คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #298 : NEON/NIGHT/CITY: LIFE IN THE FAST LANE ~2024 ver.~
ขณะนี้ล่วงเข้าปลายฤดูร้อนแล้ว อากาศในยามค่ำคืนเมื่อถึงจุดสูงสุดของเข็มนาฬิกาจึงเปลี่ยนไปเป็นเย็นสบาย ยิ่งในวันที่มีสายลมอ่อนพัดโพยมาเช่นนี้ด้วยอีก เรียกให้ผมสีทองยาวที่ปล่อยสยายระต้องใบหน้าจนต้องทัดเข้ากับใบหูที่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนักอยู่บ่อยครั้ง ทว่าสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้เธอนึกรำคาญใจเลยแม้แต่น้อย หลังจากความเครียดเคร่งเพราะการผ่าตัดเข้มข้นนานหลายชั่วโมงให้กับคนไข้ที่ถูกยิงเข้าช่องท้องมาด้วยอาการสาหัส แต่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ความรู้สึกดีที่วันนี้ก็ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อีกหนึ่งคนจึงพลอยตามติดเธอมาด้วย
ก่อนที่มันจะถูกแทนที่ด้วยความหวั่นพรั่น เมื่อได้เห็นเขายืนกอดอกพิงกำแพงอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์กระเบื้องอิฐเก่าๆ ของเธอ
นั่นอาจเป็นภาพที่ทำให้คนทั้งเมืองต้องตั้งคำถาม เพราะคนอย่างอิวาซากิ ไทโช รองประธานร่วมของบริษัทคริสโซโพลิส ผู้เปรียบเสมือนดั่งพระเจ้าของโลกใบสมมติที่มีชื่อว่านีโอโตเกียว ย่อมไม่ลดตัวลงมามีธุระปะปังกับพวกที่อยู่ต่ำกว่าหอคอยบาเบลซึ่งสูงเทียมฟ้าพอๆ กับอีโก้ของเขา แต่นั่นไม่ใช่คำถามที่คันโนะ อาริสุต้องการจะเอ่ยกับเขาที่จะขวับใบหน้าหันมาสบกับเธอ ขยับมุมริมฝีปากข้างหนึ่งยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เหมือนกับที่ขยับฝีก้าวในรองเท้าหนังมีส้นมายังทิศทางของเธอที่ชะงักค้างอยู่กับที่ พร้อมด้วยประโยคคำสั่งที่คนอย่างเขาทำได้ว่า “เธอมาช้า รีบไปขึ้นรถได้แล้ว”
“ฉันไม่ใช่คู่หูก่ออาชญากรรมของคุณนะ”
ถึงจะรู้ว่าคนอย่างเธอขัดขืนไม่ได้ แต่อาริสุที่รู้สึกเหนื่อยล้าเอามากจนเปลี่ยนมันมาเป็นความกล้าได้ในค่ำคืนนี้ก็ตัดสินใจว่าจะลองทำตัวดื้อแพ่งดูสักครั้ง
“ไม่ใช่ เพราะเธอเป็นมากกว่านั้น”
อาริสุแน่ใจว่าใบหน้าของเธอกำลังขึ้นสีเพราะความร้อนบนผิวแก้มที่รู้สึกและจากเสียงหัวเราะที่ฟังดูยั่วเย้าของเขา ก่อนกระชากข้อมือของเธอให้ออกเดินไปยังรถเปิดประทุนคันสีดำขลับที่หรูเกินกว่าจะพบเห็นได้ในละแวกนี้ซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล พอคิดว่าจะพยายามตอกตรึงตัวเองเอาไว้อย่างที่ปลายส้นสูงสามนิ้วจะต้องทิ้งรอยขีดข่วนบนพื้นคอนกรีต เขาก็จะยิ่งเพิ่มน้ำหนักลงไปให้อาริสุรู้ว่าผิวที่บอบบางของเธอภายใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวจะต้องเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยเรี่ยวแรงที่เทียบกันไม่ติด ตอกย้ำข้อเท็จจริงที่ว่าอย่างไรเธอก็ขัดขืนเขาไม่ได้
และอาริสุไม่ได้หมายถึงรองประธานอิวาซากิ ไทโช
แต่เป็นอิวาซากิ ไทโช...อีกคนหนึ่ง
