ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Fic Reborn D18:A promise...สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป

ลำดับตอนที่ #3 : Back to Italy

  • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 54


             หลายวันผ่านไปดีโน่ก็กลายมาเป็นพ่อสื่อของยามาโมโตะเสียได้

            “คนอย่างเคียวยะนะเป็นพวกน่ากลัวแต่ว่าถ้าตื๊อเข้าหน่อยก็ใจอ่อนแล้วล่ะ นายจะต้องตามติดเคียวยะตลอดเลยนะ” ดีโน่กระซิบบอกยามาโมโตะ

            “แต่ตื๊อมาก็นานแล้วนะครับ” ยามาโมโตะถอนหายใจเบาๆ

            “แล้วถ้านายไม่ยอมตื๊อต่อไปก็แสดงว่านายไม่ได้ชอบเคียวยะจริงๆ แบบนั้นชั้นก็ไม่ยอมหรอกนะชั้นเองก็ไม่อยากให้เคียวยะต้องเจ็บปวดเพราะว่าชั้นก็คิดว่าเคียวยะเปรียบเสมือนน้องชายของชั้นคนหนึ่งเลยนะ” ดีโน่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

            “คร้าบ” ยามาโมโตะแอบถอนหายใจโดยไม่ให้ดีโน่เห็นเพราะว่าเค้าชักจะท้อกับฮิบาริเสียแล้ว

 

            “ไอ้นี่เหรอ? เล่นไม่ได้หรอกนะ ไว้โตกว่านี้ค่อยเล่นนะ” เด็กชายเอ่ยห้ามคนตัวเล็กกว่าที่กำลังจะหยิบของอันตราย

          “ทำไมล่ะครับ ทำไมต้องโตก่อนล่ะ” ร่างเล็กของเด็กชายแปดขวบเงยหน้าถามคนที่สูงกว่าอย่างไม่เข้าใจ

          “มันอันตรายน่ะสิ” เด็กชายอายุมากกว่าพูด

          “งั้นพี่ชายช่วยสอนผมเล่นไอ้นี่ทีสิ  ถ้ามี่ชายสอนผมคงไม่ถูกว่าใช่มั้ยฮะ” ร่างเล็กของเด็กชายเดินไปเขย่าแขนของผู้ที่มีอายุมากกว่าอย่างอ้อนวอน

          “ได้สิ นายชื่ออะไร? ถ้าโตขึ้นแล้วชั้นจะสอนนายเอง”

          “ผมชื่อ... แล้วพี่ชายชื่ออะไรครับ?

          “ชั้นชื่อดีโน่นะ” เด็กชายผมทองยิ้มหวาน

          “ครับ สัญญาแล้วนะครับ” เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นยิ้มพลางยกนิ้วก้อยขึ้นมา

          “ทำอะไรเหรอ? มันคืออะไร?” เด็กหนุ่มผมทองมอนิ้วก้อยเล็กอย่างงงๆ

          “มันเป็นเครื่องหมายที่บอกว่าเราสัญญากันแล้วไงครับ”

          “อ๋อ สัญญานะ” ดีโน่พยักหน้าเข้าใจก่อนจะเอานิ้วก้อยของตัวเองไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยเล็กน่าทะนุถนอม

 

            ร่างสูงสะดุ้งตื่นครั้งแล้วครั้งเล่ากับความฝัน   ความฝันนี้เกือบจะสมบูรณ์ไปแล้วแต่ติดอยู่ตรงที่ชื่อชื่อนั้นที่ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ออก   ครั้นตอนเด็กคนนั้นบอกในฝันกลับเหมือนสัญญาณที่ขาดหายไปทำให้เขาไม่สามารถรู้ได้เลย

            “อ่า!!” ดีโน่ร้องออกมาเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดที่นึกไม่ออก   ร่างสูงยกมือกุมขมับอย่างเคร่งเครียด   ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องมาจมปลักกับอดีตที่ลืมไปแล้ว

            เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วดีโน่ก็นอนต่อไม่หลับอีกทั้งนี่มันก็กำลังจะเช้าแล้วร่างสูงจึงออกไปจ้อกกิ้งข้างนอก

 

