NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『Whisper of LOVE • Short Fanfiction』

    ลำดับตอนที่ #30 : ▲ [D.Gray man] White & Dark lord (Tyki x Allen) - Part 9

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 65


    ** มีฉากบรรยายถึงความรุนแรงในตอน เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ**


    แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)









            แสงแดดจากช่วงสายของวันที่ส่องผ่านหน้าต่างทำให้อเลนไม่อาจฝืนหลับต่อไปได้ เปลือกตาที่หนักอึ้งเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมกับศีรษะที่ปวดจี๊ดจนต้องนิ่วหน้า ระบมไปทั้งตัวราวกับโดนซ้อมอย่างไม่มีสาเหตุ

     

    ความรู้สึกอ่อนเพลียเหมือนจะลุกให้ยืนก็ยังไม่ไหวนี่มันอะไรกัน

     

            ภาพในหัวเลือนลางเกินกว่าจะปะติดปะต่อได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนอยู่ในสภาพนี้ ทำไมจึงสวมแค่เสื้อเชิ้ตหลวมโคร่งไว้ตัวเดียว ร่วมกับช่วงล่างที่เบาหวิวและเหนียวเหนอะหนะอย่างน่าประหลาด

     

            พลันความทรงจำสุดท้ายที่ไหลเข้ามาคือคนที่มีสามตาบนหน้าผากพยายามยัดเยียดน้ำสีอำพันมาให้ เด็กหนุ่มจำไม่ได้ว่าดื่มไปเยอะแค่ไหน แต่ความรู้สึกหนึ่งที่เด่นชัดคือเขาร้อนมาก ร้อนจนเหมือนตัวจะปะทุเป็นภูเขาไฟได้ตรงนั้น

     

            จนกระทั่งทีกี้ลากเขาออกมาจากงานแล้วอุ้มมาส่งบนห้อง เรื่องราวหลังจากนั้นกำลังฉายภาพในหัวซ้ำ มือเจ้ากรรมที่ไปดึงคนตัวสูงเข้ามาจูบอย่างไร้สติ ก่อนเหตุการณ์ทุกอย่างจะเลยเถิดจนไม่อาจหยุดลงง่ายๆ

     

    ความร้อนเห่อไปทั้งใบหน้า คนทำอะไรไม่ถูกรีบคว้าเอาผ้าห่มมาคลุมโปงจนกลายเป็นก้อนกลม

     

    กลายเป็นเจ้าสาวของโนอาจริงๆไปแล้วนี่ไง ไม่คิดว่าตอนนั้นตัวเองจะไร้สติขนาดเอ่ยปากเชิญชวนอีกฝ่ายก่อนเสียได้

     

    แม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจะมาจากอุบัติเหตุหรือไม่ก็ตาม แต่อเลนกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้ทำให้เขารังเกียจหรือเสียใจ

     

            กลิ่นหอมกรุ่นของธัญพืชที่ลอยมาเตะจมูกเรียกความสนใจจากคนใต้ผ้าห่มให้หันไปมอง พลันภาพของฝ่ามือคู่หนึ่งที่ถือชามอาหารผ่านตาไปก็ทำให้ใบหน้าหวานรีบก้มงุดโดยอัตโนมัติ เมื่อเขาจำได้ดีว่าเจ้าของสีผิวและหลังมือที่คุ้นเคยนั้นเป็นใคร

     

    “เจ็บหรือเปล่า” น้ำเสียงอ่อนโยนแบบที่ได้ยินมาตั้งแต่เมื่อวานทำให้คนฟังใบหน้าขึ้นสี

     

            คนโดนถามพยักหน้ายึกยัก ส่วนคนมาใหม่ก็ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาวางข้างเตียง ทิ้งร่างสูงโปร่งลงก่อนตักเอาซุปอุ่นๆมาจ่อถึงริมฝีปาก ใบหน้าคมคายที่ประดับด้วยรอยยิ้มแบบนั้น ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ทำใจให้ชินไม่ได้เสียที

     

