คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : หนุ่มหล่อ ปากหมา
ตอนที่ 24 หนุ่มหล่อ ปากหมา
มนตรากลับมาถึงบ้านเห็นบิดายืนรออยู่ชานเรือน พร้อมกับถือตะเกียงมาคอย เขาเห็นว่าดึกมากแล้วบุตรสาวบุญธรรมยังไม่กลับเสียที คนเป็นบิดาจะหลับลงได้อย่างไร ใจเขาอยากจะตามไปเฝ้าเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ว่านางอยู่ที่ไหนได้แต่ไหว้วานให้ทหารหญิงไปตามตัวบุตรสาวกลับมา
ได้ยินเสียงรถม้าวิ่งมาอี้เทียนจึงถือตะเกียงเดินออกไปยืนต้อนรับบุตรสาว เขาตีหน้าขรึมหวังจะสั่งสอนให้นางรู้ถึงความผิดที่ได้กระทำลงไป
ทว่ามนตราไวกว่ารีบวิ่งเข้าไปสวมกอดบิดาส่งสายตาออดอ้อนเขา
"ท่านพ่อข้ากลับมาแล้ว ขออภัยที่ทำให้ท่านต้องรอ ลูกสำนึกผิดแล้ว"
อี้เทียนอยากจะดุบุตรสาว แต่เห็นปากเล็ก ๆ กำลังอ้าปากหาวคิดว่านางคงจะง่วงนอนมากแล้วเช่นกัน ใจเขาจึงอ่อนยวบทันที
"ไป ๆ กลับมาแล้วก็ไปอาบน้ำนอนเสีย ค่อยคุยกันตอนเช้า"
"ฮิฮิฮิ...ท่านพ่อใจดีที่สุดเลย"
มนตราขอตัวไปอาบน้ำให้สดชื่น เธอกลับมายังห้องของตนเอง ไม่เห็นน้องชายอยู่ด้วยจึงคิดว่าพี่ใหญ่คงพาไปนอนด้วยแล้ว
หญิงสาวเผลอหลับไป โดยลืมโยนของเข้าไปเก็บไว้ในมิติวิเศษ ไหนจะถุงเงินที่ใส่ตั๋วเงินไว้อีกห้าสิบตำลึงทองอีก พวกมันถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างไร้ค่านัก
.......
ยามอิ๋นท่านลุงเหยียนเฟิงและบุตรชายเดินทางมาส่งไก่ถึงหน้าเรือนของหญิงสาว ที่ตื่นเพราะเสียงเคาะประตูของพี่ชาย เธอถูกปลุกจึงงัวเงียลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย จัดการมัดผมลวก ๆ แล้วเดินออกมาต้อนรับแขก
ดวงอาทิตย์ยังไม่ทันโผล่พ้นขอบฟ้า สองพ่อลูกก็มาส่งไก่เสียแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจัดการไก่ให้หญิงสาวทั้งคืนจนไม่ได้หลับได้นอน
"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะลุงเหยียน ขออภัยด้วยที่รบกวนท่านแต่เช้ามืดเช่นนี้"
มนตราตักน้ำในโอ่งมาล้างหน้าลวก ๆ เดินออกมาต้อนรับชายชราที่ยืนรอเจ้าของเรือนอยู่หน้าเกวียนม้าของตน
"แม่นางไม่ต้องเกรงใจไป แค่ช่วยซื้อไก่จากข้ามากมายเช่นนี้ ข้าก็ดีใจแล้ว..นี่คือบุตรชายของข้าชื่อเหยียนซือรู้จักกันเอาไว้..ต่อไปนี้เขาจะมาส่งไก่ให้เจ้าแทนข้า"
มนตราจ้องไปยังเงาตะคุ่ม ๆ ของชายร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ท้ายเกวียน รู้ทั้งรู้ว่าฟ้ายังมืดอยู่ แล้วเขาไปยืนทำอะไรตรงนั้นกันนะ
"สวัสดีเจ้าค่ะ ข้าชื่อฉินฉินไว้ตอนบ่ายข้าจะไปคุยเรื่องสัญญาซื้อขายกับท่านนะเจ้าคะ แต่ว่าลุงเหยียนข้าต้องขออภัย หากข้าต้องการให้ท่านเป็นตัวแทนนำไก่มาส่งให้กับข้าจะได้หรือไม่เจ้าคะ.."
