ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสั่งรักมาเฟียร้าย

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 62


    แม่นะแม่ แค่เขายอมใจอ่อนร่วมเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่ปาแลร์โม่ซึ่งไม่ได้พบหน้ามานานเกือบสิบปี อัลเฟรโด้รู้ทั้งรู้ว่านี่ไม่ใช่การเดินทางเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนเพียงอย่างเดียว แต่นางอนงค์รัตน์ใช้โอกาสนี้จัดฉากให้ลูกชายสุดที่รัก ได้พบกับคุณหนูโซเฟียเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี

            การพบกับโซเฟียอีกครั้งตามการจัดฉากของมารดา ทำให้อัลเฟรโด้เหมือนได้พบน้องสาวที่หายหน้าไปนาน นางอนงค์รัตน์พูดถูกจากเด็กน้อยที่วิ่งเล่นเป็นเพื่อนลอร่ากลายเป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักสดใสสมวัย เพียงแต่อัลเฟรโด้ยังไม่ได้รู้สึกมากไปกว่าคำว่าพี่น้อง

            เมื่อได้พูดคุยและรับประทานอาหารมื้อกลางวันร่วมกันเสร็จ สองแม่ลูกรอสเซลลินีก็เดินทางกลับนาโปลีทันที และเมื่อกลับมาถึงที่โรงแรมนางอนงค์รัตน์ก็เร่งรัดให้เขาตอบตกลงเรื่องการแต่งงางโดยอ้างว่าคุณหนูเบลลูชชี่คนสวย ตอบตกลงยอมรับการทาบทามเรื่องแต่งงานแล้ว ถึงกระนั้นก็เถอะ มีหรือที่อัลเฟรโด้จะยอมรับง่ายๆ

            "แม่ครับ ผมว่าเรื่องนี้เราอย่างเพิ่งรีบร้อนเลยได้ไหม ให้เวลาผมกับโซเฟียคิดอีกสักนิดแล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย" อัลเฟรโด้พูดพลางมองหน้ามารดาด้วยน้ำเสียงที่เป็นงานเป็นการ

            "แต่แม่รอไม่ไหวจ้ะ แม่อยากให้ลูกชายของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาให้เร็วที่สุด ลูกกับหนูโซเฟียเจอกันแล้วและก็เข้ากันได้ดีไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นา" นางอนงค์รัตน์เอ่ยตามที่เห็นด้วยสีหน้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก

            "หนูโซเฟียตอบตกลงเรื่องการแต่งงานแล้ว ถ้าผู้หญิงไม่มีปัญหาทางเราก็ไม่ได้ติดขัดเรื่องการจัดงาน แม่ว่าไม่จำเป็นต้องรอก็ได้นะ"

            "แต่ว่าผม..."

            "ไม่มีแต่ แม่ได้ฤกษ์จากหลวงตามาเรียบร้อยแล้ว อีกหนึ่งอาทิตย์จะมีพิธีแต่งงานภายในแล้วอีกหนึ่งเดือนค่อยจัดงานฉลอง"

            "อะไรนะครับ ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะแต่งงานกับโซเฟีย" อัลเฟรโด้ตะลึงอีกครั้ง

            "แล้วมีเหตุผลอะไรที่อัลของแม่จะไม่แต่งงานกับหนูโซเฟียจ้ะ" นางอนงค์รัตน์ย้อนถามอย่างใจเย็น มั่นใจเต็มร้อยเลยว่างานนี้ตนต้องชนะแน่นอน

            "ผมกับโซเฟียเพิ่งเจอกันวันนี้วันแรกเลยเองนะครับ มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับแม่" อัลเฟรโด้เหนื่อยกับความใจร้อนของมารดาเหลือเกิน เข้าใจได้เรื่องความกังวลแต่ก็ควรให้เวลาคนสองคนได้คิด หรือไตร่ตรองทบทวนเรื่องสำคัญเช่นนี้เสียก่อน

            "ขนาดเพิ่งเจอกันแม่ยังเห็นลูกสองคนเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย เชื่อแม่เถอะว่าถ้าแต่งงานกันไปลูกสองคนต้องเป็นสามีภรรยาที่รักกันมากแน่ๆ" นางสิงห์วาดฝันอย่างมีความสุข