    ทำไมคนที่เคยใช้งานเขาเป็นทาส ถึงมาดูแลเขาเหมือนตัวเองเป็นทาสซะเองแบบนี้


    แปลก แปลกมาก

     

    “ผมกินเองได้ครับ” และเสียงที่แหบแห้งเหมือนคนขาดน้ำกลางทะเลทรายก็ทำให้ทีกี้หลุดหัวเราะพรืด ส่งให้ริมฝีปากบางรีบหุบฉับเข้าหากันอย่างไว จะคว้าเอาชามตรงหน้ามาไว้ในมือแต่คนตัวโตก็ไวกว่า รีบยกแขนหนีอย่างรู้ทัน

     

    “ขอโทษนะที่เมื่อคืนรุนแรงเกินไปหน่อย” แม้ไม่ต้องมีชนวน อเลนก็เหมือนจะระเบิดตัวเองตายได้ตรงนี้

     

    “เธอนั่งเฉยๆ กินเสร็จแล้วฉันจะพาไปอาบน้ำ”

     

            มือบางรีบกระชับผ้าห่มเข้ามาให้แน่นกว่าเดิมจนสภาพเหมือนดักแด้ตัวน้อยๆ ถ้าหูเขาไม่ได้ฝาดไป ผู้ชายคนนี้ก็ต้องกำลังเมาอยู่แน่ๆ กะอีแค่อาบน้ำมันไม่จำเป็นต้องมาทำแทนกันก็ได้นี่

     

    “ผมทำเองได้ครับ!

     

            ริมฝีปากได้รูปที่เอาแต่ยิ้มไม่หุบจนดวงตาสีทองหยีไปด้วยทำให้อเลนอยากคว้าหมอนมาปาใส่ให้รู้แล้วรู้รอด ผู้ชายคนนี้เป็นใคร มองอย่างไรก็ไม่ใช่หัวหน้าตระกูลโนอาอย่างลอร์ดทีกี้ มิกก์เลยซักนิด

     

     

     

     

     

     

            สำหรับปีศาจตนอื่น กลิ่นอายมนุษย์ของอเลนอาจจะบางเบาลง แต่สำหรับทีกี้แล้วมันกลับรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว อาจเพราะความเป็นโซลเมททำให้เขารู้สึกราวกับไม่อยากให้เด็กหนุ่มอยู่ไกลตัว กลัวว่าหากใครได้กลิ่นนี้แล้วจะชิงโซลเมทของเขาออกไปจนลับตา

     

            วันนี้หัวหน้าตระกูลโนอากลับมาทำงานเหมือนปกติ ชายหนุ่มวางศีรษะลงบนตักของคนตัวเล็กแบบที่ชอบทำ คราวนี้เขาไม่ได้หลับตาแต่กำลังจ้องไปยังรอยกัดบนไหล่บางที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมาให้เห็น นึกเสียดายที่ตอนนั้นไม่กัดหลังคอไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด

     

    “ถ้าคุณจะไม่นอนก็ลุกไปทำงานต่อเถอะนะครับ ขาผมชาหมดแล้ว” เจ้าของหมอนนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้นประท้วงพร้อมคิ้วเรียวที่ขมวดยุ่ง ฝ่ามือเล็กทั้งสองข้างยกมาปิดดวงตาสีทองที่กำลังทอประกายจนมิด

     

            ผมหยักศกสีดำของอีกฝ่ายกำลังคลอเคลียอยู่บนหน้าขาของเขา ไม่ว่าจะมองอย่างไรผู้ชายคนนี้ก็เหมือนกับหมาตัวโตขนฟูไม่มีผิด ปีศาจที่น่ากลัวคนนั้นหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

     

            แม้ลานสายตาจะถูกบดบังไว้จนมิด แต่ริมฝีปากได้รูปกลับระบายยิ้มพอใจเมื่อเด็กหนุ่มทำแบบนั้น เขาฉวยโอกาสคว้าเอาฝ่ามือที่เล็กกว่ามาจุมพิตเบาๆจนคนด้านบนสะดุ้งขึ้น แม้ตาคู่สวยจะมองออกไปทางอื่นและมีท่าทางเหมือนคนหงุดหงิด แต่ใบหูทั้งสองข้างกลับแดงแจ๋จนต้องเผลอหลุดขำออกมา

