คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : 5 จูบ...มีฤทธิ์สะกิดหัวใจ 3/7
เสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มละจากการอ่านเอกสารอนุมัติเรื่องค่าตอบแทนผู้รับเหมาก่อสร้างพาวเวอร์สตีมสาขาใหม่
ขณะที่ปากการาคาแพงยังค้างอยู่ในมือ
ก่อนกดรับเครื่องมือสื่อสารซึ่งปรากฏใบหน้าคนโทรเข้าที่เขาตั้งเอาไว้
“ครับแม่”
“บอมอยู่ไหนลูก”
“ออฟฟิศครับ”
ธตรัฐวางโทรศัพท์ลงบนไหล่แล้วแนบใบหูลงไป
มือซ้ายเปลี่ยนมาเปิดเอกสารไปยังหน้าสุดท้าย สายตาอ่านกวาดอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่มือขวาจะตวัดลายเซ็นตรงที่ว่างเหนือชื่อตน
“บอมยังเก็บกุญแจห้องแล็บของแม่ไว้หรือเปล่า”
ธตรัฐเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานออกดู
โชคดีที่กุญแจสารพัดสิ่งสารพัดขนาดทั้งกุญแจบ้าน รถยนต์ ออฟฟิศ คอนโดมิเนียม
รวมทั้งกุญแจห้องปฏิบัติการที่แม่เขารอบคอบปั๊มไว้ให้ก็นอนนิ่งอยู่ในนั้น
“มีครับ”
“ถ้าอย่างนั้นดีเลย
บอมแวะเข้าไปที่แล็บให้แม่หน่อยนะ
เมื่อเช้าแม่ซื้อเค้กมะพร้าวอ่อนแล้วแช่ไว้ในตู้เย็นในห้องแล็บ
พอกลับบ้านดันลืมเสียเฉย ๆ”
คนฟังยิ้มอ่อนกับคำบอกเล่าของมารดา
ปกติแล้วแม่เขาไม่ใช่คนขี้ลืม แต่ถ้าออกจากห้องปฏิบัติการอย่างรีบเร่งจนลืมของ
สาเหตุมีอยู่อย่างเดียวคือบิดาคงโทรมาหาแล้วมัวแต่คุยกันเพลินจนลืมทุกอย่างไปหมด
“ได้ครับ เดี๋ยวผมแวะเข้าไปเอาให้”
“โล่งอกหน่อย
ถ้าไม่อย่างนั้นแม่คงโดนพ่องอนแน่ ๆ เลยลูก บ่นอยากกินมาหลายวันแล้ว แต่วันอื่น ๆ
ขายหมดก่อนแม่ไปซื้อทุกที”
ชายหนุ่มแอบขำ
เขารู้ดีว่าพ่อชอบเค้กมะพร้าวอ่อนจากร้านเล็ก ๆ
ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยที่แม่สอนอยู่มากขนาดไหน
“แล้วเจอกันที่บ้านครับแม่”
“ขับรถดี ๆ นะบอม”
“คร้าบดอกเตอร์”
ธตรัฐตอบทะเล้นแล้ววางสายมารดา จากนั้นจึงปิดแฟ้มและฉวยกุญแจทั้งพวงออกจากห้อง
ประตูห้องปฏิบัติการถูกไขตอนหกโมงเย็นพอดี
ธตรัฐแปลกใจที่ไฟในห้องยังสว่างจ้า
หรือก่อนออกไปนอกจากลืมเค้กแล้วแม่เขายังลืมปิดไฟด้วย
ชายหนุ่มทิ้งความคิดแล้วเปลี่ยนมาให้ความสนใจกับตู้เย็นซึ่งตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง
เขาเดินมาเปิดตู้เย็นแล้วหยิบเค้กมะพร้าวอ่อนขนาดประมาณสามปอนด์ที่ตัดแบ่งเป็นชิ้นและห่อแยกชิ้นให้ง่ายต่อการกินออกมา
เมื่อได้ของที่ต้องการจึงปิดตู้เย็นหมุนตัวเตรียมจะก้าวขาออกจากห้องปฏิบัติการ
ทว่าเสียงก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ที่ดังขึ้นทำให้ต้องเปลี่ยนใจ
