ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปรากฏว่าเป็นรัก

    ลำดับตอนที่ #25 : พออยู่แล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 67


    วันนี้เป็นเช้าที่มีสีสันทีเดียวโดยเฉพาะคนในบ้านเศวษรฐา เพราะตั้งแต่เช้าตรู่รถคันงามของอู่อี้เทียนก็มาจอดเทียบหน้าบ้าน พร้อมกับร่างสูงของเจ้าของรถที่หอบหิ้วดอกกุหลาบช่อโตพร้อมกับถุงใบใหญ่ตรงเข้ามา ใบหน้าดุดันนั้นอ่อนโยนกว่าปกติเล็กน้อย หากว่าคนที่ออกมาต้อนรับเขาเป็นมาสฟ้าคนที่เขาคิดถึงอู่อี้เทียนคงอารมณ์ดีจนยิ้มหน้าบาน แต่นี่คนที่เปิดประตูบ้านให้เขาเป็นเชอลีน คุณนายของบ้านที่มีหน้าซังกะตายแถมกรอกตาใส่เขาอีกต่างหาก

    “โผล่หัวมาแต่เช้า คิดว่าตัวเองรวยแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?”

    “ผมมาขอพามาสฟ้าออกไปเที่ยวครับ” อู่อี้เทียนใจดีสู้เสือ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินเสียงสับเท้าวิ่งมาจากห้องด้านหลัง จากนั้นคนที่เขาคิดถึงก็วิ่งหน้าตั้งออกมา

    “อี้เทียน” มาสฟ้าขานชื่อชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ และผลลัพธ์ก็คือการถูกแม่ของเธอมองด้วยสายตาจิกกัด เจ้าตัวจึงได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้เชอลีนเป็นการขอลุโทษ คุณนายของบ้านจึงยอมปล่อยเธอไปแล้วหันขวับกลับมาเอาเรื่องกับหนุ่มตี๋ตรงหน้าต่อ

    “ฉันไม่อนุญาต” เชอลีนประกาศกร้าว แต่ชายหนุ่มตรงหน้ากลับไม่ได้หนีหัวซุกหัวซุนกลับบ้านเหมือนทุกคน อู่อี้เทียนเพียงยิ้มน้อยๆ พร้อมส่งถุงในมือให้ ปากก็ว่า

    “อย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ ผมมานี่เพราะตั้งใจเอาของมาให้คุณแม่ด้วย”

    “ฉันจำไม่ได้ว่ามีลูกชาย” เชอลีนกวาดตามองร่างสูงของอู่อี้เทียนตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูแคลน ไม่ซ่อนความรังเกียจใจสายตา แต่ก็เป็นความรังเกียจที่เสแสร้งอู่อี้เทียนและมาสฟ้าจึงไม่คิดถือสา เก็บเอาสายตาเป็นอริของเชอลีนมาเป็นอารมณ์ “แล้วนี่อะไร คิดจะเอาของแพงๆ มาประจบฉันเหรอ”
     

    "ผมคิดว่าคุณแม่คงต้องใช้ครับ” อี้เทียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ทว่าประกายในแววตาของเขากลับฉายประกายแห่งความขบขันออกมา โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสีหน้าของเชอลีนหลังเปิดถุงของฝากเขาเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของสุภาพสตรีที่แม้วัยจะล่วงเลยเกือบจะแตะเลขห้าแล้ว ก็ยังนับว่างามหมดจดเมื่อเปรียบเทียบกับคนวัยเดียวกัน

    “มือถือ?”

    “เครื่องเก่าของคุณแม่ผมก็เก็บมาให้ด้วย อยู่ด้วยกันในถุง แต่คุณแม่คงใช้ไม่ได้แล้ว ผมเลยถือโอกาสไปเลือกรุ่นใหม่มาให้เลย ชอบไหมครับ” อู่อี้เทียนพูดแล้วยิ้มแฉ่งกวนประสาทออกมา ทำให้เชอลีนรู้สึกอยากจะชกหน้าไอ้คนที่ถือวิสาสะนับญาติกับเธอขึ้นมาติดหมัด ที่แท้มาสฟ้าก็ชอบผู้ชายแบบนี้...

