คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : กิจการต่างเมือง
ตอนที่ 35 กิจการต่างเมือง
เวลาล่วงเลยมาหลายวัน
สองพี่น้องกลับมาสนิทกันเหมือนเดิม ถึงจะรู้สึกมีบางอย่างติดอยู่ในใจเล็กน้อย แต่ต่างคนต่างพยายามเก็บอาการเอาไว้ไม่แสดงออกมา
ระหว่างที่สามคนพ่อลูกกำลังนั่งกินข้าวด้วยความเรียบง่ายด้านหลังร้านอาหาร ฉินฉินมองหน้าพี่ชายและบิดาสลับกันไปมา ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานของตนต่อไม่ยอมพูดอะไรอีก
อี้เทียนสังเกตเห็นท่าทางบุตรสาวไม่ปรกติ จึงหันไปส่งสายตาถามบุตรชาย หูต้าลู่ส่ายหน้าว่าเขาไม่รู้เช่นเดียวกัน
รอจนทุกคนกินข้าวเสร็จ ระหว่างที่สาวใช้นำของหวานมาตั้งโต๊ะ ฉินฉินถูมืออย่างประหม่าแล้วพูดสิ่งที่ต้องการออกมา
"ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ข้า...ข้าอยากจะไปท่องเที่ยวต่างเมืองเจ้าค่ะ จะเป็นอะไรหรือไม่หากข้าขอฝากให้พวกท่านทั้งสองดูแลงานในเมืองหลิงหลงแทนข้า"
อี้เทียนแทบจะพ่นชาออกมา เขาจ้องจับผิดบุตรสาวอีกครั้ง
นางจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก วันก่อนไม่รู้นางไปได้ยินมาจากไหนว่าเหลาอาหารเซียนซื่อ เบื้องหน้าเปิดกิจการอาหาร ทว่าเบื้องหลังกลับแอบเปิดเป็นซ่องขนาดเล็กขายบริการเด็กอายุต่ำกว่าสิบปี
เรื่องนั้นเป็นเพราะฉินฉินได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือจากบุคคลปริศนา ที่อาศัยจังหวะทีเผลอสวมใส่ชุดดำนำสหายทั้งสามคนบุกเข้าไปเผาร้านผู้อื่นไหม้วอดทั้งหลัง ดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
และดีที่ฉินฉินช่วยเด็กตัวน้อยไว้ได้ทัน ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกกระทำอนาจาร และยามนี้ก็ได้ท่านเจ้าเมืองรับเด็กทั้งหมดไปดูแลต่อแล้ว
สุดท้ายฉินฉินก็ถูกจับได้ เพราะพี่ชายนำเรื่องนี้ไปฟ้องบิดา จนนางถูกเขาบ่นหูชาให้สงบเสงี่ยมไปได้หลายวัน
อี้เทียนวางจอกชาลงแล้วหยิบผ้ามาเช็ดคราบชาบนหน้าออก ตาคู่คมจ้องตาบุตรสาวถามเสียงเข้ม
"เจ้าคิดจะก่อเรื่องอะไรอีก เรื่องอันตรายนี่ชอบนัก จนข้านึกว่าตนไม่มีบุตรสาวแต่ได้บุตรชายมาแทนแล้ว"
ฉินฉินฟังแล้วก็นึกเขิน จึงย้ายมานั่งข้างบิดาแล้วสวมกอดเขาแน่น
"โถ่..ท่านพ่อ ข้าเป็นสตรีหน้าตางดงามเช่นนี้ จะกลายเป็นบุรุษได้อย่างไรกัน ข้าแค่อยากท่องโลกกว้างไปเปิดกิจการที่ต่างเมืองบ้างเท่านั้น หากเราเอาแต่อยู่ในกรอบเดิม ๆ แล้วเมื่อไหร่จะรวยกับเขาเสียทีเล่า"
