ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
The Promised Neverland Rey x oc

ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่3 : เนอร์แมนป่วย

  • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 63


บ้านทุ่งเกรซ - แพลนเทชั่นหมายเลข 3

....

ฉันเป็นคนขี้เซานิดหน่อย... 

..ไม่สิ อาจจะหนักไปหน่อย..

ในขณะที่เด็กๆกำลังทำความรู้จักกันและออกไปเล่นด้วยกันในกลางวัน แต่ฉันกลับมานอนอยู่ในห้อง 

อิซาเบลล่าพยายามอย่างหนักเพื่อให้ฉันสนใจเข้าสังคมกับคนอื่น เธอดูเอาใจใส่ฉันมากกว่าเด็กคนอื่นเป็นพิเศษ 

อาจเป็นเพราะฉันเป็นเด็กมีปัญหา

ช่วยไม่ได้นะ ก็ฉันดันมาเป็นจุดชนวนระเบิดของมาม๊านี่นา ถ้าฉันเป็นอะไรไปก่อนการจัดส่งในอนาคตเธอคงชะตาขาด ฉันเข้าใจว่ามาม๊าพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในโลกที่ยุ่งเหยิงแบบนี้ และหญิงสาวก็ทำได้ดีจึงอยู่รอดได้นานกว่าคนอื่น 

ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริง ที่ว่าตัวเธอเองกำลังทำสิ่งที่เห็นแก่ตัวได้ เพื่อเลี้ยงดูเหล่าลูกๆให้เติบโตมาเป็นเนื้อที่มีคุณภาพ เพื่อปกป้องผิวหนังของตัวเองแล้วศรีธรรมก็ต้องถูกโยนทิ้ง 

ใครจะบอกได้ล่ะว่าหนึ่งชีวิตของเธอแลกกับลูกๆตัวเองหลายคนมันคุ้นค่าหรือไม่...?

ฉันคิดว่าไม่ เอ็มม่าก็คงไม่เหมือนกัน เพราะอย่างนั้นเรื่องราวทุกอย่างในอนาคตถึงได้เกิดขึ้น....

เมื่อแสงสว่างเริ่มส่องผ่านหน้าต่าง เด็กๆทุกคนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พร้อมลงมาทานอาหารเช้า มาม๊าเธอทักทายฉันด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและเสียงที่เงียบสงบ

ฉันยิ้มทักทายอย่างทุกที แต่ในขณะที่กำลังจะหันหลังหนี เธอก็ถูกอิซาเบลล่าจับไว้ก่อน....

......

"เอเลน่า~" เอ็มม่าร้องเสียงแหลมเมื่อเธอเห็นฉันอยู่ในอ้อมแขนของอิซาเบลล่า เด็กๆคนอื่นต่างสนใจทันทีเมื่ออิซาเบลล่าเปิดประตูออกมาพร้อมกับเธอ 

เพราะฉันเป็นคนขี้เซาทำให้พลาดช่วงเวลาเล่นกับเด็กๆคนอื่น อิซาเบลล่าจึงตัดสินใจตัดปัญหา โดยอุ้มฉันไปเล่นกับเด็กคนอื่นข้างนอก ดูเหมือนว่า...วันนี้หญิงสาวคงต้องเห็นฉันพูดเกินสิบคำให้ได้

ฉันกวาดสายตามองในห้อง เห็นหัวเข้มๆของเรย์ ผมขาวโดดเด่นของนอร์แมน และหัวส้มป่าของเอ็มม่าที่พุ่งเข้ามาทันทีที่เห็นฉันและมาม๊าปรากฏที่ประตู

ผ่านไปสองปีนับจากเหตุการณ์ที่ห้องพยาบาล ฉันดูสามตัวเอกที่เริ่มเติบโตขึ้นมาก ตอนนี้พวกเขาและฉันอายุได้สี่ขวบ นอร์แมนที่เอาแต่นอนห้องพยาบาลก็ออกมาเล่นข้างนอกได้แล้ว ส่วนเรย์ก็อ่านหนังสือคนเดียวได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งเธอ

ตอนนี้ฉันคิดว่าเขากำลังหาข้อมูล เกี่ยวกับความฝันของตัวเองที่ค่อยๆซ้อนทับกับปัจจุบันแน่ๆ ฉันจึงถอยออกห่างให้เวลาเรย์ได้ใช้ความคิดของตัวเองคนเดียวเงียบๆ 

เอ็มม่าก็ยังคงร่าเริงส่งเสียงเจี๊ยกๆเหมือนเดิม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือความสัมพันธ์ของเอ็มม่า เริ่มสนิทกับนอร์แมนมากขึ้น จนสามารถเรียกเต็มปากได้เลยว่าเป็นเพื่อนสนิท

"มาม๊า! พาเอเลน่ามาด้วยเรอะคะ สุดยอดเลย!"

"ในที่สุดยัยเด็กขี้เซาก็ออกจากห้องซะที"

"พวกหนูขอเล่นด้วยสิ!"


'สงสัยจัง ว่าฉันห่างหายไปนานแค่ไหนกันนะ พวกเขาถึงได้ตระตือรือร้นกันขนาดนี้...' 

เธอสงสัยจริงๆนะ

เด็กๆที่โตกว่าคนอื่นรีบวิ่งเข้ามาเกาะชุดคลุมยาวของอิซาเบลล่า(เหมือนซอมบี้) พร้อมส่งเสียงจ้อยแจ้วเรียกร้องให้อิซาเบลล่าก้มตัวลงให้เห็นฉันได้ขนัด อิซาเบลล่าจำต้องแสดงฉันให้พวกเขาดู 

ฉันถูกจู่โจมด้วยสายตาของเด็กๆที่น่ารักยิ้มแย้มกันยกใหญ่ 

ถึงแม้ฉันจะไม่ต้องการแต่ก็ต้องแสดงยิ้มหวานเพื่อสร้างความเอ็นดูให้แก่พวกเขา แต่ดูเหมือนจะใช้ได้ดีไปหน่อย เธอจึงถูกจู่โจมแย่งชิงกันหอมฟอดคนละทีสองที จนแก้มฉันขึ้นแดงกร่ำจากการช้ำ

เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงไม่อยากจะออกมา!

ในจังหวะที่ทุกคนมัวสนใจฉันอยู่ นอร์แมนดึงกล่องที่อิซาเบลล่าเอามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉันเหลือบไปมองก่อนจะรู้ว่ามันคือกล่องกระดานหมากรุก

"มาม๊า นี้คืออะไรเหรอครับ" นอร์แมนถามพลางแสดงเกมกระดานให้เธอดู

"อ่า นั้นคือเกมกระดานหมากรุกน่ะจ๊ะ มันเป็นเกมกลยุทธ์ที่ใช้ความคิดในการตอบโต้กับอีกฝ่าย" 

อิซาเบลล่าตอบนอร์แมนและขออุ้มฉันจากเด็กคนอื่น พอเด็กคนอื่นได้ยินคำว่ากลยุทธ์ บางส่วนก็เลิกสนใจหันไปหยิบของเล่นชิ้นอื่นแทน 

ยกเว้นนอร์แมนที่ยังคงจ้องกระดานหมากรุกเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ...เด็กชายคงจะสนใจเข้าให้แล้ว 

"หมากรุก?" นอร์แมนพึมพำเขาหันมาสบสายตาฉันเหมือนคาดหวัง

มองเพื่อ?

