ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2: And So We Met (และแล้วเราก็เจอกัน)
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...
ทันทีที่ประตูเปิดเสียงดังโหวกเหวกทั้งหลายแหล่ก็เงียบกริบทันที
ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะวางแฟ้มสีดำขนาดใหญ่เสียงดังให้นักเรียนในห้องได้สะดุ้งกันอีกครั้งก่อนที่จะกลืนน้ำลายก่อนจะพร้อมใจคิดเหมือนกันว่า...
...ท่าทางจะโหดจริงๆด้วย...
“ครูชื่อชเวซีวอน
เป็นอาจารย์ประจำห้องพวกนาย
และยังเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง...ใครก็ตามที่โดดเรียนไม่ว่าจะเป็นวิชาโฮมรูมหรือวิชาไหนก็ตาม
จะโดนลงโทษหมด!!!”ร่างสูงตวาดดังลั่นในประโยคสุดท้ายทำเอานักเรียนทุกคนสะดุ้งอีกรอบไปตามๆกัน
“ฝึกให้เด็กเป็นโรคหัวใจวายตายหรือไงวะ?”ร่างบางพูดพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะเหลือบมองเข้าไปข้างใน
แจจุง ซองมิน ดงแฮ
ขอโทษนะ...ฉันไม่ชอบขี้หน้าไอ้ขี้เก็กนี่หวะ พวกแกสามคนเรียนไปก่อนก็แล้วกัน
ฉันจะขอโดดไปงีบสักก่อนนะ แล้วจะกลับมาหาพวกแกตอนเที่ยงก็แล้วกัน
Adiós mi amigo...กู้ดบาย
มายเฟรน!
คิดได้ดังนั้นร่างบางก็หมุนตัวกลับแล้วก้าวเท้ากำลังจะเดินจากไปจากห้องเรียนของตนโดยทิ้งเพื่อนรักให้นั่งทนเบื่อไปกันเอง
แต่มันไม่ง่ายนักหนะสิ นั่นก็เพราะว่า...
“คิมฮีชอล!”
-------------10%-------------
เสียงตวาดเรียกชื่อของร่างบางที่กำลังจะโดดเรียนวิชาโฮมรูมนั้นดังลั่นขึ้นมาทำเอาเจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงทันที
เป็นเสียงใครไปไม่ได้นอกจากคนที่ยืนมองรายชื่อนักเรียนในสมุดสีฟ้าโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองแม้แต่น้อย
อาจารย์ประจำห้องคิงปี4และอาจารย์ฝ่ายปกครองคนใหม่...ชเวซีวอน!
“กลับเข้ามาในห้องเดี๋ยวนี้!”
แม้แต่แจจุง
ซองมินและดงแฮยังอ้าปากค้างกับร่างสูงที่ยังคงพลิกหน้ากระดาษต่อไปโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองแม้แต่น้อย
หรือว่า...
คิมฮีชอลจะสิ้นลายในมือของอาจารย์คนใหม่คนนี้แล้ว?!?!
“คิมฮีชอล”ร่างสูงเรียกชื่อเจ้าตัวดีที่กำลังช้อกอยู่ด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ใบหน้าคมคายเงยหน้าแล้วจับจ้องไปยังประตูหลังห้องที่ร่างบางบืนหลบอยู่บริเวณนั้น
ทุกคนพร้อมใจกันหันพรึ่บไปมองตามที่ร่างสูงมองไปทันที
“จะมาไม่มา...ไม่งั้นจะโดนทำโทษนะ”เจ้าของชื่อสบถออกมาเบาๆก่อนที่จะเอนตัวไปข้างหลังแล้วหมุนตัวกลับเดินมายังประตูหน้าห้องด้วยสีหน้าเซ็งโลก
“มาแล้วค้าบ มาแล้วมาแล้ว=[]=;;”ร่างบางตะโกนอย่างเบื่อหน่ายก่อนที่จะลากเท้าเดินมายังที่นั่งริมประตูห้องของตนแล้วใช้ขาเรียวลากเก้าอี้ออกมาก่อนที่จะทิ้งตัวลงอย่างไม่สบอารมณ์นัก
เก่งมาจากไหนวะ? ทำไมถึงรู้ได้ว่าจะโดดเรียน?!?!
