คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : สหายเก่า
ตอนที่ 22 สหายเก่า
หลังจากเข้ามานั่งในศาลาแล้ว มนตราก็มองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีสาวใช้คนไหนเดินตามมารับใช้เจ้านายแม้แต่คนเดียว
รู้ได้เลยว่าสถานภาพของหยางมี่นั้นต่ำต้อยเพียงใด
มนตราจ้องหญ้าหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามเป็นเลิศ ขนาดผู้หญิงด้วยกันยังมองว่านางสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์เลย
"นี่หยางมี่..ข้าขอเรียกชื่อท่านตรง ๆ เลยแล้วกันนะ ถึงแม้อายุข้าจะน้อยกว่าท่านก็เถิด"
"ตามแต่ใจเจ้า อยากเรียกอย่างไรก็เชิญ"
ฉินฉินรู้สึกขัดใจกับท่าทีไม่สู้คนของสหายคนใหม่ นางจะเปราะบางเกินไปแล้ว
"ท่านเลิกทำหน้าอมทุกข์เสียที ที่สามีเบื่อท่านเป็นเพราะตัวท่านเอง อย่าหาว่าข้าพูดแทงใจดำท่านเลยนะ แต่คิดว่าการกระทำของเหล่าอนุเป็นเรื่องน่าอายใช่หรือไม่"
หยางมี่นึกถึงภาพที่เกิดขึ้นในห้องโถง อนุจางเป็นคนโปรดของสามีตน นางใจกล้ามากที่นั่งคร่อมบนตัวเขา แล้วใช้ปากป้อนผลไม้ให้ มือไม้ก็อยู่ไม่สุขลูบคลำตามลำตัวเขาไปมา
ฉินฉินสังเกตปฏิกิริยาหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ตลอดเวลา นางชอบดูถูกตนเองมากเกินไปนี่คือปัญหาหลัก
"ท่านจำได้หรือไม่ว่าพวกนางทำอย่างไรบ้าง หากจำได้ข้าขอแนะนำให้ท่านทำตามทุกอย่างและท่องจำให้ขึ้นใจ”
“ว่านหลงเป็นสามีของท่าน และต้องเป็นของท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น ใครหน้าไหนก็แย่งไปไม่ได้..อย่ายอมแพ้สิ..ท่านรักเขาหรือไม่ถามใจตนเองดู"
เฮ้อ..สภาพนางอย่างกับแม่ชีถือศีลในวัดป่า จะไปสู้แม่เสือสาวเหมือนพวกอนุภรรยาเหล่านั้นได้อย่างไร
"หน้าตาท่านโดดเด่นเกินพวกนางนัก แต่พอผู้ชายเจอท่าทางหงิม ๆ เช่นนี้คงหมดอารมณ์ ก่อนอื่นวันนี้ท่านออกไปซื้อชุดใหม่กับข้าดีกว่า ข้าจะทำให้ท่านเปลี่ยนเป็นคนใหม่เอง"
หยางมี่เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
"ข้าจะทำได้จริง ๆ หรือ"
เรียวปากเล็กของฉินฉินฉีกยิ้มหวาน ทว่าภายในใจซ่อนดาบคมเอาไว้
"เชื่อใจข้าสิเจ้าคะ"
.......
ว่านหลงกว่าจะปลีกตัวหลบมาจากอนุภรรยาได้ ก็พบว่าภรรยาของตนออกไปกับสหายของเขาเสียแล้ว
พ่อบ้านชราเห็นเจ้านายจึงส่งกระดาษใบเล็กให้นายท่านของตน
...อย่ามาขวางทางข้า เชิญอยู่กับอนุภรรยาของเจ้าไป ข้าจะพาภรรยาเจ้าไปปลดปล่อย นางจะต้องได้อนุชายกลับจวนคืนนี้...
ว่านหลงฉีกกระดาษทิ้งด้วยความโกรธ หันไปถามคนของตนเสียงดัง
"พวกนางออกไปนานแค่ไหนแล้ว"
"สะ..สองเค่อขอรับ"
ว่านหลงฟังแล้วนึกโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต่อยต้นไม้อย่างแรงเพื่อระบายความโกรธ..
"บ้าเอ๊ย! เจ้าไปเตรียมม้า ข้าจะออกไปด้านนอก"
ถึงเขาจะทำผิดไม่เคยสนใจเจ้า แต่เจ้าถึงกับกล้าออกไปหาชายอื่นด้านนอก มันจะมากเกินไปแล้วนะ
........