ผู้กุมอำนาจ ณ ปัจจุบันของนีโอโตเกียวคือสองพี่น้องตระกูลอิวาซากิและอุกิโช ความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นยาวนานดูเหมือนจะถึงคราวแตกหักเมื่อรุ่นลูกพยายามแก่งแย่งชิงดีเพื่อครองบัลลังก์และดื่มด่ำกับอำนาจล้นฟ้าแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่พวกเขาต่างก็มีสายเลือดเดียวกัน...หรืออาจเพราะมีสายเลือดเดียวกันต่างหากก็ได้
แต่ใช่ว่าโลกของอาริสุจะแตกต่างจากพวกเขามากขนาดนั้น แม้ว่าเธอจะเริ่มทิ้งห้องเพนต์เฮาส์บนชั้นสามสิบสามที่อาศัยอยู่กับครอบครัวหลังจากที่แม่เสีย แล้วออกมาใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวในอพาร์ตเมนต์บนชั้นสองของย่านพวกชนชั้นกลางซึ่งไม่ได้ปรากฏอยู่ในวิสัยแม้แต่ปลายหางตาให้มหาเศรษฐีอย่างเขาเสียเวลาแม้แต่จะเหลือบแลมอง แต่เพราะสกุลคันโนะที่เป็นของพ่อเลี้ยงเธอ — ผู้ก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยส่วนตัวที่ควบคุมดูแลความปลอดภัยทั้งหมดของนีโอโตเกียวร่วมกับเอ็นทีพีดี — ก็มากพอที่จะทำให้มนุษย์เดินดินอย่างเธออยู่ในสายตาของพระเจ้าองค์นี้บ้าง ถึงอาจไม่ได้อยู่ในความสนใจก็ช่างปะไร อย่างกับว่าอาริสุเคยต้องการอะไรจากโลกใบนั้นนักหนา
จนกระทั่งเธอได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่ไม่เคยนึกอยากจะเข้าไปมีส่วนร่วมระหว่างกระบวนการด้วยเลยแม้แต่น้อย อย่างการที่คนร้ายเข้าจู่โจมเหยื่อในตรอกมืดที่มีเพียงแสงของจันทร์ครึ่งดวงสาดส่องลงมาพอให้มองเห็นความเป็นไป มีดของเขาพลาดเป้าที่หมายเฉือนเข้าลำคอ ทำให้เหยื่อผู้โชคร้ายยิงอาวุธปืนสวนกลับไปทะลุลำตัวถึงสามนัด หากจิตอาฆาตมาดร้ายของฆาตกรก็เป็นเหมือนดั่งอะดรีนาลีนกระตุ้นให้พุ่งโจนเข้าใส่ จ้วงคมมีดแทงลงไปบนหน้าอกซ้ำๆ กับเลือดที่พุ่งกระฉูดเหมือนกับน้ำพุ อาบย้อมเนื้อตัวของเขาที่อยู่เหนือร่างนั้นไปด้วย
อาริสุมองดูภาพทั้งหมดอยู่ไม่ไกลด้วยความตื่นตกใจจนเลือดในกายเย็นเฉียบ ได้แต่แข็งค้างด้วยไม่กล้าที่จะขยับตัว ขณะนั้นเธอเพิ่งออกจากคลินิกเถื่อนใต้โบสถ์เก่าที่ถูกทิ้งร้างซึ่งก่อตั้งขึ้นเองเพื่อช่วยรักษาคนนอกกฎหมายโดยไม่ซักไซ้ แต่นั่นไม่ควรหมายรวมถึงคนร้ายที่อาริสุได้มองเห็นการกระทำความผิดนั้นเต็มสองตา เหมือนกับที่เขาเองก็จะได้เห็นพยานเมื่อหันมาประสานสายตากับเธอ
แม้ใบหน้ายามนี้ของเขาจะถูกสาดทับไปด้วยสีแดง ผิดแผกไปจากหนุ่มสำอางผิวสีขาวซีดที่ทุกคนล้วนเคยพบเห็น อย่างน้อยๆ ก็ผ่านจอบิลบอร์ดหรือโทรทัศน์ แต่อย่างไรคนที่กำลังเดินตรงมาหาเธอ โถมร่างที่อ่อนแรงไม่ต่างจากน้ำเสียงระโหยว่า “ช่วยฉัน อาริสุ” ให้เธอได้สติกลับคืนมาแทนที่ความหวาดกลัวที่ก็ใช่ว่าจะทุเลาลงไปเสียทีเดียว เพื่อช่วยประคองร่างหนาหนักของเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีลงไปยังชั้นใต้ดินของโบสถ์ที่เธอเพิ่งจะจากมา...ก็คือรองประธานอิวาซากิ ไทโชแห่งบริษัทเมโทรโพลิส