    “ไอ้...”

    “ส่วนค่าทำสีรถผม ไม่เป็นไรนะครับ ผมรับผิดชอบเอง แต่อาจจะต้องรบกวนลูกสาวคุณแม่เป็นคนจัดการให้” อู่อี้เทียนว่าพร้อมกับรอยยิ้มกวนประสาท ที่ทำให้เชอลีนถึงกับแยกเขี้ยว

    “เลิกกวนประสาทแม่ฉันเถอะค่ะอี้เทียน อยากให้คนเกลียดคุณทั้งบ้านให้ได้เลยใช่ไหมคะ” มาสฟ้าเมื่อเห็นแม่ของเธอแยกเขี้ยว ทำท่าว่าจะโกรธอู่อี้เทียนขึ้นมาจริงๆ แล้ว รีบเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อนก้าวเข้ามายืนซ้อนหลังแม่ของเธอ เผชิญหน้าคนตัวใหญ่ที่เธอเพิ่งส่งข้อความหาเมื่อคืน “อาหารเช้าเสร็จแล้วนะคะคุณแม่ ไปที่โต๊ะกันดีกว่า”

    “เธออยากอยู่กับผู้ชายสองต่อสองก็พูดมาเถอะ” เชอลีนค้อนลูกสาวคนโตของตนวงโต แต่ก็ยอมผละจากไปแต่โดยดี ทิ้งให้มาสฟ้าเม้มปากกลั้นยิ้มส่วนอู่อี้เทียนเองก็มีสีหน้าขบขันกับท่าทางนั้นของเชอลีนพอกัน กระทั่งเสียงเล็กของคุณเชอลีนตะโกนย้อนออกมา สีหน้าของหนุ่มสาวจึงค่อยผ่อนคลายลง “จะไปไหนก็รีบไป เดี๋ยวน้องเธอก็ตื่นมาก่อนหรอก”

    “รู้แล้วค่ะแม่” มาสฟ้าขานรับ รอยยิ้มเล็กๆ ก่อนหน้าบนหน้าเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างจนดวงตาทั้งสองข้างหรี่เล็กลง ซึ่งนั่นทำเอาหัวใจของอู่อี้เทียนเต้นผิดจังหวะไปเล็กน้อย ทั้งๆ คิดว่าเขาคงรักมาสฟ้าไปมากกว่านี้ไม่ได้แน่ๆ แต่ตอนนี้อู่อี้เทียนรู้แล้วว่าเขาคิดผิด มาสฟ้าสังเกตเห็นสีหน้าอึ้งๆ ของชายหนุ่มจึงสะกิดเรียกด้วยความเป็นห่วง “อี้เทียนคะ”

    “ครับ?”

    “เมื่อกี้เหม่ออะไรคะ”

    “ไม่ได้เหม่ออะไรครับ แค่คิดว่าคุณสวยมากเฉยๆ” อู่อี้เทียนพูดเหมือนว่านั่นเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาที่สุดในโลก แต่คนฟังอย่างมาสฟ้านั้นได้แต่ตาโตมองเขา คาดไม่ถึงว่าจะถูกชมในเวลาแบบนี้ “อรุณสวัสดิ์ แล้วก็นี่ครับ ของคุณ”

    “อันเก่าไม่รู้จะวางไว้ไหนแล้วค่ะ แต่ก็ขอบคุณนะคะ” มาสฟ้ารับกุหลาบช่อใหญ่มาถือไว้ กลิ่นหอมฟุ้งตีเข้าจมูกจนชุ่มปอด จึงพลอยให้ใบหน้างามหยดของเธอนั้นยิ่งทวีความงามขึ้นกว่าเดิมเมื่อมีปากอิ่มขยับเป็นรอยยิ้มกว้าง พร้อมกับหมุนตัวเอาช่อดอกไม้ในแขนไปวางบนโต๊ะทรงสูงที่อยู่ไม่ไกล