ทางด้านมนตราก็แอบพาหยางมี่ไปทักทายกับบิดาของตน
"ท่านพ่อนี่คือสหายคนใหม่ของข้าเอง นางชื่อหยางมี่เป็นภรรยาของเจ้าหัวทึบนั่น"
อี้เทียนอยากปิดปากบุตรสาวของตนไว้เหลือเกิน นางกล้าด่าสามีผู้อื่นต่อหน้าภรรยาเขาได้อย่างไร
"แม่นาง..อย่าถือสาบุตรสาวข้าเลย นางซุกซนดังบุรุษจนข้าปวดหัวอยากจะนอนพักหลาย ๆ วันเชียว"
หยางมี่โค้งหัวทักทายบิดาสหาย นางรู้สึกสนใจในตัวเด็กสาวผู้นี้เช่นกัน เห็น ๆ กันอยู่ว่านางยังไม่ทันได้ปักปิ่นด้วยซ้ำ แต่ความกล้าหาญของนางกลับโดดเด่นจนคนคิดว่านางเป็นสตรีขึ้นคาน...เก่งเสียจนบุรุษไม่กล้ามาสู่ขอ
"ท่านลุงข้าไม่ถือสาหรือโกรธนาง กลับชอบที่นางเป็นเด็กร่าเริงเช่นนี้"
อี้เทียนพยักหน้าเข้าใจ ใครได้รู้จักบุตรสาวของตนเป็นต้องตกหลุมรักนางทุกราย
"ว่าแต่เจ้าสองคนจะไปไหนกันหรือ"
แขนเล็กของฉินฉินเกาะแขนบิดาไว้แน่น พลางใช้แก้มถูไถออดอ้อนเขา
"ท่านพ่อข้าอยากเดินเที่ยวกับหยางมี่ ท่านช่วยกลับไปเจรจาขอซื้อไก่แทนข้าได้หรือไม่ พาพี่ใหญ่ไปด้วยข้าอยากซื้อของกับคนเดิมท่านตาใจดีมาก ๆ”
อี้เทียนเจอลูกอ้อนบุตรสาวเข้าไป ต่อให้ใจแข็งมาจากที่ไหนต้องยอมใจอ่อนให้กับความน่ารักของนางอยู่ดี
"ได้น่ะมันได้อยู่แล้ว..แต่ห้ามกลับดึก..ให้ทหารหญิงคอยอยู่คุ้มกันเจ้าแล้วกัน ถ้าเช่นนั้นพ่อกลับก่อน ต้องแวะซื้อขนมไปฝากอาเยี่ยนอีก"
"รับทราบเจ้าค่ะ"
อี้เทียนนั่งรถม้ากลับโดยมีองครักษ์หญิงตามคุ้มกันไปด้วยหนึ่งคน ส่วนอีกสี่คนคอยคุ้มกันฉินฉินอยู่ทางนี้
ร่างเล็ก ๆ ของฉินฉินลากทุกคนขึ้นรถม้าของหยางมี่ แล้วบอกแผนการที่ตนคิดไว้ให้พี่สาวที่คอยคุ้มกันรู้
"ข้าอยากให้ท่านถ่วงเวลาเขาเอาไว้ อย่าให้เขาตามมาเจอพวกข้าเร็วเกินไป เอาให้เขาบ้าตายได้ยิ่งดี"
ทหารหญิงผู้นี้นึกเกลียดผู้ชายเจ้าชู้เหมือนกัน จึงเข้าร่วมแผนการในครั้งนี้ด้วย
มนตราแยกตัวพาหยางมี่ไปแปลงโฉมใหม่ คิดว่าจะปรับรูปโฉมสหายให้สวยแซ่บกว่าเดิม ร้านที่หญิงสาวเลือกเป็นร้านที่อยู่มุมอับของเมืองไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก
ที่ฉินฉินเลือกร้านนี้เป็นเพราะรู้มาว่า เจ้าของร้านเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อที่เปิดเผยตัวตนชัดเจนว่าชอบบุรุษ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าร้านของเขา ด้วยกลัวว่าจะเสียชื่อเสียงไปด้วย
หยางมี่เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเจ้าของร้านมาก่อนนางคัดค้านทันที
"ข้าไม่เข้าไปได้หรือไม่"
มนตราที่ลงมาจากรถม้าก่อนเป็นคนแรกกลอกตามองบน กว่าจะทะลุตรอกซอกซอยหาร้านสุดลึกลับนี้เจอมันลำบากมากนะรู้ไหม
"นี่หยางมี่ มาถึงหน้าร้านขนาดนี้แล้วเจ้าจะเปลี่ยนใจอย่างนั้นหรือ ที่ข้าทำอยู่ก็เพื่อเจ้านะ เชื่อข้าเถิดถึงเจ้าของร้านนี้จะเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อแต่เขามีฝีมือดีมาก"
บุคคลประเภทที่สามไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คนในยุคนี้ พวกเขาต้องต่อสู้พัฒนาตนเองให้เก่งกว่าผู้อื่นถึงจะอยู่รอด
จางหมินกำลังนั่งออกแบบชุดใหม่ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายหน้าร้านของตนจึงเดินออกมาดู
"แม่นางมีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่"