เพราะบาดแผลของอาวุธที่ใช้เชือดคอเหยื่อแล้วเฉือนแทงนั้นไม่มีอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ไหนจะการเลือกเหยื่อแบบสุ่มที่ดูอย่างไรก็ไม่มีความเกี่ยวโยงกัน คดีส่วนใหญ่จึงถูกปิดไปด้วยข้อหาชิงทรัพย์ (เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนไร้บ้านที่มาเจอศพเข้าในภายหลัง) ไม่ก็พวกเขาแค่โชคร้าย อยู่ผิดที่ผิดเวลา แต่สัญชาตญาณของอาริสุก็แน่ใจมาตลอดว่ามันคือฝีมือของฆาตกรต่อเนื่อง
ทว่าสิ่งที่เธอไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปแล้วคือเหตุผลที่ว่าทำไมทายาทอิวาซากิถึงได้ออกมาฆ่าคนด้วยตัวเอง และทำไมเขาถึงได้เรียกชื่อต้นของเธอที่ไม่มีทางจะอยู่ในสารบบความคิดของเขาเลยด้วยซ้ำแบบนี้
คำตอบถูกไขขานถึงอาจไม่กระจ่างนักในอีกสามวันให้หลัง ตอนที่อาริสุกลับเข้าไปในคลินิกของตัวเองกับลาเต้ร้อนรอบดึกเพื่ออยู่เฝ้าผู้ป่วยวีไอพี โชคดีที่บาดแผลของเขาไม่ได้ร้ายแรงมากเพราะไม่โดนจุดสำคัญ เขาถึงได้ยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง เอ่ยปากพูดประโยคที่สองในชีวิตกับเธอว่า “ขอบคุณ” ให้ริมฝีปากสีแดงสดเป็นต้องอ้าค้างกับถ้อยคำน่าเหลือเชื่อ ซึ่งไม่มีทางที่ใครบนโลกนี้จะเคยได้ยินมันจากปากของมนุษย์ที่ใกล้เคียงกับพระเจ้าผู้นี้อย่างแน่นอน
คำถามมากมายตีรวนกันอยู่ในหัวสมองราวกับเส้นสายที่โยงใย ทั้งที่นั่นหาใช่สิ่งสนใจแรก แต่สิ่งที่หลุดรอดออกมาผ่านน้ำเสียงแผ่วเบาก็คือ “คุณฆ่าผู้ชายคนนั้นทำไม?”
“เธออยากฟังคำตอบแบบไหนล่ะ?” ไทโชยอกย้อนกลับไปด้วยคำถาม “ความสนุก? ความเครียด? จิตใต้สำนึก? หรือเพราะฉันมองเห็นชีวิตคนอื่นเป็นแค่สิ่งไร้ค่า?”
“คุณ...ใช่คุณอิวาซากิจริงๆ หรือเปล่า?”
“ใช่สิ” เขาตอบรับด้วยรอยยิ้ม “ใช่สิอาริสุ ฉันก็คืออิวาซากิ ไทโช คนที่จะทำทุกอย่างที่อิวาซากิ ไทโชที่อ่อนแอคนนั้นทำไม่ได้ สิ่งที่มันเฝ้าปรารถนามาตลอดว่าอยากจะทำ”
เรื่องราวของดร.จีคอลกับมิสเตอร์ไฮด์แล่นปราดขึ้นมาในห้วงความคิดของเธอชั่วขณะหนึ่ง เพียงแต่เขาไม่ได้ดื่มยาเพื่อปลดปล่อยอีกตัวตนที่ชั่วร้ายออกมา และเธอจะเรียกแบบนั้นได้อย่างไร ในเมื่ออีกตัวตนหนึ่งของเขาก็ใช่ว่าจะหมดจดอยู่ในทำนองคลองธรรมมาตั้งแต่แรก เธอจึงเพียงเอ่ยว่า
“อย่างการฆ่าคน”
“อย่างการฆ่าคน”
ไทโชทวนคำพูด จากนั้นลุกขึ้นเดินมาหาเธอที่ยืนอยู่ข้างเตียงและแหงนเงยมองตามความสูงที่แตกต่างกันนั้นไป มือของเขาจับคางไว้เพื่อที่จะได้ก้มลงมาแนบประทับริมฝีปากลงไปไม่ให้ทันได้ตั้งตัว ดวงตาเบิกโพลงของเธอยังคงเลิกกว้าง ความเย็นเยียบจากเครื่องปรับอากาศเปลี่ยนไปเป็นอุณหภูมิที่ร้อนเร่าเมื่อเขารุกล้ำบดเบียดเข้ามาเพื่อดูดกลืนลมหายใจและอาจรวมถึงจิตวิญญาณ อาริสุรู้สึกว่าร่างกายของเธออ่อนระทวยเมื่อฝ่ามือของเขาลากไล้ผ่านเนื้อหนังข้างใต้เสื้อเชิ้ต ฟอนเฟ้นกดบีบแรงลงไปจนเธอต้องหลุดร้องในลำคอ จนเมื่อแผ่นหลังของเธอถูกผลักลงไปบนเตียง เมื่อนั้นเธอจึงได้ลมหายใจกลับคืนมา
แม้จะอย่างหอบสั่น หากอาริสุก็ถามเขาที่คร่อมร่างอยู่โดยพยายายามบังคับดวงตาไม่ให้ไหวสั่นเหมือนกับร่างกายในตอนนี้ว่า
“และอย่างการจูบกับผู้หญิงที่ด้อยกว่าเหรอ?”
