คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : 5 จูบ...มีฤทธิ์สะกิดหัวใจ 7/7
“ไปอาบน้ำไปบอม
หัวกระเซอะกระเซิงอย่างกับสิงโตสิ้นท่าเชียว” อาจารย์ตรีทิพย์ตัดบท
เหนื่อยใจกับลูกชายที่เวลาอยู่นอกบ้านดูเป็นผู้ใหญ่อยู่หรอก แต่พออยู่บ้านกลับกลายเป็นเด็กไปเสียได้
“โอเคครับ อาบก็อาบ”
ชายหนุ่มหอมแก้มมารดาแล้วลุกขึ้นยืน
มานิลาลอบถอนหายใจเพราะคิดว่าคงใกล้พ้นจากความอึดอัดที่เผชิญอยู่
แต่ความดีใจก็พลันปลิวหลุดลอยเมื่อธตรัฐเดินอ้อมมาแล้วโน้มตัวผ่านหน้าเธอไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเพื่อฉกหอมแก้มน้องสาว
“เดี๋ยวพี่อาบน้ำเสร็จแล้วจะมานั่งเรียนเป็นเพื่อนนะยายตัวเล็ก”
“รีบไปเลยพี่บอม ตัวเหม็นมากนะขอบอก”
ธริษตรีแกล้งยกมือบีบจมูกแล้วโบกมือไล่พี่ชาย
“เยอะไปแล้ว”
มานิลาหน้าร้อนฉ่าด้วยอาการประหม่า
นี่เธอต้องเผชิญหน้ากับเขาอีกแล้วอย่างนั้นหรือ หากแต่เมื่อคิดได้ว่าไม่ควรสนใจเรื่องอื่นนอกเหนือจากทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด
หญิงสาวก็สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วดึงสมาธิจดจ่อกับแบบฝึกหัดที่ตรวจค้างไว้ต่อ
ถึงไหนแล้วนะ
ทำไมทั้งกระดาษถึงได้มีแต่คำว่า จูบ จูบ จูบ เต็มไปหมดล่ะ !
น้ำจากเรนชาวเวอร์ไหลเป็นสายปะทะกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง
ก่อนตกลงสู่พื้นกระเบื้องเนื้อดี
ธตรัฐยิ้มพรายเมื่อแน่ใจแล้วว่าการกระทำของเขามีผลกับมานิลามากแค่ไหน
เพราะถ้าไม่มีผลมากจริง ๆ หญิงสาวคงไม่เขินหนักจนอายหน้าแดงหูแดง
หรือยิ่งกว่านั้นอาจแดงทั้งตัวไปแล้วก็ได้
ประสบการณ์ในแบบที่ผู้ชายพึงมี
เขาผ่านมันมาแล้วอย่างโชกโชนจนอาจเรียกได้ว่าเกินคุ้ม
ประสบการณ์มากมายที่สะสมมานี่เองที่นำเอามาเป็นมาตรฐานประเมินได้ว่ามานิลาจูบไม่เป็นสับปะรด
ชนิดที่ต่ำกว่าเกณฑ์เอามาก ๆ แต่ความไม่เป็นสับปะรดกลับถูกใจเขาที่สุด
เธอตกใจเหมือนคนที่ไม่เคยถูกจูบมาก่อน และเพราะเป็นแบบนี้ถึงต้องเอาความคิดเดิมที่เคยคิดว่าหญิงสาวหาลำไพ่พิเศษขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง
เขาเห็นเธอยืนต่อรองค่าตัวกับเสี่ยอ้วนพุงพลุ้ยประโคมทองหยองทั้งตัวประหนึ่งตู้ทองเคลื่อนที่
ในวันที่ไปงานแต่งลูกสาวคู่ค้าที่โรงแรม
เห็นเธอพูดจาราวกับสนิทสนมกับผู้ชายแต่งตัวดูดีแล้วขึ้นรถไปด้วยกัน
ในวันที่เขาพากิรตราไปเซอร์ไพร์สวันเกิดที่ร้านอาหารกลางสวนที่เธอเล่นดนตรีอยู่
แต่สองเหตุการณ์นี้เพียงพอแล้วหรือที่จะใช้ตัดสินใครสักคน
“โธ่เว้ยไอ้บอม !”
ชายหนุ่มสบถดังลั่นห้องน้ำ
ซึ่งหากไม่เปิดน้ำไว้แรงสุด เสียงอาจเล็ดลอดออกไปข้างนอกแล้วด้วยซ้ำ
เรื่องนี้เขาต้องรู้ความจริงให้ได้
ใจเชื่อไปแล้วเกินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าปากตนเป็นปากแรกที่ได้สัมผัสกับปากนุ่ม ๆ
แถมยังหอมหวานของมานิลา
หอมหวานละมุนจนอยากจะเปลี่ยนชื่อให้เธอใหม่ว่า...วานิลลา
ด้วยซ้ำไป
มานิลาหน้าเรียบนิ่ง
ไม่พูดไม่จามาตลอดทางตั้งแต่นั่งรถยนต์ที่มีธตรัฐเป็นคนขับออกจากบ้านธัญภากร
ถ้าหากไม่เกรงใจอาจารย์ตรีทิพย์และไม่กลัวว่าท่านจะเสียน้ำใจเธอคงปฏิเสธไปแล้ว
ไม่คิดเลยว่าความเกรงใจจะย้อนศรมาทำให้เธอต้องทำตัวไม่ถูก
ไม่รู้แม้แต่จะวางมือไว้ตรงไหน
“คุณพูดบ้างก็ได้นะ”
หญิงสาวยังคงเงียบ
เสียงหายใจที่เริ่มฟึดฟัดทำให้ธตรัฐพอจะรู้ว่าคนอมดอกพิกุลไว้เป็นกระบุงคงอยู่ในอารมณ์อะไรสักอย่าง...แต่โกรธ
ไม่พอใจ หรือเขิน เขาก็เดาไม่ถูก
“ผมว่าเมื่อวานผมแค่ดูดปากคุณนะ
ไม่ได้ดูดเสียงไปด้วย” ชายหนุ่มเยื้อนยิ้ม
“คุณบอม !”
“คร้าบ ผมรู้แล้วว่าตัวเองชื่อบอม”
มานิลาเบี่ยงหน้ามามองผู้ชายหลังพวงมาลัย
เมื่อไรเขาจะเลิกแกล้งให้เธอเสียความมั่นใจสักที หากแต่ลึก ๆ
กลับสัมผัสได้ว่าผู้ชายคนเดิมที่เธอเคยช่วยไว้ใกล้จะกลับมาแล้ว
“หนูจะขอบคุณมากค่ะถ้าคุณไม่คุยเลยจนกว่าหนูจะลงจากรถ”
“อืม...” ชายหนุ่มลากเสียงยาว
เขาหันไปมองจอมออกคำสั่งนิดหนึ่ง ก่อนให้ความสนใจกับการจราจรบนถนนต่อ
“ปากเก่งขึ้นมาบ้างแล้ว สงสัยจะเป็นเพราะเราแลกแลคโตบาซิลลัสกันเมื่อวาน
ถ้าแลกบ่อย ๆ รับรองคุณไปถึงระดับดอกเตอร์โดยที่ไม่ต้องเรียนต่อระดับปริญญาเอกแน่
ๆ มะลิ”
“กรุณาจอดรถด้วยค่ะ”
คราวนี้เธอเริ่มทนไม่ไหว
“ก็ได้ ๆ ไม่แกล้งแล้ว ฟังเพลงแล้วกัน”
ไฟจราจรเป็นสีแดงพอดี
ธตรัฐปลดล็อกโทรศัพท์แล้วเลือกเพลงที่เมื่อคืนเขาโหลดเก็บไว้และฟังเกินสิบรอบมาเปิดให้เสียงดังผ่านลำโพงรถยนต์
“จูบ คุณคิดว่าไม่สำคัญ
แต่เมื่อคุณจูบฉันทำไมฉันสั่นไปถึงหัวใจ คุณเป็นคนจูบ คุณรู้บ้างไหม
ฉันหนาวฉันร้อนเหมือนดังเป็นไข้ ทุกที ทุกที...”
มานิลาเริ่มเหงื่อตก
แต่พยายามบอกตัวเองว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ไม่เย็นทันใจ
“คุณบอม ! ปิดเพลงเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”
ธตรัฐทำหูทวนลม
ซ้ำยังร้องคลอไปในท่อนต่อมาอย่างอารมณ์ดี
“จูบ มีฤทธิ์สะกิดหัวใจ
ตัดอย่างไรไม่ไหว มันทำฉันให้ไม่สมประดี[1]”
ความคิดเห็น