คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : 6 เปิดตา เปิดใจ 4/6
นักวิโอลาสาวเปลี่ยนจากเดรสยาวสีดำตัวสวยมาเป็นเสื้อยืดสวมสบายกับกางเกงยีนเข้ารูปตัวเก่ง
ก่อนสะพายเป้แล้วหิ้วกล่องเจ้าเครื่องสายออกจากตัวร้านหลังเล่นดนตรีในคืนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
หากยังไม่ทันได้ออกจากเขตร้านเท้าเรียวเล็กสองข้างก็ถึงกับชะงัก ไม่อาจก้าวต่อได้เมื่อมีร่างโต
ๆ ของคนเจ้าปัญหามาขวางไว้
“ผมไปส่ง” เขาคว้ากล่องวิโอลามาถือไว้เสียเอง
“ไหนคุณบอมบอกว่ามีธุระแถวนี้ไงคะ”
มานิลานึกแปลกใจ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะยังอยู่จนเธอเล่นดนตรีเสร็จ ซึ่งรวม ๆ
แล้วก็กินเวลาหลายชั่วโมง
“ธุระของผมก็คือมากินข้าวที่ร้านนี้” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย
ไม่ใคร่สนใจสักเท่าไรว่าคำตอบนั้นจะระคายหูอีกฝ่าย “ขึ้นรถเถอะ
ที่นี่กับอะพาร์ตเมนต์คุณไกลกันเยอะ กลับคนเดียวอันตราย”
มานิลากัดริมฝีปากอย่างระงับอารมณ์มากมายที่แย่งกันประดังประเดเข้ามา
ธตรัฐพูดเหมือนกับว่าหากไปกับเขาแล้วจะปลอดภัยอย่างนั้นแหละ จากเหตุการณ์ในห้องปฏิบัติการทำให้เธออยากติดป้ายใหญ่
ๆ บนตัวเขาว่าวัตถุอันตรายด้วยซ้ำ
“หนูกลับแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
ขอกล่องวิโอลาคืนด้วยค่ะ”
“คุณจะบอกผมว่าคุณเดินจากร้านออกไปขึ้นรถไฟฟ้าหน้าปากซอยแบบนี้ทุกครั้งที่มาเล่นดนตรีนี่นะมะลิ”
ธตรัฐถามหลังจากที่เบี่ยงกล่องไม้สีเบจไปไว้ด้านหลังกันเจ้าของแย่งคืนไปเรียบร้อยแล้ว
แม่คุณคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์วูแมนหรืออย่างไร ถึงได้ไม่กลัวภยันตรายที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว
ถึงในซอยนี้จะมีร้านรวงมากมาย แต่เวลาดึกดื่นเช่นนี้ร้านเหล่านั้นก็ปิดหมดแล้ว
ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เดินคนเดียวไม่ต่างจากเป็นเป้านิ่งให้โจรชัด ๆ
“เปล่าค่ะ”
“เปล่าอะไร ปกติคุณไม่ได้เดินแบบวันนี้
?”
“หนูเดินแบบนี้ทุกวันค่ะ
แต่เดินไปป้ายรถเมล์ ไม่ได้นั่งรถไฟฟ้ากลับค่ะ”
เธอไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกหลายเท่าเพื่อให้ถึงห้องเร็วขึ้น
ถึงจะต้องนั่งรถเมล์สองต่อแต่ก็ไปถึงอะพาร์ตเมนต์เหมือนกัน แล้วอีกอย่างช่วงดึก ๆ
รถก็ไม่ติดแล้วด้วย
“คุณเป็นมนุษย์ค้างคาวหรือไง
ได้นอนวันละกี่ชั่วโมง” ชายหนุ่มกุมขมับ
น้ำเสียงที่เปล่งออกมาค่อนไปทางเป็นห่วงมากกว่าจะต่อว่าจริงจัง
เขานึกไม่ออกเลยว่าลูกศิษย์คนโปรดของแม่มีเวลาเหลือให้ตัวเองหายใจบ้างหรือเปล่า
ผู้หญิงคนนี้ทำทุกอย่างที่ขวางหน้าราวกับเครื่องจักรไปแล้ว
และสมองคงทำงานหนักพอกันทั้งสองซีก เธอมีสมองซีกซ้ายไว้ควบคุมด้านวิชาการอย่างการเรียนปริญญาโทและเป็นครูสอนพิเศษให้ธริษตรี
มีสมองซีกขวาไว้สร้างสรรค์เสียงดนตรีอย่างวิโอลาที่พักนี้เขาชอบฟังมากเป็นพิเศษ
เท่านั้นคงยังไม่พอ เธอยังมีใบหน้าหวาน ๆ
กับนัยน์ตาคู่ดำสนิทไว้เล่นงานก้อนเนื้อดิ้นได้ขนาดเท่ากำปั้นในอกด้านซ้ายของเขาด้วย
มนุษย์ค้างคาวสาวกำสายกระเป๋าสะพายหลังแน่น
ในชีวิตมีคนถามคำถามนี้กับเธอมาสองคนแล้ว
คนแรกคือพลอยพิมพ์ที่เป็นห่วงเธออย่างเปิดเผย
ส่วนอีกคนก็คือผู้ชายตรงหน้าซึ่งแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย
...แต่นั่นสินะ
เธอได้นอนวันละกี่ชั่วโมงกัน
“ถ้าคุณไม่ขึ้นรถก็ต้องยอมให้ผมเดินไปส่ง
เลือกเอาแล้วกันว่าจะเอาแบบไหน ผมมีเจ้านี่เป็นตัวประกัน”
มือแกร่งยกกล่องวิโอลาขึ้นราวกับมันเบาหวิว
พร้อมกับส่งรอยยิ้มเป็นต่อหลายขุมนัก
“ถึงป้ายรถเมล์แล้ว
ขอบคุณนะคะที่เดินมาเป็นเพื่อน” หญิงสาวยิ้มให้คนมาส่งเล็กน้อยตามมารยาทอันพึงมี
ก่อนเอื้อมมือคว้ากล่องเครื่องดนตรี
ทว่ากลับคว้าได้แค่ลมเพราะเขาเบี่ยงมันหลบไปไกลมือเธอ
“ไม่ต้องรีบขอบคุณผมขนาดนั้นก็ได้”
“คะ ?”