"เจ้าคิดจะใช้งานผู้อาวุโสหรือ ที่เรือนของเจ้าไม่เคยสอนมารยาทให้หรืออย่างไรกัน"
ในที่สุดชายหนุ่มที่เอาแต่ยืนทำบางอย่างอยู่หลังรถม้าก็เปิดเผยตัวตนออกมาเสียที เขาสาวเท้ายาว ๆ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวท่าทางไม่พอใจ
"เมื่อวานก็หนหนึ่งแล้ว เจ้าใช้งานบิดาของตนให้มาสั่งไก่แทนยังไม่พอ ไก่จำนวนหนึ่งพันตัวรู้หรือไม่กว่าบิดาข้าจะหามาให้จนครบ ต้องเสียแรงไปมากเพียงใด เจ้ามีสมองไว้กั้นหูหรืออย่างไร..เป็นสตรีคิดเกินตัวก็เช่นนี้ อยู่เรือนปักผ้าไปไม่ดีกว่าหรือ อย่าทำการค้าให้เหนื่อยเลย"
เหยียนเฟิงเข้ามาขวางบุตรชายตนเอาไว้ แล้วแอบหยิกแขนเขาเบา ๆ
เจ้าลูกคนนี้อาการหยิ่งผยองกำเริบหรืออย่างไร ค้าขายเงินดีเช่นนี้ใครจะไม่รับไว้กันเล่า
"เจ้าว่าอย่างไรนะ..พูดใหม่อีกครั้งสิ"
มนตรานึกโกรธเข้าแล้ว นางกำมือแน่น หากไม่ติดว่าชายที่ปากเสียใส่ตนมีบิดาคอยปกป้องอยู่ นางคงต่อยปากเขาไปแล้ว
"เจ้าไม่รู้อย่ามาพูดดีกว่า ที่ข้าให้บิดาไปเจรจาสั่งไก่แทน เป็นเพราะข้ามีธุระต้องไปทำ ไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้ แล้วเจ้ารู้ทั้งรู้ว่าบิดาเหนื่อยแล้วทำไมไม่ทำเองเล่า เก่งแต่รอให้บิดาหาเงินให้ใช้หรือ”
“ข้าเป็นสตรีแล้วอย่างไร ในเมื่อข้าเพียงทำการค้าไม่จำเป็นต้องให้คนนอกเช่นเจ้ายื่นมือมาสอด อีกอย่างข้าก็ไม่ได้ใช้งานบิดาเจ้าโดยเปล่าเสียหน่อย ข้าได้ของเจ้าได้เงิน มีตรงไหนไม่ยุติธรรมกันฮะ!"
เหยียนซือกันบิดาออกแล้วเปิดปากฉะกับหญิงสาว
"สตรีก็เหมือนกันหมด วัน ๆ เอาแต่วิ่งแจ้นมาให้ท่าข้าถึงที่ เจ้าเองคงหลงรูปกายภายนอกของข้าเช่นกันสินะ ไม่เห็นต้องใช้เรื่องการค้ามาอ้างเพื่อเจอหน้าข้าเลย..เจ้าซื้อไก่แค่พันตัว ซื้อใจข้าไม่ได้หรอกแม่นางตัดใจเสียเถิด"
ไม่ว่าจะโลกนี้หรือโลกเดิมมนตราก็ไม่เคยเจอคนมั่นหน้าเช่นเขามาก่อน คนอะไรหลงตัวเองชะมัด หากกิจการของตระกูลตกไปอยู่ในมือเขา มีหวังล่มจมแน่นอน
เหยียนเฟิงทนพฤติกรรมหยาบคายของบุตรชายไม่ไหวเช่นเดียวกัน เขาไม่น่าเล่าเรื่องแม่นางผู้นี้ให้บุตรชายฟังเลย เป็นอย่างไรเล่าเขาเข้าใจผิดเสียได้ กลับคิดไปว่านางเป็นเหมือนสตรีในหมู่บ้านที่เรียกร้องความสนใจจากตนโดยเข้าทางบิดา
"เหยียนซือพอได้แล้ว! พ่อยินดีร่วมทำการค้ากับแม่นางผู้นี้เอง นางไม่ได้ทำผิดอะไร หากไก่ในโรงเรือนของพ่อไม่พอ ก็ไปเอาของญาติพี่น้องมาเติมได้..เจ้ารีบขอโทษนางเดี๋ยวนี้"