            วิ่งได้ซักพักก็ไปเจอกับร่างคุ้นตาที่วิ่งนำหน้าอยู่   เห็นดังนั้นดีโน่ก็รีบวิ่งไปขึ้นไปตีคู่

            “อรุณสวัสดิ์เคียวยะ” ดีโน่ยิ้มทักทายด้วยรอยยิ้มที่แสนจะสดใสแต่แทนที่จะได้รับคำทักทายกลับร่างบางกลับวิ่งเลี่ยงออกไปทางอื่นซึ่งนั่นก็ทำให้ดีโน่งงไม่น้อย

            “เราทำอะไรผิดงั้นเหรอ?” ดีโน่เอียงคอก่อนจะรีบวิ่งไปให้ทันฮิบาริ

            “นี่ๆ ชั้นอยากจะรู้มานานแล้วแหละว่าทำไมเคียวยะถึงใช้ทอนฟาล่ะ” ดีโน่ถามเสียงใส

            “ไม่รู้ มันผุดขึ้นมาในหัวก็เลยใช้” ฮิบาริตอบเสียงแข็ง

            “อ๋อ พรุ่งนี้แล้วสินะศึกของนาย  งั้นวันนี้ก็เป็นศึกของยามาโมโตะน่ะสิ นายจะไปดูมั้ย?” ดีโน่ชวนคุย

            “ไม่ไป” ฮิบาริตอบ

            “ไปให้กำลังใจเค้าหน่อยสิ อย่าใจร้ายใจดำไปหน่อยเลย”

            “แล้วทำไมนายต้องมายุ่งด้วยล่ะ มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่นายจะต้องมาจัดการ  ถ้าชั้นอยากไปชั้นก็จะไปแต่นี่ชั้นไม่อยาก   ถ้าไม่คิดอะไรก็อย่ามาเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้!!” ฮิบาริวีนแตกก่อนจะรีบวิ่งหนีไปปล่อยให้ดีโน่หยุดชะงัก ยืนนิ่งด้วยความตกใจ   แต่ไม่ได้ตกใจที่ฮิบาริตวาดแต่ตกใจที่ฮิบาริบอกว่าตัวเองมีความรู้สึก

            “เคียวยะ...เคียวยะคนนั้นรู้สึกอย่างนั้นเหรอ?” ดีโน่อึ้งพลางยิ้ม   เจ้ายามาโมโตะอาจจะมีหวังแล้วก็ได้

  

[[Special Dino Part]]

 

            หวา  ใครจะเชื่อกับสิ่งที่ผมได้ยินมั่งเนี่ย   เคียวยะบอกว่าห้ามไม่ให้ผมเล่นกับความรู้สึก...แสดงว่าเคียวยะคนนั้น...มีความรู้สึกแล้วงั้นสิ!?! OMG!!

            เจ้ายามาโมโตะมีหวังแล้วงั้นสิเนี่ย  แต่ผมรู้สึกแปลกๆ นะที่เคียวยะจอมเย็นชาคนนั้นจะชอบใครเป็น   จะว่าก็ใจก็ไม่ใช่เสียใจก็ไม่เชิง   ผมรู้ว่าหลายๆ คนกลัวเคียวยะแต่ผมไม่ใช่   ผมไม่ได้กลัวแต่ผมเอ็นดู   ภายนอกดูเขาจะดูเป็นคนแข็งกระด้างแต่ผมกลับคิดว่านั่นเป็นเพียงเกราะที่เคียวยะสร้างขึ้นมาเท่านั้นผมรู้สึกว่าเปลือกในของเคียวยะไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ

            “บอสเป็นอะไรครับ เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” เสียงแก่ๆ สุดสยองดังขึ้นทำให้ผมตกใจ

            “ชะอุ้ย! พวกนายมากันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ผมต๊กกะใจเมื่อหันไปจ๊ะเอ๋กับโรมาริโอ้เข้า  อ๊า...ถ้าโรมาริโอ้รู้ว่าผมแอบว่าเค้าว่าแก่ในใจผมโดนเทศแหงมๆ

            “ก็ตั้งแต่บอสออกจากบ้านซาวาดะนั่นแหละครับ” โรมาริโอ้ตอบ   เจ้าพวกนี้นี่ตลอดเลยชอบทำตัวนอกเหนือคำสั่ง   ทั้งๆ ที่บอกไว้แล้วแท้ๆ ว่าไม่ต้องมาจนกว่าจะเรียก

            “พวกนายนี่ขยันตื่นแต่เช้าจริงนะ” ผมพูดประชด

            “ก็บอสน่าเป็นห่วงนี่ครับ” เง้อ! เจ้าพวกนี้จะไม่พูดความจริงบ้างไม่ได้รึไง!?!