ฉันเริ่มรู้สึกสงหรณ์ใจไม่ดี... ไม่สิ เขาคงไม่คิดจะเอามาเล่นคู่กับฉันเป็นคู่แข่งหรอกใช่มะ? 

ฉันไม่ใช่อัจฉริยะจริงๆซะหน่อยนะ!

พอสบสายตาของเขานานๆเข้าก็เริ่มทำให้ฉันรู้สึกเหงื่อตก อีกแล้ว...สายตาเดียวกับในห้องพยาบาลครั้งนั้นเดะ! 

เพราะทนไม่ไหวฉันจึงขอให้มาม๊าวางเธอลงก่อนจะเอ่ยเสียงถาม

"มาม๊า เล่นให้พวกเราดูหน่อยได้มั้ยคะ" เพื่อตัดปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น ฉันจึงหันไปอ้อนมาม๊า หวังว่านอร์แมนจะเบี่ยงเข็มทิศไปยังอิซาเบลล่าแทน 

และก็ได้ผลชะงักจริงด้วย สายตาลูกหมาจึงเบี่ยงไปยังคนตัวสูงกว่า

ด้วยดวงตากลมโตสีฟ้าสดใสของเธอและสีฟ้าครามของนอร์แมน กำลังเป็นประกายอยากรู้อยากเห็น ทำให้อิซาเบลล่าหัวเราะเบาๆ ลูบหัวพวกเราสองคนอย่างรักใคร่... แน่นอนอยู่แล้วสิ เธอต้องเอ็นดูเด็กที่รักการเรียนรู้เสมอ

"เอาจริงง่ะ? แต่ของเล่นชิ้นอื่นดูสนุกกว่าตั้งเยอะเลยนะ ทำไมพวกเราไม่ลองเล่นดูก่อน?" เอ็มม่าถามอย่างโดดเดี่ยว เธออยากไปเล่นอย่างอื่นมากกว่านั่งจ้องกระดานขาวดำ 

ข้างๆก็มีเรย์ที่ค้นหาหนังสือมาอ่าน เขาดูตัดสินใจแล้วว่ายังไงเอเลน่าและนอร์แมนต้องอยู่กับมาม๊า

"ฟังดูน่าสนใจดีนะ" นอร์แมนยิ้มกับคำพูดของเอ็มม่า เขาไม่อาจขัดใจกับสายตาหมาหงอยของเด็กหญิงผมส้มป่าได้ แต่สายตาของเขาก็ยังแอบเสียดายอยู่กับกระดานหมากรุก... 

มาม๊าที่กำลังมองเหตุการณ์นั่นอยู่ยิ้มขบขัน ในขณะที่หญิงสาวกำลังคิดจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ เสียงใสเล็กก็ดังขึ้นแทรกก่อน

"ให้นอร์แมนเล่นกับมาม๊าสักตาสองตาเถอะ พอเสร็จแล้วค่อยมาสอนฉันเล่นต่อก็ได้ เดียวฉันจะเล่นกับเอ็มม่าเอง"

ประโยคที่ฟังดูเป็นกลาง เด็กหญิงตัวเล็กที่พยายามทำตัวเป็นพี่ใหญ่ อิซาเบลล่ามองอย่างแปลกใจที่เด็กอายุสี่ขวบแค่นี้ตัดสินใจเสียสละเพื่อคนอื่นเป็นได้แล้ว 

ยิ่งอิซาเบลล่าคิดว่าเป็นเอเลน่าที่พูดน้อยคนนั้น ได้เอ่ยปากขออะไรสักอย่าง คงไม่แคล้วเพราะเธอต้องการมันจริงๆ แต่ก็เปลี่ยนใจได้ในทันทีที่เห็นเพื่อนทั้งสองคนเริ่มไม่ลงรอย

"ดี! ดี! เราจะเล่นอะไรกันดีล่ะ" เอ็มม่าตาลุกวาวเมื่อเอเลน่าที่ปกติชอบหมกตัวอ่านหนังสือกับเรย์ ตัดสินใจจะเล่นกับเธอก่อน มันทำให้เด็กหญิงผมส้มมีความสุขมาก เธอหายหงอยจากการที่นอร์แมนสนใจเกมหมากรุกทันที 

"เอเลน่า..." นอร์แมนดูลังเลเล็กน้อย สงสัยเขากำลังคิดว่าฉันกำลังเสียสละให้ตัวเองอยู่สินะ...

แต่ขอโทษนะนอร์แมน!? ซึ่งจริงๆแล้วฉันไม่ได้สนใจเกมกระดานหมากรุกเลยสักนิดอะนะ! ที่ฉันเอ่ยปากถามมาม๊าก่อนเพราะทนสายตาคาดหวังของนายไม่ได้ต่างหาก 

พอๆกับที่นอร์แมนทนสายตาคาดหวังของเอ็มม่าไม่ได้นั้นแหละ(ไม่งั้นเขาจะยอมตัดใจกับหมากรุกทำไม)  พอเห็นเอ็มม่าชิงพูดขึ้นมาเธอจึงคิดแผนชิงหนีได้สำเร็จ 

"เอาไว้นอร์แมนค่อยมาสอนฉันเล่น(วันอื่น)นะ" เธอตบไหล่เด็กชายผมขาวแปะๆที่มองมาอย่างลังเลพยักหน้ารับ 

ก่อนจะ(รีบ)ลากเอ็มม่าหนีออกมาทันที กลัวความใจดีเอ็มม่าเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ยอมให้เธออยู่เล่นกับอัจฉริยะตัวบอสทั้งสอง!

บอสทั้งสองกำลังจะปะทะกัน! ใครจะอยู่ให้ถูกบดขยี้ความภาคภูมิใจที่เหลืออยู่น้อยนิดไปกันล่ะ!?

ถึงแม้ตอนนี้นอร์แมนยังเบบี้บอสอยู่ก็เถอะ... 