อี้เทียนไม่ชอบใจเช่นกันที่มีคนมาว่าร้ายบุตรสาวตนเช่นนี้ แม้ว่าเจ้าหนุ่มคนนี้จะหน้าตาดีรูปร่างสมส่วนแข็งแรง ไม่ผอมแห้งเป็นไม้เสียบผีดังบุรุษในตัวเมือง เสียอย่างเดียวปากจัดยิ่งกว่าสตรี
เหยียนซือไม่ขอโทษตามที่บิดาสั่ง เขาทำหูทวนลมเดินไปขนตะกร้าไก่ลงจากเกวียนม้าของตน
"ข้านำไก่มาส่งเจ้าแล้วจ่ายเงินมาสิ ไก่หนึ่งพันตัวสิบตำลึงทอง"
หูต้าลู่เดินมาพร้อมกับถุงเงินยื่นส่งให้ชายชรา ก่อนจะบังตัวน้องสาวไว้ด้านหลังพลางจ้องตากับชายไร้มารยาท
"ท่านลุงเหยียนเฟิง พ่อข้าให้นำเงินค่าไก่มาให้ท่าน ขออภัยด้วยข้าทนพฤติกรรมหยาบคายของบุตรชายท่านต่อไปไม่ไหวแล้ว เชิญกลับไปเถิด"
เหยียนเฟิงรู้สึกอับอายมากรีบลากบุตรชายขึ้นเกวียนม้าไป แล้วเอ่ยขอตัวลาสองพี่น้องทันที วันนี้ต้องกลับไปคุยกับเจ้าหัวรั้นนี่ให้รู้เรื่อง
กล้าดีอย่างไรไปต่อว่าลูกค้าเช่นนี้!
"ไอ้คนปากเสีย! ชาตินี้ก็หาเมียไม่ได้หรอกโว้ย! เชิญขึ้นคานต่อไปเถิด"
มนตราทนไม่ไหววิ่งออกไปยืนกลางถนน แล้วตะโกนด่าคนเสียงดังจนชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นสะดุ้งตื่นกันเป็นแถว
เหยียนซือยังไปได้ไม่ไกลนักได้ยินเต็มสองรูหู จึงหันหลังกลับไปเห็นหญิงสาวยืนเท้าเอวแลบลิ้นปลิ้นตามาทางเขา
"ท่านพ่อรอสักครู่ ข้าจะลงไปคุยกับนางให้รู้เรื่อง"
ทว่าผู้เป็นบิดากลับไม่ทำตามคำขอ ชายชรารีบเร่งบังคับม้าให้วิ่งเร็วมากกว่าเดิม เพื่อกันไม่ให้บุตรชายกระโดดลงไปเอาเรื่องสตรี
"เจ้าสมควรโดนนางด่าแล้ว เท่านี้ยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ"
"ท่านพ่อข้าต่างหากที่เป็นบุตรชายของท่าน เหตุใดถึงเข้าข้างนางเล่า"
"เจ้าลูกชั่ว! นางเป็นใครเจ้ารู้หรือไม่ หากผูกมิตรกับนางไว้ ในอนาคตข้างหน้าเราจะไม่อดตาย นางยอมซื้อไก่ของเราตัวละตั้งสิบอีแปะ ให้ราคาดีกว่าพวกพ่อค้าเร่ที่กดราคาลงจนเหลือแค่ตัวละแปดอีแปะเสียอีก วัน ๆ เจ้าเอาแต่เก็บตัวอ่านตำราอยู่ในป่าจะไปรู้เรื่องอะไร!"
เหยียนซือถูกบิดาดุได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจรอวันเอาคืน
มนตราเห็นรถม้าวิ่งไปไกลแล้วก็กระทืบเท้าด้วยความโมโหหลายต่อหลายที ก่อนจะเดินกลับมานับตรวจดูไก่อย่างละเอียด
อย่าให้ขาดเชียว ฉันจะกลับไปเอาเลือดหัวเจ้าบ้านั่นออกแน่!
