ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวน้อยผู้มั่งคั่ง (จบแล้ว) มี E-BOOK

    ลำดับตอนที่ #28 : หมูกระทะ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 66


    ตอนที่ 28 หมูกระทะ

    หลังจากเรื่องราวในคืนนั้นจบลง ทุกคนต่างตกลงกันว่าจะลืมเรื่องราวในอดีตทุกอย่างให้หมดสิ้น แล้วไปใช้ชีวิตทั้งในตอนนี้และในอนาคตให้ดีที่สุด

    อาเยี่ยนน้อยเติบโตขึ้นทุกวัน เขาชอบตามติดพี่ใหญ่ไปด้วยทุกที่ เพื่อขอให้สอนวรยุทธให้ หูต้าลู่ไม่นึกขัดเพราะเห็นน้องชายใฝ่รู้เช่นนี้

    เขาย่อมจัดหนักจัดเต็มแน่นอน

    ......

    เวลาผ่านไปหลายเดือน

    มนตรามาอยู่ในร่างของฉินฉินได้นานหลายเดือนแล้ว ตอนนี้เธอได้กลายเป็นฉินฉินคนใหม่ทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว แม้จะใช้เวลามากยิ่งนักในการลบเลือนตัวตนเดิม ๆ ของมนตราออกไปจนหมดสิ้น ทว่าเธอก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่ามนตรานักธุรกิจสาวคนนั้นได้ตายไปแล้ว

    และตอนนี้ “นาง” ได้กลายเป็นสาวน้อยฉินฉินบุตรสาวของหูอี้เทียน น้องสาวของหูต้าลู่ และเป็นพี่สาวของอาเยี่ยนน้อยอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

    ร่างกายของฉินฉินโตเป็นสาวไวยิ่งนัก ในวันนี้นางจะมีอายุครบสิบสี่ปี บิดาอย่างหูอี้เทียนไม่ยอมให้บุตรสาวน้อยหน้าใคร เขาจัดเลี้ยงวันเกิดให้นางอย่างดี แม้เจ้าของงานจะต้องการจัดงานเพียงเล็ก ๆ เท่านั้น

    และแม้ตัวตนของมนตราจะเลือนหายไป แต่ความคิดของนางไม่ได้หายไปด้วย นางลงทุนสั่งทำเตาหมูกระทะอันแปลกตาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

    ผู้คนที่รู้จักไม่ว่าจะเคยร่วมงานเล็กงานน้อย ต่างพากันนำของขวัญมาร่วมแสดงความยินดีด้วย ฉินฉินจะไล่แขกกลับไปก็กลัวจะเสียมารยาท จึงต้องขอให้พวกเขาอยู่ร่วมงานด้วย

    แขกเจ้าประจำไม่ว่าจะเปิดร้านใหม่ ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้แต่สร้างโรงงาน เหล่าบรรดาทหารในเมืองล้วนเข้าร่วมด้วยเสมอ จนตอนนี้เจ้าเมืองได้แต่กุมขมับ เพราะไม่มีใครสนใจทำงานของตนเองเลยสักนิด

    มีอยู่วันหนึ่งเจ้าเมืองได้เชิญหญิงสาวและครอบครัวไปพูดคุยกันที่จวน อี้เทียนเห็นว่าเป็นเรื่องดีจึงตอบตกลงพาลูก ๆ ไปเยือนถึงจวนเจ้าเมือง

    ไม่รู้ว่าหูต้าลู่ไปได้ยินมาจากไหนว่า เจ้าเมืองหลิงหลงคิดจะจับคู่บุตรชายของตนกับน้องสาวของเขา

    ชายหนุ่มพาน้องสาวไปเคารพผู้ใหญ่เสร็จก็บังคับให้นางแกล้งป่วย เพื่อจะได้ขอตัวกลับจวนก่อน ทิ้งให้บิดาและน้องชายคนเล็กอยู่ต่อกันตามลำพัง

    ฉินฉินไม่ถามหาสาเหตุ เพราะคิดว่าสิ่งที่พี่ชายทำย่อมมีเหตุผลเสมอนางจึงยอมทำตามและปล่อยผ่านไป