“ดี”ร่างสูงพูดพลางกระตุกยิ้มที่มุมปากทำเอาอารมณ์ของฮีชอลพุ่งปรี้ดทันที
“ไอ้ขี้เก็กเอ้ย”เสียงหวานพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ซีวอนมองร่างบางที่ทำหน้าเซ็งโลกแล้วอมยิ้มกับตัวเอง
น่าแปลกที่ร่างสูงไม่รู้สึกโกรธกับกิริยาและการกระทำของนักเรียนชื่อฮีชอลแม้แต่น้อย
กลับรู้สึกอยากแกล้งเป็นยิ่งนัก
“คิมฮีชอล
นายได้ยินที่ครูบอกไปหรือยัง”ร่างสูงถามอย่างอารมณ์ดีเล็กน้อย
“คร้าบบบบบบบ=[]=“เจ้าตัวดีลากเสียงยาวยานคางอย่างเบื่อหน่าย
“ครูหวังว่านายจะทำตามนะ”
“หวังว่าฮะ”ร่างบางตอบอย่างยียวนกวนประสาท
ร่างสูงข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้ตวาดลั่นอย่างเคยชินเหมือนที่เคยทำในโรงเรียนอื่นที่ตนเคยสอน
ร่างบางมองหน้ากับใบหน้าสวยของแจจุงที่นั่งข้างๆตนก่อนที่จะอ้าปากพะงาบๆเป็นภาษาใบ้ให้เข้าใจกันเพียงสองคนเท่านั้น
แจจุงพยักหน้าก่อนที่จะยกมือขึ้น
“อาจารย์ฮะ”
ใบหน้าคมคายพยักหน้าเป็นเชิงอณุญาติ
แจจุงลุกขึ้นยืนตัวตรงตามมารยาท
“กฏของโรงเรียน...อาจารย์คังโฮดงเคยบอกว่าถ้าโดดเรียนไปได้แล้วสำเร็จก็จะไม่ทำโทษนักเรียนที่โดดเรียนไปได้”
“อาจารย์คังโฮดงลาออกไปแล้ว
กฏนั้นก็ถือว่าเป็นการยกเลิกไปด้วย”ร่างสูงพูดต่อทันทีที่แจจุงพูดจบ
ใบหน้าสวยของแจจุงนิ่วหน้าอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยกับคำตอบ
ซองมินรีบลุกขึ้นทันที
“แล้วอาจารย์จะตั้งกฏใหม่หรือครับ?”
“ใครที่โดดเรียนแล้วโดนจับได้จะโดนทำโทษอย่างหนัก!
นี่แหละกฏใหม่”ซองมินทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนที่จะนั่งลงที่เดิมพร้อมๆกับแจจุงอย่างเบื่อๆ
...มีเพียงร่างบางเท่านั้นที่นั่งอมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อยู่คนเดียว
“อาจารย์ฮะ
อาจารย์ใหญ่ชินดงเคยว่าเอาไว้...กฏที่อาจารย์ฝ่ายปกครองเป็นคนตั้งแล้วจะไม่สามารถแก้กฏได้
ยกเว้นอาจารย์คนนั้น...จะลาออก...”
ใบหน้าคมคายของร่างสูงพยักหน้าอย่างไม่คิดอะไรมาก
ร่างบางยิ้มหวานกับตนก่อนที่จะกำหมัดเร็วๆจนมีเสียงลมออกมาพร้อมกับใบหน้าเจ้าเล่ห์ราวกับผู้ชนะ
ริมฝีปากเรียวกระซิบออกมาเป็นคำพูดที่ทิ้งความสงสัยไว้แก่ซีวอนก่อนออกไปเป็นอย่างมาก...
“งั้นผมว่าอาจารย์จะอยู่ในตำแหน่งนี้...ได้ไม่นานแล้วหละฮะ”
-------------40%-------------
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...