     

    น่ารักชะมัด

     

    “ทั้งที่พรุ่งนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง แต่ฉันรู้สึกเหมือนพลังมันเสถียรขึ้นเยอะเลยล่ะ”

     

            แม้จะชอบท่าทางตลกๆแบบนั้นของอเลน แต่ชายหนุ่มก็เลือกหยุดการแกล้งลงแค่นั้น เขาปิดแพขนตาหนาเข้าหากันด้วยสีหน้าผ่อนคลาย มือทั้งสองข้างยังกอบกุมมือนิ่มของคนน้องไว้เช่นเดิม

     

    จังหวะนั้นเรียกให้ดวงตาสีขี้เถ้ากลับมาจับจ้องใบหน้าคมคายอีกครั้ง ท่าทางลนลานที่เคยมีก็พาลสงบลงไปด้วย

     

            จริงสิ… มัวแต่ยุ่งจนลืมไปเลยว่าชายคนนี้จะแยกออกเป็นสองอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ จนกว่าจะถึงตอนนั้นเขาจะกล้าสู้หน้าเจ้าร่างสีดำนั่นหรือเปล่านะ

     

    “เสถียรขึ้น เป็นไปได้ด้วยหรอครับ”

     

    เคยได้ยินมาตลอดว่าโนอาต้องคำสาปจากพระเจ้า คนผู้นั้นจะใจดีขนาดยอมปลดคำสาปให้อย่างง่ายดายขนาดนี้เชียวหรือ

     

    “คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืนก่อนนะ”

     

    “ดูท่าว่าถ้าอยากให้พลังคงที่ คงต้องทำกับเธอบ่อยๆหน่อยแล้ว”

     

            แอบลืมตามองสีหน้างุนงงของอีกฝ่ายเพียงชั่วครู่ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำพูดสองแง่สองง่ามออกไปเย้าแหย่อยู่ดี ความร้อนตีเข้าปะทะใบหน้าหวาน อเลนรีบชักมือออกแล้วส่งแรงจากแขนดันเอาแผ่นหลังกว้างให้ลุกขึ้นนั่งแทบจะทันที

     

    “ไม่เกี่ยวเลยครับ! กลับไปทำงานของคุณต่อเลยนะ!

     

    ผู้ใหญ่ลามก เพราะคืนก่อนฤทธิ์แอลกอฮอล์มันพาไปหรอกนะถึงได้เผลอทำเรื่องแบบนั้นไป

     

            เขายังเป็นเด็กหนุ่มไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ แต่อีกฝ่ายเป็นถึงผู้นำตระกูลที่อายุเข้าใกล้เลขสามแล้ว ชายที่น่าเกรงขามคนนั้นกลายเป็นคนชอบพูดจาลามกตั้งแต่เมื่อไร

     

            อเลนมองภาพคนตัวสูงที่ยกมือขึ้นมาเกาผมยุ่งๆของตนทั้งรอยยิ้มทะเล้น ไม่ได้ผิดจากที่เจ้าตัวว่านัก พลังปีศาจที่อยู่รอบตัวของเขาไม่ได้แปรปรวนเหมือนปกติแล้ว


    นิ่งเสียจนคิดว่าคืนพรุ่งนี้เขาอาจจะไม่แยกร่างเป็นสองอีกแล้วก็ได้

     

     

     

     

     

     

           ช่วงเวลานี้คือกลางดึกอันเงียบสงัดของโลกปีศาจ เด็กหนุ่มไม่ได้นอนหลับอยู่ในห้องของเขาแบบที่ควรจะเป็น ข้อมือเล็กถูกกอบกุมและออกแรงดึงเบาๆมายังระเบียงที่เคยใช้สนทนากับร่างสีขาวเมื่อหลายคืนก่อน เบื้องล่างเป็นสวนดอกไม้ของคฤหาสน์ที่เบ่งบานท้าทายลมหนาว ไม่เคยรู้มาก่อนว่าไม้ประดับยามต้องแสงจันทร์จะสวยงามได้เพียงนี้