"ข้าจะไปทำน้ำหมัก พี่ใหญ่ท่านช่วยเชือดคอไก่ออกให้ข้าที พวกเครื่องในให้แยกใส่ถังไม้เอาไว้ แล้วทำความสะอาดให้เรียบร้อย อ้อ...ต้องล้างอย่างดีอย่าให้เหลือขนติดมาแม้แต่เส้นเดียวนะเจ้าคะ"
ทหารหญิงมาร่วมด้วยช่วยอีกแรง ไก่พันตัวกว่าจะจัดการเสร็จคาดว่าน่าจะใช้เวลาจนถึงเช้า
อี้เทียนเดินมาช่วยบุตรสาวบุญธรรมผัดไส้สำหรับยัดใส่ตัวไก่ คราวนี้นางปรับเพิ่มรสชาติให้มีทั้งรสเผ็ดและรสธรรมดา
"ท่านพ่อไก่ขอทานแบบมีไส้ข้าว่าทำแค่สามร้อยตัวก็พอเจ้าค่ะ ท่านจะได้ไม่เหนื่อยมากนัก"
"ตามใจเจ้า"
มนตราบอกสูตรทุกอย่างให้บิดาบุญธรรมรับรู้อย่างไม่ปิดบัง เพราะถึงอย่างไรเธอก็ไม่คิดจะยึดอาชีพนี้ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว
ได้เงินมาสักก้อนก็ขายสูตรให้กับเหลาอาหาร จากนั้นก็ขอส่วนแบ่งรายได้สักสามต่อเจ็ดส่วน เพียงเท่านี้ก็พอหอมปากหอมคอแล้ว
อี้เทียนผัดไส้ในกระทะไปเหล่ตามองบุตรสาวไป
"ฉินฉินเจ้าจะเลิกทำการค้ากับพ่อลูกสกุลหวังหรือไม่"
"ไม่เจ้าค่ะ..ลุงเหยียนเฟิงไม่ได้ทำผิดอะไรแม้แต่น้อย บุตรชายของเขาต่างหากที่ผิด ข้าแยกแยะได้เจ้าค่ะ แต่จะดีมากหากเจ้าหมอนั่นเลิกหลงตัวเองลงบ้าง ไม่เช่นนั้นหากลูกเหลืออดเข้าสักวัน คงได้ท้าต่อยกับเขาแน่"
อี้เทียนเห็นบุตรสาวแรงดีแต่เช้าได้เช่นนี้ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
"อย่าโกรธไปเลย เจ้าตัวแค่นี้จะไปสู้อะไรได้ ให้พี่ชายเจ้าสู้แทนดีกว่า เจ้าจะได้ไม่เจ็บตัวดีหรือไม่"
"พี่ใหญ่สู้เก่งหรือเจ้าคะ"
"ตอนเขายังเด็กมักมีเรื่องชกต่อยกับเด็กในเมือง หน้าตาบวมปูดกลับมาทุกวันจนพ่อปวดหัวยิ่งนัก"
"ท่านพ่ออย่าเผากันลับหลังสิขอรับ...น้องรองเจ้าจะให้พี่ใหญ่เสียบเครื่องในไก่เลยหรือไม่"
หูต้าลู่โผล่เข้ามาในครัวกะทันหันทันได้ยินบิดากำลังพูดเผาตนอยู่พอดี
"ท่านจัดการไก่เสร็จแล้วหรือ"
"เหล่าทหารหญิงพวกนางคล่องแคล่วมาก ใช้เวลาเสี้ยวลมหายใจก็เสร็จไปแล้วสามตัว สายลมยังไม่ทันพัดผ่านพวกนางก็จัดการเสร็จสิ้นแล้ว"
"ถ้าเช่นนั้นท่านจัดการเสียบเครื่องในที่หมักแล้วได้เลยเจ้าค่ะ"
ทั้งครอบครัวช่วยกันเตรียมของขายจนถึงเช้าตรู่ มนตราตั้งใจจะเปิดร้านช่วงบ่ายของวันนี้ เพราะกว่าจะย่างไฟให้ไก่สุกได้ต้องใช้เวลาอีกเยอะ
ฉันคงต้องจ้างคนมาช่วยแล้ว หากดึงดันจะทำกันต่อด้วยจำนวนคนเท่านี้อาจจะเหนื่อยเกินไป ต้องหาเวลาไปปรึกษากับพี่ม่านอวี้เสียแล้ว
ความคิดเห็น