คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2
แม่นะแม่
แค่เขายอมใจอ่อนร่วมเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่ปาแลร์โม่ซึ่งไม่ได้พบหน้ามานานเกือบสิบปี
อัลเฟรโด้รู้ทั้งรู้ว่านี่ไม่ใช่การเดินทางเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนเพียงอย่างเดียว
แต่นางอนงค์รัตน์ใช้โอกาสนี้จัดฉากให้ลูกชายสุดที่รัก ได้พบกับคุณหนูโซเฟียเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี
การพบกับโซเฟียอีกครั้งตามการจัดฉากของมารดา
ทำให้อัลเฟรโด้เหมือนได้พบน้องสาวที่หายหน้าไปนาน นางอนงค์รัตน์พูดถูกจากเด็กน้อยที่วิ่งเล่นเป็นเพื่อนลอร่ากลายเป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักสดใสสมวัย
เพียงแต่อัลเฟรโด้ยังไม่ได้รู้สึกมากไปกว่าคำว่าพี่น้อง
เมื่อได้พูดคุยและรับประทานอาหารมื้อกลางวันร่วมกันเสร็จ
สองแม่ลูกรอสเซลลินีก็เดินทางกลับนาโปลีทันที และเมื่อกลับมาถึงที่โรงแรมนางอนงค์รัตน์ก็เร่งรัดให้เขาตอบตกลงเรื่องการแต่งงางโดยอ้างว่าคุณหนูเบลลูชชี่คนสวย
ตอบตกลงยอมรับการทาบทามเรื่องแต่งงานแล้ว ถึงกระนั้นก็เถอะ
มีหรือที่อัลเฟรโด้จะยอมรับง่ายๆ
"แม่ครับ ผมว่าเรื่องนี้เราอย่างเพิ่งรีบร้อนเลยได้ไหม
ให้เวลาผมกับโซเฟียคิดอีกสักนิดแล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย"
อัลเฟรโด้พูดพลางมองหน้ามารดาด้วยน้ำเสียงที่เป็นงานเป็นการ
"แต่แม่รอไม่ไหวจ้ะ
แม่อยากให้ลูกชายของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาให้เร็วที่สุด
ลูกกับหนูโซเฟียเจอกันแล้วและก็เข้ากันได้ดีไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นา"
นางอนงค์รัตน์เอ่ยตามที่เห็นด้วยสีหน้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
"หนูโซเฟียตอบตกลงเรื่องการแต่งงานแล้ว
ถ้าผู้หญิงไม่มีปัญหาทางเราก็ไม่ได้ติดขัดเรื่องการจัดงาน
แม่ว่าไม่จำเป็นต้องรอก็ได้นะ"
"แต่ว่าผม..."
"ไม่มีแต่
แม่ได้ฤกษ์จากหลวงตามาเรียบร้อยแล้ว อีกหนึ่งอาทิตย์จะมีพิธีแต่งงานภายในแล้วอีกหนึ่งเดือนค่อยจัดงานฉลอง"
"อะไรนะครับ
ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะแต่งงานกับโซเฟีย" อัลเฟรโด้ตะลึงอีกครั้ง
"แล้วมีเหตุผลอะไรที่อัลของแม่จะไม่แต่งงานกับหนูโซเฟียจ้ะ"
นางอนงค์รัตน์ย้อนถามอย่างใจเย็น มั่นใจเต็มร้อยเลยว่างานนี้ตนต้องชนะแน่นอน
"ผมกับโซเฟียเพิ่งเจอกันวันนี้วันแรกเลยเองนะครับ
มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับแม่"
อัลเฟรโด้เหนื่อยกับความใจร้อนของมารดาเหลือเกิน
เข้าใจได้เรื่องความกังวลแต่ก็ควรให้เวลาคนสองคนได้คิด
หรือไตร่ตรองทบทวนเรื่องสำคัญเช่นนี้เสียก่อน
"ขนาดเพิ่งเจอกันแม่ยังเห็นลูกสองคนเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย
เชื่อแม่เถอะว่าถ้าแต่งงานกันไปลูกสองคนต้องเป็นสามีภรรยาที่รักกันมากแน่ๆ"
นางสิงห์วาดฝันอย่างมีความสุข
ความน่ารักอ่อนหวานของโซเฟียจะมัดใจให้ผู้ชายอย่างอัลเฟรโด้ไปไหนไม่รอด
และทั้งคู่จะต้องดื่มด่ำมีความสุขต่อการมีกันและกันอย่างแน่นอน นางอนงค์รัตน์มั่นใจว่าการตัดสินใจเลือกโซเฟียมาเคียงคู่ลูกชายสุดที่รัก
เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดและเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
ในขณะที่อัลเฟรโด้ไม่คิดเช่นนั้น
เขาจำได้ว่าพูดกับคุณหนูเบลลูชชี่ไม่ถึงสิบประโยคด้วยซ้ำ
อีกทั้งฝ่ายหญิงก็ไม่มีทีท่าว่าอยากจะพูดคุยอะไรด้วยมากนัก
นอกจากทักทายกันตามมารยาทตลอดเวลาที่พบหน้าและกินอาหารกลางวันด้วยกัน
แล้วมารดาเอาอะไรมาตัดสินว่า เขากับโซเฟียเข้ากันได้ดีเหมาะสมที่จะแต่งงานกัน
ตลกสิ้นดี
"จำได้ไหมจ้ะว่า
หลังแต่งงานจะมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของลูกและหนูโซเฟีย แต่ถ้าไม่มีการแต่งงานจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง"
นางอนงค์รัตน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวและแน่วแน่
สบตากับอัลเฟรโด้ด้วยแววตาที่นิ่งสงบ
นางสิงห์ยังคงเป็นนางสิงห์วันยังค่ำ
และยิ่งเป็นนางสิงห์ตนนี้ด้วยแล้ว
อนงค์รัตน์รู้วิธีที่จะกำราบให้ทุกคนในรอสเซลลินีสงบและทำตามที่ตนต้องการด้วยวิธีไหน
ที่ผ่านมานางคือหัวใจดวงเดียวของรอสเซลลินีที่มีค่ามากที่สุด
และน่าเกรงขามมากที่สุดด้วยเช่นกัน
กับมาเฟียจอมดุอย่างซิลวิโอนางยังกำราบจนกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ มาแล้วเลย
นับประสาอะไรกับสายเลือดในอกที่จะจัดการไม่ได้
"แม่ครับ ผมยอมไม่ซื้อทีมฟุตบอลก็ได้
แต่ผมยืนยันว่าจะไม่แต่งงานกับโซเฟียเด็ดขาด" อัลเฟรโด้ตัดสินใจแล้วเช่นกัน
เป็นไงเป็นกัน เขาก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว
ทีมฟุตบอลในฝันอยู่ตรงหน้าแค่เอื้อม และใช้เงินส่วนตัวที่มีลงทุนในสิ่งที่รัก
แต่มารดากลับใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องมือในการต่อรองเรื่องการแต่งงาน
ถ้าได้ในสิ่งที่รักแต่ต้องสูญเสียอิสรภาพและถูกผูกมัดด้วยคำว่าแต่งงาน
อัลเฟรโด้ยอมเป็นแค่แฟนคลับทีมฟุตบอลเช่นเดิมต่อไปก็ได้
แต่จะไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักหรือรู้สึกใดๆ ด้วยเด็ดขาด
นางสิงห์แห่งรอสเซลลินีเห็นท่าทีแข็งกระด้างของบุตรชายในเวลานี้แล้ว
ทำให้ต้องตัดสินใจเปลี่ยนแผนที่คิดว่าจะเป็นไม้ตายสำหรับงานนี้ ให้มันรู้ไปซิว่า
นางอนงค์รัตน์จะทำไม่สำเร็จเมื่อทุ่มสุดตัวขนาดนี้แล้ว
"อัลเฟรโด้ไม่รักแม่แล้วใช่ไหม"
นางสิงห์เอ่ยเสียงเครือ
ได้ผล แค่เสียงที่บอกว่ามารดากำลังเสียใจ