    หญิงสาวหน้าตางดงามผู้มีเส้นผมดกดำยาวถึงกลางหลัง ผิวพรรณขาวอมชมพูนวลเนียน หน้าตางดงามดุจเทพธิดา ทว่านางกลับดูสวยคมเหมือนนางร้ายไม่ได้ดูอ่อนหวานเหมือนนางเอกในนิยาย

    หญิงสาวกำลังนั่งเท้าคางและแช่เท้าอยู่ริมลำธารให้ชื่นใจคลายร้อน

    ฉินฉินกำลังรอให้เจ้าของร้านเหล็กนำเตาหมูกระทะมาส่ง นางย้ายมาอยู่จวนใหม่บนเขาติดริมน้ำแล้ว ส่วนเรือนหลังเก่าในหมู่บ้านกลายเป็นที่พักของบรรดาคนงานไปเสียแล้ว

    ที่ดินทั้งหมดฉินฉินได้จัดสรรอย่างดี โดยแบ่งปลูกข้าวสามส่วน ผลไม้สามส่วน เลี้ยงสัตว์อีกสามส่วน อีกหนึ่งส่วนเก็บไว้สร้างที่พักให้คนงาน

    ตอนนี้ฉินฉินมีคนงานในมือมากกว่าสองร้อยคน นางได้พวกเขามาจากการไล่ไปไถ่ตัวทาสจากพ่อค้าทาสในราคาสูงลิ่ว แต่หญิงสาวก็ยอมจ่ายเพราะอยากให้ทุกคนมีงานทำ แต่จะไม่ใช้สัญญาทาสผูกมัดเด็ดขาด นางได้เขียนสัญญาว่าหากทำงานครบห้าปีแล้วบรรดาทาสถึงจะเป็นอิสระ

    นอกจากนั้นยังมีเด็ก ๆ ที่ถูกบิดามารดาขายตั้งแต่อายุยังน้อย น้อยที่สุดประมาณห้าปี ฉินฉินก็ไม่รังเกียจกลับให้พวกเขามาช่วยงานเล็ก ๆ หากใครอยากเรียนนางจะส่งเข้าไปเรียนพร้อมน้องชายในตัวเมือง

    ซึ่งส่วนนี้พวกเขาจะไม่เสียเงินแม้แต่อีแปะเดียว เพราะได้รับทุนสนับสนุนมาจากท่านเจ้าเมืองโดยตรง

    "เฮ้อ...ข้าอยู่ที่แห่งนี้มาปีกว่า ผ่านอะไรมาก็มาก การค้าก็ไปด้วยดี แต่ทำไมถึงไม่มีความสุขกันนะ อยากจะลองไปเที่ยวเมืองอื่นดูบ้างว่า เขาใช้ชีวิตกันอย่างไรยิ่งในเมืองหลวงน่าจะใหญ่กว่าเมืองหลิงหลงหลายเท่า ข้าอยากไปท่องโลกกว้างแล้ว!"

    ฉินฉินกำลังนอนอยู่บนแคร่ไม้ที่สั่งทำไว้นอนเล่นพักผ่อนริมน้ำโดยเฉพาะ ที่จวนตอนนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากเจ้านาย ส่วนสาวใช้จะมาทำความสะอาดตอนเช้าแล้วก็จะกลับที่พักไปยามบ่าย

    เพราะฉินฉินต้องการความเป็นส่วนตัว นางไม่ต้องการให้ใครมาคอยยืนรับใช้ข้าง ๆ มันน่าอึดอัดเกินไป

    "เจ้าบ่นอะไรอยู่หรือ"

    หูต้าลู่เพิ่งกลับมาจากทำงาน เขาเดินมาหาน้องสาวเห็นนางบ่นพึมพำคนเดียวก็แอบอมยิ้มเล็กน้อย ขายาวก้าวเดินมานั่งตรงปลายแคร่ไม้ไผ่

    ฉินฉินเห็นแล้วจึงกลิ้งมานอนบนตักพี่ชาย

    "พี่ใหญ่ข้าเบื่อ! ข้าอยากออกไปท่องเที่ยวบ้าง ทุกที่ในเมืองหลิงหลงข้าล้วนไปมาหมดแล้ว จนหลับตาเดินยังได้ไม่มีหลง..พี่ชายสุดที่รักท่านพาข้าไปเที่ยวเมืองอื่นได้หรือไม่เจ้าคะ"

