ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสั่งรักมาเฟียร้าย

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 8 ( 100 )

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 63


    อัลเฟรโด้นั่งมองภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดที่คริสเตียนนำมาให้ดูด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ใจหนึ่งเขาอยากจะเดินไปถามครองขวัญให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่อีกใจหนึ่งกลับนิ่งเฉยและสั่งให้ผู้ช่วยคนเก่งไปหาข้อมูลที่อยากรู้มาให้เร็วที่สุด

            "หน้าโรงแรมไม่มีอะไรผิดปกติ และดูเหมือนว่าครองขวัญจะไม่ได้มีจุดนัดพบที่หน้าโรงแรมด้วย" อัลเฟรโด้ตั้งข้อสังเกต

            ภาพที่เจ้าหล่อนกำลังเดินหนีเมื่อเห็นเขาตามไปเจอ เสียงร้องตะโกนว่ามีอุบัติเหตุ อัลเฟรโด้ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ และตั้งสมมุติฐานอย่างใจเย็นที่สุด

            "นายคิดว่าทำไมครองขวัญถึงได้จะข้ามถนน" ท่านประธานหนุ่มหันมาขอความเห็นจากผู้ช่วยคนสนิท

            "เป็นไปได้ไหมครับว่า จุดหมายปลายทางของคุณครองขวัญคือฝั่งโน้น" คริสเตียนวิเคราะห์

            "โรงแรมของเราซ้ายขวาขนาบไปด้วยเกสต์เฮ้าส์เล็กๆ ซึ่งไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ถ้าเป็นฝั่งโน้นก็จะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกอยู่ไม่กี่ร้าน" ผู้ช่วยหนุ่มไล่เรียงพื้นที่ตั้งที่อยู่รายล้อมรอบ

            "ถ้าถัดไปอีกก็จะเป็นโรงแรมของตระกูลเบลลูชชี่ มีร้านขายชุดกีฬา แล้วก็มีร้านพิซซ่าชื่อดังด้วยครับ"

            "ไม่ใช่ จุดหมายของครองขวัญไม่ใช่ที่นั่น" อัลเฟรโด้ส่ายหน้า

            เขานึกถึงตอนที่ดึงตัวเธอให้พ้นจากมอร์เตอร์ไซค์ สายตาของครองขวัญแม้จะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่ยอมละสายตาจากที่แห่งนั้น ถ้าอัลเฟรโด้เดาไม่ผิดร้านกาแฟเล็กๆ เยื้องโรงแรมนั่นต่างหากคือสถานที่ที่หญิงสาวต้องการจะไป

            "นายไปที่ร้านกาแฟหน้าโรงแรม ไปขอดูกล้องวงจรปิดในร้าน ดูให้หมดว่าในช่วงเวลาที่ครองขวัญลงไปข้างล่าง ในร้านมีใครอยู่หรือเกิดอะไรขึ้นบ้าง อ้อ ถ้าจะให้ดีทุกร้านที่อยู่แถวนั้นไปดูมาให้หมด"

            "ร้านกาแฟเหรอครับ" คริสเตียนทวนคำสั่งนั้นด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

            ตั้งแต่ครองขวัญมาอยู่ที่นี่ เขาไม่เคยเห็นเธอดื่มกาแฟเลยสักครั้ง หรือว่าวันนี้เกิดอยากจะดื่มกาแฟขึ้นมา แต่ถ้าต้องการเช่นนั้นทำไมถึงได้ไม่สั่งให้ใครจัดการนำมาให้แทนที่จะเดินลงไปเอง

            "แล้วถ้าร้านไหนให้ความร่วมมือ นายก็ช่วยจัดการค่าเสียเวลาให้พวกเขาด้วย อ้อ หวังว่าคืนนี้ก่อนนอนฉันจะได้รู้นะว่าเจ็บตัวเพราะอะไร" ท่านประธานหนุ่มสั่งการตามที่สงสัยเรียบร้อยก็ลงมือทำงานที่กองอยู่บนโต๊ะต่อ คริสเตียนรีบไปจัดการตามที่สั่งโดยเร็ว ผู้ช่วยหนุ่มอยากรู้เหมือนกันว่าการคาดการณ์ของอัลเฟรโด้จะเป็นอย่างไร

     

            คริสเตียนลงมาจัดการตามคำสั่งของอัลเฟรโด้ด้วยตนเอง เขามีลูกน้องมาด้วยเพียงแค่สองคนเท่านั้น และเมื่อพนักงานในร้านรู้ว่าใครเป็นคนต้องการขอข้อมูลนี้ ต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนทำให้งานที่เจ้านายสั่งเรียบร้อยภายในเวลาอันรวดเร็ว