“สอบประวัติศาสตร์ย่อย ให้เวลาที่ 30 นาที ห้ามลอกกัน ใครตกโดนกักบริเวณหนึ่งวันหลังเลิกเรียน!”เสียงทุ้มต่ำที่ดังมาก่อนเจ้าของเสียงดังลั่นขึ้นมา
ทำเอานักเรียนที่คุยจ้อกแจ้กกันเมื่อซีวอนเดินจากไปพร้อมกับความสงสัยในประโยคร่างบางพากันสะดุ้งอีกครั้ง
“อาจารย์จะบ้าหรือไง? อาจารย์ยังไม่สอนอะไรเลย จู่ๆก็มาสอบงั้นเหรอ?!?!!!”ซองมินท้วงเสียงดังลั่น
คยูฮยอนที่กำลังแจกข้อสอบนักเรียนหันมามองร่างอวบ
“สิทธิส่วนบุคคลที่ครูพึงมี...ให้สอบ ห้ามถามอีก เข็มยาวถึงเลขสิบ...สอบได้!!!”ร่างสูงพูดเสียงดังลั่นพลางเดินไปหน้าห้องและนั่งตรงเก้าอี้โต๊ะครู
ฮีชอล แจจุง
ซองมินและดงแฮมองหน้ากันพร้อมกับสีหน้าเหยเก
ฮีชอล :: ไอ้พวกอาจารย์ใหม่นี่ขี้เก็กไม่พอ ชอบทำให้เด็กนักเรียนหัวใจวายอีก สักวันจะได้ตายจริงๆแน่! =[]=lll
แจจุง :: คือมันเป็นใครมาจากไหนวะ?!?! เก๋ามาจากไหนวะ ให้ตายเถอะโรบิน~ =_=^
ซองมิน :: สอบประวัติศาสตร์! อะไรวะ!
ไม่ได้เรียนมาสามเดือนแล้วแม่งมาสอบ ความรู้คืนครูเก่าไปหมดแล้วโว้ย!!!
ดงแฮ :: วันนี้วันแรกของพวกมัน
ทำได้ถึงขนาดนี้แล้วสองคน อีกสองคนจะเป็นไงวะ - -*
“ทั้งสี่คนแถวหลังริมประตูหลังห้องหนะ
ทำข้อสอบไป ห้ามคุย!”เสียงตวาดลั่นของร่างสูงที่นั่งมองนักเรียนทำข้อสอบตวาดลั่น ทั้งสี่คนรีบหันหน้ามามองข้อสอบของตนทันที
1) ทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมีจำนวนทั้งหมดกี่คน?
ซองมินอ้าปากค้างทันที ดวงตากลมแป๋วเบิกโต
กูจะไปรู้ม้ายยยยยยย?!?!!!
ใบหน้าหวานของซองมินนิ่วหน้าก่อนที่จะเขียนคำตอบไปดั่งใจคิด...
“หมดเวลา!!!”คยูฮยอนตวาดเสียงดังลั่นเมื่อเข็มยาวชี้มาตรงเลขหกพอดีเป้ะๆ
นักเรียนทุกคนตกใจ
อะไรของมันวะ = =^
ทุกคนได้แต่สบถออกมาในใจพลางยื่นกระดาษข้อสอบให้แก่คยูฮยอนทีเดินเก็บข้อสอบมาจนหมดห้องก่อนที่จะเดินกลับไปที่โต๊ะแล้ววางข้อสอบเสียงดังปึงบนโต๊ะครู
ร่างสูงก้าวยาวๆไปยังบอร์ดสีเขียวและหยิบชอลก์ขึ้นมาจรดตรงบอร์ด
หน้า 85-86 ข้อ 1-3
“ทำตามที่สั่งในบอร์ด”
แล้วเสียงทุกคนเปิดหน้ากระดาษพรึ่บพรั่บระหว่างที่คยูฮยอนนั่งลงแล้วหยิบข้อสอบมาตรวจ
“เฮ้พวกนาย!”เสียงหวานของดงแฮกระซิบเบาๆให้ได้ยินแค่เพื่อนซี้ในแก็งค์ของตน
ใบหน้าหวานของฮีชอลหันมามอง ใบหน้าสวยของแจจุงหันมามอง
ใบหน้าน่ารักของซองมินหันมามอง
“ต่อไปวิชาเคมี พวกเราเอาไงดี”
ทุกคนทำหน้าครุ่นคิดเป็นอย่างหนัก
เพราะวิชาเคมีนั้นจะมีครูใหม่มาสอน
...จุงยุนโฮนั่นเอง!
“เอาเป็น...”
“ลีซองมิน!!!”เสียงทุ้มต่ำของบุคคลที่นั่งตรวจข้อสอบบนโต๊ะครูตวาดเรียกชื่อร่างอวบดังลั่น
“ครับ?”