หูต้าลู่เหล่มองน้องสาว ใบหน้ามืดครึ้มลงหลายส่วน
เขาคิดว่านางอยากจะหนีไปจากเขา
"น้องรองที่เจ้าอยากจะไปเป็นเพราะข้าใช่หรือไม่"
ฉินฉินหันมองพี่ชาย นางยังกอดบิดาอยู่แต่ยื่นมือไปจับแขนเสื้อเขาไว้
"พี่ใหญ่ท่านอย่าคิดมากสิ ท่านก็รู้ว่าข้าอยากท่องเที่ยวนานมากแล้ว อีกอย่างยามนี้ข้าโตพอจะดูแลตนเองได้แล้วเช่นกัน ท่านไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าจะลากจางหมินไปเป็นเพื่อนด้วย"
อี้เทียนถอนหายใจตบหลังบุตรสาวเบา ๆ
"โตแล้วอะไรกัน อีกอย่างไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะเข้าหน้าหนาวแล้ว อีกทั้งเจ้ายังไม่ทันได้ปักปิ่นอีก อยู่ต่างเมืองไม่คุ้นชินกับผู้คนมันลำบากนะรู้หรือไม่ แต่หากอยากจะซุกซนก็ให้พาพี่ชายเจ้าไปด้วยพ่อถึงจะอนุญาต"
ฉินฉินส่ายหน้าปฏิเสธ หากมีพี่ชายไปด้วยนางคงหยิบจับสิ่งใดไม่สะดวก เพราะเขาคงห้ามทำโน่นทำนี่ตามเคย มันจะต่างอะไรจากเดิมเล่า
"ท่านพ่อข้ารู้นะว่าท่านแอบดูใจกับท่านป้าร้านผ้าที่ประตูเมืองอยู่ แล้วท่านยังไปเกี้ยวพาสตรีร้านสุรานอกเมืองอีกด้วย ท่านคบซ้อนเช่นนี้เหมาะแก่การคาบข่าวไปบอกความลับให้พวกนางรู้ยิ่งนัก"
อี้เทียนสะอึกพลางเบิกตากว้าง นางรู้ได้อย่างไรกัน
หรือว่านางจะเห็นตอนที่เขาอยู่กับสตรีเหล่านั้น
หูต้าลู่ส่ายหน้าเอือมระอา ท่านพ่อหนอท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงทำอะไรไม่รอบคอบเช่นนี้เล่า น้องรองนำเรื่องนี้มาเป็นจุดอ่อนของท่านจนได้
"แล้วอย่างไรพ่อยังโสด หากเจ้าไม่อยากมีแม่ใหม่ พ่อจะเลิกกับพวกนาง เจ้าเอาเรื่องนี้มาขู่พ่อไม่ได้ เลิกคิดไปได้เลย"
ฉินฉินไม่ยอมแพ้ลุกขึ้นนั่ง แล้วชูนิ้วขึ้นนับรายชื่อของสาว ๆ ที่บิดาเคยควงออกมาทีละคน จนอี้เทียนได้แต่ยกมือกุมขมับ
นางเล่นงานข้าเสียแล้ว
สุดท้ายเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่โบกมือปัด ๆ ให้พ้นตัว
"เอาเถิดเจ้าอยากทำอะไรก็ทำ พ่อยอมแล้ว จะไปวันไหนก็บอกพ่อ พ่อจะได้เตรียมของไว้ให้เจ้า"
"ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพ่อ"
ฉินฉินสวมกอดบิดาแน่น นางดีใจมากในที่สุดบิดาก็อนุญาตเสียที เหลืออีกคนเดียวเท่านั้น
