านี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพราะอย่างไรก็ยังไม่ทันได้เปิดพินัยกรรม คงต้องไว้หน้ากันบ้าง แต่เมื่อจ้าวเวยหลงและเหมือนฝันไปถึงที่นั่นแล้วคนพวกนั้นคงไม่ยอมนิ่งเฉย เล่นงานแม่ของเขาจ้าวซ่งเหยี่ยนไม่ได้ เหยื่อรายต่อไปก็ย่อมต้องเป็นจ้าวเวยหลงและเหมือนฝัน ทายาทที่ชอบธรรมของจ้าวลี่หยาง “งั้นยิ่งไปที่บ้านใหญ่ไม่ได้ ให้คนจัดการทุกอย่างแล้วใช่ไหม เรื่องความสะอาดเวยหลงบอกฉันว่าให้คนมาจัดการตั้งแต่ก่อนงานศพ”

    “ผมเดาว่าอย่างนั้นครับ ทีมของตระกูลจ้าวจัดการทุกอย่างได้ดีมาก” ซีเฉินเอ่ยรายงาน ตั้งแต่ที่เจ้านายของเขาต้องมาติดต่อกับจ้าวเวยหลง เขาก็ต้องพลอยทำงานร่วมกับตระกูลจ้าวไปด้วย แม้ว่างช่วงแรกๆ นั้นจะตะกุกตะกักอยู่บ้างแต่ความเป็นมืออาชีพของตระกูลจ้าวเป็นสิ่งที่ซีเฉินต้องยอมรับจริงๆ “แล้วก็มีเรื่องของตระกูลจ้าวสายรองที่ผมคิดว่าคุณต้องรู้”

    “เรื่องอะไร?” อู่อี้เทียนเหลือบมองหน้ามือขวาของตน ดวงตาคมกริบของเขานั้นวาววับเมื่อได้ยินคำว่า ‘สายรอง’ ต้องยอมรับว่าแม้จะไม่เคยคิดนับญาติแต่เมื่อรู้ว่าตนคงเลี่ยงที่จะเข้าร่วมการเปิดพินัยกรรมที่ใกล้จะมาถึงไม่ได้ อู่อี้เทียนก็ทำการบ้านเกี่ยวกับบรรดาญาติฝ่ายแม่ทั้งหมด และต้องบอกตามตรงว่าเขาไม่ไว้ใจคนพวกนี้เลย แม้จะเป็นตระกูลจ้าวเหมือนกันแต่อะไรอะไรกับต่างกันอย่างสิ้นเชิง คงเพราะจ้าวลี่หยางคุณตาของเขานั้นให้ความรู้สึกอย่างนักธุรกิจเขี้ยวลากดินที่งมงายเรื่องไสยศาสตร์ ขณะที่น้องชายของท่านคนนี้เป็นพวกที่ไม่เชื่ออะไรและไม่ยึดโยงกับสิ่งใดๆ จึงทำให้คาดเดาอุปนิสัยได้ยาก มันชวนให้คิดว่าเขาพร้อมที่จะทำได้ทุกอย่างไม่สนวิธีการขอเพียงให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ

    หากเป็นเวลาอื่นอู่อี้เทียนคงไม่สนใจอะไรเขามาก ติดแค่ว่าตอนนี้สิ่งที่ชายคนนี้ต้องการคือตำแหน่งผู้นำตระกูลจ้าวของจ้าวเวยหลง เขาจึงต้องระมัดระวังตัวให้มาก

    ก่อนที่อู่อี้เทียนจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเสียงประกาศว่ากัปตันกำลังจะลดระดับการบินลงเพื่อเอาเครื่องจอดก็ดังขึ้นเสียก่อน ชายหนุ่มจึงต้องผละจากทีมของเขาเพื่อกลับมาหาห้องโดยสารส่วนตัวของเขาและมาสฟ้า เมื่อก้าวพ้นกรอบประตูอู่อีเทียนก็เห็นรอยยิ้มง่วงงุนของมาสฟ้า เธอยกมือขึ้นมาขยี้ตาอย่างคนที่อาลัยกับห้วงนิทราของตัวเอง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำนั้นของเธอทำให้ท้องไส้ของอู่อี้เทียนปั่นป่วนแค่ไหน

    “ตื่นแล้วเหรอครับ โทษทีนะ” ชายหนุ่มรีบข่มความรู้สึกในหัวของตัวเองด้วยความรวดเร็วขณะพุ่งตัวไปยังที่นั่งข้างตัวมาสฟ้า

    “ขอโทษทำไมคะ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” มาสฟ้าว่าเสียงอู่อี้เทียน ขณะที่ขยับตัวลุกนั่งหลงตรงเมื่อชายหนุ่มปรับเบาะที่นั่งของเธอ เงยหน้าดูที่บานประตูมาสฟ้าก็เห็นว่าแอร์โฮสเตสคนสวยกำลังเดินเข้ามาเพื่อดตรวจเช็กความเรียบร้อยของห้องโดยสาร เมื่อเจ้าหล่อนว่าทั้งเธอและอู่อี้เทียนนั่งอยู่บนที่นั่งทั้งยังคาดเข็มขัดเรียบร้อย จึงแค่ผงกหัวส่งให้มาสฟ้าแล้วผละออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา จนมาสฟ้าอดที่จะเย้าคนข้างตัวไม่ได้ “คุณแย่งงานแอร์ฯเขาทำจนหมดแล้ว”

    “เรื่องความปลอดภัยของคุณเห็นหน้าที่ของผม” อู่อี้เทียนตอบห้วนๆ แต่สีหน้าของเขานั้นจริงจังจนมาสฟ้าต้องเหลือบมองเชิงถามและดูเชิงว่าเขากำลังพูดเล่นหรือจริง แต่หันไปเห็นสายตาดุดันของชายหนุ่มเธอก็รู้ได้ว่าเขากำลังจริงจังสุด

    “ฉันดูแลตัวเองได้ค่ะอี้เทียน” มาสฟ้าเองก็รู้สึกเหนื่อยแทนเขาไม่ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เห็นนิมิตแล้วแต่มาสฟ้าก็รับรู้ได้ถึงความเครียดที่แผ่ออกมาจากตัวของเขาได้ เธอรู้ว่าการมาเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เขาเครียดมาก แต่ก็เลี่ยงที่จะไม่มาไม่ได้ด้วยเหมือนกัน และเหตุผลก็คงเป็นเพราะเงื่อนไขของพินัยกรรมที่เขาบอกเธอนั่นแหละ แต่เมื่อชายหนุ่มยังคงเหลือบมองเธอด้วยสายตากังขาไม่ยอมคล้อยตามคำพูดของเธอง่ายๆ มาสฟ้าจึงต้องเอ่ยย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม “ฉันพูดจริงๆ นะคะ”

    “ผมรู้ครับว่าคุณดูแลตัวเองได้ แต่ผมชอบดูแลคุณเองมากกว่าไง” อู่อี้เทียนยิ้มเอาใจคนรัก ก่อนเอื้อมมือไปจับมือของหญิงสาวเอาไว้ “คุณช่วยอนุญาตให้ผมดูแลคุณได้ไหมครับ คุณมาสฟ้า”

    “นี่คุณกำลังขออนุญาตฉันเหรอคะ”

    “เปล่าครับ ผมกำลังแจ้งให้ทราบ”

     

     

    ฮะฮะ ศรีชักจะขำไม่ออกแล้วสิคะคนดี ไอ้หนุ่มนี่มันแผนสูงชัดๆค่ะ // กำหมัด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×