"ถ้าว่าอย่างนั้น..เดียวมาม๊าจะสอนวิธีเล่นให้กับนอร์แมนเอง" หญิงสาวปรับตำแหน่งที่นั่งเบาๆ จัดเครื่องแต่งการให้เรียบร้อย ก่อนจะเชิญให้นอร์แมนนั่งลงเผชิญหน้าตรงข้ามเธอ 

"ครับ!" นอร์แมนยิ้มร่าก่อนจะลงไปนั่งตามที่อิซาเบลล่ากล่าว ขณะที่รอมาม๊าจัดกระดาน นัยน์ตาสีฟ้าของเด็กชายเหลือบมองไปตามหลังของเอเลน่าและเอ็มม่า 

'เอเลน่าเป็นคนอ่อนโยนจริงๆ' นอร์แมนคิดพร้อมอมยิ้ม ตั้งแต่ที่ได้เจอกันครั้งแรกที่ห้องพยาบาลในตอนนั้น คนเดียวที่ยอมมาเยี่ยมทุกวัน(มาตรวจดูว่านอร์แมนแอบฉี่รดที่นอนหรือยัง)ก็คือเอเลน่า ก่อนจากนั้นจะตามมาด้วยเอ็มม่าและเรย์ 

ทำให้ชีวิตที่เงียบเหงาอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม ของด็กชายตัวเล็กที่นอนนิ่งๆอยู่บนเตียงสีขาว ที่มีแต่กลิ่นยาฆ่าเชื้อทุกวัน เริ่มมีชีวิตชีวามากขึ้น 

เอเลน่าโดยไม่รู้ตัวว่าการกระทำเล็กๆ(ที่เข้าใจผิด)ของเธอ ที่เสียสละเพื่อคนอื่น ได้ซื้อความไว้วางใจของนอร์แมนได้ผลสนิท 

ในขณะที่มาม๊าและนอร์แมนกำลังเล่นหมากรุกกันด้วยความเงียบงัน เอ็มม่ากับฉันก่อปราสาทของเล่น ฉันกวาดสายตาไปมองรอบห้องด้วยความเบื่อ ก่อนจะพบเรย์ที่มุมห้องกำลังอ่านหนังสือคนเดียว 

ถ้าไม่มีฉันแล้ว เรย์ก็ชอบไปนั่งอ่านหนังสือคนเดียว 

'เขาดูเหงานะ' ฉันคิดในใจพลางถอนหายใจ กลับไปสนใจเอ็มม่าต่อ 

...


ในความเป็นจริง 'โลก' ของฉันเพิ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลง 

หลังจากที่ฉันอายุสี่ขวบย่างจะห้าขวบไม่นาน ตั้งแต่ที่ฉันอยู่โลกนี่นั้นเป็นครั้งแรก ที่ฉันได้ประสบการณ์เป็นพยานของคนที่กำลังจะถูกส่งออก

กลุ่มเด็กโตสามคน หลุยส์ เคดี้ และ อเล็ก  เด็กผู้หญิงสองคนและผู้ชายหนึ่งคน ที่อายุมากกว่าฉันสามสี่ปี ไม่มีการพูดถึงพวกเขาในพล็อตหลัก สองชื่อที่ฉันคุ้นคือ หลุยส์ และเคดี้ที่จะถูกส่งออกไปก่อนที่เนื้อเรื่องจะเริ่มขึ้น 

ฉันสนิทกับกลุ่มเด็กคนโตทั้งสามคน เพราะพวกเขาร่าเริงและชอบช่วยงานมาม๊า ขนาดฉันที่พยายามอยู่เงียบๆยังเผลอตอบโต้เพราะความพูดมากของพวกเขาทั้งสามคนเลย 

และเมื่ออิซาเบลล่าประกาศว่าหนึ่งในสามคนได้รับเป็นลูกบุญธรรมในวันรุ่งขึ้น ฉันจึงทั้งตกใจและในเวลาเดียวกันก็ไม่แปลกใจเลย....

ฉันตกใจเพราะอเล็กอายุยังไม่เกินเก้าปีเลยด้วยซ้ำ! และฉันก็ไม่แปลกใจเพราะฉันรู้ว่าสิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้น แต่เพราะชีวิตที่ดูเงียบสงบและเงียบง่าย ทำให้เธอเผลอลดความตื่นตัวลง

อเล็กเป็นเด็กดีเขาดูแลน้องๆได้ดีทุกคน กลุ่มของเขาสนิทกับกลุ่มของเรา อเล็กเขาค่อนข้างจะสนิทกับฉัน ร่วมไปถึงเขาชอบเล่นกีตาร์ เพราะได้รับมาจากอิซาเบลล่าในวันเกิด อเล็กไม่ควรได้รับโชคชะตาแบบนี้เลย!

ในขณะที่อเล็กลองเสื้อเบลเซอร์ใหม่ของเขาอยู่ ฉันที่เกาะติดประตูแอบมองเขาที่ดูมีความสุขในห้อง และเพื่อนทั้งสองคนช่วยจัดของลงในกระเป๋า 

"เชื่อเลยอ่ะ นายกลับได้เป็นคนแรกในพวกเราสามคนที่ได้รับเป็นลูกบุญธรรม!" เคดี้แสดงรอยยิ้มขนาดใหญ่และบ่นให้อเล็กฟัง

"แหะ แหะ" เด็กชายทำได้เพียงยิ้มรับ 

"อย่าลืมเขียนจดหมายมานะ นายสัญญาแล้ว!" หลุยส์เข้ามาตบไหล่อเล็กเสียงดัง พร้อมหน้ากังวลกลัวว่าเพื่อนชายของพวกเธอจะสนใจครอบครัวใหม่มากกว่าตอบจดหมายมา

อเล็กพยักหน้ายิ้มเล็กน้อยกับเพื่อนสนิททั้งสองคนของเขา "แน่นอน! เคดี้ หลุยส์ ฉันจะรีบส่งจดหมายมาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แน่ๆ" ดวงตาของเคดี้และหลุยส์เริ่มแดง 

"เข้าใจก็ดีแล้วล่ะเจ้าบ้า!"

พวกเธอโวยวายตีเนียนมองไปรอบๆเพื่อเก็บซ่อนน้ำตา อเล็กยิ้มบางๆเขาก้มหน้าลงเพื่อซ่อนแววตาเศร้าของเขา ก่อนที่สายตาจะเผลอไปมองเห็นฉัน กำลังแอบมองเขาจากบานประตู 

เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะแย้มยิ้มดีใจ พร้อมย่อตัวลงควักมือเรียก

"เอเลน่า~ มาหาฉันเหรอ?"

"!?"

เสียงเรียกอเล็กทำให้หลุยส์และเคดี้สนใจ ฉันตื่นตัวผละออกจากประตูก่อนจะหนีลงไปข้างล่าง ไปสมทบกับเรย์ นอร์แมนและเอ็มม่า ...ทำเป็นเหมือนไม่มีใครไปแอบมองพวกเขาข้างบน

'ฉันไม่สนใจหรอก ฉันไม่สนใจ' 

เธอพยายามสะกดจิตตัวเองอยู่อย่างนั้นตลอดมืออาหารเช้า

.....

วันนี้นางฟ้าตัวเล็กของบ้านแปลกมาก อย่างน้อยอเล็กก็คิดแบบนั้น... 

"เอเลน่าจ้า~ มามะ ออกมาเล่นกับพี่หน่อยสิคนดี~" เสียงเรียกกล่อมอย่างล่อลวง ไม่ได้ทำให้เด็กหญิงวัย4ขวบออกจากหลังเพื่อนชายคนสนิทเลย แต่ยิ่งเรียกกลับยิ่งทำให้เธอมุดลงเข้าไปใหญ่

เมื่อดูท่าเด็กน้อยจะไม่หายงอลง่ายๆ ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าน้องสาวตัวเล็กเธอโกรธอะไรก็เถอะ อเล็กจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปยังเด็กชายที่กางหนังสืออยู่

"นี้เรย์! ช่วยกล่อมให้เอเลน่าออกมาเล่นกับพี่ชายหน่อยสิ"

เรย์ที่อายุสี่ขวบเงยหน้าจากหนังสือ ก่อนจะเผยยิ้มเยาะออกมา

"เฮอะ"


"หนอย... เจ้าเด็กคนนี้"

...