"พี่ใหญ่ถึงแม้ว่าท่านจะห้าม ข้าก็จะไปเจ้าค่ะ ท่านเปิดการค้าลึกลับอะไรนั่นอยู่ใช่หรือไม่ คงมีคนเก่ง ๆ อยู่ในมือเยอะ เช่นนั้นช่วยแบ่งมาให้ข้าสักสิบคนสิเจ้าคะ ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง"
หูต้าลู่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ
แม้แต่เรื่องนี้นางก็รู้หรือนางคงมีไพ่ลับซ่อนอยู่สินะ
แท้จริงแล้วฉินฉินไม่ได้มีไพ่ลับอะไรทั้งนั้น แต่เพราะนางเคยเข้าไปซื้อข่าวกับร้านลับของพี่ชาย แค่นางได้ยินเสียงก็จำได้แล้วว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเป็นคนในครอบครัวของตน
ทว่าหูต้าลู่ยังไม่ยอมแพ้ กลับอ้อนน้องสาวคืนบ้าง
"ให้ข้าไปด้วยไม่ได้จริง ๆ หรือ"
ฉินฉินจ้องตาพี่ชายแล้วเอ่ยปฏิเสธหนักแน่น
"ไม่ได้เจ้าค่ะ หลังฤดูหนาวสิ้นสุดลงข้าจะกลับมาแน่นอน อีกอย่างเมืองที่ข้าจะไปใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งเดือนก็ถึงแล้ว หากพวกท่านคิดถึงข้าก็ไปเยี่ยมได้ แต่ห้ามแอบตามเด็ดขาด หากข้าจับได้ก็เตรียมตัดขาดกันเถิดเจ้าค่ะ"
ฉินฉินกอดอกให้ชายต่างวัยทั้งสองคนรู้ว่านางพูดจริงไม่ได้พูดเล่น ๆ
สุดท้ายหูต้าลู่ก็ยอมใจอ่อน แล้วอนุญาตให้น้องสาวเดินทางได้โดยมีข้อแม้ว่า นางต้องเขียนจดหมายรายงานสถานการณ์ส่งมาให้ทุกวัน
ฉินฉินพยักหน้าตกลง เรื่องส่งจดหมายไม่ใช่เรื่องยากอะไรอยู่แล้ว เพราะที่จวนของนางมีนกพิราบสื่อสารอยู่ ให้มันบินกลับไปกลับมาระหว่างสองเมือง ใช้เวลาเพียงสองวันก็คงถึงแล้ว
แต่ถ้าอยากสื่อสารได้เร็วมากกว่านี้ คงต้องรอให้มีคนคิดค้นสัญญาณอินเทอร์เน็ตในยุคนี้ให้ได้ก่อน วันนั้นชีวิตคงง่ายขึ้นเยอะ
แต่อีกสามพันปีข้างหน้านะถึงจะสำเร็จ
เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ฉินฉินต้องการออกเดินทางให้เร็วที่สุด นางรีบขี่ม้าไปที่ร้านขายผ้าของสหายทันที
หลงจู๊เห็นหญิงสาวก็เชิญให้นางเข้าไปด้านในทันที จางหมินเคยสั่งเอาไว้ว่าอย่าไปขวางทางนาง ต่อให้นางจะไม่จ่ายเงินซื้อของก็ปล่อยไป ขออย่าเอาไปหมดร้านก็พอ
ฉินฉินมาหยุดอยู่บนชั้นสอง ที่เป็นบริเวณทำงานของสหายรัก นางรักษามารยาท เคาะประตูส่งเสียงเตือนคนด้านในให้รู้ตัวก่อนว่านางมาแล้ว
"จางหมิน...สหายสาวสุดที่รักสวยเลิศในปฐพีของเจ้ามาแล้ว ขอข้าเข้าไปได้หรือไม่"
แต่ก่อนฉินฉินไม่เคยเคาะประตู มาทีไรก็ผลักประตูเข้าไปเองทุกที เป็นสหายกันจะมีอะไรมากมายเล่า จางหมินเวลาไปหานางถึงที่ทำงานก็ทำเช่นกัน