    “งั้นเราซื้อบ้านใหม่ดีไหมครับ หาหลังที่กว้างหน่อย” อู่อี้เทียนยิ้มแฉ่ง ยื่นข้อเสนอที่เล่นที่ฟังเหมือนเขาพูดจริงมากกว่า “จะได้มีที่วางดอกไม้”

    “บ้านหลังนี้กว้างพอแล้ว” เสียงเข้มจัดของผู้ชายนั้นเอ่ยแทรก เมื่ออู่อี้เทียนและมาสฟ้าเงยหน้ามองไปยังต้นเสียงก็เห็นคมกฤษกำลังยืนหน้าดุจ้องพวกเขาอยู่ “มาสฟ้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เล็กจนโต แล้วก็จะไม่ย้ายไปไหน ใช่ไหมลูก?”

    “อี้เทียนเขาล้อเล่นค่ะพ่อ ใครจะบ้าจี้ซื้อบ้านให้คนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน” มาสฟ้าหายใจแรง คิดว่าอี้เทียนคงไม่ถูกโฉลกกับคนในบ้านของเธอจริงๆ แล้ว เพราะไม่ว่าเขาพูดอะไรก็ไม่เข้าหูคนใบบ้านของเธอ

    “ผมพูดจริงนะ” อู่อีเทียนแย้งหน้าตาย ค่อมหัวลงเล็กน้อยเป็นการทักทายพ่อของมาสฟ้า ปราศจากความเกรงกลัวใดๆ ไม่เหมือนกับเมื่อวาน “อรุณสวัสดิ์ครับคุณพ่อ”

    “อย่า...”

    “ฟ้าจะออกไปข้างนอกกับอี้เทียนนะคะวันนี้” มาสฟ้าที่เห็นพ่อของเธอกำลังตั้งท่าแยกเขี้ยวใส่อี้เทียนอีกคนรีบเข้ามาขวาง ยิ้มหวานแบบที่รู้ว่าทำเช่นนั้นแล้วพ่อของเธอต้องใจอ่อนแน่

    “จะไปไหน กลับกี่โมง” ไม่บ่อยนักที่คมกฤษจะมาเค้นถามเรื่องส่วนตัวของบุตรสาว แต่ผู้ชายที่มาสฟ้าเลือกคบหานั้นมันเป็นเสือผู้หญิงตัวฉกาจ มันจึงเลี่ยงให้เขาซักไซ้ไม่ได้ “พ่อไม่ให้ค้างคืนนะ”

    “ฟ้าจะตั้งใจจะไปเยี่ยมพราวที่โรง’ บาลหน่อยค่ะ” มาสฟ้ายิ้มกว้าง ไม่แม้แต่จะถามความเห็นของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อน ว่าเขาเห็นด้วยกับแผนการของเธอหรือว่าเขามีแผนที่จะพาเธอไปที่ไหนหรือเปล่า “เพื่อนฟ้าคนที่ตัวเล็กๆ เขาเพิ่งคลอดเมื่อวันก่อน ฟ้าซื้อของเตรียมไว้กะจะแวะไปเยี่ยมหน่อย”

    “ใช่คนที่สามีเขา...ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่า” คมกฤษครุ่นคิด

    “ค่ะ” มาสฟ้าพยักหน้าตอบ แสร้งเป็นไม่เห็นสีหน้าอึดอัดใจของผู้เป็นพ่อยามที่ท่านนึกขึ้นมาได้ว่าเพื่อนที่เธอพูดถึงนั้นเป็นใคร “เพื่อนฟ้าที่ท้องจนใกล้คลอดก็มีแค่พราวนี่แหละค่ะ”

    “งั้นก็ไปเถอะ” คมกฤษพยักหน้าอนุญาต ก่อนจะตวัดสายตาไปมองอู่อี้เทียนที่ยืนฟังนิ่งๆ มาตลอดการสนทนาของพวกเขา แล้วคมกฤษก็ยกมือชี้หน้าอู่อี้เทียนอย่างคาดโทษ “ลูกฉันต้องถึงบ้านก่อนมื้อเย็น”

    “ผมจะพามาสฟ้ากลับมาก่อนมื้อเย็นครับ” อู่อี้เทียนรับปาก แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าเวลาอาหารเย็นของบ้านนี้เป็นเวลากี่โมง สำหรับตอนนี้เขาขอเพียงได้ตัวมาสฟ้าออกไปจากที่นี่ ไม่ว่าจะพูดอะไรอู่อี้เทียนก็ยอมทั้งนั้น

    “อย่างปลอดภัยด้วย” คมกฤษย้ำส่งท้าย

    “ครับ”

     

    มาสฟ้าจัดการตัวเองด้วยเวลาที่รวดเร็วจนน่าประทับใจ แม้แต่กับคนหลงเธอหัวปักหัวปำเป็นทุนเดิมอย่างอู่อี้เทียนจนอดที่จะเอ่ยไม่ได้

    “ปกติแล้วผู้หญิงใช้เวลาแต่งตัวนานกว่านี้ไม่ใช่เหรอ เวลาที่จะออกไปเดท” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กวาดตามองร่างบอบบางตรงหน้าของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งมองมาสฟ้านานเท่าไหร่สีหน้าของเขาก็ฉายความพึงพอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด นั่นพลอยทำให้คนโดนประเมินด้วยสายตาพลอนหรี่ตาแคบลงตามอีกฝ่ายไปด้วย

    “ปกติ ที่คุณว่านี่ ประเมินจากผู้หญิงกี่สิบคนคะ?” มาสฟ้าเหลือบมองอู่อี้เทียน ขณะหยิบกล่องใบเล็กลงในประเป๋าถือเป็นอย่างสุดท้าย สีหน้าราบเรียบตลอดการกระทำนั้นของเธอเล่นเอาอู่อี้เทียนถึงกับไปต่อไม่เป็น ได้แต่เม้มปากแน่นพร้อมกับก่นด่าตัวเองในใจเมื่อรู้ว่าสุดท้ายก็เป็นเข้าที่ขุดหลุมดักตัวเอง แต่เขาก็ยังคงไม่ถึงกับอับจนโชคเสียทีเดียวเพราะมาสฟ้านั้นไม่ได้มีอารมณ์ที่จะขุดเรื่องในอดีตของขาขึ้นมาทะเลาะ หญิงสาวเพียงแบมือแล้วยื่นมาจริงหน้าของอู่อี้เทียนแล้วพูด

    “กุญแจรถค่ะ”

    “ผมไม่ต้องให้คุณมาขับรถให้ผมนั่งหรอกที่รัก” อู่อี้เทียนนิ่วหน้า มองมือของมาสฟ้าราวกับว่าไม่เคยเห็นมันมาก่อน ในหัวก็คิดว่าเมื่อกี้นี้มาสฟ้าคงต้องล้อเขาเล่นแน่ๆ ชายหนุ่มจึงได้แต่หัวเราะร่วนแล้วว่าต่อ “ผมเป็นผู้ชายนะ จะให้แฟนมาขับรถให้นั่งได้ยังไง”

    “ค่ะ คุณเป็นผู้ชาย” มาสฟ้าช่วยอู่อี้เทียนยืนยันในข้อเท็จจริงนี้ ก่อนจะโคลงศีรษะไปมาทำท่าคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วว่า “เป็นผู้ชายแล้วก็เคยรถคว่ำจนตัวเองโคม่าไปเมื่อเดือนก่อนด้วย ฉันไม่ลืมหรอกค่ะ”

    “ชกใต้เข็มขัดกันเลยนี่ คนสวย” ผู้ชายที่เพิ่งรถคว่ำมาข่มกรามเข้าหากันเมื่อโดนมาสฟ้าเล่นงานตรงจุดอ่อนเข้าเต็มเปานั้น ข่มกรามเข้าหากันแน่นแล้วหลับตาลงอย่างสะกดอารมณ์ ก่อนจะยอมส่งกุญแจรถคันงามของตนให้มาสฟ้าแต่โดยดี “ตามบัญชาครับ”

    “ถ้าคุณยอมฉันตั้งแต่แรกฉันก็ไม่ต้องร้ายกาจแบบนี้ รู้ใช่ไหมคะอี้เทียน”

    “ผมผิดเองครับที่รัก” อู่อี้เทียนยืดออกรับความผิด ที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองไปก่อไว้เมื่อไหร่อย่างไม่คิดอิดออด ในเมื่อมีบทเรียนแล้วเขาก็ไม่ทำผิดซ้ำสองอีก “ผมสมควรโดนแล้ว”

    “รู้ไหมคะ ว่าเวลาคุณทำตัวว่าง่ายก็น่ารักกับเขาได้เหมือนกัน”

    “ผมยอมคุณคนเดียวเท่านั้นแหละ” อู่อี้เทียนตอบเสียงกระด้าง “ถ้าใครกล้ามาสั่งผม ผมจะฉีกปากมัน”

    “อี้เทียน!”

    “โทษทีครับคนดี ผมซื่อสัตย์เกินไป ผมผิดเอง”

    “คุณต้องเป็นคนผิดอยู่แล้วสิคะ” มาสฟ้าพึมพำ มือก็กระดิกเล็กน้อยจนอู่อี้เทียนต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ ส่งกุญแจรถของตนให้มาสฟ้าอย่างไม่มีทางเลือก เพราะดูจากสายตาแน่วแน่ของหญิงสาวเธอเองก็คงไม่คิดจะยอมง่ายๆ เช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นอี้เทียนก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเสียทีเดียว

    “คุณจะวางดอกไม้ไว้ในห้องนอนไหมครับ?”

    “ช่อแรกที่คุณให้ยังวางเต็มห้องฉันอยู่เลยค่ะ แต่ถ้ามันจะทำให้คุณยอมส่งกุญแจรถมา ฉันจะบอกแม้บ้านฉันให้จัดดอกไม้เพิ่ม ถึงว่ามันจะขวางทางเดินฉันก็เถอะ”

    เมื่อได้คำตอบถูกใจในที่สุดอู่อี้เทียนก็ยอมปล่อยมือ พร้อมกับที่เขาเผยยิ้มกว้างอย่างคนที่ได้เห็นแผนการเจ้าเลห์ของตัวเองบรรลุล่วงไปด้วยดี แล้วเขาก็หยุดเท้าที่กำลังเดินอ้อมไปยังที่นั่งฝั่งผู้โดยสารแค่เพราะรู้สึกว่าอยากมองหน้ามาสฟ้าให้นานขึ้นอีกหน่อย ซึ่งการหยุดเดินกระทันหันของเขาทำให้มาสฟ้าต้องพลอยหยุดเดินไปด้วย ต่างคนก็ต่างมองหน้ากันและกันก่อนที่อู่อี้เทียนจะถอนหายใจเสียงดังแล้วว่า

    “ผมรักคุณจัง แต่งงานกับผมสักที”

    มาสฟ้าเบื่อที่จะฟังคำพูดนั้นแล้วเป็นฝ่ายออกเดินก่อน แสร้งเป็นไม่ได้ยินคำขอแต่งงานของชายหนุ่ม ปล่อยให้เขาวิ่งตามเธออีกจนได้ เป็นภาพที่ชวนให้ยิ้มขนาดเชอลีนที่มีอคติกับว่าที่ลูกเขยพอสมควรยังต้องยอมรับว่าการได้เห็นผู้ชายวิ่งไล่งับชายกระโปรงลูกของเธอนั้น มันช่วยให้อารมณ์ดีได้จริงๆ

     

    หนทางยังอีกยาวไกลนะไอ้หนุ่ม ชั้นบอกไว้ก่อนว่าเป็นเขยบ้านนี้น่ะไม่ง่ายหรอกนะ // เกียมเตะตัดขามัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×