“ใครใช้ให้นายตอบแบบนี้?!?!”ไม่ว่าเปล่ามือหนาก็ชูกระดาษข้อสอบประจานให้นักเรียนคนอื่นดู
“ตอบแบบไหนจารย์? ผมมองไม่เห็น
อ่านให้ฟังหน่อย”ซองมินตอบอย่างยียวนกวนประสาท คยูฮยอนถอนหายใจอย่างเบื่อๆก่อนที่จะอ่านให้ทุกคนได้ฟัง
“ข้อแรก!
ทหารที่ตายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมีจำนวนทั้งหมดกี่คน? คำตอบคือ...มากกว่า1คน!!!”
สิ้นประโยคของร่างสูง ฮีชอล,
แจจุงและดงแฮก็ปล่อยก๊ากออกมาอย่างไม่เคารพคนที่ยืนตัวสั่นอย่างโมโหตรงหน้าห้อง
นักเรียนทุกคนเริ่มเหงื่อตกและใบหน้าซีดเซียวด้วยความกลัว
...สงครามกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!!
“ไม่ตลกเลย ใครใช้ให้นายตอบแบบนี้
ลีซองมิน!”
ร่างอวบอมยิ้มพลางลุกขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น
“ก็ผมไงหละครับ^^”
ฮีชอลกลั้นหัวเราะพลางสะกิดเรียกแจจุงและดงแฮให้เข้ามาใกล้ๆ มือเรียวหยิบดินสอขึ้นมาเขียนแผนการอะไรบางอย่างลงบนสมุดของตนแล้วส่งให้สองคนนั้นอ่าน
แจจุงและดงแฮรับมาแล้วอ่าน
ดงแฮยิ้มร่าราวกับเห็นด้วยกับแผนการของร่างบาง
แจจุงเบ้หน้าเล็กน้อยก่อนที่จะหันมามองใบหน้าหวานแล้วชีนิ้วมายังตัวเองด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
“เพราะแกแอ้บแบ้วได้ดีสุดรองลงมาจากซองมิน”
คำตอบของร่างบางทำเอาคนหน้าสวยอย่างแจจุงยิ้มแห้งๆแล้วพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจและเห็นด้วย
ทั้งสามคนมองไปยังนาฬิกาบนหัวของคยูฮยอน
เหลือเวลาอีก 5 นาที!
“ทำไมถึงตอบแบบนี้?”โจคยูฮยอนถามเสียงต่ำ
เขาพยายามอย่างมากในการสะกัดกั้นไม่ให้อารมณ์โกรธของตนปะทุ
ไม่เคยโกรธใครได้ถึงขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเลย
ให้ตายสิ!!!
“สิทธิส่วนบุคคลที่ผมพึงมี...จะตอบ”
ร่างอวบพูดตามประโยคของคยูฮยอนที่เคยพูด
คยูฮยอนเม้มริมฝีปากหนาอย่างหงุดหงิดเมื่อโดนเอาคืนแบบนี้
“ลีซอ....”
“หมดคาบเรียนแล้ว!
นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพคุณครู!!!”
ฮีชอลตะโกนขัดคยูฮยอนที่อ้าปากจะเรียกชื่อร่างอวบที่ยืนมองตนอย่างท้าทาย ร่างบางตะโกนเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นยืน แจจุง ดงแฮและนักเรียนคนอื่นรีบทำตามทันทีแม้แต่หัวหน้าห้องอย่างคิมจุนซูเองก็ยังงงๆเมื่อโดนแย่งหน้าที่ไปแต่ก็ทำตามแต่โดยดี
ใครจะกล้าไปมีเรื่องกับแก็งสุดแสบนี่หละ
แถมคนตะโกนยังเป็นหัวโจกอีกด้วย!!!
“ขอบพระคุณครับคุณครู”พูดจบดงแฮก็วิ่งลิ่วออกจากห้องทันทีโดยมีฮีชอลตามไปติดๆ
แจจุงถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะเดินมาหาซองมินที่นั่งลงแล้วยื่นกระดาษแผนการให้
โจคยูฮยอนพยักหน้าตอบรับอย่างไม่สบอารมณ์นักก่อนที่จะก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องเรียน
ฝากไว้ก่อนเถอะ ลีซองมิน และแก็งของนายด้วย!!