     

    “อยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยืนมองเจ้านั่นอย่างเต็มตา” ปลายนิ้วเรียวของผู้นำตระกูลชี้ไปยังผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ ดวงตาสีทองส่องประกายงดงามเช่นดวงจันทร์ที่กำลังลอยเด่น ร่างกายที่ต้องสาปในวันนี้ไม่ได้แยกออกเป็นสองเหมือนทุกครั้ง

     

    แต่ใช่ว่าส่วนผสมระหว่างมนุษย์และปีศาจในร่างของเขาจะเป็นหนึ่งเดียวกัน

     

    “ข้างในนี้มันกำลังปั่นป่วน” ร่างกายไม่คุ้นชินกับความแปลกใหม่ ฝ่ามือหนาสัมผัสลงบนแผ่นอกที่ร้อนวูบวาบ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกเหมือนมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆได้ทุกเมื่อ

     

            ภาพจันทร์เต็มดวงและคืนเดือนแรมที่เคยชิงชัง ความทรงจำจากทั้งสองร่างที่จะไหลเข้ามารวมกันเมื่อถึงเช้าวันใหม่ ความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญเมื่อร่างกายแยกออกเป็นสอง แม้จะไม่เคยสัมผัสสิ่งที่ทีกี้ต้องเผชิญมาทั้งชีวิต อย่างน้อยในฐานะบรรณาการอเลนก็อยากจะเป็นที่พึ่งได้บ้าง

     

    “ผมจะอยู่ข้างๆ จนกว่าคุณจะหลับนะ”

     

            เขากอบกุมฝ่ามือที่ใหญ่กว่าอย่างแผ่วเบา น่าแปลกที่ความรู้สึกว้าวุ่นกลับบรรเทาลงได้อย่างง่ายดาย คนทั้งคู่ปล่อยให้เวลาดำเนินไปอย่างเชื่องช้า จนเมื่อความง่วงเข้ามาครอบงำ ปลายทางต่อไปจึงกลายเป็นห้องนอนของเจ้าของคฤหาสน์

     

            อเลนอยู่ข้างกายทีกี้ตลอดเวลาอย่างที่พูดไว้ คนตัวโตทิ้งตัวลงนอนกับเตียงกว้างอย่างอ่อนล้า โดยยังไม่ยอมปล่อยมือนุ่มนิ่มของคนน้องไป เขาดึงแขนที่เล็กกว่าไปกอดไว้ราวกับหวงแหนนักหนา แพขนตาเรียงสวยปิดสนิทลงตามสติของเจ้าของร่างที่กำลังหลับใหล

     

            ดวงตาสีขี้เถ้าทอดมองรายละเอียดบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างพิจารณา พระเจ้าสร้างให้คนๆหนึ่งประนีตราวกับรูปสลักขนาดนี้ได้ยังไง ปีศาจหนุ่มที่เขาเคยหวาดกลัวตอนนี้ดูไร้พิษภัย ในช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดแต่เจ้าตัวก็ยังเลือกอยู่ข้างเขา

     

    พวกเขาเพียงนอนข้างกันเฉยๆโดยไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น จนกระทั่งนิทราพรากสติของเด็กหนุ่มไปด้วยอีกคน

     

    …….

     

    ….

     

    ..

