ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Sunshine 3
ความรักสร้างความสุขแต่ในขณะเดียวกัน
ความรักก็สามารถสร้างความทุกข์ให้ได้เช่นกัน
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คามิโยะเคยคิดว่าหากเขากลับญี่ปุ่นและไปมิยางิเขาจะได้เจอวากะโทชิรึเปล่า ซึ่งคำพูดของเขาก่อนไปต่างประเทศเมื่อสองปีก่อนมันทำร้ายจิตใจโทชิหนักมากจนเขารู้สึกไม่มีหน้าที่จะไปเจอคนน้องเลย
ระหว่างสองปีที่เขาไปอยู่ต่างแดนการพูดคุยของเราสองคนน้อยลงทุกวันๆ ยิ่งโทชิต่อม.ปลายชิราโทริซาวะ ที่ต้องนอนหอเพราะเป็นโรงเรียนประจำอีก การพูดคุยของพวกเขาที่น้อยอยู่แล้วก็ยิ่งนานๆคุยกันที อาจจะสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งเพียงเท่านั้น ไหนจะเรื่องเวลาของเราที่ไม่ตรงกัน หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบที่ต่างกัน และความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปจากคำพูดของเขาในวันนั้นอีก
ตอนนี้คามิโยะไม่รู้แล้วจริงๆว่าเขาควรทำยังไง เขารู้สึกสู้หน้าน้องไม่ติดจริงๆ ความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจมาตลอดจนเอ่ยคำพูดใจร้ายที่ทำร้ายน้องอย่างเอาแต่ใจ แม้สุดท้ายแล้วเราจะประบความเข้าใจกันอีกครั้ง
แต่เขาก็ยังกลัวอยู่ จนถึงทุกวันนี้คำถามคำถามเดิมที่เคยถามกับน้องวันนั้น เขายังไม่เคยลืม และยังคงคิดมันอยู่หลายต่อหลายครั้งว่าหากย้อนกลับไปได้ เขาจะพูดมันอีกครั้งไหม จะพูดออกไปให้ความสัมพันธ์ของเรากลายมาเป็นบบนี้รึเปล่า
ซึ่งคำตอบของคำถามมันกลับชัดเจนเสียยิ่งกว่าความรู้สึกของเขาเสียอีก เขาจะทำ ต่อให้ต้องย้อนเวลากลับไป เขาก็จะพูด
‘เรารักกันมากเกินไปรึเปล่า’ คำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวขณะสบตากัน หากความรักของเรามันทำร้ายกัน ความสัมพันธ์ของเรามันควรจะไปต่อได้จริงๆหรอ
คามิโยะกลัว เขากลัวมากๆหากน้องบอกกับเขาอีกครั้งว่าจะละทิ้งความฝันตัวเองเพื่อตัวเขา และเขาก็กลัวตัวเอง เขากลัวความดีใจในใจของเขาตอนที่น้องบอกว่าจะทิ้งความฝันเพื่อตัวเขา คำพูดของน้องมันแสดงให้เขาได้เห็นแล้วว่าน้องรักเขามากขนาดไหน
อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้เจอหน้ากันมานาน ทั้งคนพี่คนน้องต่างก็อารมณ์อ่อนไหวกัน แต่สุดท้ายหลังจากมานั่งที่ม้านั่งที่สาธารณะแล้วตั้งสติกัน ทั้งคู่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
นี่เองก็คงเป็นสิ่งที่ตัวของคามิโยะและวากะโทชิที่เหมือนกัน เวลาที่พวกเขาจะอ่อนไหวที่สุดคือตอนนี้มีน้ำตา สำหรับเขามีคนใกล้ตัวเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่สำหรับวากะโทชิแล้ว คนที่เขาเคยร้องไห้ต่อหน้ามีเพียงคามิโยะเท่านั้น ในอดีตที่ผ่านมาพวกเขาก็ได้เรียนรู้เรื่องนี้ของกันและกันมาแล้ว
วากะโทชินั่งจับมือและเอาหัวซบไหล่มนของคนพี่ไม่ไปไหน เขาอยากให้ช่วงเวลานี้หยุดงอยู่แค่นี้ หยุดให้ได้อยุ่กับพี่ ประโยคนั้นที่พี่บอกเขาก่อนจากไปน่ะ เขาไม่มีวันยอมรับมันเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้พี่พูดมันอีกเป็นครั้งที่สอง
เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมงแล้วตั้งแต่พวกเขามานั่งกันที่นี่ คำถามมากมายที่พวกเขาถามกันราวกับความรู้สึกที่ถูกกักเก็บไว้มานานกำลังพรั่งพรูเอ่อล้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ความเป็นห่วง ความคิดถึงคะนึงหา หรือความรู้สึกต่างๆนาๆระหว่างสองปีที่แยกจากกันไป ตอนนี้เหมือนจะถึงขีดจำกัดการกักเก็บซะแล้ว