-------------60%-------------
ร่างบางของดงแฮวิ่งกระหืดกระหอบไปตามทางเดินของโรงเรียนอย่างรวดเร็วโดยมีร่างบางของฮีชอลตามมาติดๆ
ทั้งสองคนมาหยุดอยู่หน้าห้องพยาบาล
“ดงแฮ ฝากหน่อยนะ”ใบหน้าหวานไม่แพ้กันของดงแฮพยักหน้า
มือเล็กบางเอื้อมไปเปิดประตูห้องพยาบาลแล้วรีบวิ่งเข้าไป
ฮีชอลปิดประตูห้องพยาบาลให้ดงแฮที่เข้าไปแล้วก่อนที่จะวิ่งเลยไปอีกห้องหนึ่ง
ร่างบางค่อยๆชะลอฝีเท้า
จากวิ่งกลายมาเป็นเดินแบบปกติในที่สุด
ฮีชอลมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องที่เขียนเอาไว้ว่า
‘ห้องพักครู’
มือเรียวเอื้อมมือไปเปิดประตูสีขาวก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าไป
“อาจารย์ฮะ...มีกาแฟสักถ้วยเหลือไหมฮะ?”ร่างบางถามเสียงหวานพลางเดินมาหาบุคคลที่นั่งจมกองเอกสารอยู่
ใบหน้าหวานเล็กน้อยเงยหน้าขึ้นมามอง มือเล็กขยับแว่นตาสีแดงของตนเพื่อปรับสายตาให้เห็นร่างบางที่เดินมายังโต๊ะของตนก่อนที่เบิกยิ้มออกมา
“ฮีชอลงั้นรึ จะรับครูวิธีไหนเนี่ย?”เสียงหวานออกห้าวเล็กน้อยถามขึ้นเบาๆราวกับอ่านใจร่างบางออกพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังโต๊ะชงเครื่องดื่ม
“ก็จารย์คิดว่าไงหละฮะ?”ร่างบางถาม
ผู้เป็นอาจารย์ยิ้มตอบแทนพร้อมกับมือบางที่จัดแจงชงกาแฟตามคำขอของร่างบางหัวโจกสุดแสบ
“อาจารย์ฝ่ายปกครองคนใหม่หนะ...”
“ชเวซีวอนนั่นหนะเหรอ?”
“ว่าไงหละ? โหดมั้ย?
เห็นในประวัตินี่เป็นครูเนี่ย เฮี้ยบมากเลยหละ
เมื่อเช้าคุยด้วยครูยังเสียวสันหลังเลย
คนอะไรเย็นชาอย่างกับน้ำแข็งแม้กับครูกันเอง”
“เย็นชาอย่างกับน้ำแข็งเหรอฮะ?”
อาจารย์ร่างบางพยักหน้าก่อนที่จะคนกาแฟที่อยู่ในถ้วยสีขาวในมือบางของตนอย่างชำนาญแล้วยื่นให้ร่างบาง
ฮีชอลยิ้มหวานเป็นเชิงขอบคุณ
“ขอบคุณฮะ จารย์ฮยอก”
ร่างบางเดินออกไปจากห้องพักครูแต่ก็หยุดเดินแล้วหันหลังกลับมาประจันหน้ากับลีฮยอกแจ
อาจารย์ร่างบางที่ตนสนิทด้วยสุดๆแล้วยิ้มให้
“อีกอย่างนะฮะจารย์...”
ฮยอกแจยืนมองลูกศิษย์สุดที่รักของตนที่สนิทที่สุดอย่างเงียบๆ
“...ถ้าเย็นชาเหมือนน้ำแข็งนัก...”
ร่างบางยิ้มร่าก่อนที่จะต่อประโยคสุดท้ายให้จบ
“...ผมเนี่ยแหละ
จะเป็นไฟหลอมน้ำแข็งให้ละลายเองฮะ!”
“เจอแล้วโว้ย!”เสียงหวานของดงแฮพูดเบาๆก่อนที่จะผงยาสีขาวเข้ากระเป๋าไปแล้วกำลังจะหันหลังกลับไปแต่...
“เข้ามาทำอะไรในนี้หนะ?”เสียงทุ้มต่ำของคิมคิบอม อาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษดังขึ้น
ดงแฮสะดุ้งโหนงก่อนที่จะหันหลังกลับไปมอง
ร่างสูงในชุดสูทสีดำสำหรับครู
ดวงตาสีนิลคมเข้มจ้องมายังดงแฮ
“ผมมาหายาแก้ปวดหัวหนะครับ แฮะๆ
แต่อาจารย์ไม่อยู่ก็เลยหากินเองหนะครับ โอ้ะๆ ได้เวลาเรียนแล้ว...แค่นี้ก่อนนะครับ^^”ร่างบางตีหน้าซื่อแล้วเดินผ่านร่างสูงไป
“เดี๋ยว...”
