คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : 6 เปิดตา เปิดใจ 5/6
“ขวัญอ่อนจัง” ธตรัฐส่ายหน้าน้อย ๆ
ก่อนยกมือข้างที่ถือบัตรขึ้นวางบนศีรษะคนขวัญอ่อนแล้วยีผมนุ่มสลวยเบา ๆ
มานิลารับรู้ถึงการทำงานผิดปกติของร่างกายโดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจกับระบบไหลเวียนโลหิต
มันผิดปกติในแบบที่เธอคิดว่าหมอเก่ง ๆ
ที่ไหนก็ไม่สามารถวิเคราะห์และประมวลสาเหตุได้
มีใครเคยบอกเขาหรือเปล่าว่าถ้าไม่คิดอะไรด้วยอย่าลูบผมผู้หญิงแบบนี้
คนคิดมากไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากสมองตื้อ
ๆ เขาคงคิดแค่ว่าเธอเป็นติวเตอร์ของน้องสาว เป็นลูกศิษย์ของแม่
เลยต้องตามไปส่งให้ถึงที่
...ก็เท่านั้น
“บัตรนี่ของคุณ มันเป็นบัตรรายเดือน
ผมซื้อเติมให้คุณห้าสิบเที่ยว ทีนี้ก็ไม่ต้องนั่งรถเมล์แล้ว นั่งไปนั่งกลับเล่น ๆ ก็ยังไหว”
“เอ่อ เท่าไรคะ”
เธอเบี่ยงกระเป๋าสะพายมาด้านข้างแล้วรูดซิปหยิบกระเป๋าเงินออกมา
“เก็บไว้เถอะ ผมให้ เรามีกันคนละใบ
ถ้าวันหลังคุณไม่ให้ผมขับรถไปส่งอีกเราก็นั่งรถไฟฟ้าเอาก็แล้วกัน”
“แต่มันน่าจะหลายบาท...”
“เถอะน่า”
เขาแทรกขึ้นแล้วยัดบัตรสีส้มขนาดเล็กกว่าฝ่ามือนิดเดียวลงในมือหญิงสาว “ไปกันเถอะ
ผมรู้ว่าคุณไม่อยากเห็นหน้าผมนานนักหรอก”
ธตรัฐสาวเท้าไปยังทางเข้าแล้วยักคิ้วข้างหนึ่งให้
มานิลาจึงต้องเดินตามอย่างเสียไม่ได้
เขาพาเธอขึ้นมาถึงชานชาลาซึ่งมีผู้โดยสารคนอื่น ๆ
ยืนรออยู่ก่อนแล้วเกือบเต็มพื้นที่ ไม่นานก็เห็นไฟสีเหลืองดวงใหญ่สองดวงใกล้เข้ามาเรื่อย
ๆ เจ้ารถไฟฟ้าขบวนยาวค่อย ๆ ชะลอความเร็วลง
ก่อนจอดนิ่งสนิทแล้วเปิดประตูให้ผู้โดยสารก้าวเข้าด้านใน
ชายหนุ่มสอดมือเข้าไปในมือนุ่มนิ่มของคนข้าง ๆ แล้วทำไม่รู้ไม่ชี้พาเธอขึ้นขบวนรถ
“ป้าถือให้จ้ะ” หญิงวัยกลางคนอาสา ก่อนส่งมือไปรับกล่องวิโอลา
“ขอบคุณครับ”
ธตรัฐยิ้มให้คุณป้าใจดีแล้วถามผู้ร่วมชะตากรรม “คนแน่นหน่อย คุณยืนได้ไหมมะลิ”
“ได้ค่ะ”
ถึงจะเกือบสี่ทุ่มแล้วแต่ผู้โดยสารยังคงแน่นขบวนจนแทบจะเบียดกันเป็นปลากระป๋อง
มานิลาหันรีหันขวางหาที่เกาะแต่กลับหมดหวังเพราะห่วงกลม ๆ
และราวด้านบนถูกจับจองไว้หมดแล้ว
ส่วนหากจะให้เกาะเสาก็ดูจะห่างไกลความจริงเพราะแขนเธอไม่ได้ยาวขนาดนั้น “โอ๊ะ !”
