ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซัมปากีตา...สีหม่น : The Gray Jasmine

    ลำดับตอนที่ #34 : 6 เปิดตา เปิดใจ 2/6

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 65



    มานิลาพาตัวเองมานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กซับหยาดน้ำบนใบหน้า ก่อนเริ่มแต่งหน้าอ่อน ๆ ปกปิดร่องรอยอันเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงการนอนดึกเอาไว้ หญิงสาวปลดกิ๊บหนีบผมตัวใหญ่บนศีรษะออก เผยผมยาวสลวยดำขลับต่อหน้ากระจกเงาบานสูง

    ผมลูกสวยเหมือนแม่

    พ่อมักบอกเช่นนี้เสมอเวลาที่เธอหนุนตักท่านยามนอนมองแปลงต้นซัมปากีตาที่ผลัดกันออกดอกบานสะพรั่งรอบบ้านแบบไม่ทิ้งช่วงให้ต้นได้เหงา ชอบเวลาที่มือโต ๆ ของพ่อลูบผมเล่น เธอจึงไม่คิดตัดผมให้สั้น เปลี่ยนสีผมหรือดัดเป็นลอนตามสมัยนิยม และตั้งแต่จำความได้ผมของเธอก็ยาวเลยกลางแผ่นหลังมาตลอด

    สาวลูกครึ่งฟิลิปปินส์ไทยยิ้มขื่นให้กับชีวิตตัวเอง ความทรงจำเกี่ยวกับแม่ที่เธอประสบเองนั้นไม่มีเลยสักนิด จะมีก็เพียงเรื่องราวที่พ่อถ่ายทอดให้ฟังอีกต่อเท่านั้น คำถามต่อมาที่แวบขึ้นจนเด่นชัดในสมองคือจริง ๆ แล้วเธอจากบ้านเกิดมาอาศัยในประเทศไทยเพื่ออะไรกันแน่

    เพื่อหนีจากสภาพแวดล้อมเดิมที่มองไปทางไหนก็มีเรื่องราวของเธอกับพ่อลอยฟุ้ง พานให้คิดถึงท่าน

    เพื่อเรียนต่อปริญญาโทในสาขาที่ตัวเองรัก

    เพื่อให้ได้เห็นโลกในมุมที่กว้างขึ้นกว่าเดิม

    หรือมาเพื่อให้ได้เห็นบางสิ่งที่จะทำให้กลับไปใช้ชีวิตในฟิลิปปินส์บ้านเกิดได้อย่างไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว...

     

    เมื่อขอบคุณคนมาส่งไปตามมารยาทแล้ว มานิลาก็เปิดประตูรถเดินหิ้วกล่องวิโอลาใหม่เอี่ยมตรงมาทางร้านอาหารโดยที่ไม่หันกลับไปมองด้านหลังเลยแม้แต่น้อย ไม่อยากรับความหวังดีนี้ของเขาเลยด้วยซ้ำเพราะมันทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างถึงที่สุด แต่ประกาศิตของเขาที่บอกเมื่อเธอคิดจะหนีมาที่ร้านเองทำให้ต้องยอมจำนนอย่างเลี่ยงไม่ได้

    ถ้าคุณไม่ให้ไปส่ง เรื่องของเราในห้องแล็บ ผมจะบอกกับแม่กับยายบรีส

    หญิงสาวพ่นลมหายใจแรง ๆ หนึ่งทีแล้วดันประตูกระจกเข้าสู่ตัวร้าน เสียงกรุ๊งกริ๊งจากกระดิ่งช่างน่าฟัง หากแต่เสียงนั้นไม่ได้เข้ามาในโสตประสาทของมานิลามากเท่าไรนัก ไม่ทันได้ก้าวเท้าเดินต่อก็เจอเจ้าของร้านหนุ่มยืนกอดอกส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้

    “สวัสดีค่ะคุณเสกข์”

    “วันนี้มีหนุ่มมาส่งด้วยแฮะ” เสกข์ที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่รถคันโก้ขับเข้ามาในร้านบุ้ยใบ้ผ่านผนังกระจกใสไปยังชายหนุ่มซึ่งเพิ่งลงจากรถและกำลังก้าวยาว ๆ มาทางนี้ “นึกว่ารถราคาแพงของใครที่ไหน ที่แท้ก็แฟนมะลินี่เอง”

    “ไม่ใช่นะคะคุณเสกข์”

    “เอาน่า ไม่ต้องเขินพี่หรอก โน่น ๆ เขามาโน่นแล้ว”