ดงแฮหยุดเดินทันที ใบหน้าซีดสนิท เหงื่อออกตรงอุ้งมือนุ่มของตน
หรือว่าจารย์เขาจะเห็น...ที่เขาแอบขโมยไอ้นั่นไป...
“ระวังตัวด้วยหละ”คิบอมพูดเรียบๆ ดงแฮยิ้มกว้างก่อนที่ใบหน้าหวานจะหันไปส่งยิ้มหวานให้ผู้เป็นครูที่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ขอบคุณฮะจารย์^^”
“เทเลยๆๆ ค่อยๆนะเว้ย”เสียงหวานของร่างอวบบอกแฝดผู้น้องของตน
มือเรียวยกขึ้นมาก่อนที่จะเทผงยาสีขาวลงไปในกาแฟน้ำตาลอ่อนๆ ช้อนเหล็กคนไปอย่างรวดเร็วและช่ำชอง
“เฮ้ยๆ มาแล้วเว้ยๆ มาแล้ว!”แจจุงที่เฝ้าสงเกตุการณ์รีบวิ่งมาบอกเพื่อนซี้ของตน
ทั้งสามคนสลายโต๋แล้วกลับไปนั่งที่เรียนของตน แจจุงนั่งข้างฮีชอล
ดงแฮนั่งข้างซองมิน
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดด...
อาจารย์สอนเคมีและพ่วงตำแหน่งผู้ช่วยอาจารย์ฝ่ายปกครอง
จุงยุนโฮเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับสมุดการเรียนการสอนวิชาเคมีกองใหญ่ก่อนที่จะวางปึงลงบนโต๊ะไม้สีน้ำตาล
ดวงตาสีชากวาดสายตาไปรอบๆห้องแล้วสะดุดกับร่างบางของฮีชอลที่นั่งอยู่หลังห้องริมประตูหลังและมองตนด้วยสายตาเรียบๆแต่แฝงอำนาจท้าทายตนเอาไว้
คิมฮีชอล เด็กแสบที่ซีวอนและคยูฮยอนเล่าให้ฟังงั้นเหรอ? หึๆ สวยดีนี่...
เหมือนแจจุงจะรู้หน้าที่ ร่างบางที่นั่งข้างๆฮีชอลลุกขึ้นพร้อมกับถ้วยกาแฟในมือทำให้ยุนโฮละสายตาจากฮีชอลไปมองร่างบางอีกร่างที่เดินมาหาตนพร้อมกับถ้วยกาแฟในมือ
“ของขวัญเล็กๆน้อยๆจากปี4ห้องคิงฮะ อาจารย์ยุนโฮ^^”คิมแจจุงพูดเสียงหวาน
ยุนโฮยิ้มตาม มือแกร่งรับกาแฟจากมือเรียวของร่างบางหน้าตาสวยงามราวเจ้าหญิง
สวยจริงๆ แถมยังมีน้ำใจอีกด้วย
น่าเสียดาย...ที่ต้องมานั่งใกล้หัวโจกนิสัยแย่ๆอย่างฮีชอลเนี่ย
“ขอบใจนะ เอ่อเธอ...”
“คิมแจจุงฮะ^^”แจจุงพูดเสียงหวาน
“ขอบใจนะแจจุง”ยุนโฮพูดพลางหยิบกาแฟขึ้นมาจรดปากก่อนที่จะดื่มมันไปทีละนิดๆจนหมดแก้ว
แจจุงและเพื่อนซี้แถวหลังอีกสามคนเฝ้ามองการกระทำของร่างสูงตั้งแต่เมื่อครู่ยันตอนที่วางแก้วกาแฟที่ว่างเปล่า
“หวังว่าจารย์จะชอบนะฮะ
กาแฟถ้วยนี้หนะ...”
แจจุงทิ้งช่วงก่อนที่จะมอบยิ้มหวานที่เคลือบไปด้วยยาพิษให้อาจารย์หนุ่มที่มองตนอย่างหลงใหลและเหม่อลอย
“พิเศษเพื่ออาจารย์ยุนโฮโดยเฉพาะเลยฮะ^^”
ตุบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ...
