ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวน้อยผู้มั่งคั่ง (จบแล้ว) มี E-BOOK

    ลำดับตอนที่ #22 : สหายเก่า

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 66


    ตอนที่ 22 สหายเก่า

    หลังจากเข้ามานั่งในศาลาแล้ว มนตราก็มองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีสาวใช้คนไหนเดินตามมารับใช้เจ้านายแม้แต่คนเดียว

    รู้ได้เลยว่าสถานภาพของหยางมี่นั้นต่ำต้อยเพียงใด

    มนตราจ้องหญ้าหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามเป็นเลิศ ขนาดผู้หญิงด้วยกันยังมองว่านางสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์เลย

    "นี่หยางมี่..ข้าขอเรียกชื่อท่านตรง ๆ เลยแล้วกันนะ ถึงแม้อายุข้าจะน้อยกว่าท่านก็เถิด"

    "ตามแต่ใจเจ้า อยากเรียกอย่างไรก็เชิญ"

    ฉินฉินรู้สึกขัดใจกับท่าทีไม่สู้คนของสหายคนใหม่ นางจะเปราะบางเกินไปแล้ว

    "ท่านเลิกทำหน้าอมทุกข์เสียที ที่สามีเบื่อท่านเป็นเพราะตัวท่านเอง อย่าหาว่าข้าพูดแทงใจดำท่านเลยนะ แต่คิดว่าการกระทำของเหล่าอนุเป็นเรื่องน่าอายใช่หรือไม่"

    หยางมี่นึกถึงภาพที่เกิดขึ้นในห้องโถง อนุจางเป็นคนโปรดของสามีตน นางใจกล้ามากที่นั่งคร่อมบนตัวเขา แล้วใช้ปากป้อนผลไม้ให้ มือไม้ก็อยู่ไม่สุขลูบคลำตามลำตัวเขาไปมา

    ฉินฉินสังเกตปฏิกิริยาหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ตลอดเวลา นางชอบดูถูกตนเองมากเกินไปนี่คือปัญหาหลัก

    "ท่านจำได้หรือไม่ว่าพวกนางทำอย่างไรบ้าง หากจำได้ข้าขอแนะนำให้ท่านทำตามทุกอย่างและท่องจำให้ขึ้นใจ”

    “ว่านหลงเป็นสามีของท่าน และต้องเป็นของท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น ใครหน้าไหนก็แย่งไปไม่ได้..อย่ายอมแพ้สิ..ท่านรักเขาหรือไม่ถามใจตนเองดู"

    เฮ้อ..สภาพนางอย่างกับแม่ชีถือศีลในวัดป่า จะไปสู้แม่เสือสาวเหมือนพวกอนุภรรยาเหล่านั้นได้อย่างไร

    "หน้าตาท่านโดดเด่นเกินพวกนางนัก แต่พอผู้ชายเจอท่าทางหงิม ๆ เช่นนี้คงหมดอารมณ์ ก่อนอื่นวันนี้ท่านออกไปซื้อชุดใหม่กับข้าดีกว่า ข้าจะทำให้ท่านเปลี่ยนเป็นคนใหม่เอง"

    หยางมี่เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

    "ข้าจะทำได้จริง ๆ หรือ"

    เรียวปากเล็กของฉินฉินฉีกยิ้มหวาน ทว่าภายในใจซ่อนดาบคมเอาไว้

    "เชื่อใจข้าสิเจ้าคะ"

    .......

    ว่านหลงกว่าจะปลีกตัวหลบมาจากอนุภรรยาได้ ก็พบว่าภรรยาของตนออกไปกับสหายของเขาเสียแล้ว

    พ่อบ้านชราเห็นเจ้านายจึงส่งกระดาษใบเล็กให้นายท่านของตน

    ...อย่ามาขวางทางข้า เชิญอยู่กับอนุภรรยาของเจ้าไป ข้าจะพาภรรยาเจ้าไปปลดปล่อย นางจะต้องได้อนุชายกลับจวนคืนนี้...

    ว่านหลงฉีกกระดาษทิ้งด้วยความโกรธ หันไปถามคนของตนเสียงดัง

    "พวกนางออกไปนานแค่ไหนแล้ว"

    "สะ..สองเค่อขอรับ"

    ว่านหลงฟังแล้วนึกโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต่อยต้นไม้อย่างแรงเพื่อระบายความโกรธ..

    "บ้าเอ๊ย! เจ้าไปเตรียมม้า ข้าจะออกไปด้านนอก"

    ถึงเขาจะทำผิดไม่เคยสนใจเจ้า แต่เจ้าถึงกับกล้าออกไปหาชายอื่นด้านนอก มันจะมากเกินไปแล้วนะ

    ........