            ความน่ารักอ่อนหวานของโซเฟียจะมัดใจให้ผู้ชายอย่างอัลเฟรโด้ไปไหนไม่รอด และทั้งคู่จะต้องดื่มด่ำมีความสุขต่อการมีกันและกันอย่างแน่นอน นางอนงค์รัตน์มั่นใจว่าการตัดสินใจเลือกโซเฟียมาเคียงคู่ลูกชายสุดที่รัก เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดและเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย

            ในขณะที่อัลเฟรโด้ไม่คิดเช่นนั้น เขาจำได้ว่าพูดกับคุณหนูเบลลูชชี่ไม่ถึงสิบประโยคด้วยซ้ำ อีกทั้งฝ่ายหญิงก็ไม่มีทีท่าว่าอยากจะพูดคุยอะไรด้วยมากนัก นอกจากทักทายกันตามมารยาทตลอดเวลาที่พบหน้าและกินอาหารกลางวันด้วยกัน แล้วมารดาเอาอะไรมาตัดสินว่า เขากับโซเฟียเข้ากันได้ดีเหมาะสมที่จะแต่งงานกัน ตลกสิ้นดี

            "จำได้ไหมจ้ะว่า หลังแต่งงานจะมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของลูกและหนูโซเฟีย แต่ถ้าไม่มีการแต่งงานจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง" นางอนงค์รัตน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ สบตากับอัลเฟรโด้ด้วยแววตาที่นิ่งสงบ

            นางสิงห์ยังคงเป็นนางสิงห์วันยังค่ำ และยิ่งเป็นนางสิงห์ตนนี้ด้วยแล้ว อนงค์รัตน์รู้วิธีที่จะกำราบให้ทุกคนในรอสเซลลินีสงบและทำตามที่ตนต้องการด้วยวิธีไหน ที่ผ่านมานางคือหัวใจดวงเดียวของรอสเซลลินีที่มีค่ามากที่สุด และน่าเกรงขามมากที่สุดด้วยเช่นกัน กับมาเฟียจอมดุอย่างซิลวิโอนางยังกำราบจนกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ มาแล้วเลย นับประสาอะไรกับสายเลือดในอกที่จะจัดการไม่ได้

            "แม่ครับ ผมยอมไม่ซื้อทีมฟุตบอลก็ได้ แต่ผมยืนยันว่าจะไม่แต่งงานกับโซเฟียเด็ดขาด" อัลเฟรโด้ตัดสินใจแล้วเช่นกัน

            เป็นไงเป็นกัน เขาก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว ทีมฟุตบอลในฝันอยู่ตรงหน้าแค่เอื้อม และใช้เงินส่วนตัวที่มีลงทุนในสิ่งที่รัก แต่มารดากลับใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องมือในการต่อรองเรื่องการแต่งงาน ถ้าได้ในสิ่งที่รักแต่ต้องสูญเสียอิสรภาพและถูกผูกมัดด้วยคำว่าแต่งงาน อัลเฟรโด้ยอมเป็นแค่แฟนคลับทีมฟุตบอลเช่นเดิมต่อไปก็ได้ แต่จะไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักหรือรู้สึกใดๆ ด้วยเด็ดขาด

            นางสิงห์แห่งรอสเซลลินีเห็นท่าทีแข็งกระด้างของบุตรชายในเวลานี้แล้ว ทำให้ต้องตัดสินใจเปลี่ยนแผนที่คิดว่าจะเป็นไม้ตายสำหรับงานนี้ ให้มันรู้ไปซิว่า นางอนงค์รัตน์จะทำไม่สำเร็จเมื่อทุ่มสุดตัวขนาดนี้แล้ว

            "อัลเฟรโด้ไม่รักแม่แล้วใช่ไหม" นางสิงห์เอ่ยเสียงเครือ

            ได้ผล แค่เสียงที่บอกว่ามารดากำลังเสียใจ ก็ทำให้คนรักแม่สุดหัวใจอย่างอัลเฟรโด้ถึงกับต้องถลาลงมากอดนางไว้ในอ้อมแขน