ธตรัฐวางเค้กบนโต๊ะไม้ขนาดสี่ที่นั่งที่มีไว้สำหรับนั่งกินข้าว
เสียงก๊อกแก๊กยังคงดังต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหายไป
พอเงี่ยหูฟังจึงจับทิศทางได้ว่าเสียงเล็ดลอดออกมาจากช่องประตูที่ปิดไม่สนิทของห้องเล็ก
ๆ ห้องหนึ่งซึ่งมีป้ายแขวนไว้หน้าห้องว่า ‘The Chamber of Secret at Lab Hinghoy’
ดวงตาคู่คมมองกราดไปทั่วก็เห็นสิ่งที่พอจะเป็นอาวุธได้
เขาเดินเป็นย่องไปยังจุดที่สายตานำไปก่อนแล้ว
ไม่แปลกใจเลยที่สิ่งนี้อยู่ในห้องปฏิบัติการเพราะแม่เขาบอกว่าการออกภาคสนามบางครั้งต้องใช้เจ้านี่ขุดเอาดินจากที่นั้น
ๆ กลับมาเพื่อวิจัยควบคู่กับแมลงไปด้วย มือหนาคว้ามันขึ้นมาถือไว้
ปรับตำแหน่งให้กำถนัดแล้วค่อย ๆ เดินไปยังห้องกำเนิดเสียง
“โตไวจริง ๆ นะเจ้าตัวเล็ก”
น้ำเสียงหวานแสนคุ้นหูที่ดังขึ้นทำให้ธตรัฐต้องผ่อนลมหายใจโล่งอก
ไม่ต้องรอให้สมองประมวลผลซับซ้อนก็รู้ว่าเจ้าของเสียงคือมานิลา
หากแต่ยังไม่รู้อยู่ดีว่าหญิงสาวพูดกับใครและทำไมต้องอยู่ท่ามกลางความมืด
ไม่เปิดไฟในห้องเล็ก ๆ นี่ให้สว่างเหมือนด้านนอก
ความสงสัยไม่อยู่กับชายหนุ่มได้นาน
เมื่อเดาได้ว่าคำว่า ‘Hinghoy’ ที่อยู่ตรงป้ายน่าจะมาจากคำตรงตัวอย่าง ‘หิ่งห้อย’
และคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ครองห้องเล็ก ๆ นี้
The Chamber of Secret at Lab Hinghoy ถ้าให้แปลตามความเข้าใจของเขาเองก็แปลได้ว่า ‘ห้องแห่งความลับ
ณ ห้องปฏิบัติการหิ่งห้อย’ คนตั้งก็ช่างตั้งชื่อ
แต่ฟันธงว่าคนช่างตั้งนี้ไม่ใช่แม่เขาอย่างแน่นอน
“กินน้ำผึ้งเยอะ ๆ จะได้ออกไข่ไว ๆ”
ประโยคต่อมาดังขึ้น
ชายหนุ่มเผลอยิ้มให้กับน้ำเสียงอ่อนโยนที่สั่งหิ่งห้อยราวกับว่ามันจะฟังภาษาคนรู้เรื่อง
แล้วประโยคอื่น ๆ ก็มีมาให้ได้ยินเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น
“กล่องนี้ใกล้ออกจากดักแด้แล้ว”
“กล่องนี้คงเล็กไปแล้ว อีกสองวันต้องเปลี่ยนบ้านใหม่แล้วนะ”
“กล่องนี้กินจุจัง”
คนอะไร พูดกับหิ่งห้อยก็เป็น
หากแต่ประโยคที่เขารู้สึกร้อนตัวคงเป็นประโยคถัดมา
“โตขึ้นแล้วอย่านิสัยไม่ดีเหมือนใครบางคนนะ”
ธตรัฐไม่รู้ตัวเลยว่าเขาแอบยืนฟังอยู่นานเท่าไร
ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจอบที่ถือในมือก่อนหน้านี้ไปวางพิงอยู่ตรงผนังตั้งแต่เมื่อไร
และไม่รู้เช่นกันว่าความรู้สึกดี ๆ
ที่ละลายไปเกือบหมดเริ่มก่อเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้ว
ความคิดเห็น