    ทางด้านมนตราก็แอบพาหยางมี่ไปทักทายกับบิดาของตน

    "ท่านพ่อนี่คือสหายคนใหม่ของข้าเอง นางชื่อหยางมี่เป็นภรรยาของเจ้าหัวทึบนั่น"

    อี้เทียนอยากปิดปากบุตรสาวของตนไว้เหลือเกิน นางกล้าด่าสามีผู้อื่นต่อหน้าภรรยาเขาได้อย่างไร

    "แม่นาง..อย่าถือสาบุตรสาวข้าเลย นางซุกซนดังบุรุษจนข้าปวดหัวอยากจะนอนพักหลาย ๆ วันเชียว"

    หยางมี่โค้งหัวทักทายบิดาสหาย นางรู้สึกสนใจในตัวเด็กสาวผู้นี้เช่นกัน เห็น ๆ กันอยู่ว่านางยังไม่ทันได้ปักปิ่นด้วยซ้ำ แต่ความกล้าหาญของนางกลับโดดเด่นจนคนคิดว่านางเป็นสตรีขึ้นคาน...เก่งเสียจนบุรุษไม่กล้ามาสู่ขอ

    "ท่านลุงข้าไม่ถือสาหรือโกรธนาง กลับชอบที่นางเป็นเด็กร่าเริงเช่นนี้"

    อี้เทียนพยักหน้าเข้าใจ ใครได้รู้จักบุตรสาวของตนเป็นต้องตกหลุมรักนางทุกราย

    "ว่าแต่เจ้าสองคนจะไปไหนกันหรือ"

    แขนเล็กของฉินฉินเกาะแขนบิดาไว้แน่น พลางใช้แก้มถูไถออดอ้อนเขา

    "ท่านพ่อข้าอยากเดินเที่ยวกับหยางมี่ ท่านช่วยกลับไปเจรจาขอซื้อไก่แทนข้าได้หรือไม่ พาพี่ใหญ่ไปด้วยข้าอยากซื้อของกับคนเดิมท่านตาใจดีมาก ๆ”

    อี้เทียนเจอลูกอ้อนบุตรสาวเข้าไป ต่อให้ใจแข็งมาจากที่ไหนต้องยอมใจอ่อนให้กับความน่ารักของนางอยู่ดี

    "ได้น่ะมันได้อยู่แล้ว..แต่ห้ามกลับดึก..ให้ทหารหญิงคอยอยู่คุ้มกันเจ้าแล้วกัน ถ้าเช่นนั้นพ่อกลับก่อน ต้องแวะซื้อขนมไปฝากอาเยี่ยนอีก"

    "รับทราบเจ้าค่ะ"

    อี้เทียนนั่งรถม้ากลับโดยมีองครักษ์หญิงตามคุ้มกันไปด้วยหนึ่งคน ส่วนอีกสี่คนคอยคุ้มกันฉินฉินอยู่ทางนี้

    ร่างเล็ก ๆ ของฉินฉินลากทุกคนขึ้นรถม้าของหยางมี่ แล้วบอกแผนการที่ตนคิดไว้ให้พี่สาวที่คอยคุ้มกันรู้

    "ข้าอยากให้ท่านถ่วงเวลาเขาเอาไว้ อย่าให้เขาตามมาเจอพวกข้าเร็วเกินไป เอาให้เขาบ้าตายได้ยิ่งดี"

    ทหารหญิงผู้นี้นึกเกลียดผู้ชายเจ้าชู้เหมือนกัน จึงเข้าร่วมแผนการในครั้งนี้ด้วย

    มนตราแยกตัวพาหยางมี่ไปแปลงโฉมใหม่ คิดว่าจะปรับรูปโฉมสหายให้สวยแซ่บกว่าเดิม ร้านที่หญิงสาวเลือกเป็นร้านที่อยู่มุมอับของเมืองไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก

    ที่ฉินฉินเลือกร้านนี้เป็นเพราะรู้มาว่า เจ้าของร้านเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อที่เปิดเผยตัวตนชัดเจนว่าชอบบุรุษ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าร้านของเขา ด้วยกลัวว่าจะเสียชื่อเสียงไปด้วย

    หยางมี่เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเจ้าของร้านมาก่อนนางคัดค้านทันที

    "ข้าไม่เข้าไปได้หรือไม่"

    มนตราที่ลงมาจากรถม้าก่อนเป็นคนแรกกลอกตามองบน กว่าจะทะลุตรอกซอกซอยหาร้านสุดลึกลับนี้เจอมันลำบากมากนะรู้ไหม

    "นี่หยางมี่ มาถึงหน้าร้านขนาดนี้แล้วเจ้าจะเปลี่ยนใจอย่างนั้นหรือ ที่ข้าทำอยู่ก็เพื่อเจ้านะ เชื่อข้าเถิดถึงเจ้าของร้านนี้จะเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อแต่เขามีฝีมือดีมาก"

    บุคคลประเภทที่สามไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คนในยุคนี้ พวกเขาต้องต่อสู้พัฒนาตนเองให้เก่งกว่าผู้อื่นถึงจะอยู่รอด

    จางหมินกำลังนั่งออกแบบชุดใหม่ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายหน้าร้านของตนจึงเดินออกมาดู

    "แม่นางมีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่"