ใบหน้าคมคายที่เคยยิ้มตอนนี้กลับกลายเป็นไปกองอยู่บนโต๊ะเรียนเรียบร้อย
จุงยุนโฮนอนหลับไหลอย่างไม่รู้เรื่องไปบนโต๊ะ
มือหนาแกว่งไปมาและหยุดอยู่ข้างๆลำตัวบนเก้าอี้
“Mission Complete!”ฮีชอลที่นั่งดูเหตุการณ์อย่างใจจดใจจ่อตะโกนลั่นออกมา
ซองมินและดงแฮร้องเฮออกมาดังๆ แจจุงหันหลังกลับมาไปมองเพื่อนซี้ของตน
“เสร็จแล้วก็...โบอาๆๆ
โบอาจ๋าาาา....”ร่างบางตะโกนเรียกชื่อพวกสาวร่วมชั้นเรียน หญิงสาวหน้าตาดีหันมามอง
“จะยืมใช่มั้ย?”ไม่ว่าเปล่าก็หยิบกระเป๋าสีดำขนาดเล็กแล้วโยนให้ร่างบาง
ฮีชอลรับมันมาแล้วยิ้มให้
“รักแกหวะเพื่อนเลิฟ”พูดจบร่างบางก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกับดงแฮและซองมิน
ทั้งสามคนเดินมายังหน้าห้องที่มีร่างสูงนอนหลับคาโต๊ะอยู่
แจจุงปรบมือให้กับฮีชอลพร้อมๆกับดงแฮและซองมิน
จากนั้นคนอื่นๆในชั้นเรียนก็ต่างพากันทำกิจกรรมของตนเองเช่น คุยโทรศัพท์
อ่านหนังสือฟังเพลง...
ซึ่งคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในโรงเรียนนี้ผ่านมาเห็นก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่า
ห้องๆนี้เป็นห้องคิงของโรงเรียนชื่อดังแห่งนี้!!!
“แผนนายสุดยอด!”
“กาแฟใส่ยานอนหลับชนิดออกฤกษ์เร็ว!
คิดได้ไงวะนั่น!!”
“นั่นดิ ว่าแต่คาบต่อไปโดดปะ?”ทุกคนหันมามองร่างบางที่ลงเปิดกระเป๋าสีดำของโบอาอ้าออกมา
ภายในกระเป๋ามีอุปกรณ์แต่งหน้า
มือเรียวคว้าลิปสติกสีแดงออกมาก่อนที่จะเปิดมันแล้วจรดลิปสติกสีแดงแจ๋นั่นลงไปบนริมฝีปากหนาของยุนโฮที่หลับคาโต๊ะอยู่!!!
ฮีชอลหันมามองก่อนที่จะแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“โดดดิ!
ไม่โดดก็ซวยดิ...เพราะไอ้หมอนี่หนะ...กลายเป็นลิเกไปแล้ว!!!”
ตึงตังตึงตังตึงตังตึงตังตึงตังๆๆๆ...
ร่างบางทั้งสี่ร่างที่ประกอบไปด้วยคิมฮีชอล
คิมแจจุง ลีดงแฮและลีซองมินวิ่งไปตามทางเดินของโรงเรียน
ทั้งสีคนสะพายกระเป๋าเรียนติดตัว
”พวกนาย! ทำอะไรกันหนะ?!?!”เสียงทุ้มต่ำของคนที่เพิ่งสอนห้องทั้งสี่คนดังขึ้น โจคยูฮยอนเดินออกมาจากห้องเรียนปี4ห้อง10แล้วมองหน้าทั้งสี่คนที่หยุดเดินแล้วหันมามองเจ้าของเสียง
“จารย์คิดว่าพวกผมจะทำอะไรหละ?”ฮีชอลถามเรียบๆ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และท้าทาย
“พวกเธอจะโดดเรียน?”
“อ่าววว...จารย์รู้แล้วถามทำไมหละ?”ร่างอวบของซองมินตอบบ้าง คยูฮยอนละสายตาไปจากฮีชอลแล้วสบตามองซองมิน
“กลับไปที่ห้องเรียน เดี๋ยวนี้!
คาบเรียนเคมีกับยุนโฮไม่ใช่เหรอ? ไปสิ!”คยูฮยอนตวาดเสียงดังจนทุกคนหยุดเรียนแล้วหันมามองความกล้าของอาจารย์ใหม่สอนประวัติศาสตร์รูปหล่อร่างสูงคนนี้...