“อย่างการนอนกับผู้หญิงที่ชอบต่างหาก” เขาแก้คำพูดของเธอด้วยเสียงหัวเราะระรื่นหู อาริสุจะนิยามสิ่งที่เหมือนกับบทเพลงแบบนั้น “เก็บเรื่องของฉันเป็นความลับ แล้วฉันจะเก็บเรื่องของเราเป็นความลับจากรองผู้บัญชาการของเธอ รวมถึงคลินิกเถื่อนนี้จากพ่อของเธอด้วย”
“ฉันไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว เราหยุดแค่นี้ก็ได้”
“หยุดฉันสิ”
แต่เธอต้องการหยุดมันจริงๆ หรือเปล่าต่างหาก อิวาซากิ ไทโชคนที่อยู่เบื้องหน้าในเวลานี้กำลังทำให้อาริสุสูญเสียสัมปชัญญะไปโดยสิ้นเชิง นับตั้งแต่วินาทีที่ได้จ้องสบใบหน้าที่ย้อมอาบไปด้วยของเหลวเหนียวเหนอะนั่น ก็จะทำให้เธอรู้สึกโหวงหวิวในท้องขึ้นมากับผู้ชายคนที่ไม่เคยมีความหมายอะไรกับเธอ เหมือนอย่างที่เธอก็ไม่เคยมีความหมายอะไรกับเขา...อีกคน...เป็นครั้งแรก แต่อย่างไรเธอก็มีคนรักอยู่แล้ว สำนึกในหัวบอกว่าเธอควรหยุดอยู่แค่จูบอันลึกล้ำก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้ หากเมื่ออาริสุได้ยินถ้อยคำพร่างพรูที่ริมใบหูและเสียงหัวเราะก้องกังวานจากเขา กับช่วงเวลาที่ลมหายใจสอดประสานเมื่อเขาขยับเคลื่อนไหว ดึงดันเข้าไป ก็ราวกับว่าเธอจะพ่ายแพ้โดยไม่มีทางที่จะขัดขืนได้เลย
ความอึดอัดก่อร่างขึ้นมาจากความเงียบสงัดภายในรถเพราะวิทยุที่เขาไม่ยอมเปิด และผู้โดยสารอย่างเธอก็ไม่กล้าถือวิสาสะ ทำได้แค่รับฟังเสียงหวีดหวิวของสายลมเย็นที่ตีเข้ากับใบหน้า หลังจากขึ้นรถมาแล้ว ไทโชก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไรกับเธออีก เป็นความอดทนของอาริสุที่หมดลงจนตัดสินใจทำลายบรรยากาศขุ่นมัวด้วยคำพูดจากปากที่เธอถือวิสาสะโพล่งขึ้นมาเอง ยามผินใบหน้าจากแสงสีภายนอกของท้องถนนโล่งกว้างที่ทอดยาวออกไปราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด หากด้วยความเร็วอย่างเต็มกำลังให้ได้นึกหวาดเสียว แต่อาริสุก็ไม่ได้นึกหวาดกลัวกับความตื่นเต้นแบบนั้นมากเท่าที่เขาเคยทำให้เธอรู้สึก ไทโชยกยิ้มให้เมื่อเธอเคลื่อนสายตากลับเข้ามาหา
“เราจะไปไหน? คุณจะไปฆ่าคนอีกเหรอ?”
“ไปมาแล้วต่างหาก” เป็นคำตอบที่กลั้วไปกับเสียงหัวเราะ แต่อาริสุไม่คิดว่าอยากเข้าไปแตะต้องในเรื่องนั้น เพราะอย่างไรเธอก็ทำอะไรไม่ได้ เธอช่วยเหยื่อที่ถูกปลิดลมหายใจไปด้วยคมมีดแล้วไม่ได้ เธอโทร.แจ้งตำรวจว่าฆาตกรที่เป็นคนลงมือสารภาพมันจากปากและอยู่กับเธอตรงนี้ก็ไม่ได้ หรือต่อให้ได้ก็ไม่มีทางที่ใครจะเชื่อคำพูดของเธอมากกว่าเขา และในเมื่อเธอไม่ได้ต้องการที่จะรับรู้ถึงเหตุการณ์เหล่านั้น อาริสุจึงเปลี่ยนบทสนทนาไปเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจอย่าง “หมายความว่ายังไงที่คุณเคยพูดว่า ‘ผู้หญิงที่ชอบ’”
“ก็หมายความว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ฉันชอบไง เข้าใจยากตรงไหน”
“คุณ หรือคุณอิวาซากิอีกคน?”
“รู้ไหม มันชอบเธอมากเลยนะ ชอบตั้งแต่วินาทีที่ได้เห็นเธออยู่กับผู้บัญชาการในเมโทรทาวเวอร์จนแทบจะบ้า แต่คนอย่างมันจะลดตัวลงมาหาผู้หญิงคนละระดับอย่างเธอ แถมยังเคยเป็นแฟนเก่าของน้องชายที่เกลียดจนอยากจะฆ่ากันให้ตายได้ยังไง ถึงต่อให้จะเป็นคันโนะ แต่เธอก็ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับผู้บัญชาการเหมือนอย่างน้องสาวเธอเลยด้วยซ้ำ” ไทโชบอกเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยเบาสบายเหมือนกับท่าที ขณะที่อาริสุยังคงพูดอะไรไม่ออก ดูเหมือนว่าหัวสมองของเธอจะยังคงประมวลสิ่งที่ได้ยินไม่ทัน เพราะเรื่องราวบ้าบอแบบนั้นมันฟังดู...เหลือเชื่อเกินไป
“และเพราะอย่างนั้นฉันถึงได้อยู่ที่นี่” เขาเอ่ยต่อ “คนที่ไม่ได้น่าเบื่อ ไม่ได้อ่อนแอ ไม่ได้ปกปิดความต้องการของตัวเอง คนที่จิตใต้สำนึกของมันอยากจะเป็น”
เหมือนอย่างที่เขากำลังทำตอนแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเอง ยวดยานถูกจอดเทียบอยู่ริมถนนเคียงคู่ไปกับเส้นสายของแสงไฟในแววตาที่มัวพร่า หาได้ชัดเจนเท่ากับใบหน้าของเขาที่โน้มข้ามคอนโซลรถมาเพื่อกดจูบลงไป นอกจากใบหน้าที่ไม่เพี้ยนผิดเพราะร่างกายที่ใช้ร่วมกันแล้ว อิวาซากิ ไทโชคนนี้ก็ไม่มีอะไรเหมือนกับตัวเองอีกคนเลยแม้แต่น้อย ตอนที่เขาเปล่งเสียงหัวเราะรวนร่า สาดถ้อยคำยวนเย้าที่ทำให้เนื้อตัวของเธอสะท้านว่า “น่าเสียดายนะ ที่มันทำกับเธอเหมือนอย่างที่ฉันกำลังจะทำกับเธอไม่ได้” ก่อนเป็นลมหายใจที่รดรินอยู่ตรงลำคอ ขบกัดและแน่ใจว่ามันจะต้องขึ้นรอยแดง แต่อาริสุรู้ว่าเธอจะหาข้อแก้ตัวได้ แม้สิ่งที่เขาทำอยู่นี้อาจเพื่อไม่ให้เธอมีข้อแก้ตัวกับคนรักที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยมากกว่า ก่อนที่หัวสมองของอาริสุจะพร่าเลือน ลมหายใจจะขาดห้วง และลืมเลือนทุกอย่างแม้แต่ความรู้สึกผิดเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของตัวเอง
อย่างที่มีเพียงอิวาซากิ ไทโชคนนี้จะมอบให้ได้
_______________
ความคิดเห็น