รถเคลื่อนออกจากชานชาลาทำให้หน้าผากของคนที่ยังไม่ทันตั้งหลักปักเข้ากับไหล่หนาไปเต็ม
ๆ สองแขนเรียวโอบเอวเจ้าของไหล่ไว้ตามสัญชาตญาณกลัวการล้ม พอเริ่มรู้สึกตัวมานิลาก็หน้าแดงซ่าน
พานนึกถึงเหตุการณ์วันแรกที่ตกอยู่ในอ้อมกอดเขา ความรู้สึกไม่ต่างกันกับตอนนี้เลย
หญิงสาวทรงตัวขึ้นหมายเอื้อมมือออกไปอีกนิดเพื่อหาหลักให้ตัวเองยึด
หากยังไม่ทันจะได้ทำอย่างที่คิดฝ่ามือเธอก็ถูกจับไปเกาะเข้ากับท่อนแขนแข็ง ๆ ด้วยฝีมือเจ้าของแขน
“เกาะได้ ผมไม่หวงแขนหรอก”
“ขอบคุณค่ะ”
มานิลาตอบทั้งที่ยังก้มหน้างุด เวลานี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการทะนงตน
เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเธอจะไม่มีหลักยึดและอาจลงไปนั่งกองกับพื้นรถไฟฟ้า
ธตรัฐแอบอมยิ้มมาตลอดทาง
มานิลาทำให้ช่วงเวลาแสนน่าเบื่อสำหรับใครหลายคนกลายเป็นช่วงเวลาน่าจดจำสำหรับเขา
ระหว่างเขากับแม่คนหน้าหวานนัยน์ตาเศร้ามีเรื่องเข้าใจผิดมามากพอแล้ว
นับจากนี้ต่อไปเขาจะไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยเดิมและจะไม่ยอมเสียเวลาไปอีกแม้แต่วินาทีเดียว
“ยังจำวันแรกที่เราเจอกันได้หรือเปล่า” ธตรัฐทำลายความเงียบระหว่างเดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าเพื่อไปส่งเธอที่อะพาร์ตเมนต์ในซอยใกล้
ๆ กัน
“วันแรก ?”
วันแรกสำหรับเธอคือครั้งที่เจอเขานั่งพิงต้นไม้ด้วยท่าทางหมดแรง
แต่วันแรกสำหรับเขาคงเป็นวันที่เจอเธอในฐานะติวเตอร์ภาษาอังกฤษของธริษตรี
ตรงม้านั่งใต้ตึกจรัดสุนทรสิงห์ “วันที่เราเจอกันที่ภาควิชาหรือคะ”
“ไม่ใช่” ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงนุ่ม
มานิลาหยุดเดินแล้วเงยขึ้นมองหน้าเหมือนจะเร่งให้บอกคำตอบ
หากแสงไฟตามบาทวิถีสว่างมากกว่านี้เขาคงเห็นดวงตาอยากรู้นั้นชัดขึ้น
“ไม่ใช่หรือคะ”
“เราเจอกันครั้งแรก
วันที่ผมบริจาคเลือดแล้วเมาเลือดตัวเองจนอ้วกไม่เป็นท่า” ริมฝีปากหนาระบายยิ้ม
ก่อนออกเดินต่อโดยไม่ลืมแตะแขนเธอเบา ๆ ให้ออกเดินด้วย “หรือคุณจำไม่ได้แล้ว”
“เอ่อ ไม่ค่ะ”
“ไม่ค่ะ ? แปลว่าไม่ได้จำหรือไม่ได้ลืม”
“มะ...ไม่ได้ลืมค่ะ”
แค่ถูกชายหนุ่มลูบผมก่อนขึ้นรถไฟฟ้ามาก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว
หากตอนนี้เขายังรื้อฟื้นความทรงจำเก่า ๆ
ที่เธอเพิ่งรู้ว่าไม่ได้เป็นฝ่ายจดจำเพียงคนเดียวขึ้นมาอีก
อยากบอกเขานักว่าอย่าก่อกวนกับความรู้สึกเธอมากไปกว่านี้จะได้ไหม
เธอยังไม่อยากรู้สึกดีกับคนที่มีเจ้าของแล้ว
“ผมก็ไม่ได้ลืมหรอกนะมะลิ” ชายหนุ่มหันมองคนข้าง
ๆ แวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองทางเดินข้างหน้าต่อ
“ขอโทษที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยจะทำตัวดีกับคุณสักเท่าไร”
หญิงสาวมองปลายเท้าตัวเองที่ก้าวเหยียบพื้นไปทีละก้าวอย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี
“ไม่ต้องสงสัยเรื่องที่ผ่านมาหรอก”
มานิลานึกอึ้ง หลายครั้งแล้วที่เขารู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ราวกับแอบมาฝังเครื่องแปลความรู้สึกทิ้งเอาไว้ในสมอง
ทิ้งไว้นานหลายเดือน ก่อนมากดรหัสถอดเอาข้อมูลออกไป...หรือไม่แน่
ผู้ชายคนนี้อาจจะมาถอดเอาข้อมูลไปเรื่อย ๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัว
คนถูกถอดรหัสทางความคิดสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้ามืดมิดไร้ซึ่งแสงจันทร์และแสงดาว
เขาบอกว่าไม่ต้องสนใจเรื่องที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นด้วย
บางเรื่องในอดีตรื้อฟื้นไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา
ปัจจุบันกับอนาคตคือสิ่งสำคัญกว่า
ความคิดเห็น