    บางสิ่งกำลังคืบคลานเข้ามา

     

            ความรู้สึกเหมือนดาบเป็นร้อยๆเล่มปักลงที่กลางอกเป็นตัวกระชากให้คนจากศาสนจักรตื่นจากฝัน แขนทั้งสองกอดร่างตัวเองที่คดงอเป็นกุ้งด้วยความเจ็บปวด ลานสายตาตรงหน้าคือความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด ตัดกับบางสิ่งที่กำลังเหยียดยิ้มทักทาย

     

    สวัสดีอเลน วอล์คเกอร์ ได้พบกันซักทีนะ

     

            เสียบแหบพร่าน่าขนลุก กายสีขาวซีดของสิ่งที่ไม่มีเลือดไหลเวียนนั้นช่างคุ้นเคย มันปรากฏตัวขึ้นมาในสถานการณ์ที่ผู้นำตระกูลโนอากำลังอ่อนแอ และอเลนไม่ได้มีกำลังพอจะไปต่อกรอะไรได้ ราวกับรับรู้เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่แล้ว

     

    ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้รู้ว่าโนอามันอ่อนแอแค่ไหน มีแค่โอกาสนี้ที่จะกำจัดสิ่งผิดบาปให้หมดไป

     

    “ผมไม่เคยบอก” พยุงกายขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ความเจ็บที่เสียดแทงยอดอกยิ่งทวีความรุนแรงเมื่ออโพคริฟอสจ้องลึกเข้ามาในดวงตา ขนสีขาวทิ่มแทงขึ้นมาทั่วร่างจนมองดูเหมือนกับนกตัวใหญ่

     

    ไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าเธอนั่นแหละที่เรียกฉันมาเอง ด้วยสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ยังไงล่ะ

     

    อเลนรู้มาตลอดว่าพลังของเขาเชื่อมต่อกับอโพคริฟอสไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ไม่ได้คิดว่าจะมากมายขนาดทำให้มันรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวได้ขนาดนี้

     

    เพราะเธออยากกำจัดโนอาตามประสงค์ของพระเจ้า ฉันเลยมาอยู่ที่นี่แล้วไง

     

    “ไม่ใช่แบบนั้นนะ!

     

    อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยคิดทำร้ายทีกี้เลยซักครั้ง

     

    ตื่นได้แล้ว สิ่งที่เธอต้องทำคือกลายเป็นหนึ่งเดียวกันกับฉันเท่านั้น

     

            กายบางสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากความฝันเป็นหนที่สอง ลุกขึ้นหอบเป็นจังหวะ ก่อนสายตาจะปรับเข้ากับความมืดตรงหน้า พบเพียงห้องนอนของชายหนุ่มที่นอนหายใจอย่างสม่ำเสมอข้างกัน และบรรยากาศเงียบสงัดยามค่ำคืน

     

    แต่สิ่งนั้นมันกำลังเข้ามาใกล้แล้วไม่ผิดแน่ เขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกไม่ได้

     

            ขาเรียวก้าวลงมาจากเตียงกว้าง แขนข้างซ้ายหนักอึ้งเสียจนทำให้ไหล่ข้างเดียวกันถลาไปด้านข้าง ดวงตาสีขี้เถ้าลุกวาวอย่างแน่วแน่ คืนพระจันทร์เต็มดวงทำให้พลังของทีกี้แปรปรวนเกินกว่าจะรับมือกับอโพคริฟอสไหว

     

            อเลนรังเกียจแขนข้างซ้ายของเขาที่มีขนนกปกคลุมอยู่เสียจนอยากให้มันหายไปในตอนนี้ เด็กหนุ่มทำได้เพียงวิ่งออกมาให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะให้อโพคริฟอสหาเจอไม่ได้ ปล่อยให้มันโจมตีทีกี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน ตัวตนของเขาไม่ควรมีอยู่ตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ

     

    คนจากศาสนจักรตอนไร้อาวุธทำอะไรไม่ได้ซักอย่างแม้แต่การปกป้องตัวเอง

     

    พลังที่ติดตัวมาเป็นเหมือนคำสาปที่ค่อยๆทำลายคนรอบตัวไปทีละคนเท่านั้น

     

            เขาเคยหวาดกลัวโลกปีศาจที่ไม่รู้จัก แต่ในเวลานี้ขาทั้งสองข้างกลับพาตัวเองหลุดพ้นไปจากเขตคฤหาสน์ พื้นที่รอบข้างมีแต่ต้นไม้รกทึบ ทัศนียภาพยามค่ำคืนทำให้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม

     

    คิดจะหนีไปถึงเมื่อไรกัน

     

            อเลนรู้อยู่แล้วว่าซักวันมันจะกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง การแยกตัวออกมาคนเดียวจากศาสนจักรไม่ใช่วิธีที่ฉลาด แต่การที่ใครซักคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขามักจะมีจุดจบแบบเดียวกันทุกครั้ง

     

    แค่เป็นหนึ่งเดียวกันกับฉันมันไม่ยากหรอกนะ” กายสูงใหญ่ของอโพคริฟอสก้าวเข้ามาขวางทางเดิน บรรยากาศรอบตัวคลุ้งไปด้วยความหนักอึ้ง มือขาวซีดยื่นออกมาหวังจะคว้าข้อมือของเป้าหมาย แต่ร่างเล็กกว่าถอยหลบได้ทันเวลา

     

    เป็นหนึ่งเดียวกัน หมายถึงการที่อโพคริฟอสได้พลังอีกครึ่งหนึ่งจากเขาไปเติมเต็มจนสมบูรณ์

     

    นั่นหมายถึง อเลน วอล์คเกอร์ จะไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป

     

            เพราะมันพรากคนสำคัญในชีวิตไปหลายหน อเลนจึงชิงชังอโพคริฟอสเกินกว่าที่จะทำตามประสงค์ของศาสนจักรได้ หากการเป็นหนึ่งเดียวกันทำสำเร็จ ความตายของเขาจะกลายเป็นเพชรฆาตทำลายล้างโนอาทั้งตระกูล

     

    เธอมีความรู้สึกต่อเจ้าปีศาจนั่นงั้นหรือ” ดวงตาที่เคยเบิกโพลงหรี่ลงมองใบหน้าหวานอย่างพิจารณา เหตุผลที่เด็กหนุ่มตั้งใจหนีออกมาให้ห่างจากคฤหาสน์ ราวกับไม่อยากให้หัวหน้าตระกูลคนนั้นถูกพบเจอ

     

    คิดจะทรยศต่อพระเจ้าหรือไง

     

            ดวงตาคู่สวยไหวสั่นไปครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มหวาดกลัวปีศาจ ปฏิเสธคำสั่งของศาสนจักร แต่ก็ไม่ได้เกลียดชังโนอา ตัวตนที่ไม่ยอมรับทั้งสองเส้นทาง จุดยืนของเขาไม่ชัดเจนมาตั้งแต่แรก

     

            อาศัยพละกำลังที่มีมากกว่า อโพคริฟอสโถมแรงเข้าครอบครองลำคอของมนุษย์ตรงหน้าจนปลายเท้าทั้งสองข้างลอยขึ้นจากพื้น มือเล็กพยายามแกะฝ่ามือเย็นเฉียบนั้นออก แต่เรี่ยวแรงก็พาลหายไปดื้อๆ

     

    รู้สึกราวกับสติและพลังชีวิตกำลังถูกดูดไปจากร่าง

     

    ชะตาของโนอาจะต้องโดนกำจัดให้หมดสิ้น

     

           หายใจไม่ออก บางทีการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอาจจะกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว บางสิ่งที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายร้อนระอุขึ้นมาราวกับน้ำเดือด สิ่งที่พยายามหนีมาทั้งชีวิตกำลังจะเกิดขึ้น ในขณะที่เขาอ่อนแอและทำได้เพียงมองให้เหตุการณ์ทุกอย่างกำลังดำเนินต่อไป

     

    เปรี้ยะ

     

            พลันอากาศก็กลับมาไหลผ่านทางเดินหายใจได้อีกครั้ง อเลนถูกปล่อยลงกับพื้นดินอย่างไม่เบานัก เขาไอโขลกไล่ความรู้สึกอึดอัด ก่อนจะเห็นภาพผีเสื้อจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากปากของร่างตรงหน้า