แต่ไม่รู้วันนั้นใส่เสื้อมาผิดสีหรือก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้าง หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปเจอสหายกำลัง...กับผู้ชายชั่วคราวของเขาอยู่
ตั้งแต่นั้นมานางจึงต้องเคาะประตูทุกครั้งก่อนเข้าไปด้านใน
"เข้ามาได้เลยข้าไม่ได้ลงกลอนไว้"
เมื่อเจ้าของห้องอนุญาตแล้ว ฉินฉินก็เปิดประตูเดินเข้าไปด้านใน สิ่งแรกที่นางทำคือสำรวจทุกซอกทุกมุม กลัวสหายจะตกใจแอบพาผู้ชายไปซ่อน เพราะครั้งนี้นางต้องการความเป็นส่วนตัว
จางหมินกำลังออกแบบชุดใหม่ที่จะวางขายในเร็ว ๆ นี้ จึงไม่สนใจความบ้าบอของสหาย นางอยากทำอะไรปล่อยให้นางทำไปจนกว่าจะพอใจ
ฉินฉินเห็นว่าไม่ใครแอบซ่อนอยู่ ก็เดินไปนั่งบนตั่งสำหรับใช้เอนหลังพักผ่อนที่ตั้งอยู่ข้างหน้าต่าง
"จางหมินข้ามีเรื่องจะขอให้เจ้าช่วย"
จางหมินมือยังคงวาดแบบของตนเอง แต่ปากขยับตอบโต้ไม่ขาดสาย
"ว่ามามีอะไร"
"ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวเมืองฉินเทียนสักสามเดือน ไม่สิ...อาจจะมากกว่านั้น เอาเป็นว่าจะไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูหนาวถึงจะกลับมา"
จางหมินฟังแล้วไม่ค้านกลับพยักหน้าตอบตกลงง่ายดาย
"เอาสิ ไปก็ไป"
ฉินฉินแปลกใจนัก ที่นางคาดการณ์ไว้จางหมินต้องลุกขึ้นมาบ่นจนหูชา ต่อด้วยสั่งสอนอีกสามยกถึงจะยอม
วันนี้เขาย่อมง่ายมากจนนางกลัวแล้วนะเนี่ย
"เจ้าไม่ปฏิเสธหน่อยหรือ"
จางหมินวางงานในมือลง แล้วหันไปมองสหายที่ทำหน้างงอยู่
"หากข้าปฏิเสธ สุดท้ายเจ้าก็ลากข้าไปเป็นเพื่อนอยู่ดีใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าขอเวลาสามวันจัดการงานที่ร้าน เสร็จแล้วเราค่อยออกเดินทาง"
"เอ่อ..ได้สิ สามวันนะ เช่นนั้นข้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะสหายรัก คนที่แอบอยู่บนหลังคาจะได้ไม่เมื่อย"
จางหมินสะดุ้งไม่คิดว่านางจะจับได้ เขาว่าแสดงเนียนแล้วนะ ยังไม่พ้นสายตาเหยี่ยวของสตรีตัวเล็ก ๆ คนนี้อีกหรือ
ฉินฉินแกล้งสหายพอหอมปากหอมคอ นางจะไม่รู้ได้อย่างไรเล่าก็มีชายเสื้อห้อยลงมาจากหลังคา หลักฐานคาตาเสียถึงเพียงนั้น
นี่ก็ลงทุนเกินไปหรือไม่ ถึงขั้นปีนไปแอบบนหลังคาเลยหรือ แค่เดินออกจากห้องไปรอที่ชั้นล่างไม่ง่ายกว่าหรือไรนะคนเรา
หญิงสาวหัวเราะทิ้งท้ายเบา ๆ เดินออกจากห้องทำงานของสหาย แล้วมุ่งหน้ากลับมาจัดการงานของตนเองให้เสร็จเรียบร้อย จะได้ออกเดินทางเสียที..
ความคิดเห็น