ครืดๆ การสั่งนี้ของโทรศัพท์มือถือราคาแพงถูกยกขึ้นมาทันทีโดยเจ้าของเครื่อง คามิโยะมองชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอว่าใครโทรมาก็เหมือนจะได้สติขึ้นมา เขาดูเวลาที่มุมบนซ้ายของมือถือก็พบว่าเวลานี้เย็นมากจนเลยกำหนดการของเขามาแล้ว และเคย์ที่โทรหาเขาตอนนี้ก็เป็นการโทรมาเพื่อเช็คว่าเขาถึงบ้านของตนรึยังแน่ๆ
วากะโทชิมองชื่อที่ปรากฏอยู่บนจอมือถือของคนพี่และบันทึกชื่อนั้นไว้ในใจอย่างสงสัยทันที คนคนนี้เป็นใครกันพี่ถึงได้ตั้งชื่อไว้แบบนี้ เด็กแว่นน่ารักของพี่คามิโยะ ใครกันที่พี่เขาเอ็นดูแม้แต่การตั้งชื่อ
“ขอโทษนะโทชิ พี่ขอรับโทรศัพท์แป๊บนึง” เขาเอ่ยกับคนน้องก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมและเขยิบตัวถอยออกไปเล็กน้อยให้พ้นจากของเก้าอี้หินอ่อนที่นั่งอยู่ แล้วเดินห่างออกไปจากที่นั่ง
วากะโทชิมองคนพี่ที่เดินห่างออกไปเพื่อคุยโทรศัพท์ หูก็ตั้งใจฟังว่าคนพี่พูดอะไรกับคนที่ปลายสายบ้าง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกอยากรู้เรื่องที่คนอื่นไม่เล่าให้ตนฟังก่อน ที่ผ่านมาเขารู้สึกว่าการที่อีกฝ่ายไม่พูดนั้นเป็นสิทธิของอีกฝ่าย จึงไม่เคยสงสัยและถามไถ่ใครก็ตามโดยที่คนคนนั้นไม่ได้มาพูดให้ตนฟังเอง แต่ตอนนี้…
“ฮัลโหลเคย์ ; เอ่อ… แฮะๆยังเลย ; เข้าใจแล้วๆ เดี๋ยวพี่จะรีบไปบ้านและไปหาคุณน้าทันทีเลยโอเคไหม ; ครับ ; ไม่ต้อห่วงพี่นะ ; ครับผม ตั้งใจซ้อมละ ; อื้ม พรุ่งนี้เจอกัน ; Sleep tightนะเคย์ รักครับ”
ใบหน้าเรียบนิ่งที่ผ่านมาตอนนี้เปลี่ยนไปอีกครั้ง คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างขุ่นเคือง คนที่ชื่อเคย์เป็นใคร ทำไมถึงเอ็นดูคนนั้น ทำไมถึงมีนัดกันพรุ่งนี้ ทำไมถึงบอกรัก ทั้งๆที่กับเขาพี่กลับไม่ทำ พี่ไม่บอกดขาว่ากลับมาวันนี้ พี่ไม่ได้คุยกับเขาอย่างสนิทสนมเหมือนเมื่อก่อน พี่ไม่บอกรักเขา แต่พี่กำลังทำสิ่งที่ไม่ทำกับเขากับใครไม่รู้อยู่
เขาเคยคิดว่าเรื่องวันนั้น คำพูดของเขามันคงจะทำให้พี่เสียใจมากๆจนพี่ต้องบอกว่าจะจากเขาไป แต่เพราะเรามาพูดคุยกันดีๆและปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว แม้พี่จะจากไปจริงๆแต่เราก็ยังติดต่อกันอยู่ แม้จะไม่ได้เหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นแต่เขาก็เชื่อว่าสักวัน ทุกอย่างมันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม พี่อาจจะแค่ต้องการเวลา
แต่นี่อะไร ตอนนี้วากะโทชิกำลังรู้สึกอิจฉา เขาไม่รู้ว่าคนในสายที่พี่คุยด้วยคือใคร แต่ตอนนี้เขาอิจฉา เขาอิจฉาที่ตลอดสองปีที่ผ่านมาที่เขาและพี่ห่างเหินกัน อาจะทำให้พี่สนิทกับคนอื่นมากขึ้นๆ และกลับสนิทกับเขาน้อยลง
เขารู้ตัวว่าตัวเขาในตอนนี้กำลังมีความคิดแย่ๆอย่างการหึงหวงพี่ ไม่อยากให้พี่ไปสนิทกับใครมากกว่าตัวเอง ทั้งที่ตัวเขานั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแบบนั้น เขารักพี่มาตลอด และในอดีตพี่ก็เคยรักเขาเช่นกัน แม้ปัจจุบันสถานะของเราจะเปลี่ยนไปจากในอดีต แต่ความรู้สึกของเขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
“โทชิพี่ต้องไปแล้ว” คามิโยะเดินมาบอกวากะโทชิหลังคุยโทรศัพท์เสร็จ เมื่อกี้เคย์โทรมาเช็คเขาจริงๆว่าเข้าบ้านรึยัง พอรู้ว่าเขายังอยู่ข้างบอกก็บ่นใหญ่เลย แม้พอบอกรักเจ้าเด็กแว่นน่ารักจะถอนหายใจแต่ก็ยังบอกให้เขาเดินทางดีๆรีบๆถึงบ้านไปพักผ่อน น้องใคาเนี่ยน่ารักจริงๆ
และตอนนี้เขาคงต้องบอกลาโทชิแล้ว อีกอย่างจากเวลาแล้ว อีกไม่นานจะถึงเวลาเคอร์ฟิวของหอแล้ว โทชิควรจะกลับไปที่โรงเรียนก่อนที่จะถูกลงโทษ คามิโยะขอโทษวากะโทชิและบอกให้คนน้องกลับหอได้แล้ว หาเลยเวลาเคอร์ฟิวอาจจะโดนลงโทษได้
แต่คนน้องตอนนี้เหมือนจะกำลังไม่สบอารมณ์อะไรสักอย่างก็บอกว่าจะไปส่งลูกเดียว เรายืนแย้งกันอยู่สักพัก สึดท้ายคามิโยะก็เป็นฝ่ายแพ้ให้กับความดื้อดึงของเด็กตัวโตจนได้
2ความคิดเห็น