     

            แสงสีขาวผสมปนเปกับสีม่วงปกคลุมไปทั่วร่างสูงใหญ่ มันให้ทั้งความรู้สึกขนลุกและสบายใจไปพร้อมกัน เมื่อกลิ่นอายนั้นช่างคุ้นเคยเหลือเกินสำหรับคนมอง จังหวะการเดินและลมหายใจของใครอีกคนกำลังใกล้เข้ามา อเลนคงรู้สึกดีใจหากคนๆนั้นไม่ได้ปรากฏตัวมาในจังหวะนี้

     

    “คุณไม่ควรมาอยู่ตรงนี้ หนีไปให้ไกลจากผมครับ”

     

            ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ผู้นำแห่งโนอาจะต้องคำสาปให้ร่างกายแยกออกเป็นสองและไม่มีวันควบคุมพลังของตนได้ตลอดกาล แม้แต่คืนนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ต่อให้ชายคนนี้ไม่ได้แยกมาเป็นสอง แต่ระดับพลังกลับแปรปรวนจนไม่อาจเดาทางได้

     

            ปลายเท้าของผู้มาใหม่หยุดอยู่ระหว่างมนุษย์และอาวุธสังหารโดยไม่ฟังคำค้าน ใบหน้าคมคายและดวงตาสีอำพันจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มที่ไร้เรี่ยวแรง ทีกี้เข้าใจทุกจุดประสงคของเด็กคนนี้แล้ว รอยยิ้มอ่อนโยนระบายบนริมฝีปากได้รูปราวกับจะปลอบขวัญ

     

    “อย่าดูถูกโนอานักสิหนุ่มน้อย เธอก็รู้ว่าฉันเป็นถึงผู้นำตระกูลนะ”

     

            ตำแหน่งที่ต้องสาปเพราะมีอำนาจมากกว่าคนในครอบครัวเดียวกัน เขาแบกรับความทรมานมาทั้งชีวิต ต่อให้ไม่เคยควบคุมพลังได้แต่ก็ไม่เคยมีใครกล้าต่อกร ดังเช่นอโพคริฟอสที่ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าชายหนุ่มโดยตรง มันถึงได้พยายามเข้าทางอเลนที่อ่อนแอกว่าทุกครั้ง

     

            แสงสีม่วงนั้นราวกับเพลิงกำลังแผดเผาร่างไร้โลหิตให้มอดไหม้ อโพคริฟอสกรีดร้องด้วยความทรมาน พอไร้พลังอีกครึ่งหนึ่งจากพระเจ้ามันก็ทำอันตรายศัตรูไม่ได้ ดวงตาแข็งกร้าวเบิกโพลงด้วยความโกรธแค้น ก่อนกายหยาบจะกระจัดกระจายออกไปเป็นกลุ่มผีเสื้อที่บินขึ้นสู่ท้องฟ้า

     

    เป็นชายคนนี้ที่เข้ามาขัดขวางอยู่ทุกครั้งไป แต่คราวหน้าจะไม่ยอมให้อเลน วอล์คเกอร์รอดพ้นเงื้อมมือไปแน่

     

           เหตุการณ์ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มสามารถประมวลผลได้ในทันทีว่าเจ้าสิ่งนั้นกำลังเลี่ยงการปะทะโดยตรงกับทีกี้ มันก็จริงอยู่ว่าหากอยู่กับชายคนนี้แล้วเขาจะปลอดภัย แต่ลำพังแค่ลุกเดินมาให้ถึงตรงนี้ก็เต็มกลืนสำหรับคนอายุมากกว่าแล้ว

     

    “อย่าทำอะไรไปมากกว่านี้เลยครับ ผมขอร้อง”

     

            เขาลุกขึ้นไปประคองร่างที่เซถลาได้ทันพอดีก่อนจะเสียหลัก พอเห็นร่องรอยของอโพคริฟอสหายไป เรี่ยวแรงที่ฝืนวิ่งออกมาก็พลันหายไปด้วย ทีกี้กำอกเสื้อที่ร้อนผ่าวของตนแน่น ก้อนเนื้อข้างในมันบีบรัดราวกับจะขาดสะบั้นเสียให้ได้ เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นตามกรอบหน้าคม

     

    “มันยังไม่ตายหรอกนะ” หากเขามีพลังมากกว่านี้สักหน่อย หากโนอาไม่ต้องคำสาปบ้าบอนั่น เจ้าอาวุธสังหารนั่นคงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้

     

    มันกลับมาอีกแน่ จนถึงตอนนั้นเขาจะรับมือได้อีกหรือเปล่า

     

    เป้าหมายแรกของมันคืออเลน วอล์คเกอร์ไม่ใช่เขา

     

    ทีกี้!

     

            สติที่พยายามประคองมาโดยตลอดดับมอดไป เจ้าของชื่อได้ยินเหตุการณ์ทุกอย่าง รับรู้ว่าอเลนกำลังเขย่าปลุกด้วยสีหน้าแบบใด แต่เขาไม่สามารถตอบสนองได้ รู้สึกราวกับว่าหากหลับตาลงไปจะเกิดเรื่องไม่ดีตามมา บางทีพระเจ้าอาจจะเกลียดชังโนอามากขนาดกำจัดทุกสิ่งที่เป็นภัยให้พ้นจากสายตา

     

    กลัวว่าการหลับไปครั้งนี้เขาอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

     

            ลมหายใจของร่างสูงไม่ได้หายไปแต่กลับไม่เป็นจังหวะแม้ร่างกายจะหมดสติไปแล้ว คืนนี้อเลนทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่าการนั่งอยู่ข้างเตียงของทีกี้ก็เท่านั้น ใบหน้าหล่อเหลาแสดงความกระวนกระวาย แม้สิ่งที่ไหลเวียนในกายจะพยายามปรับสมดุลเข้าหากัน แต่มันก็แปรปรวนราวกับน้ำเดือดปะทุ ได้แต่ภาวนาให้ความทรมานนี้จบลงและเจ้าของร่างลืมตาตื่นขึ้นมามองเขาอีกครั้ง

     

     

            และในคืนเดียวกัน ข่าวการปรากฏตัวของอโพคริฟอสส่งไปถึงโนอาทุกคนในตระกูล เมื่อทราบถึงการหลับใหลของทีกี้ พวกเขาก็ไม่รอช้าที่จะตรงดิ่งมายังคฤหาสน์แห่งนี้ โดยมีอเลน วอล์คเกอร์ที่ถูกคาดโทษว่าเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดเป็นจุดศูนย์กลาง

     

     

     




              

    อิหยังวะมาก ตอนเริ่มกับตอนจบตอนคือคนละมู้ดเลย
    ไรเตอร์กลับมาแล้วค่าา หลังจากหายไปซักพักเลย
    ตอนนี้เริ่มปรับตัวเข้ากับที่ทำงานได้แล้วค่ะ
    แต่สารภาพตามตรงว่าคงไม่ค่อยมีเวลาได้เข้ามาอัพเหมือนเมื่อก่อน;-;
    แต่จะพยายามเข้ามาเท่าที่ทำได้นะคะ


    หายไปตั้งนาน แล้วไรเตอร์ก็เข้ามาพบกับการจัดเรตติ้งนิยายค่ะ!
    กี๊ด ต่อไปไม่ต้องโยกไปอัพที่อื่นแล้วสินะ
    จะย้ายเนื้อหามาลงในบทความนี้หมดเลยนะคะ
    ไว้ถ้าตอนไหนมี NC จะแปะเตือนไว้หน้าตอนให้ค่า


    ปล.สำหรับเรื่องนี้น่าจะจบภายในตอนหน้า
    แต่ก็กลัวว่ามันจะยาวไปเหมือนกัน ไว้ลองเขียนก่อนแล้วจะมาบอกอีกทีนะคะ
    ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดค่ะ^^

    แล้วพบกันพาร์ทหน้าค่ะ





    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×