..นานมากแล้วที่มีลูกค้าเข้าร้าน ครั้งล่าสุดคือเมื่อหนึ่งปีที่แล้วหลังจากเขายอมรับว่าตนเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ
มนตราได้ยินเสียงคนทักจึงหันหลังกลับมาดู ก่อนจะเข่าทรุดนั่งบนพื้นด้วยความตกใจทั้งน้ำตายังคลอเบ้า
หยางมี่เห็นดังนั้นรีบลงจากรถม้ามาดูสหายทันที
"เจ้าเป็นอะไรไปหรือ บาดเจ็บตรงไหน"
จางหมินตกใจเช่นเดียวกัน เขาเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา กลัวว่าหญิงสาวตรงหน้าจะหวาดกลัวตน
"แม่นางเป็นอะไรหรือไม่"
"เหมือน..เหมือนมาก"
..ฉินฉินจ้องหน้าชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
ชายตรงหน้าเหมือนกับเพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดหลายปี
"ทาม..นั่นแกหรอ"
จางหมินส่ายหน้าไม่เข้าใจสิ่งที่หญิงสาวพูด แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อเห็นนางร้องไห้ใจของเขาก็ราวกับถูกบีบ..หรือว่าเขาจะชอบนาง..เป็นไปไม่ได้
"แม่นางข้าชื่อจางหมิน เป็นเจ้าของร้านผ้าจางหมินขอรับ"
ฮึก...อย่าบอกนะว่านี่เป็นบรรพบุรุษของทามไท ดูสิเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วสมแล้วที่มีดีเอ็นเอเดียวกัน แม้แต่เซนส์ในการตั้งชื่อยังห่วยแตกเหมือนกันอีก ไหนจะเรื่องชอบเพศเดียวกัน...นี่มันทามไทเพื่อนเธอชัด ๆ
มนตราลุกขึ้นมาถือวิสาสะลากตัวเจ้าของร้านเดินหลบเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวด้านในร้านของเขา
จางหมินตกใจอยากจะสะบัดตัวหนี แต่กลัวอีกฝ่ายบาดเจ็บจึงได้แต่ยอมเดินตามหลังเข้าไปในร้านของตน
"หยางมี่รอข้าสักครู่ ข้าขอคุยกับชายผู้นี้เป็นการส่วนตัวไม่นานหรอก"
"ฮะ..อืม..เจ้าระวังตัวด้วย"
หยางมี่เป็นห่วงสหายได้แต่ยืนชะโงกมองเข้าไปในร้านด้วยความเป็นห่วง ในใจนางอยากจะเข้าไปดู แต่เป็นเพราะสหายสั่งให้รอนางต้องทำตาม
มนตราเดินมาหยุดอยู่โต๊ะทำงานที่มีกระดาษอยู่เต็มไปหมด มันคือร่างแบบสำหรับตัดชุด
หญิงสาวสาวเดินกดดันให้ชายหนุ่มถอยหลังไปชนกำแพง ก่อนที่เธอจะยกมือปิดทางหนีเอาไว้
"ท่านเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อใช่หรือไม่เจ้าคะ"
"ใช่ขอรับ"
มนตราก้มหน้าสายตามองต่ำจนจางหมินต้องยกมือปิดส่วนสงวนไว้
"แม่นางท่านมองอะไรอยู่หรือ"
"ที่ตรงนั้นมีปานคล้ายกับใบไม้อยู่ใช่หรือไม่"
จางหมินตรงใจเผลอผลักหญิงสาวออก แล้วยืนห่างจากนางหลายก้าว
"แม่นางท่านรู้ได้อย่างไร"
มนตราพูดถึงเรื่องของเพื่อนสนิทจากโลกเดิมออกมาจนหมด ฝ่ายจางหมินยิ่งได้ฟังก็ตาโตเป็นไข่ห่าน
"ที่ข้าพูดมาตรงกับตัวท่านใช่หรือไม่"
"ใช่"
จางหมินอยากจะเอาหน้ามุดกับอกบุรุษเหลือเกิน หญิงสาวผอมแห้งตรงหน้าดูน่ากลัวยิ่งกว่าพวกพ่อค้าทาสหน้าโหดเสียอีก
ทางด้านหยางมี่นางร้อนใจมากที่ไม่เห็นสหายออกมาเสียที จึงหันไปถามทหารหญิงของสหายดู
"นายของเจ้าไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใช่หรือไม่ เหตุใดนางยังไม่ออกมาอีกเล่า"
"แม่นางใจเย็น ๆ ก่อนเจ้าค่ะ แม่นางฉินฉินไม่ใช่ผู้ที่จะยอมให้ใครมารังแกตนได้ง่าย ๆ”
แม้หยางมี่จะได้คำตอบเช่นนั้น ทว่ากลับยังไม่สบายใจอยู่ดี
นางหารู้ไม่ว่าคนที่รู้สึกไม่สู้ดีไม่ใช่ฉินฉิน แต่เป็นจางหมินต่างหาก
ความคิดเห็น