            “เอาเถอะๆ ชั้นจะกลับไปบ้านสึนะแล้วพวกนายจะไปไหนก็ไป”

            “งั้นพวกเราไปกับบอสนะครับ”

            “ชั้นไม่อยากให้หม่าม้าตกใจ   เพราะงั้นพวกนายไปที่อื่นเถอะ   จะเป็นออนเซ็นหรือคาราโอเกะก็ไป...” ผมอยากจะบอกว่าผมยังไม่ทันพูดจบเจ้าพวกนั้นก็หายไปเสียแล้ว   เรื่องเล่นล่ะไปเร็วนักเจ้าพวกนี้

 

            ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงซึ่งผมก็แอบมานั่งจับเจ่ากับยามาโมโตะอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนนามิโมริ   ในฐานะพ่อสื่อผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดล่ะเนอะ

            “ผมท้อแล้วนะครับคุณดีโน่” ยามาโมโตะถอนหายใจแรงๆ อย่างเหนื่อยอ่อน

            “อะไรกัน แค่นี้นายก็ไม่เอาแล้วเหรอยามาโมโตะ” ผมขมวดคิ้ว   เจ้าหมอนี่ไม่น่าจะท้อเร็วขนาดนี้นะ

            “ผมไม่รู้น่ะ  ตอนนี้ผมรู้สึกแปลกๆ แยกอะไรไม่ถูกเลย” ยามาโมโตะกุมขมับแน่น

            “แยกอะไรไม่ถูก?” ผมเอียงคอถาม   ไอ้หมอนี่มันจะเอายังไงกันแน่ฟะ

            “ก็ผม...รู้สึกแปลกๆ กับโกคุเดระ   ผมคิดว่าช่วงนี้ผมยังไม่อยากจะเข้าไปตื๊อฮิบาริมากเท่าไหร่” เจ้ายามาโมโตะพูด

            “ยามาโมโตะชั้นขอเตือนว่าอย่าเล่นกับความรู้สึกของเคียวยะมากนะ   ชั้นบอกแล้วว่าชั้นห่วงเคียวยะ  ถึงจะเป็นนายชั้นก็ไม่ไว้หน้านะจะบอกให้” ผมโกรธขึ้ง   ผมคิดเสมอว่าเคียวยะเหมือนน้องชายของผมคนหนึ่ง   มันผูกพันที่เราได้ฝึกด้วยกันมา

            “ขอเวลาผมอีกหน่อย  ถ้าผมจัดการเรื่องโกคุเดระได้แล้วผมจะมาให้คำตอบกับคุณ” ยามาโมโตะพูดแล้วเดินลงจากดาดฟ้า  เฮ้อ  อะไรกันเนี่ย!?!

 

            “เคียวยะ  วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ชั้นต้องฝึกให้นายและแน่นอนว่าหลังจากนี้ชั้นจะกลับอิตาลี่เลย  คงไม่มาอยู่กวนใจนายซักพักล่ะนะ” เมื่อถึงเวลาเคียวยะก็เดินขึ้นมาหาผมที่บนดาดฟ้า   และเมื่อเห็นหน้าเคียวยะผมก็แจ้งแถลงความไปในทันที

            “ทำไม?” เคียวยะถามเสียงแข็ง  เจ้าเด็กนี่มันจะทำตัวน่ารักๆ บ้างได้มั้ยเนี่ย อ่ะโด่!