            ผู้ช่วยคนเก่งกลับเข้ามาในโรงแรมอีกครั้ง สายตาเขาเหลือบไปเห็นใครบางคนที่กำลังยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงแรม จำได้แม่นยำว่าเจ้าหล่อนเป็นใคร และเดาวัตถุประสงค์การมาของเธอได้

            "ดิฉันส่งจดหมายแนะนำตัวและขอเวลาเข้าพบมาล่วงหน้าแล้วเมื่อหลายวันก่อนนะคะ" เธอเอ่ยเสียงหวานกับเจ้าหน้าที่ที่นั่งทำงานอยู่ที่เคาน์เตอร์

            "แต่ว่าวันนี้คุณอัลเฟรโด้ยกเลิกนัดช่วงบ่ายทั้งหมด แล้วก็ในตารางนัดไม่มีชื่อของคุณเลยนะคะ" เจ้าหน้าที่ตอบ

            "อะไรนะคะ ไม่มีได้ไงก็ในเมื่อ..."

            "เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องนี้ต่อเอง เชิญทางนี้ครับคุณซาร่า" เสียงคริสเตียนดังแทรกขึ้นมา คอลัมภ์นิสต์สาวหันขวับมามองหน้าคนที่อยู่ด้านหลังด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

            "เชิญทางนี้ดีกว่าครับ คุยกันตรงนี้คงไม่สะดวก" ชายหนุ่มเดินนำไปก่อน ซาร่ารีบเดินตามไปทันที

            คริสเตียนพาคอลัมภ์นิสต์สาวมาพูดคุยที่สวนด้านข้างของโรงแรมซึ่งไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนัก เขาเลือกที่เงียบๆ เพื่อเปิดการเจรจากับเจ้าหล่อน และป้องกันไม่ให้มีปัญหาหากซาร่าพูดไม่รู้เรื่องและโวยวายจนแขกคนอื่นตกใจ

            "ฝีมือคุณอีกแล้วใช่ไหม" ซาร่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก

            การพบกันเมื่อครั้งที่แล้วและถูกคริสเตียนขัดขวางไม่ให้ได้พบอัลเฟรโด้ ทำให้ซาร่าต้องกลับไปทำการบ้านใหม่มาอีกรอบ และคราวนี้เธอรู้แล้วว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคือใคร ทำไมถึงได้ชี้เป็นชี้ตายกับการเข้าถึงท่านประธานหนุ่มนัก

            "ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วคุณจะมาพูดว่าเป็นฝีมือผมได้อย่างไรกัน" คริสเตียนเอ่ย

            "คุณทำ คุณแกล้งฉัน คุณขัดขวางไม่ให้ฉันเข้าพบคุณอัลเฟรโด้" ซาร่าพูดเป็นฉากๆ ไม่ปล่อยเว้นให้อีกฝ่ายตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย

            "ผมจะทำแบบนั้นทำไม" เขาย้อนถามเสียงเรียบ

            "เพราะคุณไม่อยากให้ฉันได้สัมภาษณ์เจ้านายคุณน่ะซิ คุณมันขี้อิจฉา"

            "ผมเนี่ยนะ อิจฉา คุณซาร่าครับ เข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะ ผมเห็นจดหมายแนะนำตัวขอเข้าพบของคุณแล้ว และผมก็นำมันไปให้ท่านประธานดู เพียงแต่ว่า..."

            "แต่ว่าอะไร" หญิงสาวรีบถามต่อทันที

            "แต่ว่าคุณอัลเฟรโด้เป็นคนบอกเองว่า ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เพราะไม่ชอบให้ใครมาตั้งคำถาม ที่สำคัญช่วงนี้เจ้านายผมยุ่งไม่มีเวลามานั่งคุยกับใครนานๆ แบบนี้หรอก"

            คริสเตียนไม่ได้อคติและทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เขาจัดการนำจดหมายของกราเซียแมกกาซีนที่แสดงความประสงค์ขอเข้าพบเพื่อทำการสัมภาษณ์ ในหัวข้อนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแกรนด์รอสเซลโฮเต็ล ข้อความในนั้นระบุชัดเจนว่าต้องการขอเข้าพบเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว วิธีการทำงานที่ทำให้เกิดความสำเร็จในการบริหารโรงแรมที่มีสาขานับร้อยทั่วโลก รวมถึงล้วงลึกที่มาของความรักกับภรรยาสาวที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์หมาดๆ กับลูกสาวคุณหนูตระกูลดังด้วย

            ความจริงแล้วอัลเฟรโด้มองว่าการอนุญาตให้กราเซียแมกกาซีนสัมภาษณ์ ก็จะเป็นวิธีหนึ่งในการประชาสัมพันธ์โรงแรมให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงกิจการอื่นในเครือของตระกูลรอสเซลลินีที่พี่น้องคนอื่นดูแล ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ค่อยชอบเปิดตัวกับสื่อมวลชนในที่สาธารณะสักเท่าไร แต่โลกในปัจจุบันก็จำเป็นต้องมีบ้างเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย

            ปัญหาติดอยู่ตรงที่ว่ากราเซียแมกกาซีนโดยการสัมภาษณ์ของซาร่า คอลัมภ์นิสต์สาวผู้ได้ฉายาว่า จอมล้วงลูก นั้น ต้องการจะรู้เรื่องเกี่ยวกับอัลเฟรโด้และโซเฟียซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และนี่คือเหตุผลสำคัญของการปฏิเสธที่จะให้หญิงสาวได้เข้าพบท่านประธานหนุ่มนั่นเอง

            "ฉันใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น คุณรู้ไหมว่าใครๆ ก็อยากรู้จักทายาทของรอสเซลลินีกันทั้งนั้น"

            "ข้อนี้ผมไม่เถียงและขอบคุณที่คุณเสียสละเวลามาสนใจเจ้านายของผม แต่ว่าคุณอัลเฟรโด้ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้จริงๆ"

            "หมายความว่าถ้าฉันรอได้ เจ้านายคุณก็จะสละเวลาให้ฉันใช่ไหมคะ" ซาร่ายิ้มออกมาได้ นานแค่ไหนใช้เวลากี่วันเธอก็รอเพราะสิ่งที่จะได้กลับไปมันคุ้มค่ากับการเสียเวลาในครั้งนี้

            "ก็อาจจะ" คริสเตียนตอบไม่เต็มเสียงนัก

            เขาไม่รู้ว่าอัลเฟรโด้จะทำอย่างไรเรื่องปัญหาของโซเฟียที่หายตัวไป และไหนจะเรื่องครองขวัญอีก คริสเตียนดูออกว่าเจ้านายของตนมีความพึงพอใจในตัวสาวน้อยคนนี้มากแค่ไหน และสุดจะเดาได้ว่าปัญหาทางออกเรื่องผู้หญิงของนายจะลงเอยแบบไหนกัน

            "เอาล่ะ ฉันจะรอ" ท่าทางของซาร่าดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย เธอเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรออกมาหนึ่งใบแล้วยื่นส่งให้กับผู้ช่วยหนุ่ม

            "ติดต่อฉันได้ทุกเมื่อยี่สิบสี่ชั่วโมงนะคะ แค่คุณอัลเฟรโด้บอกว่าพร้อมตอนไหน ฉันก็จะรีบมาให้เร็วที่สุด อ้อ ฉันพักอยู่เกสต์เฮ้าส์ใกล้ๆ นี้เอง คงใช้เวลาเดินทางไม่เกินสิบนาทีได้"

            "ครับ" ผู้ช่วยคนเก่งรับนามบัตรมาถือไว้

            "ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยหน่อยค่ะ"

            "เรื่องอะไรครับ" คริสเตียนเงยหน้าขึ้นสบตามถามด้วยความแปลกใจ

            "คือ ฉันอยากให้คุณช่วยหาจังหวะเวลาหรือว่าโอกาสที่จะได้พบคุณอัลเฟรโด้ให้เร็วที่สุด เรื่องเอ่อ ค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ทางเรามีให้คุณอย่างแน่นอนค่ะ"

            "คุณติดสินบนผมงั้นเหรอ" สีหน้าชายหนุ่มเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

            เขาเป็นพนักงานคนหนึ่งของแกรนด์รอสเซล ได้รับความไว้วางใจให้อยู่ใกล้ชิดและได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ความรักความภักดีที่มีต่อทุกคนในตระกูลรอสเซลลินีเรียกว่าสามารถเอาชีวิตเข้าแลกได้ โดยเฉพาะกับอัลเฟรโด้ที่ไม่เพียงให้ชีวิตที่ดีกับคริสเตียนคนเดียวเท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ไปถึงบิดามารดาและคนอื่นในครอบครัวที่ขัดสนหรือติดขัดในเรื่องต่างๆ

            คริสเตียนไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนน้ำใจที่เจ้านายหนุ่มหยิบยื่นให้ นอกจากการทำงานด้วยความตั้งใจอย่างสุดกำลัง และการจงรักภักดีปกป้องหรือแลกด้วยชีวิตก็สามารถทำได้อย่างไม่เสียดายสักนิด