ก็ทำให้คนรักแม่สุดหัวใจอย่างอัลเฟรโด้ถึงกับต้องถลาลงมากอดนางไว้ในอ้อมแขน
"อยากเห็นแม่ทุกข์ใจตายไปต่อหน้าใช่ไหม"
มารยานางสิงห์เจ้าเล่ห์เริ่มขึ้นแล้ว
"แค่ทุกวันนี้ที่แม่กินไม่ได้นอนไม่หลับ
วิ่งวุ่นทำทุกวิถีทางให้ลูกทุกคนปลอดภัยแม่ยังเหนื่อยไม่พอใช่ไหม
ลูกอยากเห็นแม่นอนร้องไห้จมอยู่กับน้ำตาไปตลอดชีวิตใช่ไหม
หัวใจของแม่ไม่เคยมีความสุขเลยเมื่อรู้ว่าลูกทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตราย"
"แม่" อัลเฟรโด้ก้มหน้าเล็กน้อย
รู้สึกผิดกับคำตัดพ้อของมารดาเหลือเกินแล้ว
"ผมรู้ว่าแม่รักเราทุกคน
รู้ว่าแม่ทุ่มเทชีวิตและจิตใจเพื่อพวกเรามาตลอด แต่ว่าเรื่องคำทำนายอาจจะไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้
หรือไม่เคราะห์ร้ายเหล่านั้นก็อาจจะหมดไปแล้ว แม่อย่าคิดมากอีกเลยครับ
ผมเชื่อว่าเราทุกคนดูแลตัวเองได้ดีและคงไม่มีใครจะมีเรื่องมีราวมาให้แม่ไม่สบายใจแน่"
บุตรชายปลอบ
ความกดดันทุกอย่างมาอยู่ที่ท่านประธานหนุ่มแห่งแกรนด์รอสเซลเสียแล้ว
พี่น้องคนอื่นต่างเก็บตัวเงียบ
ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานที่เป็นหนทางแก้ไขตามคำทำนายนั้น
อัลเฟรโด้รู้ว่านาทีนี้ทุกคนหาทางป้องกันตนเองทั้งจากศัตรูที่มองไม่เห็นและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ในฐานะที่ทุกคนคือทายาทตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งของนาโปลี
รวมถึงการป้องกันที่จะไม่ให้ถูกมารดาจับคลุมถุงชนเรื่องคู่ให้
เขายังไม่อยากติดคุกเพราะการแต่งงาน
ยังไม่พร้อมจะดูแลใครเป็นจริงเป็นจัง
ยังสนุกกับการใช้ชีวิตที่เป็นอยู่เช่นนี้ไปเรื่อยๆ
และไม่คิดว่าอยากจะคบหาใครเป็นพิเศษ แค่ศึกษาทำความรู้จักผู้หญิงสักคนอัลเฟรโด้ยังไม่ปรารถนา
ไหนเลยที่จะยอมให้ถูกจับแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยแม้แต่นิดเดียวเช่นคุณหนูโซเฟียเล่า
"แม่ครับ วันนี้แม่คงเหนื่อยมากแล้ว
ผมจะไปส่งที่บ้าน แม่พักผ่อนสักหน่อย แล้วเย็นๆ เราค่อยหาอะไรอร่อยๆ
กินกันดีไหม" อัลเฟรโด้ยังไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ เขาตัดบทไม่ต่อคำพูดใดๆ
อีกสักคำ และเปลี่ยนเรื่องคุยให้คนในอ้อมกอดรู้สึกดีขึ้น
"ผมพาแม่กลับบ้านนะครับ"
ท่านประธานหนุ่มใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่แก้มของมารดาอย่างถนอม
ดวงใจดวงเดียวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของอัลเฟรโด้กำลังร่ำไห้อย่างน่าสงสาร
ชายหนุ่มค่อยๆ
ประคองนางให้ลุกขึ้นแล้วพากลับไปส่งที่คฤหาสน์รอสเซลลินีโดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
ทีนี้คุณอัลของเราจะทำอย่างไรต่อไป
ต้องติดตามค่ะ
อีบุ๊คมีให้โหลดแล้วนะคะ
Click เลยค่า
ความคิดเห็น