    หูต้าลู่ปีนี้อายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว และกำลังเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั่วทั้งเมืองหลิงหลง ทุก ๆ วันจะมีสตรีมากมายมาทิ้งผ้าเช็ดหน้าให้เขา แต่ชายหนุ่มไม่เคยสนใจเลย ในสายตาเขามีเพียงน้องสาวคนเดียว และจะรอจนกว่านางโตถึงตอนนั้นเขาจะบอกความรู้สึกที่มีให้นางรับรู้

    ชายหนุ่มก้มหน้ามองน้องสาวที่ทำหน้าออดอ้อน จึงได้แต่ข่มอารมณ์เอาไว้ พลางเตือนตนเองว่านางยังเด็กอย่าผลีผลามลงมือกับนางเด็ดขาด

    "ได้ พี่ใหญ่จะพาเจ้าไป แต่ต้องรอให้เจ้าปักปิ่นเสียก่อน"

    "โถ่..พี่ใหญ่"

    ได้ยินดังนั้นฉินฉินก็ดีใจไม่ออก เพราะกว่าจะถึงวันปักปิ่นก็อีกตั้งเป็นปี นางได้ลงแดงตายก่อนพอดี

    เหมือนหูต้าลู่รู้ว่าน้องสาวจะงอแงจึงชิงพูดก่อน

    "เตาที่เจ้าว่ามาส่งแล้ว เถ้าแก่ลู่ยืนรอเจ้าอยู่ที่ตีนเขา"

    ฉินฉินตาโตขึ้นมาทันที ในที่สุดนางก็จะได้กินหมูกระทะที่รอมานานแล้ว..หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่งใส่รองเท้าแล้วรีบวิ่งลงเขาทันที

    หูต้าลู่เดินตามหลังไปเงียบ ๆ ได้แต่ส่ายหน้ากับความซุกซนของนาง

    ฉินฉินวิ่งไปหาเถ้าแก่ลู่ นางเดินไปทางด้านหลังรถม้ามองหาของที่สั่งทำเอาไว้

    "เถ้าแก่ลู่ ไหนของเล่า เอาออกมาดูหน่อย..ข้าตื่นเต้นมากเลยเจ้าค่ะ"

    เถ้าแก่ลู่โบกมือให้ลูกน้องแบกหีบไม้ลงมา คนงานเปิดหีบออกเผยให้เห็นเตาหมูกระทะยุคโบราณห่อกระดาษเรียงกันเป็นชั้นอัดแน่นอยู่ด้านใน

    ฉินฉินก้มลงไปนั่งยอง ๆ หยิบมาดูหนึ่งชิ้น ก็พบว่าตรงตามแบบที่นางต้องการเป๊ะ

    เถ้าแก่ลู่ไม่เคยทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ

    "กรี๊ด...เตาหมูกระทะลูกแม่ ในที่สุดเราก็พบกันเสียทีลูกรัก"

    หญิงสาวคลั่งไปแล้ว นางจูบกับกระทะหลายที หยิบใบนั้นใบนี้มาดูด้วยแววตาเปล่งประกาย คนงานของเถ้าแก่ลู่เห็นจนชินแล้ว

    แม่นางผู้นี้เป็นลูกค้าประจำของทางร้าน และนางยังชอบขยันหางานยาก ๆ มาให้ทำบ่อย ๆ ทว่างานครั้งนี้นับได้ว่าเบาสุดแล้ว

    หูต้าลู่หยิบถุงเงินส่งให้เถ้าแก่ลู่ ก่อนจะโค้งตัวลงดึงแขนน้องสาวขึ้นมา

    "พอแล้วมันสกปรก ให้คนนำไปล้างก่อน ฉินฉินวันนี้เป็นวันมงคล เจ้าควรทำตัวให้เรียบร้อยมากกว่านี้"

    "ก็ได้เจ้าค่ะพี่ใหญ่ ของมาครบแล้วเช่นนี้เริ่มงานได้เลยเจ้าค่ะ ข้าจะสอนวิธีกินหมูกระทะให้พวกท่านเอง!"