"วันนี้ก็แป่วกันอีกแล้วหรือจ๊ะ" มาม๊าเดินมาหัวเราะน้อยๆ เมื่อเห็นท่าทางหดหู่ของเด็กที่โตกว่าพากันก้มหน้าสลด เอเลน่าเด็กหญิงตัวน้อยงดงามเหมือนนางฟ้าจำแลงมา ทำให้พี่ๆในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต่างเอ็นดูปลืมปลิ่มตั้งแต่เธอเป็นเด็กทารกแล้ว

แต่ช่างน่าเสียดายที่เอเลน่าไม่ค่อยชอบเล่นกับเด็กโตคนอื่นๆเท่าไหร่  ทุกคนเลยพากันแป่วไปตามๆกัน แต่ท่าทางเขินอายไม่กล้าเข้าหาคนอื่นนั้นแหละที่ทำให้ใครๆต่างอยากเข้าไปเล่นด้วย

"ที่รักจ๊ะ เดี๋ยวจะถึงเวลาที่อเล็กจะได้จากไปแล้วนะ ไม่มาเล่นกับพี่ๆเขาหน่อยล่ะ" 

สุดท้ายเพราะจนปัญญาเด็กโตคนอื่นเลยได้ขอมาม๊าช่วย อิซาเบลล่าพยายามโน้มน้าวให้ลูกตัวน้อยยอมไปเล่นกับพี่ๆคนอื่น 

"จะได้เก็บไว้เป็นความทรงจำที่แสนดีของอเล็กไงล่ะจ๊ะ"

กึก

เพราะประโยคเมื่อกี้ทำให้มือเล็กๆจับแน่น ก่อนจะคลายกำปั้นออกโดยที่ไม่มีใครรู้

เอเลน่าผละออกจากเรย์ แก้มกลมดูนุ่มนิ่มอมชมพูเงยมองมาม๊า 

และพี่ๆคนอื่นที่รอลุ้นจนตัวโก่งอยู่หลังบานประตู 

"หนู...." ริมฝีปากแดงเม้มเล็กน้อย นัยน์ตาสีฟ้าสุกใสเริ่มแดงชื่น 

"....!?" ทำให้หญิงสาวที่ยิ้มอยู่ถึงกับชะงัก ร่วมถึงเรย์ที่ถึงกับทำหนังสือหล่น เมื่อเม็ดใสวิบวับหล่นจากเปลือกตา

"หนู หนูจะเล่นด้วยก็ได้ ถ้าพี่ชายไม่ไป!" เสียงร้องงอแงของเด็กหญิงที่เอาแต่ใจเป็นครั้งแรก ทำหัวใจพี่ๆอ่อนยวบ 

โดยเฉพาะเด็กชายคนโตที่วันนี้จะได้จากไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

"...เอเลน่า" อเล็กตาแดงรื้นอย่างไม่รู้ตัว 

'เขาเองก็... เขาเองก็ไม่อยากไป...'

ประโยคที่พูดออกไปไม่ได้ อล็กกลั้นน้ำตาไว้ก่อนจะค่อยๆยิ้มด้วยสีหน้าของคนทำอะไรไม่ถูก เพราะคำขอของเด็กหญิงมันเกินกำลังของเขา...

"โธ่เด็กน้อยที่รัก...ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะ" 

อิซาเบลล่ารีบอุ้มเด็กหญิงน่ารักขึ้น น้ำตาที่ไหลพรากเหมือนก็อกแตกไม่หยุดไหลง่ายๆ 

'อา! เพราะงี้ไงเลยไม่ชอบร่างเด็ก' เอเลน่าคิดในใจอย่างข่มขื่นเมื่อหยุดน้ำตาไม่ได้

ทั้งๆที่ย้ำกับตัวเองว่าอย่าสนใจแท้ๆ

พยายามกลั้นร้องไห้หันไปมองยังพี่ๆที่อยู่บานประตู

สุดท้ายแล้วเธอก็ยังอยากทำตามหัวใจตัวเอง

"อึก พี่ชาย..พี่ชายไม่ไปไม่ได้เหรอคะ ฮือออ" 

เสียงหวานร้องไห้อย่างน่าสงสาร อเล็กที่นึกว่าจะโดนน้องตัวเองเกลียดซะแล้ว เขารีบวิ่งเข้าไปโอ๋เด็กน้อยใหญ่ 

"ขอโทษนะเอเลน่า...!" เสียงเรียกจากพี่ๆแต่ไม่ได้ทำให้เธอหยุดร้องไห้เลย  จนอเล็กต้องวุ่นวายหอบอุ้มเอเลน่าและพาพี่ๆน้องๆทุกคนออกไปเล่นข้างนอกด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย 

โดยตั้งแต่ต้นจนจบเขาอุ้มเอเลน่าไว้ตลอด 

ถึงไม่อยากให้เวลาผ่านไปเร็วแค่ไหน แต่ยังไงมันก็ต้องมาถึง

........................
.........
...

จนในที่สุดเวลาส่งอเล็กก็มาถึง 

ทุกคนมาออกันที่หน้าประตูเพื่ออำลาอเล็ก หลุยส์และเคดี้ร้องไห้เป่าปี่ไปพร้อมน้ำตา 

นอร์แมนกับเอ็มม่าพวกเขาไปพูดลากับอเล็ก เหลือแค่ฉันและเรย์ที่ยืนอยู่ข้างกัน เรย์เห็นว่าฉันมีสีหน้าไม่ดีเขาจึงยืนอยู่ข้างๆไม่ถามอะไร 

เขายังจำเมื่อตอนเช้าได้ว่าเธอร้องไห้ได้เศร้าใจขนาดไหน

จนกระทั่งใครสักคนเรียกชื่อฉันขึ้นมา บอกว่าอเล็กอยากเห็นฉันก่อนไป เธอจึงต้องออกไปข้างหน้า 

"ฉันจะเขียนจดหมายถึงเธอด้วยนะเอเลน่า!"  อเล็กยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ เขายังแอบกังวลที่เห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้หนักมากเป็นครั้งแรก ขอบตาของอีกฝ่ายยังแดงช้ำอยู่เลย

ฉันหลุบสายตาลงไม่จ้องอเล็ก เหมือนเป็นการประท้วง ทำให้อเล็กต้องพูดเสริมขึ้นมาอีก 

"ไม่ต้องกังวลนะว่าฉันจะมีความสุขกับครอบครัวใหม่ จนไม่สนใจส่งจดหมายมาที่นี่น่ะ ฉันจะเขียนจดหมายหาเธอแน่ๆ" เขามั่นใจอย่างที่สุดว่าจะทำตามสัญญาให้ได้ 

ฉันกำมือแน่น เขาจะไม่ได้ส่งจดหมายให้พวกเรา...

