คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Ep.2 ดาราจอมวีน
Ep.2 ดาราจอมวีน
“คุณเอริณคะ เดี๋ยวค่ะ” พนักงานที่ทำหน้าที่นิติของคอนโดวิ่งตามเอริณทันทีที่เห็นอีกคนเข้ามา นิติสาวคนนั้นไม่สนแล้วใจว่าจะถูกด่าถูกว่าเสีย ๆ หาย ๆ อีก เพราะนี่ก็สามเดือนแล้วที่เอริณไม่ได้จ่ายค่าส่วนกลางของคอนโด หัวหน้าด่าทุกวันจนจะบ้าตายอยู่แล้ว
“คะว่าไงคะ นี่คุณจอยใช่ไหม จอยมีอะไรให้พี่ช่วยรึเปล่าคะ” พนักงานสาวนามว่าจอยถึงกลับสตั๊นไปสามวิกับสิ่งที่เธอไม่เคยได้ยินเอริณพูดกับเธอมาก่อน ปกติหญิงสาวจะเหวี่ยงและวีนใส่พวกนิติของคอนโดตลอด แค่เรียกชื่อเฉย ๆ ก็โดนด่าแล้ว เอริณเองก็จำได้ว่าคนตรงหน้าน่าจะเป็นจอยหนึ่งในพนักงานที่ทำงานอยู่ที่นี่ ความทรงจำของเอริณมันยังคงหลงเหลืออยู่แม่ว่าข้างในนี้จะไม่ใช่เอริณแล้วก็ตาม
“เอ่อ คุณเอริณไม่ได้จ่ายค่าส่วนกลางคอนโดมาสามเดือนแล้วค่ะ จอยไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เพราะจอยโดนหัวหน้าด่าทุกวันเพราะทวงค่าส่วนกลางจากคุณเอริณไม่ได้” จอยพูดเสียงอ่อยเพราะกลัวว่าถ้าพูดเรื่องค่าส่วนกลางจะโดนดาราสาววีนให้อีก
“อา แย่จัง ต้องขอโทษคุณจอยด้วยนะคะที่ค้างจ่ายมานานขนาดนั้น เดี๋ยวเราไปคุยกันที่ออฟฟิศดีกว่านะคะ” เอริณเอ่ยชวนนิติสาวเข้าไปที่ออฟฟิศเพื่อจะได้จ่ายค่าต่าง ๆ ที่ค้างเอาไว้
“ผกา เอาน้ำเย็น ๆ มาให้คุณเอริณหน่อย เดี๋ยวฉันคุยเรื่องค่าใช้จ่ายของคุณเขาเอง” จอยเรียกให้เพื่อนร่วมงานเอาน้ำมาเสิร์ฟแก่ลูกค้าสาว มันเป็นหน้าที่ที่พวกเธอจะต้องต้อนรับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในออฟฟิศเป็นอย่างดี แม้ลูกค้าคนนั้นจะนิสัยไม่ดีเพียงใด
“น้ำค่ะคุณริณ ขอโทษด้วยนะคะน้ำส้มสด ๆ ของเราไม่มี ขออนุญาตเสิร์ฟน้ำเปล่าแทนนะคะ” เพราะปกติเอริณมาที่นี่ทีไรจะเรียกหาแค่น้ำส้มสดเท่านั้น พอไม่มีก็เหวี่ยงใส่ ใครจะไปมีน้ำที่คุณเธอชอบกันล่ะ
“ไม่เป็นไรน้ำเปล่าฉันก็ดื่มได้” ผกามาสหรือที่เพื่อน ๆ เรียกกันว่าผกาสตั๊นไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าดาราสาวตรงหน้าจะไม่วีนใส่พวกเธอ แถมยังยิ้มให้กับพวกเธออีกด้วย
“นี่บิลที่คุณเอริณค้างไว้ค่ะ มีค่าธรรมเนียมล่าช้าด้วยค่ะ” จอยหรือจอยลดาวางบิลให้แก่เอริณ เธอหยิบใบเรียกเก็บเงินหรือบิลขึ้นมาดูเป็นค่าส่วนกลางที่เจ้าของคอนโดทุกห้องต้องจ่าย เงินมันไม่มากมายเลยสักนิด แต่เอริณก็ไม่ยอมจ่าย ค้างไว้ถึงสามเดือน
“ฉันมีเงินสดไม่พอจ่าย โอนได้ใช่ไหมคะ” เอริณเอ่ยถามแม้ว่าจะรู้ดีเรื่องนี้อยู่แล้ว
“ค่ะ นี่ค่ะคิวอาร์โค้ดคุณเอริณสแกนได้เลยค่ะ” เป็นผกามาสที่เอาคิวอาร์โค้ดมาให้ เอริณหยิบมือถือออกจากกระเป๋าก่อนที่จะสแกนจ่ายค่าส่วนกลางพร้อมค่าล่าช้าด้วย สองสาวนิติคอนโดหันมองหน้ากัน เอริณไม่เคยพูดง่ายขนาดนี้มาก่อน ทวงค่าส่วนกลางทีไรเหวี่ยงวีนเหมือนไม่อยากจ่าย ยิ่งค่าธรรมเนียมที่จ่ายล่าช้าไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่อยู่มาห้าปี เอริณจ่ายช้าตลอดแต่ไม่เคยจ่ายค่าล่าช้าเลยสักนิด
“ขอบคุณนะคะคุณเอริณ เดี๋ยวจอยออกใบเสร็จรับเงินให้นะคะ ส่วนบิลนี้เดี๋ยวจอยไปปั๊มว่าจ่ายแล้วให้ด้วยค่ะ” จอยเอาบิลไปจัดการ บิลเรียกเก็บเงินกับบิลที่ลูกค้าจ่ายแล้วเป็นบิลคนละส่วนกันแต่บิลทั้งสองก็ต้องให้ลูกค้าไปอยู่ดี เอริณนั่งรอไม่นานนัก เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศที่นี่ดูแปลกตาดี ไม่คิดว่าอยู่มาตั้งห้าปีแล้ว เข้ามาที่นี่ก็บ่อย แต่เธอไม่เคยสำรวจที่นี่มาก่อน เธอใช้ชีวิตอย่างไรของเธอนะเอริณ
“ได้แล้วค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” จอยลดายืนบิลให้เอริณ ดาราสาวรับเอาไปเก็บไว้ในกระเป๋า นี่เป็นค่าใช้จ่ายแรกที่เธอได้จ่ายไปหลังจากที่ตื่นขึ้นมาในห้องแดง ขึ้นไปถึงคอนโดคงต้องทำรายรับรายจ่ายเอาไว้เสียก่อน จะได้รู้ว่าอยู่ที่นี่ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง
“นี่เป็นทิปของเธอทั้งสองคนนะ แทนคำขอโทษที่ทำให้เสียเวลาด้วย” เอริณยื่นธนบัตรใบละห้าร้อยให้คนทั้งสอง สำหรับดาราสาวตกอับมันไม่มากไม่น้อยไปหรอก แต่สำหรับพนักงานออฟฟิศอย่างสองคนนี้ มันมากไปด้วยซ้ำ ความจริงเธอไม่จำเป็นต้องให้ก็ได้ แต่เธออยากขอโทษที่ผ่านมาทำตัวไม่ดีกับทั้งสองคน
“ขอบคุณค่ะคุณเอริณ” จอยรีบรับเงินที่เอริณยื่นให้ทันที เธอคงจะเก็บเอาไว้เป็นเงินขวัญถุงไม่เอาไปใช้จ่ายแน่นอน เพราะเอริณมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เธอยังไม่ได้มาทำงานที่นี่ด้วยซ้ำ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยให้ทิปใคร
“ถ้าคราวหน้าฉันจ่ายช้าอีก ช่วยเตือนฉันด้วยนะ รับรองจะไม่วีนหรือเหวี่ยงพวกเธอแน่นอน” เอริณหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไม่ลืมที่จะหยิบถุงกระดาษของแบรนด์ดังที่เธอได้รับมาจากทัตเทพด้วย ราคาก็ใบหลายแสนบาทอยู่ น่าจะเอาไปขายได้ แต่น่าเสียดาย ที่กระเป๋าในโลกนิยาย แม้จะหรูหราสักเพียงใด มันก็เป็นแบรนด์หรือยี่ห้อที่สมมติขึ้น ทำให้เอริณไม่ทราบราคาที่แน่ชัดของกระเป๋าเท่าไรนัก
“ขอให้เป็นวันดี ๆ นะคะคุณเอริณ” สองสาวเปิดประตูออฟฟิศให้แก่เอริณก่อนจะอวยพรให้ดาราสาว แม้ปีนี้จะอายุล่วงเลยไปยี่สิบแปดแล้ว แต่เอริณก็ยังดูดีในสายตาผู้พบเห็นอยู่มาก น่าเสียดายที่นิสัยไม่ดีนัก ทำให้ลูกค้าเลิกจ้างงานของเอริณ อ้างว่าเอริณทำให้ภาพลักษณ์บริษัทเสียหาย จึงทำให้นอกจากจะถูกยกเลิกงานที่ทำสัญญาไว้แล้ว ยังไม่มีใครกล้าจ้างงานเธออีกด้วย แม้แต่ผู้จัดการที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี ยังลาออก และเอริณยังหาผู้จัดการใหม่ไม่ได้ นั่นจึงทำให้เอริณต้องรับงานเอง แต่ก็ไม่มีใครติดต่อมาเลยสักคน
“แกเห็นรึเปล่าจอย ที่คอคุณเอริณน่ะ เขียวช้ำเหมือนมีใครบีบมา” เพราะชุดที่เอริณใส่เป็นเดรสที่เปิดเผยผิวบริเวณคอจึงทำให้นิติสาวของคอนโดมองเห็นรอยนิ้วมือได้อย่างชัดเจน
“ข้อมือก็มีเหมือนถูกมัดด้วยเชือก คุณเอริณรับงานแสดงใหม่แล้วหรือ ทำไมเราไม่เห็นข่าวในสื่อออนไลน์เลยล่ะ หรือว่างานยังเป็นความลับอยู่” จอยที่สังเกตเห็นรอยบนข้อมือของเอริณทั้งสองข้าง ตอนที่เอริณยื่นเงินให้เธอ จอยหลุบตาลงมอง ดูยังไงก็เป็นรอยเชือกแน่นอน
“แต่อาจจะเป็นตัวประกอบค่าตัวถูก ๆ รึเปล่า แบบเขาให้เล่นอะไรก็เล่นน่ะ ดูสิทั้งที่โดนบีบคอกับถูกมัดข้อมือจนเป็นรอยขนาดนั้นก็ยังยอมเล่น ถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่น้ำหกใส่ นางก็วีนฉ่ำแล้วจ้า” ผกามาสสันนิษฐาน เพราะพวกเธอทราบดีว่าเอริณไม่มีงานมาหลายเดือนแล้ว
“กว่าจะรู้ตัวว่าทำตัวแย่แค่ไหน งานดี ๆ ก็หายหมด ก็นะดีที่นางยอมจ่ายค่าส่วนกลางและค่าล่าช้า ฉันยิ่งกลัวอยู่ว่านางจะวีนใส่ฉันเสียอีก” จอยที่ตามข่าวคราวของเอริณมานาน เพราะเป็นดาราเพียงคนเดียวที่มาพักอยู่ที่นี่ แรก ๆ ก็ดีใจที่ได้เห็นดารา แต่พอนาน ๆ ไป ความร้ายกาจของเอริณทำให้เธอเลิกปลื้มดาราสาว แถมถ้ามีโอกาสก็นั่งจับกลุ่มนินทาเอริณกับเพื่อน ๆ อีกด้วย
♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️
เอริณจะได้เจอนางเอกกี่โมง
ความคิดเห็น