    ก่อนหน้านี้หญิงสาวได้เตรียมวัตถุดิบไว้พร้อมแล้ว นางหมักเนื้อสัตว์เท่าที่หาได้แยกใส่กะละมังใบใหญ่มากกว่าสามสิบใบ ไหนจะผักสด ๆ อีกหลายตะกร้า ยังไม่รวมน้ำจิ้มรสเด็ดสองรสชาติ มีทั้งน้ำจิ้มสุกี้ธรรมดาและน้ำจิ้มซีฟู้ด

    ฉินฉินปลูกผักทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่กว่าจะหาเมล็ดพันธุ์มาได้ไม่ง่ายเลย ต้องฝากพ่อค้าต่างเมืองที่มาทำการค้าเมืองหลิงหลงช่วยหาให้อีกแรง

    เมล็ดผักห่อเล็ก ๆ ราคาสูงเกือบสิบตำลึงทอง แต่แม้ว่าจะแพงจนซื้อที่ดินได้เป็นสิบหมู่ ฉินฉินก็ยอมจ่ายเพื่อความอร่อย

    หากเป็นเรื่องกิน บอกเลยว่าหญิงสาวพร้อมเอาชีวิตเข้าสู้!

    งานเลี้ยงจัดกลางทุ่งข้าวโพดของนางที่เก็บเกี่ยวถางหน้าดินไปแล้ว ฉินฉินเลือกใช้โต๊ะกลมมาตั้งจะได้ล้อมวงกินได้สะดวก

    อีกทั้งงานเลี้ยงย่อมมีสุรา ฉินฉินก็ขุดสูตรเหล้ารสเด็ดมาทำ โดยการเลือกหมักสุราเอง ฤทธิ์อาจจะไม่แรงมากเพราะหมักได้แค่หนึ่งปี แต่รับประกันเรื่องรสชาติ

    ป๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ

    แขกเหรื่อที่ได้รับเชิญมานั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างพากันพูดคุยเรื่องอาหารที่แปลกตาตั้งอยู่บนโต๊ะ มันมีเตาไฟเล็ก ๆ ตั้งอยู่ตรงกลางพร้อมของดิบที่วางกระจายกันเต็มโต๊ะ

    ทว่าต้องลอบกลืนน้ำลายกับน้ำซุปที่กลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ

    ฉินฉินยืนบนเก้าอี้โดยมีพี่ชายกอดขาอยู่ทางด้านหลัง เพื่อกันน้องสาวตก หญิงสาวเคาะเกราะไม้ส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบเสียงลง

    "ข้าอยากจะนำเสนอหมูกระทะสูตรเด็ดที่อร่อยยิ่งกว่าไก่ขอทาน รับรองว่าใครได้กินเข้าไปแล้วย่อมติดใจจนโงหัวไม่ขึ้น ข้าขอบอกเลยว่าติดเมียยังไม่เท่าติดหมูกระทะสูตรเด็ดของข้า”

    “วิธีกินอาจจะยุ่งยากเกินไปสำหรับมือใหม่ เช่นนั้นข้าขอให้ตัวแทนของแต่ละโต๊ะหักผักเป็นชิ้น ๆ พอดีคำใส่ลงไปในน้ำซุป จากนั้นให้วางมันหมูชิ้นสี่เหลี่ยมไว้ด้านบนตรงกลางของเตา”

    “เสร็จแล้วเจ้าค่ะ! เชิญพวกท่านย่างหมูบนเตาได้ รอจนมันสุกให้นำมาจุ่มน้ำจิ้มรสชาติที่ชอบ ส่วนสุรานี้ข้าหมักเอง... วันนี้ไม่เมาไม่เลิก หุหุหุ"

    หญิงสาวทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน บนโต๊ะของนางมีสองเตาจะได้ไม่มีใครแย่งกิน ฉินฉินหยิบเนื้อหมูที่พี่ชายย่างให้เรียบร้อยแล้วจิ้มน้ำจิ้มยัดเข้าปากคำโต

    นางหลับตาลิ้มรสชาติ สีหน้ามีความสุขสุด ๆ

    "อร่อยมาก! สมกับการรอคอย พี่ใหญ่ท่านอย่าเอาแต่ย่างให้ข้า”

    “ไม่เป็น...”

    “เอ้า ท่านลองกินบ้างสิ"

    ฉินฉินคีบเนื้อบนเตามาเป่าให้หายร้อน แล้วนำไปจิ้มน้ำจิ้ม จากนั้นยกมาจ่อปากพี่ชายอย่างบังคับ

    หูต้าลู่ก้มลงกินเนื้อชิ้นนั้นต่อหน้าต่อตาบิดา ที่กำลังอมตะเกียบจ้องมองไปยังคนทั้งคู่

    อี้เทียนรู้มานานแล้วว่าบุตรชายแอบชอบน้องสาวตนเอง แม้การที่เด็กทั้งสองคนจะแต่งงานกันไม่ใช่เรื่องผิด เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันอยู่แล้ว แต่ติดอยู่ว่าคนเป็นพี่รู้สึกอยู่ฝ่ายเดียว และน้องสาวไม่เคยรู้ตัวสักนิด

    "เฮ้อ..น่าสงสารจริง ๆ เจ้าใหญ่ของข้า"

    หูต้าลู่รับรู้ถึงสายตาของบิดาที่จับจ้องมา แต่เขาทำเป็นไม่สนใจ แล้วหันไปขอให้น้องสาวช่วยป้อนเนื้ออีกหลายคำจนนางหันมามองตาดุ ๆ

    "พี่ใหญ่กินเองบ้างเถิด ข้าก็หิวเช่นกันนะ ท่านอย่ามาขัดจังหวะกันสิ"

    "ได้ ๆ ๆ พี่จะกินเองแล้วคอยช่วยย่างให้เจ้าด้วยดีหรือไม่"

    "ดีเจ้าค่ะ"

    อี้เทียนอยากจะมองบนใส่บุตรชายนัก

    บิดานั่งอยู่ใกล้ ๆ ไม่มาย่างให้ ไอ้ลูกอกตัญญู!

    ทุกคนในงานต่างชมเป็นเสียงเดียวกันว่าหมูกระทะครั้งนี้อร่อยมาก ยิ่งได้ลงมือทำเองเช่นนี้ยิ่งรู้สึกสนุก เหมาะแก่การชวนสหายมากินเลี้ยงสังสรรค์

    "คุณหนูไม่คิดจะเปิดร้านหมูกระทะหรือขอรับ ข้าว่าคนน่าจะชอบ"

    ฉินฉินเลิกคิ้วสูงทันที

    ใช่...นางคิดจะเปิดร้านหมูกระทะอยู่แล้วเขารู้ได้เช่นไร ก็ของอร่อยมันต้องแบ่งปันให้ผู้อื่นได้กินนี่นา

    "แน่นอนเจ้าค่ะ พวกท่านรออุดหนุนได้เลย เร็ว ๆ นี้จะมีร้านหมูกระทะตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลิงหลงแน่”

    “อะแฮ่ม! ว่าอย่างไรเล่าท่านเจ้าเมือง ท่านจะช่วยสนับสนุนข้าหรือไม่"

    เจ้าเมืองหลิงหลงกำลังประชันตะเกียบกับองครักษ์ของตน ตั้งแต่หญิงสาวสอนวิธีการกินเจ้าพวกนี้ก็เอาแต่แย่งเขาไม่หยุด ยามนี้ต่างหลงลืมความเป็นเจ้านายลูกน้องไปหมดสิ้น

    "ได้ ๆ ๆ เจ้าอยากได้ที่ตรงไหนบอกข้ามาได้เลย ขอแค่ไม่มีเจ้าของก็พอ ข้าจะลดราคาให้พิเศษ"

    "ขอบพระคุณเจ้าค่ะ เอ้าเด็ก ๆ ช่วยเพิ่มเตาโต๊ะเจ้าเมืองให้ที ดูสิแย่งกันจนเตาไฟข้าจะพังอยู่แล้ว"

    ฉินฉินยืนมองทุกคนที่กำลังกินหมูกระทะอย่างมีความสุข บางคนถึงกับพกจอกใส่เหล้ามาเอง แล้วยกดื่มเอา ๆ จนหลับฟุบคาโต๊ะไปก็มี...

    หุหุหุ...เป็นอย่างไรเล่า

    ข้าบอกแล้วว่าใครได้ลิ้มลองต่างต้องติดใจกันถ้วนหน้า

    อย่างน้อย ๆ ข้าก็ได้ลูกค้าประจำหลายคนมาแล้วจากงานนี้

    ดูเอาเถิด...แต่ละคนกระเป๋าหนักทั้งนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×