...ที่กล้ามีเรื่องกับแก็งที่แสบที่สุดในโรงเรียน!
“ฝันไปเถอะฮะจารย์ พวกผมไปแล้วนะ
บั้บบาย!”ฮีชอลพูดตัดบทพร้อมกับวิ่งนำเพื่อนๆลงบันไดออกไปจากตึกปี4 คยูฮยอนก้าวเท้าจะเดินตามไปแต่ก็ฉุดคิดได้เสียก่อน
ยุนโฮไม่เคยปล่อยเด็กให้ออกมานี่
แถมเด็กโดดเรียนมาอย่างง่ายดายราวกับคาบเคมีของไอ้ยุนโฮเป็นคาบว่าง...
เกิดอะไรขึ้นหนะ? หรือว่า...
“เดี๋ยวจารย์มา อ่านหนังสือไปก่อน
เงียบๆด้วยหละ!!!”
ดวงตาคมเข้มเบิกโตอีกครั้งเมื่อกลุ่มเด็กนักเรียนปี4จำนวนสี่คนวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าโรงยิม
หนึ่งในนั้นมีผมสีแดง...สีผมสีเดียวในโรงเรียนนี้ที่เป็นสีผมของ...คิมฮีชอล!!!
“เฮ้อออ
โดดเรียนอีกแล้วสินะสี่คนนี้”เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจสุดๆของชินดงดังขึ้น
ร่างสูงยังคงมองดูร่างบางผมแดงที่ปีนไปบนลังไม้ก่อนที่จะกระโดดคว้าหมับตรงกำแพงสีขาวของโรงเรียนแล้วปีนขึ้นไปนั่งก่อนที่จะหันกลับมามองแล้วสบตากับร่างสูงโดยบังเอิญ
คิมฮีชอลฉีกยิ้มอย่างท้าทายและมีชัยให้
มือเรียวยกคิ้วตรงคิ้วก่อนที่จะตะเบ้ะท่าเหมือนท่าทำความเคารพพวกทหารให้ก่อนที่จะกระโดดลงไปอีกฝาก
ร่างสูงกำหมัดอย่างโกรธแค้น
“หลังโรงยิมตรงนั้นหนะ
เป็นตรงที่นักเรียนโดดเรียนง่ายที่สุด เพราะกำแพงมันปีนง่ายมาก”ชินดงพูด เรียกความสนใจจากร่างสูงที่ยืนมองร่างบางวิ่งจากไปให้หันมาสนใจได้
ชเวซีวอนเลิกคิ้วก่อนที่จะหันกลับไปมองสถานที่นั้นที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง
หลังกำแพงไปก็เป็นพื้นที่เรียบ...
“งั้นเราก็คงต้องหาอะไรมากั้นแถวนั้นเอาไว้”
“อะไรหละ”
อาจารย์ฝ่ายปกครองยิ้มอย่างเย็นชาและเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะหันมามองอาจารย์ใหญ่ร่างทวมที่นั่งตรงข้ามกับตน
“ปล่อยเอาไว้เป็นหน้าที่ของผมเองครับ”
--------------------------------------------------------------------------------
100% ส้ากที
เฮ้อ...เลือดตาแทบกระเด็น
เริ่มมันส์ขึ้นมาแล้ว...ช่ายปะคะ? ผู้อ่านว่าไงอะ?
ตอนหน้า รับรองความมันส์สุดขีด!!! ((อ้ะป่าว?))
My One & Onlyตอนนี้ยังตันอยู่
คิดได้เมื่อไหร่จะมาอัพนะคะ
เพราะว่างานเยอะมากๆๆ
Y__________________________Y
Writer's Babble:
มุขทหารตายในสงครามโลกเป็นเรื่องจริงคะ! ไม่อยากจะบอก
เกิดขึ้นกับซ๊องเอง ๕๕๕๕
วันนั้นเมื่อประมาณ2ปีที่แล้วมั้ง
ซ๊องสอบประวัติศาสตร์ แล้วมันถามว่า
ทหารออสเตรียตายในสงครามโลกครั้งที่2กี่คน ซ๊องอึ้งเลย!
'กูจะไปรู้มึงมั้ย?'
ซ๊องเลยเขียนว่า
more than 100 ...มากกว่าร้อย
ครูแกให้ 0 เลย
ความคิดเห็น