เขาจะไม่ได้ไปหาครอบครัวใหม่ และฉันจะไม่ได้รับจดหมายอย่างแน่นอน 

"......" อเล็กรู้สึกอึดอัดที่เขาไม่สามารถทำให้ฉันร่าเริงขึ้นได้ เขาเกาแก้มดูประหม่า พร้อมส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากหลุยส์และเคดี้  

ก่อนที่จะได้ทำอะไร อิซาเบลล่าเอนตัวไปหาอเล็ก 

"อเล็กจ๊ะ เราต้องไปกันแล้วนะ พ่อแม่ใหม่กำลังรอเธออยู่" หญิงสาวยิ้มอย่างกังวล โกหกได้อย่างเชี่ยวชาญ พร้อมรอยยิ้มงดงามนั้นทำให้เด็กน้อยพยักหน้าอย่างเชื่อฟังเธอสุดหัวใจ

"ผม.. ผมขอกอดเอเลน่าก่อนไปได้มั้ยฮะ" เขาถามอิซาเบลล่าอย่างเขินๆ อิซาเบลล่าเงียบไปแปบหนึ่งก่อนจะพยักหน้ายิ้มรับ  ฉันสังเกตเห็นว่าอิซาเบลล่าดูไม่เต็มใจเท่าไหร่   

"ทำให้เร็วล่ะ" หญิงสาวกล่าวก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง อเล็กพยักหน้าก่อนจะย่อตัวลงให้อยู่ระดับสายตาเดียวกัน

"มานี่สิเอเลน่า มาให้พี่กอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อความโชคดีหน่อยได้มั้ย" เขาดูเหนื่อยล้า 

ฉันพยักหน้าก่อนจะรู้สึกแสบร้อนจมูกขึ้นมา น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ยังเอ่อคลอจนมองทางไม่เห็น เธอเดินเตาะแตะไปหาเขา ก่อนจะตกลงไปในอ้อมแขนกว้างใหญ่ ความอบอุ่นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้รับจากเขา

เสียงสะฮือไห้เบาๆ

"ลาก่อน...อเล็ก" เธอกระซิบพร้อมน้ำตาที่ร่วงลง 

อเล็กกอดเธอแน่นพยักหน้ารับยิ้มแย้ม "ฉันจะรีบเขียนจดหมายมาหาโดยเร็วที่สุด สัญญาเลย!" เขาพูดอีกครั้งอย่างเงียบๆ 

หลังจากกอดกันครู่หนึ่งเขาก็ผละออกเพื่อเช็ดน้ำตาให้เอเลน่า 

อเล็กยิ้มขบขันที่เห็นเอเลน่าร้องไห้อีกแล้ว "น้องสาวตัวน้อยของฉัน ดูสิ เป็นเด็กเย็นชาแต่กลับขี้แยกว่าใคร"  ประโยคหยอกล้อของอเล็กเข้าหูของใครหลายๆคน 

เอเลน่าที่ชอบอยู่เงียบๆจนดูเหมือนเย็นชา แท้แล้วเป็นเด็กที่ใส่ใจคนอื่นมากกว่าที่ใครคิด 

ก่อนที่อิซาเบลล่าจะเดินเข้ามาพาอเล็กเดินออกจากประตู .....หลังจากนั้น

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กลับมาอย่างปลอดภัย...

"อเล็กเขาฝากสิ่งนี้มาให้.." 

อิซาเบลล่ากล่าวยิ้มๆดูฉันอย่างเงียบๆ ประโยคคำพูดของอเล็ก อิซาเบลล่าก็ได้ยินมัน ก่อนสักครู่เมื่อเห็นว่าเอเลน่าพยักหน้ารับเงียบๆ 

เธอถอนหายใจก่อนจะจากไปเพราะมีบางอย่างที่จะต้องเตรียม  

ฉันที่เหม่อมองกีต้าร์ที่ได้รับมาจากอเล็กเป็นตัวแทนเขา น้ำตาหยุดไหลไปแล้วแต่ภายในใจยังคงแสบร้อน นอร์แมนและเอ็มม่าเดินกลับมาหลังจากไปช่วยเด็กโตดูแลน้องๆ

"ไปกันเถอะ พวกเรายังมีสิ่งที่ต้องทำนะ" เรย์จับมือฉันเพื่อเรียกสติ ไม่มีคำปลอบโยนใดๆหลุดออกมาจากปากของเขา แต่สายตาที่จดจ่อมองมา ทำให้หัวใจที่บีบรัดเริ่มคลายออก 

"อื้อ..."

พวกเรายังมีสิ่งที่จะต้องทำอยู่นี่นา... ฉันจ้องกีต้าร์ชั่วอึดใจก่อนจะบีบให้แน่น



สามและห้าเดือนต่อมาตามลำดับ หลุยส์และเคดี้ก็ออกจากบ้านไป เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เห็นพวกเขา และจดหมายที่พวกเขาสัญญาก็ไม่เคยส่งมาถึง... เอ็มม่าบ่นคร่ำครวญเรื่องนี้อยู่หลายวัน ก่อนจะลืมไปในที่สุดและไม่พูดถึงมันอีก

เหมือนเด็กโตคนอื่นๆ

พวกเขาไม่ใช่สามคนสุดท้ายที่ฉันจะต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรและต้องจากลา เด็กโตส่วนใหญ่เป็นเพียงการปรากฏตัวชั่วคราวที่นี่ ฉันสร้างนิสัยในการหลีกเลี่ยงพวกเขา หลังเกิดการจากไปของอเล็ก หลุยส์ และเคดี้ 

การเข้าใกล้พวกเขามีแต่จะทำให้ฉันเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น  

ไม่นานหลังจากการจากไปของเคดี้ เธอก็ถูกแทนที่ด้วยเด็กอ่อนคนใหม่ที่อายุหนึ่งขวบ 


อย่างไรก็ตามอีกไม่นานเรย์กำลังจะอายุครบห้าขวบแล้ว และอีกไม่ช้าเขาก็จะหกขวบ ...ซึ่งหมายความว่าถึงเวลาที่เขาใกล้จะเข้าหาอิซาเบลล่าและเป็นสายลับของมาม๊า 


มันจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า... 

..........................
..........
...

ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในห้องสมุดกับเรย์ 

เวลาเห็นเรย์อ่านหนังสือคนเดียว มันทำให้เขาดูโดดเดี่ยวแตกต่างจากเด็กคนอื่น เพราะไม่มีใครชอบอ่านหนังสือ ฉันจึงมานั่งอ่านหนังสือเป็นเพื่อนเรย์ 

พวกเราสองคนนั่งอ่านหนังสือด้วยกัน จนดูเหมือนเป็นหนอนหนังสือตั้งแต่อายุน้อยๆ

เด็กส่วนใหญ่คิดว่ามันน่ารัก ยกเว้นเอ็มม่ารู้สึกเสียใจที่ความสนใจทั้งหมดของฉันจะถูกขโมยไปโดยเด็กชายผมสีเข้ม เพื่อชดเชยเอ็มม่าเวลาในสัปดาห์หน้าฉันจะใช้เวลากับเธอบ่อยๆ 

ก่อนจะสลับเปลี่ยนไปเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนนอร์แมน เพราะเขามาสอนตาม(ทวง)สัญญาจริงๆ.. ให้ตายสิ สุดท้ายก็หนีไม่รอด! 