            “ก็บ้านชั้นอยู่อิตาลี่นี่นา อีกอย่างงานชั้นก็เยอะด้วย   มาฝึกให้นายนานแล้วงานชั้นคงกองท่วมหัวแล้วมั้งป่านนี้” ผมบ่นพลางนึกถึงเอกสารต่างๆ นาๆ  อ๊าก ก    เอามันออกไปผมกลัวเอกสาร ฮือ อ อ

            “แล้วจะกลับมาอีกมั้ย?” เอ่อ...ผมหูฝาดหรือเปล่า   ผมได้ยินว่าเคียวยะถามว่าผมจะกลับมาอีกมั้ยน่ะ

            “กลับสิ” ผมพยักหน้าตอบซื่อๆ

            “กลับมาทำไม   กลับไปแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีกสิ” อ๊ากกก ไอ้เด็กนี่มันไม่น่ารักเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ

            “ชั้นจะกลับมาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับมาให้นายเห็นหน้าหรอกนะ   ชั้นเองก็มีธุระที่นี่เหมือนกันนั่นแหละ” ผมตอบอย่างงอนๆ  ไม่อยากเจอก็จะไม่มีให้เจอล่ะวะ

            “อึก!” เสี้ยววินาทีหนึ่ง ดวงตาเรียวเบิกกว้างอย่างหวาดหวั่นแต่ก็กลับคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว

            “วันนี้ที่มาหานายก็เพราะจะมาบอกว่าให้นายพักผ่อนเยอะๆ ก่อนวันแข่ง   การพักผ่อนก็ถือว่าเป็นการฝึกนะเคียวยะ   ถึงชั้นจะไม่ได้มาดูนายแต่ชั้นเชื่อว่านายจะทำได้ดีที่สุด   ดูแลตัวเองด้วยนะเคียวยะ” ผมเดินเข้าไปบีบไหล่เคียวยะเบาๆ กะจะดราม่าครับ  ถ้าเคียวยะไม่ดราม่าด้วยผมซวยแน่ๆ อ่ะเหอๆ

            “ไม่ต้องมาพูดดี” เคียวยะปัดมือของผมออกจากไหล่ของตัวเอง  ผมไม่เข้าใจเอาซะเลยว่าเจ้ายามาโมโตะชอบเคียวยะที่ตรงไหน  ให้ตายเหอะ!

            “อย่าดื้อได้มั้ยเคียวยะ!” ผมตวาดเสียงดังทำให้เคียวยะแอบสะดุ้ง  อย่ามาแต่เคียวยะเลยผมเองยังตกใจที่ตัวเองตวาดเคียวยะแบบนั้น

            “ใช่สิชั้นมันดื้อ เพราะงั้นก็อย่ามายุ่งกับชั้นอีกเลย ออกไป!” เคียวยะตวาดใส่ผมกลับด้วยสีหน้าโกรธจัด อ่า...โดนโกรธซะแล้วมั้ยล่ะ

            “ขอโทษ เคียวยะชั้นขอโทษ” ผมรู้สึกสำนึกผิดที่ตวาดออกไปแบบนั้น  อ่า...เคียวยะน่ากลัวจังเลย

            “ไม่ต้องมาขอโทษหรอก อันที่จริงชั้นก็รู้ตัวเองดี   สัตว์กินพืชอย่างนายเข้าใจชั้นได้แบบนี้มันช่างน่าตกใจจริงๆ” เคียวยะแสยะยิ้ม  เฮ้อ ไอ้เด็กนี่มันไม่น่ารักเลยจริงๆๆๆ ผมรู้ตัวว่าผมพูดบ่อยแต่มันจริงนี่นา!

            “เฮ้อ เด็กดื้อ ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยละกัน” ผมใช้วิธีเอาน้ำเย็นเข้าลูบโดนการพูดอย่างอ่อนโยนพลางลูบผมนุ่มลื่นนั้นเบาๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้เคียวยะหยุดยิ้มแบบนั้นได้ไปพักหนึ่ง

            “ไม่จำเป็นต้องให้นายมาบอกหรอก” เคียวยะเบี่ยงตัวหลบสัมผัสจากผมก่อนจะหันหน้าไปด้านอื่น

            “คร้าบ ไปแล้วนะ บาย”

 

Special Dino Part end.
___________________________________________________________________________________________

ทำไมโน่ทำอย่างเน้!!  T^T

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

13ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

13ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture