ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปรากฏว่าเป็นรัก

    ลำดับตอนที่ #34 : อีกคนหรือเปล่า

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 67


    จ้าวเฟยหรงรู้ว่าครอบครัวของเธอนั้นน่าปวดประสาทมากแค่ไหนก็เมื่อเธอต้องมากลับมาเตรียมตัวรับมือของตระกูลสายรองในวันเปิดพินัยกรรมของพ่อในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ยิ่งลูกชายตัวดีของเธอยังไม่โผล่หัวมาความเป็นห่วงในใจของเธอก็ยิ่งทวีคุณจนกลายเป็นความความกังวล

    “คุณชายรองมาแล้วค่ะคุณหนู” คำเรียกนั้นนอกจากซูเจินแล้วก็ไม่มีใครขวัญกล้าเรียกจ้าวเฟยหรงและจ้างซ่งเหยี่ยนเช่นนี้อีก หญิงชราที่ทำงานกับครอบครัวจ้าวมานานนั้นมีสีหน้าเรียบเฉยอย่างคนที่ผ่านชีวิตมามาก ราวกับว่าในโลกใบนี้ไม่มีอะไรทำให้เธอสะดุ้งสะเทือนได้อีกแล้ว

    “เรียกมานี่มีเรื่องอะไร” แม้ว่าจะอายุอานามเกินครึ่งคนมาหลายปีแล้วแต่ยามที่อยู่กับพี่สาว จ้าวซ่งเยี่ยนก็เป็นเด็กกวนประสาทคนเดิมในความทรงจำของพี่สาว ยิ่งได้ยินคำพูดของน้องชายจ้าวเฟยหรงก็อดที่จะแยกเขี้ยวใส่คนเป็นน้องอย่างหมดความอดทนไม่ได้

    “ยังจะมีหน้ามาถาม แขกจะมาบ้านอยู่แล้วแกยังไม่ยอมกลับบ้าน”

    “ที่นี่มีอะไรดี นอกจากผี” จ้าวซ่งเหยี่ยนกลอกตาไปมา น้ำเสียงของเขานั้นไม่เก็บซ่อนความเบื่อหน่ายและรังเกียจ ‘บ้าน’ ของตัวเอง ที่แม้แต่ผู้เป็นพี่สาวที่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันยังอดที่จะนิ่วหน้านิดๆ ไม่ได้ “อะไร มองแบบนั้นหมายความว่ายังไง”

    “ถ้าแกยังทำตัวปัญญาอ่อนแบบนี้ เราจะชิบหายกันหมด!” จ้าวเฟยหรงปรี่เขาไปบีบต้นแขนของน้องชาย ก่อนจะสบถใส่หน้าคมคายที่มีเค้าเดียวกับตนก่อนจะผลักร่างสูงของจ้าวซ่งเยี่ยนลงนั่งบนเก้าอี้ “เราต้องคุยกัน”

    “ผมไม่ใช่ผู้นำตระกูลจ้าว ถ้าเจ้อยากคุยไม่รอให้ลูกชายสุดที่รักของผมกลับมาล่ะ” จ้าวซ่งเยี่ยนถอนหายใจ ตาก็มองหาแม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัว เพื่อที่จะขอเหล้าแรงๆ สักแก้ว “ซูเจินขอเหล้าหน่อยสิ”

    “คุณหนูสั่งให้เตรียมน้ำชาไว้แล้วค่ะคุณชายเล็ก” แม่บ้านอาวุโสเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ แสร้งเป็นไม่ได้ยินคำขอของจ้าวซ่งเยี่ยน ที่ได้ยินคำพูดนั้นของเธอใบหน้าของเขาก็หงิกงออย่างไม่สบอารมณ์ ผิดกับจ้าวเฟยหรงที่แอบผงกศีรษะเบาๆ อย่างคนที่พึงพอใจ “คุณเมิ่งหลิวกำลังไปจัดการเรื่องเที่ยวบินของครอบครัวนายท่านรอง แจ้งว่าไม่เกินพรุ่งนี้ทุกท่านจะมาถึงเซี่ยงไฮ้ค่ะ”

    “บ้านอารองจะมาครบคนกันแล้ว ลูกชายแกยังไม่กลับมาเลย” จ้าวเฟยหรงอารมณ์ดีได้ไม่นานก็ต้องกลับมาหงุดหงิดอีกครั้งเพราะปัญหาที่คาราคาซังที่ลำพังแค่เธอไม่สามารถแก้ไขได้ “รู้อย่างนี้ฉันไม่น่ายอมให้พวกมันไปเมืองไทยตั้งแต่แรก”

    “พี่ได้คุยกับอี้เทียนบ้างหรือเปล่า มันได้บอกไหมว่าเหมือนฝันจะมาที่นี่พร้อมเวยหลงหรือเปล่า” จ้าวซ่งเยี่ยนถามเรื่องที่เขาใคร่รู้ที่สุด แต่เมื่อพี่สาวปรายตามองเขาอย่างจับผิด เขาก็ต้องเบือนหน้าหนีเพื่อเลี่ยงที่จะตอบคำถาม

    “อย่าบอกนะว่าแกเชื่อเรื่องที่คนเขาลือกันน่ะ” จ้าวเฟยหรงว่าลอดไรฟัน ก่อนหน้านี้คนที่ค้านเรื่องพวกนี้หัวชนฝารองจากอู่อี้เทียน ลูกชายของเธอก็คือจ้าวซ่งเยี่ยนนี่แหละ เหตุผลหลักๆ เพราะว่าเขาชวดตำแหน่งผู้นำตระกูลจ้าวเพราะคำทำนายของมาสฟ้า แม้ว่าคนตัดสินใจเรื่องทั้งหมดจะเป็นจ้าวลี่หยาง...พ่อของพวกเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเด็กสาวชาวไทยที่ชื่อมาสฟ้าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ตำแหน่งผู้นำตระกูลจ้าวถูกสับเปลี่ยน “ไหนบอกว่าไร้สาระไง”

    “เจ้เองก็บอกว่าไร้สาระเหมือนกันแหละ”

    “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าแกจะมาเริ่มเชื่อเรื่องพวกนี้หลังจากที่พ่อตายไปแล้ว” จ้าวเฟยหรงเงยหน้าหัวเราะร่วน ก่อนจะส่ายศีรษะเบาๆ กับตัวเองอย่างเหลือเชื่อ “หรือว่าคนเราจะยิ่งแก่แล้วยิ่งเพี้ยนนะ”

    “พี่ไม่รู้ว่ายายเด็กนั่นพูดอะไรกับผมเฉยๆ หรอก ถ้าพี่รู้พี่จะไม่...”

    “เหมือนฝันเหรอ แฝดคนน้องใช่ไหมที่แกถาม” จ้าวเฟยหรงหรี่ตา ครุ่นคิดกับตัวเองก่อนคิ้วงามจะยิ่งขมวดมุ่นอย่างสับสน มั่นใจว่าหมอดูของพ่อเธอนั้นเป็นแฝดคนพี่มาสฟ้า ส่วนแฝดคนน้องนั้นเธอไม่ได้สนใจมากนักอย่างหนึ่งคงเพราะว่าลูกชายของเธอแสดงออกชัดเจนว่าติดอกติดใจมาสฟ้า จ้าวเฟยหรงจึงสนใจคนที่อาจจะเป็นลูกสะใภ้ในอนาคตของเธอมากกว่า “ทำไม เหมือนฝันเป็นหมอดูเหมือนพี่สาวเขาด้วยเหรอ”

    “หึ หมอดูหาที่ไหนก็ได้ไหม” จ้าวซ่งเยี่ยนยิ้มเหยียดที่มุมปาก ทำให้สีหน้าของเขาดูเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าในยามปกติ “แล้วตกลงเด็กนั่นจะมาไหม?”

    “ตามกฎแล้วเหมือนฝันต้องมาที่นี่ ไม่อย่างนั้นอู่อี้เทียนต้องพามาสฟ้ามา”

    “ไม่ว่าจะอย่างไหนก็คงดูเป็นไปได้ยากพอๆ กัน” ฟังคำตอบของพี่สาวแล้วจ้างซ่งเยี่ยนก็ถอนหายใจยาว “ไม่มีผู้หญิงสติดีที่ไหนจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่หรอก โดยเฉพาะผู้หญิงฉลาดๆ อย่างเหมือนฝัน”

    “ดูท่าแล้วแกจะชอบลูกสะใภ้ของแกไม่เบาเลยนะ” จ้าวเฟยหรงเลิกคิ้ว เธอไม่คิดว่าน้องชายที่ครั้งหนึ่งเคยวางแผนที่จะลักพาตัวเหมือนฝันเพื่อต่อรองและชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลจ้าวกับจ้าวเวยหลง จะเอ็นดูคนรักของลูกชายออกนอกหน้าขนาดนี้ “จ้าวเวยหลงคงดีใจแย่”

    “ให้เด็กนั่นแต่งเข้ามา ดีกว่ายอมยกทุกสิ่งที่ทุกให้บ้านอารอง” ในที่สุดจ้าวซ่งเยี่ยนก็เอ่ยเหตุผลที่แท้จริงในการยอมรับการคบหาของจ้าวเวยหลงและเหมือนฝันออกมา ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่เหนือไปกว่าความคาดหมายของจ้าวเฟยหรง เพราะที่เธอรับกลับมาที่บ้านของครอบครัวและจัดการทุกอย่างรอ ระหว่างที่จ้าวเวยหลงและอู่อี้เทียนไปตามคนรักของพวกเขากลับมา เธอก็ไปทำเพราะเหตุผลเดียวกัน ไอ้การที่ยอมลดทิฐิมาคุยดีกับน้องชายก็เพราะยอมให้ทุกอย่างที่พ่อของเธอสร้างมาตกไปอยู่ในมือของบ้านรองไม่ได้

    “บทแกจะฉลาด แกก็ฉลาดขึ้นมาง่ายๆ เสียอย่างนั้น”

    “ผมไม่เคยคิดที่จะแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูลจ้าวกับบ้านรองอยู่แล้ว” จ้าวซ่งเยี่ยนยักไหล่ ก่อนหน้านี้เขาห่ำหั่นกับลูกชายเป็นบ้าเป็นหลังเพราะตำแหน่งนี้ก็จริง แต่เขาก็ไม่ถึงกับไร้สมอง ยิ่งเห็นพี่สาวของเขากลับมาจัดการทุกอย่างในบ้าน หลังจากที่แต่งงานออกไปเกือบสี่สิบปี มันยิ่งเป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนว่าจ้าวเฟยหรงคงรู้เห็นอะไรบางอย่างมา “ตกลงพี่มีเรื่องอะไรจะพูดกับผมกันแน่”

    “เข้าเรื่องสักที...” เมื่อเห็นว่าน้องชายที่ทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพายมาตลอดชีวิตเปลี่ยนท่าทีมาเป็นจริงจัง จ้าวเฟยหรงก็ถอนหายใจเสียงดัง แล้วก้มลงเพื่อที่จะเลื่อนเอกสารบนโต๊ะระหว่างพวกเขาไปไว้ตรงหน้าน้องชาย “นอกจากอารองแล้วน่าจะเป็นคนพวกนี้ ที่อาจจะเสนอชื่อมาแย่งตำแหน่งกับเวยหลง”

    “แค่อารองคนเดียวก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ยังจะมีคนอื่นอีกเหรอ”

    “เรื่องนี้ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า ฉันคุยกับซูเจินแล้ว...ถ้าเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมา แกเองในฐานะทายาทสายตรงคนแรก เราอาจจะต้องใช้ชื่อแก”

    “ถ้าจะนับตำแหน่งทายาท เจ้ก็เป็นสายตรงกว่าผม”

    “เรื่องมันเลยซับซ้อน แต่เราคงไม่ต้องปวดหัวมากเพราะพินัยกรรมของพ่อคงเขียนทุกอย่างไว้ชัดเจนแล้ว” จ้างเฟยหรงเอ่ย แต่น้ำเสียงของเจ้าหล่อนก็ยังมีความกังขาอยู่ไม่น้อย “ทุกคนรู้ว่าจ้าวเวยหลงจะสืบทอดตกแหน่งผู้นำตระกูลจ้าว เว้นแต่ว่าจ้าวเวยหลงจะตายไปเสียก่อน...แต่อย่างที่รู้กันตำแหน่งผู้นำตระกูลเปลี่ยนแปลงได้ตลอดอยู่แล้ว ยิ่งช่วงหัวเรี้ยวหัวต่อแบบนี้...แกน่าจะเข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไร”

    “พี่คิดว่าอารองจะฆ่าเวยหลงเหรอ?”

    “แกเองก็เคยคิดที่จะทำแบบนั้นไม่ใช่หรือไง” จ้าวเฟยหรงดักคอน้องชายอย่างรู้เท่าทัน เมื่อจ้าวซ่งเยี่ยนกลอกตาไปมาแต่ไม่โต้แย้ง เธอจึงพูดต่อ “ฉันอยากจะรู้ว่าแกยอมแพ้จริงๆ หรือกำลังเล่นละครตบตาฉัน ซ่งเหยี่ยน...ฉันต้องรู้ว่าฉันต้องกำจัดแกอีกคนด้วยหรือเปล่า เข้าใจที่ฉันพูดไหม”

     

     

    ใครมันจะกล้า ศรีจะรอดูอีพวกไม่เจียมกะลาหัว // เท้าเอว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×