ก่อนที่จะกลับไปอ่านหนังสือกับเรย์อีกครั้ง สลับหมุนวนเวียนแบบนี้จนอิซาเบลล่าจับสังเกตได้ 

อิซาเบลล่าไม่เห็นว่าฉันงีบนอนกลางวันอีก เธอก็ดูพอใจเมื่อเห็นฉันใช้เวลากับเพื่อนๆมากขึ้น ร่าเริงให้สมกับวัยที่เป็น...

ฉันรู้ว่าอิซาเบลล่าแอบสงสัยฉันอยู่ แต่ฉันทำทีละอย่างช้าๆ เธอจึงคิดแค่ว่าอาจจะหลงลืมของบางอย่าง หรือเด็กซนแอบเอามาเล่น

เพราะไม่ต้องแอบหนีไป'ขโมย'ของตอนดึกๆ บางอย่างที่จัดเตรียมก็เตรียมไว้แล้ว ของบางอย่างที่หมดอายุง่ายฉันรอเตรียมเอาไว้ในช่วงเวลาใกล้ๆดีกว่า 

มันเป็นช่วงปลายเดือนมกราคมหนี่งสัปดาห์ พวกตัวเอกต่างก็อายุห้าขวบครบกันทุกคนแล้ว 

ฉันที่อายุครบห้าขวบก็เติบโตขึ้นมาก แก้มกลมยังคงมีอยู่แต่เริ่มน้อยลง ผมสีบลอนด์อ่อนเริ่มยาวจนถึงหลัง ต้องให้มาม๊าถักเปียข้างหลังให้เพราะฉันไม่คิดจะตัด  

หิมะของปีตกลงมาหลังจากผ่านไปแล้วหนึ่งคืน จนพวกเราออกจากบ้านไม่ได้ ตอนเช้าหลังจากหิมะหยุดตกเมื่อเปิดประตูบ้าน ทำให้เด็กทุกคนต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่

หิมะสีขาวโพลนจนท่วมสวนฟิลด์เฮาส์

"ไปเล่นปาบอลหิมะกันเถอะ!" เอ็มม่ารีบลากพวกเราสี่คนออกไปเล่นสนามหน้าบ้าน ทุกคนต่างสวมเสื้อกันหนาวไหมพรมหนาๆ พร้อมผ้าพันคอคนละผืน 

เอ็มม่าและนอร์แมน เรย์กับฉัน พวกเราสี่คนร่วมมือกันสร้างป้อมหิมะขึ้นมา ฝั่งกองกำลังตรงข้ามเป็นดอน กิลด้าและเด็กคนอื่น 

เมื่อใดที่ฉันเผลอโดนหิมะปาใส่ ฝั่งตรงข้ามจะถูกทล่มยับจากเอ็มม่า ส่วนนอร์แมนไม่แข็งแรงเท่าสองคนนั้น เขามานั่งปั้นก้อนหิมะให้อีกสามคนแทน

เมื่อเล่นจนเหนื่อย ดอนและกิลดาที่อายุน้อยกว่าพวกฉันหนึ่งปี พวกเขารีบวิ่งไปปั้นตุ๊กตาหิมะ เด็กโตบางคนพาแอนนาที่ตัวเล็กและเด็กอ่อนกว่าหน่อย พากันกระโดดลงหิมะพลางปัดแขนปัดขาทำรูปนางฟ้า 

ฮ่าฮ่า! เฮเฮ!

เสียงหัวเราะของทุกคนดังไปทั่ว เมื่อเกิดการปาบอลหิมะใส่กันเอง และเสียงฝีเท้าที่ย้ำบนพื้นหิมะจนเกิดรอยตามทาง 

ฉันหัวเราะไปกับพวกเขา ในจังหวะที่เรย์ปาบอลหิมะถูกหน้าเอ็มม่าเต็มๆ เด็กหญิงผมสีส้มก็องค์ลงระเบิดปืนกลหิมะใส่ไม่ยั้ง แต่เรย์ก็หลบได้ทุกเม็ดจนเรียกว่าขั้นเทพ

"ย๊ากกก นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! นี่แน่ะ!" 

เอ็มม่าหยิบลูกบอลหิมะไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะปาระรัวจนแทบมองไม่ทัน เรย์ยังคงหลบได้อยู่เขาวางมือไว้ในกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็ถือลูกบอลหิมะไว้ แถมยังปากลับโดนเอ็มม่าด้วย 

"....." ฉันและนอร์แมนสบสายตากันครู่หนึ่ง 

พวกเราพร้อมใจกันหลบออกมาให้สองคนนั้นฆ่ากันได้ถนัดๆ 

นอร์แมนโบกธงเล็กๆในมือเชียร์ที่แอบเอามาจากมื้ออาหารกลางวัน ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขายืนเชียร์ฝั่งไหนอยู่ในใจ

ต้องบอกว่าเอ็มม่าที่ปาแบบไม่มีแผนมากกว่า ทำให้เรย์หลบได้เพราะอ่านทางออก ฉันที่ไม่อยากตกไปอยู่ในสงครามของพวกเขา ตีเนียนเดินออกมานั่งปั้นตุ๊กตากระต่ายหิมะแทน 

ก่อนสักพักจะมีเด็กอ่อนเดินมานั่งดูฉันกำลังปั้นกระต่าย ฉันเหลือบมองเงียบๆปั้นเสร็จก็ยกให้เขาไป เด็กน้อยยิ้มร่าก่อนจะวิ่งออกไปทันทีที่ได้ของจนลืมขอบคุณ

"เฮ้อ....."

ฉันถอนหายใจยิ้มๆเอ็นดูเด็ก ก่อนจะกลับมาสนใจนั่งปั้นตุ๊กตากระต่ายต่อ 

แต่ไม่รู้ว่าเด็กที่เอาตุ๊กตากระต่ายหิมะเธอไปเล่นอีกท่าไหน รู้สึกตัวอีกทีฉันก็กำลังถูกเด็กๆจ้องมองตาวาวแสงรอบวงล้อมซะแล้ว

เหงื่อตก...

สุดท้ายฉันเลยต้องปั้นตุ๊กตากระต่ายหิมะให้พวกเขาทีละคน


ผ่านไปสักพัก


"อ๊าาาา เกิดเรื่องแล้ว!?"