“กลับรถเมล์สายไหนได้บ้าง
ผมจะได้ช่วยมอง” ธตรัฐรอคอยคำตอบ ขณะมองรถเมล์ที่ขับผ่านไป “ว่าไง หืม”
“38 ค่ะ” มานิลาบอกสายรถเมล์ออกไป
พลางชะเง้อคอมองรถที่กำลังเคลื่อนมาด้วย
เธอต้องนั่งสายนี้ไปลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
จากนั้นก็นั่งรถอีกต่อหนึ่งเพื่อกลับไปยังที่พัก
ซึ่งก็มีหลายสายที่สามารถนั่งไปได้ “มาพอดีค่ะ ”
“ไปกัน”
คนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วคว้าข้อมือหญิงสาวที่ทำหน้างุนงงหมายจับจูงจะให้เดินขึ้นรถตามผู้โดยสารรายอื่นที่ค่อย
ๆ ทยอยกันขึ้น แต่เธอกลับขืนตัวไว้
“ไปไหนคะ”
“ก็กลับไง
คุณไม่ให้ผมขับรถไปส่งผมก็นั่งรถเมล์ไปเป็นเพื่อน”
“แต่ว่า...”
เธอจะทำอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี
สำนวนไทยสำนวนหนึ่งซึ่งเรียนรู้มาจากนิยายไทยที่พลอยพิมพ์มักซื้อให้อ่านอยู่บ่อย ๆ
คือ ‘ได้คืบจะเอาศอก’ เพิ่งจะเห็นตัวอย่างชัดเจนก็วันนี้
“ถ้านั่งรถเมล์คงไม่ต่ำกว่าชั่วโมง”
เขาเว้นวรรคแล้วทอดสายตามองไปยังบันไดเลื่อนทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า
“แต่ถ้าคุณไม่อยากอยู่กับผมนานนักก็รถไฟฟ้าไปลงหน้ามหา’ลัยเลยไม่ดีหรือไง สายสีเขียวเปิดมาได้เดือนกว่าแล้วนี่ใช่ไหม”
“ค่ะ”
สถานีรถไฟฟ้าอยู่หน้ามหาวิทยาลัยแท้ ๆ แต่เธอใช้บริการแทบนับครั้งได้
ทั้งที่ต้องมาเล่นดนตรีในร้านอาหารกลางสวนประมาณสามวันต่ออาทิตย์
“หนูไปรถไฟฟ้าก็ได้ค่ะ แต่คุณบอมไม่ต้องไปส่งได้ไหมคะ”
“คุณไม่มีสิทธิ์เลือกแล้วมะลิ ไปกันเถอะ
เร็วเข้า” จอมบงการกระชับฝ่ามือเข้ากับข้อมือเล็กให้มั่นคงขึ้น
แล้วออกเดินนำไปยังบันไดเลื่อนท่ามกลางอาการขัดขืนของเจ้าตัว
แต่เพียงไม่นานเธอก็เลิกพยศ คงตระหนักได้บ้างแล้วว่าถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางยอมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
มานิลายืนมองชายหนุ่มที่เดินเร็ว ๆ
ไปยังห้องจำหน่ายบัตรโดยสารด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก
เปลือกตาบางหลับลงด้วยความรู้สึกหน่วง ๆ ในใจ เธอไม่ชอบให้เขามาบังคับแบบนี้
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลึก ๆ แล้วรู้สึกปลอดภัยที่มีพี่ชายธริษตรีอยู่ด้วย
“อุ๊ย !”
หญิงสาวสะดุ้งเมื่อมีอะไรแข็ง ๆ มาจิ้มแก้ม
พอหันมองก็เห็นว่าเป็นบัตรสีส้มลายกระต่ายสองใบ กับใครอีกคนที่ส่งยิ้มให้
ความคิดเห็น