    ธตรัฐเดินมายืนเคียงข้างมานิลาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หากผู้ชายที่ยืนคุยอยู่กับเธอตอนนี้ไม่ใช่เจ้าของรถที่เขาเคยเห็นมานิลาติดสอยห้อยตามไปด้วย อารมณ์โมโหหึงคงไม่พุ่งสูงขนาดนี้

    แน่ละ เขายอมรับกับตัวเองแล้วว่าหึง ไม่น่าเชื่อว่าจูบในวันนั้นจะทำให้เขาแทบคลั่งตายในวันนี้ หึงทั้ง ๆ ที่ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าแม้แต่ฐานะคนรู้จักมานิลาจะให้เขาได้หรือเปล่า

    “สวัสดีครับ ผมเสกข์ครับ เป็นเจ้าของที่นี่”

    เสกข์ยื่นมือออกไปทักทาย ธตรัฐจึงต้องรับคำทักทายนั้นอย่างเสียไม่ได้

    “บอมครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ยินดีอย่างนั้นหรือ ไม่เลยสักนิด ชายหนุ่มตัดบทสนทนาด้วยกันคว้าเอากล่องวิโอลามาถือไว้เสียเอง “ผมช่วย คุณจะให้เอาไปไว้ไหนหรือ”

    “ตามสบายนะครับ เห็นทีวันนี้ผมต้องขอตัวก่อน ต้องรีบกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านครับ ไม่อย่างนั้นภรรยากับลูกมีงอนแน่ ๆ วันนี้เต็มที่นะมะลิ” ประโยคหลังเสกข์พูดพร้อมกับตบบ่านักดนตรีสาวเบา ๆ

    ธตรัฐสะดุดกับคำว่า ภรรยากับลูกและเขาเชื่อว่ามานิลาไม่มีทางยุ่งเกี่ยวเชิงชู้สาวกับคนที่ดูแล้วจะรักลูกรักเมียอย่างเสกข์แน่ ๆ ยิ่งเสกข์เป็นเจ้านายด้วยแล้ว ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้

    “มะลิ ขอโทษที เดี๋ยวผมมา”

    เขาส่งกล่องวิโอลาคืนให้และหญิงสาวก็รับมาอย่างงง ๆ คนอะไร เมื่อกี้เพิ่งจะแย่งไปถือ แต่ตอนนี้กลับยัดใส่มือเธอเสียง่าย ๆ

    “คุณเสกข์ครับ ผมขอคุยด้วยสักสองสามนาทีได้ไหม” ธตรัฐรีบวิ่งตามมาจนทันกับเสกข์ที่กำลังจะก้าวขึ้นรถพอดี

    เจ้าของร้านอาหารกลางสวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนเปลี่ยนมาเป็นพยักหน้ารับอย่างเป็นมิตร

     

    เสียงวิโอลาในท่วงทำนองเพลงแสนไพเราะจากนักดนตรีสาวหน้าหวานเพียงหนึ่งเดียวบนเวทีเตี้ย ๆ ขับกล่อมให้แขกในร้านรู้สึกผ่อนคลายรวมทั้งเจริญอาหารมากขึ้น หากแต่มันกลับไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ในมุมที่ห่างไกลจากเวทีมากที่สุดผ่อนคลายหรือเจริญอาหารได้เลย

    ก็จะให้เจริญอาหารได้อย่างไรกันเล่า ในเมื่อท่วงทำนองที่ไพเราะนักหนาสำหรับคนอื่นนั้นเป็นเหมือนเพลงที่มานิลาเลือกมาเล่นราวกับยกให้เป็นเพลงประจำตัวเขาเสียอย่างนั้น เสียงบรรเลงจากวิโอลาไร้ซึ่งเสียงร้องก็ดูเหมือนจงใจเว้นช่องให้เขาเข้าไปร่วมแจมเสียเหลือเกิน ธตรัฐเคาะปลายนิ้วลงกับโต๊ะเข้ากับจังหวะเพลงแล้วร้องคลอเบา ๆ จนถึงท่อนพีค

    นักร้องสมัครเล่นดีกรีหนุ่มฮอตแห่งปีหยุดร้องเมื่อจบท่อนฮุค แล้วเปลี่ยนมาเป็นหมุนแก้วน้ำบนโต๊ะเล่น หากแต่ยังตั้งใจฟังเสียงวิโอลา ยิ่งฟังก็ยิ่งโดน อยากจะขอโทษเธอเหมือนในเพลง แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่ฟังคำขอโทษเลย แค่ติ่งหูเขามานิลาคงไม่อยากมอง

    ให้ตายเถอะ ! เพลงนี้มันเขียนมาเพื่อมึงแท้ ๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×