เสียงกรีดร้องแหลมของเอ็มม่า ทำให้ฉันผละออกมาดู เมื่อปั้นตุ๊กตากระต่ายตัวสุดท้ายให้เด็กคนหนึ่งเสร็จ 

ก่อนจะพบว่านอร์แมนสลบไปแล้ว! เรย์กำลังเอาไม้เขี่ยๆตรวจดูว่าเขาตายหรือยัง เอ็มม่าก็ยังคงโวยวายวิ่งไปมาทำอะไรไม่ถูก 

"ไปตามมาม๊า" 

ฉันจับไหล่เอ็มม่าที่โวยวายให้ไปตามอิซาเบลล่า ดีกว่าวิ่งโวยวายโดยไม่ได้เรื่องอะไร เมื่อเอ็มม่าจากไปฉันก็นั่งตรวจดูนอร์แมน 

แก้มสีขาวขึ้นสีแดงเข้มพร้อมเปลือกตาที่ปิดแน่น

"เป็นไง" เรย์เลิกเอาไม้มาจิ้มแก้มนอร์แมน มือเล็กของฉันจับหน้าผากของนอร์แมนและหน้าผากตัวเองเพื่อวัดอุณหภูมิ

"เหมือนจะไข้ขึ้นนะ" เธอกล่าวพร้อมเรย์ที่มองแล้วพยักหน้ารับเบาๆ เขาโยนกิ่งไม้ในมือทิ้ง

ฉันยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นเรย์คนซึน เป็นห่วงเขาแท้ๆแต่พยายามไม่แสดงอาการทำตัวเก๊กไว้

พวกเราสองคนหิ้วปีกนอร์แมนคนละข้างกลับเข้าบ้าน ประสวบเหมาะกับที่มาม๊าถูกเอ็มม่าลากออกมาพอดี  ปีนั้นพวกเราจึงยุติการเล่นปาบอลหิมะกันเพราะนอร์แมนเป็นไข้ 

เช้าวันรุ่งขึ้น นอร์แมนตื่นขึ้นมาที่ห้องพยาบาล แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายในเร็ววัน 

"ฟังนะเด็กๆทุกคน อย่าเข้าใกล้ห้องพยาบาลกันล่ะ"

"ครับ~/ค่า~"

เมื่อมาม๊าสั่งทุกคนเสร็จ เธอก็เดินกลับเข้าไปในห้องพยาบาลเพื่อไปเช็ดตัวให้นอร์แมน

"เอ็มม่า?" ฉันส่งเสียงถามเมื่อเห็นเด็กหญิงผมส้มยืนนิ่ง เรย์และฉันมองเอ็มม่าที่เหมือนสติหลุดออกไปแล้ว 

"เธอต้องอยู่ให้ห่างนะ" เรย์ย่ำกับเอ็มม่าอีกครั้ง 

เอ็มม่าที่ทำสีหน้าเหมือนโลกแตกเมื่อมาม๊าออกคำสั่งมาแบบนั้น ดูเหมือนเธอจะช็อคจนไม่ได้ยินเรย์กล่าว 


'ถึงมาม๊าจะพูดแบบนั้นแต่...' 


เอ็มม่าที่ดูหงอยลงเมื่อนอร์แมนไม่อยู่ ฉันที่ปกติจะรำคาณเสียงร้องของเอ็มม่า แต่วันนี้รู้สึกเหงาแปลกๆ 

"แอบเข้าไปกันเถอะ" เสียงพูดของเด็กหญิงผิวขาวอมชมพูดังขึ้น ท่าทางยามสะบัดกระโปรงของเธอดูเท่มาก เป็นครั้งแรกที่เอเลน่าสนับสนุนการแหกกฏ 

เอ็มม่าหันมามองฉันเหมือนไม่เชื่อ พร้อมดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ ก่อนจะถูกเบรคเมื่อเรย์เอาหนังสือมากั้นไว้ตรงหน้าพวกเรา

"มันไม่ใช่ความคิดที่ดี-มาม๊าบอกไม่ให้เราเข้าไปไม่งั้นพวกเราจะป่วย" 

"แต่ถ้าพวกเขาไม่รู้ล่ะ?" ฉันยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ โดยมีเอ็มม่าตาลุกวาวหลังได้ยิน

"เธอ..." เรย์อ้าปากพูดไม่ออก เมื่อคำเตือนของเขาถูกเพิกเฉย เรย์ยิ้มเย้ยหยันเล็กน้อย "เอาเถอะ ถือว่าฉันได้เตือนไปแล้วนะ" 

"แล้วก็...ฉันเป็นห่วงก็แค่เธอ ฉันคิดว่าเอ็มม่าไม่เป็นไรหรอก เธอเป็นคนประเภทไม่เป็นหวัด" เขากล่าวเสร็จแล้วก็เดินจากไป 

ฉันมองตามหลังเรย์อย่างเอือมระอา มักจะมีคนพูดไว้ว่าคนบ้ามักจะไม่เป็นหวัด 

เอ็มม่าไม่รู้เรื่องนั้น..เธอเผยด้านซุกซนออกมาเมื่อเราอยู่หน้าประตู เอ็มม่าแนะนำให้พวกเราคลานเข้าไปเพื่อที่จะเซอร์ไพรส์นอร์แมน

ฉันเห็นด้วย เพื่อให้กำลังใจเจ้าชายน้อยในห้อง พวกเราแอบคลานเข้าไปใกล้ติดเตียงผู้ป่วย ก่อนที่เอ็มม่าจะลุกขึ้นมาและฉันตามคนที่สอง

"เซอร์ไพรส์!"x2

"!?"

"แค่กแค่กแค่ก เอ็ม-เอ็มม่า!? และ- เอเลน่า!?" 

นอร์แมนตกใจจนไอค่อกแค่ก ทีแรกเขาแสดงสีหน้าดีใจมาก แต่เมื่อเขาไอเสร็จก็รู้ตัวว่าตัวเองยังเป็นหวัดอยู่ นอร์แมนพยายามไอปิดปากหันไปทางอื่น เพราะกลัวเพื่อนเขาจะติดไข้

"พวกเธอเข้ามาที่นี่ทำไม มาม๊าไม่อนุญาตให้เข้ามานะ" 

เอ็มม่าเหมือนไม่รับรู้ความพยายามของนอร์แมน เธอไม่เคยกลัวอะไรเลยสักนิด เอนกายลงบนเตียงกล่าวอย่างร่าเริง 

"มาเล่นกันเถอะ! เอเลน่าก็บอกจะเล่นด้วย!" สิ้นประโยคเอ็มม่า นัยน์ตาสีฟ้าทะเลหันมามองว่าพูดจริงเหรอ ฉันพยักหน้ายืนยัน

"นายดูเหงาทุกครั้งที่ป่วยนี่นา ฉันไม่อยากเห็นนอร์แมนเศร้า" ฉันเอ่ยพร้อมทำหน้าเศร้า

"ฉันด้วย!" เอ็มม่าตะโกนยิ้มแย้มแจ่มใส

แก้มของนอร์แมนที่เป็นสีอ่อนเริ่มสุกปรั่งเมื่อได้ยินประโยคคำพูดของเรา ก่อนจะได้สติรีบส่ายหัวเบาๆดูยังไงก็ไม่ยอม

"ไม่-ไม่ได้นะ เดียวพวกเธอทั้งคู่จะติดหวัด.. แค่ก! แค่กแค่กแค่ก" 

ยิ่งพูดยิ่งไอจนหายใจติดขัด เมื่อเห็นนอร์แมนเริ่มขดตัวลงในผ้าห่มมากขึ้น เอ็มม่าก็รีบร้อนเอ่ยออกมาด้วยเสียงจริงจัง 

"ไม่ต้องห่วงน่านอร์แมน! ฉันไม่มีทางเป็นหวัดหรอก ฉันสบายมาก!" 