    ..นานมากแล้วที่มีลูกค้าเข้าร้าน ครั้งล่าสุดคือเมื่อหนึ่งปีที่แล้วหลังจากเขายอมรับว่าตนเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ

    มนตราได้ยินเสียงคนทักจึงหันหลังกลับมาดู ก่อนจะเข่าทรุดนั่งบนพื้นด้วยความตกใจทั้งน้ำตายังคลอเบ้า

    หยางมี่เห็นดังนั้นรีบลงจากรถม้ามาดูสหายทันที

    "เจ้าเป็นอะไรไปหรือ บาดเจ็บตรงไหน"

    จางหมินตกใจเช่นเดียวกัน เขาเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา กลัวว่าหญิงสาวตรงหน้าจะหวาดกลัวตน

    "แม่นางเป็นอะไรหรือไม่"

    "เหมือน..เหมือนมาก"

    ..ฉินฉินจ้องหน้าชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

    ชายตรงหน้าเหมือนกับเพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดหลายปี

    "ทาม..นั่นแกหรอ"

    จางหมินส่ายหน้าไม่เข้าใจสิ่งที่หญิงสาวพูด แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อเห็นนางร้องไห้ใจของเขาก็ราวกับถูกบีบ..หรือว่าเขาจะชอบนาง..เป็นไปไม่ได้

    "แม่นางข้าชื่อจางหมิน เป็นเจ้าของร้านผ้าจางหมินขอรับ"

    ฮึก...อย่าบอกนะว่านี่เป็นบรรพบุรุษของทามไท ดูสิเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วสมแล้วที่มีดีเอ็นเอเดียวกัน แม้แต่เซนส์ในการตั้งชื่อยังห่วยแตกเหมือนกันอีก ไหนจะเรื่องชอบเพศเดียวกัน...นี่มันทามไทเพื่อนเธอชัด ๆ

    มนตราลุกขึ้นมาถือวิสาสะลากตัวเจ้าของร้านเดินหลบเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวด้านในร้านของเขา

    จางหมินตกใจอยากจะสะบัดตัวหนี แต่กลัวอีกฝ่ายบาดเจ็บจึงได้แต่ยอมเดินตามหลังเข้าไปในร้านของตน

    "หยางมี่รอข้าสักครู่ ข้าขอคุยกับชายผู้นี้เป็นการส่วนตัวไม่นานหรอก"

    "ฮะ..อืม..เจ้าระวังตัวด้วย"

    หยางมี่เป็นห่วงสหายได้แต่ยืนชะโงกมองเข้าไปในร้านด้วยความเป็นห่วง ในใจนางอยากจะเข้าไปดู แต่เป็นเพราะสหายสั่งให้รอนางต้องทำตาม

    มนตราเดินมาหยุดอยู่โต๊ะทำงานที่มีกระดาษอยู่เต็มไปหมด มันคือร่างแบบสำหรับตัดชุด

    หญิงสาวสาวเดินกดดันให้ชายหนุ่มถอยหลังไปชนกำแพง ก่อนที่เธอจะยกมือปิดทางหนีเอาไว้

    "ท่านเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อใช่หรือไม่เจ้าคะ"

    "ใช่ขอรับ"

    มนตราก้มหน้าสายตามองต่ำจนจางหมินต้องยกมือปิดส่วนสงวนไว้

    "แม่นางท่านมองอะไรอยู่หรือ"

    "ที่ตรงนั้นมีปานคล้ายกับใบไม้อยู่ใช่หรือไม่"

    จางหมินตรงใจเผลอผลักหญิงสาวออก แล้วยืนห่างจากนางหลายก้าว

    "แม่นางท่านรู้ได้อย่างไร"

    มนตราพูดถึงเรื่องของเพื่อนสนิทจากโลกเดิมออกมาจนหมด ฝ่ายจางหมินยิ่งได้ฟังก็ตาโตเป็นไข่ห่าน

    "ที่ข้าพูดมาตรงกับตัวท่านใช่หรือไม่"

    "ใช่"

    จางหมินอยากจะเอาหน้ามุดกับอกบุรุษเหลือเกิน หญิงสาวผอมแห้งตรงหน้าดูน่ากลัวยิ่งกว่าพวกพ่อค้าทาสหน้าโหดเสียอีก

    ทางด้านหยางมี่นางร้อนใจมากที่ไม่เห็นสหายออกมาเสียที จึงหันไปถามทหารหญิงของสหายดู

    "นายของเจ้าไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใช่หรือไม่ เหตุใดนางยังไม่ออกมาอีกเล่า"

    "แม่นางใจเย็น ๆ ก่อนเจ้าค่ะ แม่นางฉินฉินไม่ใช่ผู้ที่จะยอมให้ใครมารังแกตนได้ง่าย ๆ”

    แม้หยางมี่จะได้คำตอบเช่นนั้น ทว่ากลับยังไม่สบายใจอยู่ดี

    นางหารู้ไม่ว่าคนที่รู้สึกไม่สู้ดีไม่ใช่ฉินฉิน แต่เป็นจางหมินต่างหาก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×