            "อยากเห็นแม่ทุกข์ใจตายไปต่อหน้าใช่ไหม" มารยานางสิงห์เจ้าเล่ห์เริ่มขึ้นแล้ว

            "แค่ทุกวันนี้ที่แม่กินไม่ได้นอนไม่หลับ วิ่งวุ่นทำทุกวิถีทางให้ลูกทุกคนปลอดภัยแม่ยังเหนื่อยไม่พอใช่ไหม ลูกอยากเห็นแม่นอนร้องไห้จมอยู่กับน้ำตาไปตลอดชีวิตใช่ไหม หัวใจของแม่ไม่เคยมีความสุขเลยเมื่อรู้ว่าลูกทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตราย"

            "แม่" อัลเฟรโด้ก้มหน้าเล็กน้อย รู้สึกผิดกับคำตัดพ้อของมารดาเหลือเกินแล้ว

            "ผมรู้ว่าแม่รักเราทุกคน รู้ว่าแม่ทุ่มเทชีวิตและจิตใจเพื่อพวกเรามาตลอด แต่ว่าเรื่องคำทำนายอาจจะไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้ หรือไม่เคราะห์ร้ายเหล่านั้นก็อาจจะหมดไปแล้ว แม่อย่าคิดมากอีกเลยครับ ผมเชื่อว่าเราทุกคนดูแลตัวเองได้ดีและคงไม่มีใครจะมีเรื่องมีราวมาให้แม่ไม่สบายใจแน่" บุตรชายปลอบ

            ความกดดันทุกอย่างมาอยู่ที่ท่านประธานหนุ่มแห่งแกรนด์รอสเซลเสียแล้ว พี่น้องคนอื่นต่างเก็บตัวเงียบ ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานที่เป็นหนทางแก้ไขตามคำทำนายนั้น อัลเฟรโด้รู้ว่านาทีนี้ทุกคนหาทางป้องกันตนเองทั้งจากศัตรูที่มองไม่เห็นและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ในฐานะที่ทุกคนคือทายาทตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งของนาโปลี รวมถึงการป้องกันที่จะไม่ให้ถูกมารดาจับคลุมถุงชนเรื่องคู่ให้

            เขายังไม่อยากติดคุกเพราะการแต่งงาน ยังไม่พร้อมจะดูแลใครเป็นจริงเป็นจัง ยังสนุกกับการใช้ชีวิตที่เป็นอยู่เช่นนี้ไปเรื่อยๆ และไม่คิดว่าอยากจะคบหาใครเป็นพิเศษ แค่ศึกษาทำความรู้จักผู้หญิงสักคนอัลเฟรโด้ยังไม่ปรารถนา ไหนเลยที่จะยอมให้ถูกจับแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยแม้แต่นิดเดียวเช่นคุณหนูโซเฟียเล่า

            "แม่ครับ วันนี้แม่คงเหนื่อยมากแล้ว ผมจะไปส่งที่บ้าน แม่พักผ่อนสักหน่อย แล้วเย็นๆ เราค่อยหาอะไรอร่อยๆ กินกันดีไหม" อัลเฟรโด้ยังไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ เขาตัดบทไม่ต่อคำพูดใดๆ อีกสักคำ และเปลี่ยนเรื่องคุยให้คนในอ้อมกอดรู้สึกดีขึ้น

            "ผมพาแม่กลับบ้านนะครับ" ท่านประธานหนุ่มใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่แก้มของมารดาอย่างถนอม

            ดวงใจดวงเดียวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของอัลเฟรโด้กำลังร่ำไห้อย่างน่าสงสาร ชายหนุ่มค่อยๆ ประคองนางให้ลุกขึ้นแล้วพากลับไปส่งที่คฤหาสน์รอสเซลลินีโดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว

     

              ทีนี้คุณอัลของเราจะทำอย่างไรต่อไป ต้องติดตามค่ะ

              อีบุ๊คมีให้โหลดแล้วนะคะ Click เลยค่า



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×