เอ็มม่าชะโงกหน้าเข้าไปใกล้นอร์แมนมากขึ้น พร้อมยิ้มกว้างส่องประกายแทบเจิดจ้า 

"...!" ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้เห็นรอยยิ้มหวานใกล้ขนาดนั้น แทบระยะประชิดเผาขน

บ๊อง

เหมือนฉันจะได้ยินเสียงบ๊องพร้อมระเบิดหน้าแดงของนอร์แมน? 

ฉันไม่คิดว่าเอ็มม่าจะเชื่อใจเรย์ขนาดนั้น เธอก้มหน้าลงซุกผ้าห่มเพื่อกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่น 

"เนอะ~ เอเลน่า!" เอ็มม่าหันมาถามเพื่อยืนยัน  

"อะ อื้ม" ฉันรีบลุกขึ้นมาทันทีพลางยิ้มหน้าแดงๆเพราะกลั้นยิ้ม

จนกระทั่ง.... 


"อ้อเรอะ?"


เสียงเย็นๆน่ากลัวดังมากจากข้างหลัง 

เฮือก!?

ฉันกับเอ็มม่าสะดุ้งเฮือกพร้อมกัน พวกเราตัวสั่นระริกเมื่อมีมือมาวางไว้บนไหล่เราทั้งคู่ 

"ว่าไงจ๊ะ?" ก่อนจะพบว่าเป็นอิซาเบลล่าที่กลับมาจากข้างนอกกำลังยิ้มทะมึนให้พวกเราอยู่!

"...."

"...."

..............................
................
.........
...
.
.
.

เรย์ที่รออยู่ข้างนอกเพราะเป็นห่วง เขาเงยหน้าขึ้นจากหนังสือไปหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่ยอมลุกออกจากตรงนี้เข้าไปดู จนกระทั้งเมื่อเห็นอิซาเบลล่าหิ้วตัวเอ็มม่าและเอเลน่าคนละข้างในอ้อมแขนออกมา 

จากนั้นไม่ต้องมีใครอธิบายเด็กชายก็เข้าใจได้ในทันที

"ใครเป็นคนบอก" อิซาเบลล่าถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย 

"....." เอ็มม่าและฉันชี้ไปยังเรย์พร้อมเพียงกัน 

เรย์กระพริบตาปริบ...

"ผมอ่านในหนังสือมา เขาว่าคนบ้าเป็นหวัดไม่ได้" เรย์ตอบด้วยใบหน้าใสซือบริสุทธิ์ ก็ในหนังสือเขาบอกว่ายังงี้? 

"....." ออร่าทะมึนออกมาจากอิซาเบลล่าไม่หยุดแต่ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่มองเด็กในความดูแลตัวเองทั้งสามคนไปด้วย 

ส่วนฉันก็แกล้งซือไปทำตัวให้สมวัย เรย์ เอ็มม่าและฉัน พวกเราทำตัวไร้เดียงสาเหมือนกับว่า ไม่รู้ว่าทำไมมาม๊าของพวกเธอถึงได้โกรธ? 

จากนั้นพวกเราก็โดนเขกหัวไปคนละที แต่ก็ไม่ได้โดนกักบริเวณหรือทำโทษอย่างอื่นอีก 

ถือว่าทำตัวโง่ๆถูกเวลาเป็นเรื่องดี...

#สงครามทั้งแรกแพ้~ แผนเละไม่เป็นท่า


'แต่ไม่ยอมแพ้หรอกนะ!'

หลังจากที่ถูกเตะโด่งออกจากห้องพยาบาลในครั้งนั้น เอ็มม่ากับฉันก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกเรามาช่วยคิดแผนกันใหม่ ส่วนเรย์ก็ยังคงไม่ให้ความร่วมมืออยู่ดี แต่เขาก็แอบตามมาฟังแผนด้วยตลอด และยังช่วยบอกจุดปัญหาแต่แค่ไม่ลงมือทำเอง 

ทำขนาดนี้แล้ว...เป็นห่วงก็พูดออกมาเถอะ เจ้าเด็กซึน!

ณ ปัจจุบันหน้าห้องพยายาบาล...

ร่างเล็กสองร่างทำตัวลับๆล่อๆอยู่หน้าประตูห้อง ก่อนที่หนึ่งจะนั้นจะพยักหน้าให้กันแล้วรีบเข้าไปในห้อง 

ฉันให้เอ็มม่าเข้าไปหานอร์แมนคนเดียว ส่วนเธอก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูเพื่อจะได้บอกคนข้างในทัน ถ้าเกิดอิซาเบลล่ามาพอดีละก็...  

"เอล! ตรงนี้มันแปลว่าอะไรน่ะ" 

เสียงเรียกของเรย์ดังขึ้นมาพร้อมสะกดภาษาละตินผิดๆถูกๆ 

"....." ฉันหันซ้ายหันขวาเมื่อไม่เห็นใคร...คิดอีกทีว่าสักครู่คงไม่เป็นไรหรอก ก่อนจะผละออกจากหน้าประตู

"มันแปลว่าความดีงามหรือความชอบน่ะ" 

เมื่อตอบเรย์เสร็จเธอกำลังจะเดินกลับไปเฝ้าทีเดิม เรย์ก็ดันมีคำถามใหม่  

"ตรงนี้ล่ะ" เธอก้มมองแปบๆ แต่ไม่ขนัดเพราะหนังสือตัวเล็ก เธอเลยลงไปนั่งข้างเรย์พร้อมตอบเป็นประโยค กับเรย์ที่ตั้งใจฟังมาก  

พวกเขานั่งเรียนด้วยกันจนกระทั่งเหมือนลืมอะไรไปบางอย่าง เธอนึกอยู่นานก็คิดไม่ออก...มาคิดออกก็ตอนที่อิซาเบลล่าหิ้วเอ็มม่ามาตรงหน้าพวกเรา

"....."  

อิซาเบลล่าไม่ต้องถามอะไร เรย์ก็ตอบขึ้นทันทีพร้อมชี้หน้าในหนังสือที่เขาทำการคั่นหน้าเอาไว้เหมือนนกรู้

"มันบอกว่าไข้จะหายเร็วถ้ามีใครสักคนอยู่ด้วย" เด็กหนุ่มกำลังบอกถึงเอ็มม่าที่เข้าไปอยู่ในห้องกับนอร์แมนสองคน

เรย์ตอบได้หน้าตายพอๆกับฉันที่ทำตัวไร้เอียงสามองมาม๊าปริบๆ 

ฉันไม่รู้เรื่องน๊า~ ฉันแค่เข้าไปส่ง~

ที่อิซาเบลล่ามาตามหาเรย์เพราะได้ยินเอ็มม่าตอนคุยกับนอร์แมนพอดีว่า 'ถ้าพวกเราสองป่วยด้วยกันเดียวก็หายแล้วล่ะ!' เธออยากรู้ว่าใครกันที่ไปกรอกหูความเชื่อผิดๆมา

"เฮ้อ..." 


อิซาเบลล่านวดขมับพร้อมทำหน้า


'อีกแล้วเรอะ?'



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตัดไปตอนหน้า ตอนนี้ยาวเกิน 


คิดเห็นยังไงกับตอนแก้นี้บอกด้วยนะ //ไม่ก็กดให้กำลังใจสักนิด



ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

24ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

24ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture