คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : 4 สายตาคู่นั้น 4/6
“เออ” ดูเหมือนเป็นการตอบเพื่อตัดรำคาญมากกว่า
แต่สุดท้ายธตรัฐก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหญิงสาวน่ารักจริง ๆ
ชุดเดรสยาวพลิ้วสีแดงขับกับผิวขาว ๆ ช่างดึงสายตาเขาให้จดจ่อ
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจหนัก ๆ คิดว่าบางทีความคิดไม่เข้าท่าอาจออกมากับลมหายใจได้บ้าง
แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นอย่างนั้น
“กูอยากเป็นวิโอลาว่ะ
น้องเขาจะได้สีกูทุกวัน” ไม่ว่าในสถานการณ์ไหนภูธิปก็คือภูธิป
เขาหาเรื่องอื่นพูดกลบเกลื่อนความเศร้าในใจได้เสมอ
“พล่ามมากจริงนะมึง”
“ไม่พูดก็ได้วะ”
มานิลาแทบสีวิโอลาไม่เป็นเพลงเมื่อมองลงมายังโต๊ะชิดขอบเวทีแล้วเห็นธตรัฐนั่งอยู่
ตอนนี้สมองเธอถูกแยกออกเป็นสองส่วนไปแล้ว ส่วนหนึ่งจดจ่อกับเครื่องสายที่เล่นอยู่
อีกส่วนจดจ่อกับผู้ชายที่ไม่เคยพูดดีกับเธออีกเลยนับจากเจอกันครั้งแรก
หญิงสาวเพิ่งมั่นใจก็วันนี้ว่าสายตาที่เขามองไม่ได้รังเกียจอย่างที่เธอเก็บไปคิดเองเออเอง
แต่สายตาคู่นั้นราวกับผิดหวังอะไรสักอย่าง และแน่นอนว่าเธอไม่รู้ว่าเรื่องใด
ช่วงเวลาหัวใจเหงาหนักที่สุดสำหรับมานิลาคือช่วงกลางคืนหลังเล่นดนตรีที่โรงแรมหรือร้านอาหารเสร็จ
แล้วกลับมาห้องสี่เหลี่ยมภายในอะพาร์ตเมนต์เพียงลำพัง
เพราะเหตุนี้เธอถึงอยากทำโน่นทำนี่ให้เยอะเข้าไว้
เวลาจะได้ไม่หมดไปกับความเหงาและการคิดมาก
กล่องไม้เก่า ๆ ที่ข้างในมีสิ่งของแห่งความทรงจำรวมทั้งรูปถ่ายพ่อถูกวางอยู่ตรงที่เดิมของมัน
เธอไม่คิดเปิดกล่องออกดู เพราะนั่นอาจทำให้เหงาและคิดถึงพ่อมากกว่าเดิม
หญิงสาวลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมานั่งตรงขอบเตียงก่อนเลิกผ้านวมขึ้น
เตียงนอนผู้หญิงส่วนใหญ่อาจมีหมอนข้างและตุ๊กตาน่ารัก ๆ
แต่เตียงนอนมานิลามีกล่องวิโอลาไม้สีดำที่แม้เก่าเล็กน้อยตามกาลเวลาและมีรอยไหม้นิด
ๆ อยู่ตรงขอบ ทว่าดูออกว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของเป็นอย่างดี
...มันกอดอุ่นยิ่งกว่าหมอนข้างใบใด ๆ
ในโลก
บางทีก็นึกขำตัวเอง
เธอเป็นนักวิโอลาแต่กลับไม่เคยใช้วิโอลาคันนี้เล่นให้ใครฟังเลยนอกจากพ่อ
ตอนเรียนดนตรีเธอใช้เครื่องดนตรีของครูที่สอน
แม้แต่ตอนเล่นในร้านอาหารหรือโรงแรมก็ใช้เครื่องดนตรีที่เขามีให้ตลอด
มานิลายกกล่องวิโอลามาวางตรงหน้า ก่อนกดสลักล็อกจนครบทั้งสามแล้วเปิดฝากล่องยกเครื่องดนตรีสีเดียวกับกล่องออกมาดู
พลันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องอาหารบลูจัสมินชั้นบนสุดของโรงแรมอคิราห์สกายก็ผุดเข้ามาในห้วงความคิด
หญิงสาวพลิกวิโอลาช้า ๆ ชื่อจริงของแม่ที่ถูกสลักไว้เป็นภาษาอังกฤษทำให้เริ่มหายใจไม่ออก
รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นของน้ำในกระบอกตา
ดวงตาหม่นเศร้าไล่มองวิโอลาละเอียดทุกตารางเซนติเมตรอย่างเช่นที่ทำทุกครั้งยามคิดถึงแม่
วิโอลาคันนี้อายุมากกว่าเธอเสียอีก แต่ยังสวยและไม่มีแม้รอยขีดข่วน
เปลือกตาบางกะพริบถี่จนขนตางอนยาวเปียกชื้นด้วยน้ำที่มาคลอเคลียอยู่
คำพูดที่พ่อบอกไว้เมื่อหลายปีก่อนแวบเข้ามาไม่ต่างจากทุกครั้งที่หยิบวิโอลาคันนี้ออกมาจากกล่อง
‘ตอนแม่ท้องลูกได้ไม่กี่เดือน
แม่เคยบอกพ่อว่าถ้าลูกโตขึ้นแม่จะสอนลูกเล่นมันเอง’
แต่แล้ว...คนที่สอนวิโอลาให้เธอกลับไม่ใช่แม่
มานิลาเริ่มเรียนวิโอลาตอนสี่ขวบ
ครูสอนคืออาจารย์สอนเครื่องสายในมหาวิทยาลัยที่อุทิศเวลาว่างให้กับเด็ก ๆ
ในหมู่บ้านด้วยการสอนดนตรีให้ฟรี ๆ
และพอวันเกิดครบรอบแปดขวบพ่อก็ยกวิโอลาของแม่ให้เธอดูแล
หญิงสาวจำได้ว่าตอนนั้นแปลกใจไม่น้อยว่าพ่อซ่อนวิโอลาคันนี้มาได้อย่างไรถึงแปดปีโดยที่เธอไม่เคยเห็นหรือเอะใจเลยสักนิด
“หนูอยากให้แม่ฟังเพลงที่หนูเล่นจังค่ะ”
หญิงสาววางวิโอลาทำมุมสี่สิบห้าองศากับไหล่
นิ้วเรียวกดลงบนสะพานนิ้วในตำแหน่งโน้ตตัวแรกของเพลง
มืออีกข้างยกคันชักขึ้นมาวางทาบบนสายวิโอลา ก่อนเริ่มบรรเลงเพลงที่เธอเล่นมันบ่อย
ๆ ทั้งเล่นที่ร้านอาหาร โรงแรม หรือเล่นให้ตัวเองฟัง
และคาดหวังว่าแม่จะชอบเหมือนกัน
มานิลารู้จักกับเพลงบรรเลงไวโอลินโดย Lindsey
Stirling ตั้งแต่ช่วงที่เพลงเพิ่งออกมาใหม่ ๆ
ผ่านทางเว็บไซต์อัพโหลดวิดีโอยอดนิยมราวสี่ปีก่อน
...Song of the Caged Bird
หญิงสาวชอบมันตั้งแต่เห็นเพียงแค่ชื่อเพลง
เมื่อได้กดเข้าไปฟังก็ไม่ผิดหวังเลย
จังหวะเพลงที่ไม่ช้าหรือเร็วเกินไปแต่ให้ความตื่นเต้นและลุ้นตามทำให้มานิลาตีความหมายในความเข้าใจของตัวเองว่าเพลงนี้ตั้งใจสื่อถึงผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ในโลกแสนเงียบงันไม่ต่างจากนกที่ถูกขังอยู่ในกรงเพียงตัวเดียว
แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อบังเอิญค้นพบไวโอลินในกล่องไม้แล้วลองเล่นมัน
ความเงียบงันที่มีอยู่เดิมก็ถูกกำจัดออกไปด้วยเสียงเพลง
เธอโชคดีกว่าผู้หญิงในเพลงอยู่หน่อยหนึ่งตรงที่ไม่ได้เป็นนกที่ถูกขังในกรงไร้ซึ่งทางออก
ตรงกันข้าม เธอเป็นนกที่มีอิสระบนโลกใบกว้าง อยากบินไปไหนก็ได้ตามแต่ใจต้องการ
แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อนกตัวนี้บินเพียงลำพัง ไร้ฝูง ไร้ญาติ ไร้ครอบครัว
ความคิดเห็น