            และทีแรกเขาก็คิดว่าจะหาทางช่วยให้ซาร่าได้เข้าพบเจ้านายหนุ่ม หากว่าปัญหาทุกอย่างลงตัวเรียบร้อย เพราะเข้าใจว่างานนี้สำคัญกับหญิงสาวมากแค่ไหน ทว่า น้ำใจหรือการช่วยเหลือไม่ได้จำเป็นที่จะต้องแลกมาด้วยเงินทองอย่างเดียว เจ้าหล่อนตีค่าและประเมินคนอย่างคริสเตียนผิดไป ดังนั้นผู้ช่วยหนุ่มจึงคิดจะสอนให้อีกฝ่ายรู้บ้างว่า เงินทองไม่อาจใช้เป็นใบเบิกทางในสิ่งที่ต้องการได้ทุกอย่าง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือหมั่นไส้คนที่ชอบใช้อำนาจเงินดูแคลนน้ำใจคนอื่นนั่นเอง

            "อย่าเรียกแบบนั้นซิคะ เรียกว่ามีน้ำใจให้กันดีกว่า" ซาร่ายิ้มหวานขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วพูดต่อไปว่า

            "คุณคงงานยุ่งไม่แพ้เจ้านายของคุณ ดังนั้นฉันจึงอยากตอบแทนคุณบ้างค่ะ" มือของคอลัมภ์นิสต์สาวเอื้อมมาจับสูทของชายหนุ่มให้เข้าที่

            "ขอบคุณนะคะ ถ้าฉันได้สัมภาษณ์คุณอัลเฟรโด้ล่ะก็ จะไม่ลืมพระคุณคุณเลย" ว่าแล้วเธอก็ส่งยิ้มหวานอีกครั้งแล้วก้าวเดินจากไป

            "คุณจะตอบแทนน้ำใจผมอย่างไร ถ้าผมทำให้คุณได้พบคุณอัลเฟรโด้" คริสเตียนเอ่ยเสียงเรียบ

            "คุณอยากได้อะไรฉันให้ได้หมด พูดจริงหรือพูดเล่นคะ แล้วเมื่อไรที่ฉันจะได้สัมภาษณ์" สีหน้าคนฟังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

            "แล้วคุณจะเอาอะไรมาแลกเป็นค่าตอบแทนครั้งนี้ล่ะ" ผู้ช่วยหนุ่มเดินเข้ามาหาสาวน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาของคริสเตียนจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของคอลัมภ์นิสต์สาวไม่วางตา

            "ฉันจ่ายให้คุณหนึ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดพิมพ์แมกกาซีนฉบับนั้น อ้อ แล้วจะแบ่งให้อีกครึ่งหนึ่งเมื่อโบนัสออก" ซาร่าคำนวนคร่าวๆ แล้วยอดเงินที่คริสเตียนจะได้ไปก็ไม่ใช่น้อย เธอทุ่มทุนขนาดนี้เขาไม่เอาก็บ้าแล้ว

            "น้อยไป" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงดังฟังชัด

            "อะไร น้อยไปเหรอ" หญิงสาวถามซ้ำกลับไปทันที เข้าใจว่าตนเองฟังผิดแต่ก็ต้องตกใจเมื่อคริสเตียนพยักหน้ารับว่าพูดเช่นนั้นจริง

            "คุณจะบ้าหรือไง ฉันใจดีแบ่งโบนัสให้คุณตั้งครึ่งหนึ่งเชียวนะ แล้วรู้ไหมว่าถ้าบทสัมภาษณ์เจ้านายคุณออกไป ยอดพิมพ์ในเดือนนั้นจะมากกว่าปกติที่เราพิมพ์ขายถึงห้าเท่า คุณอาจจะได้มากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนด้วยซ้ำ"

            "ผมไม่สน ข้อเสนอของคุณน้อยไป สำหรับการที่ผมจะกล่อมหรือเอาเวลาว่างของเจ้านายมาให้คุณพบ" คริสเตียนยักไหล่เบาๆ ทำเหมือนไม่สนใจในข้อเสนอนี้

            "คนบ้า คุณนี่มันหน้าเลือดชัดๆ สรุปจะเอาเท่าไรว่ามา" ซาร่าประชดในที และเข้าใจว่าการเจรจาที่แท้จริงได้เริ่มขึ้นแล้ว เงินคือใบเบิกทางได้ทุกสิ่งจริงๆ

            "คุณไปคิดมาใหม่แล้วค่อยบอกผมก็ยังไม่สาย แต่ผมไม่ชอบต่อรองอะไรซ้ำซาก ถ้าข้อเสนอคราวหน้าของคุณไม่น่าสนใจอีก ผมก็จะตัดกราเซียแมกกาซีนทิ้งไปและเปิดโอกาสให้ที่อื่นแทน"

            "ว่าไงนะ มีที่อื่นมาติดต่อขอสัมภาษณ์อีกเหรอ" ซาร่าตกใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่ามีคู่แข่งในวงการเดียวกับเธอมาติดต่อในลักษณะเช่นนี้

            "ก็มีตลอด คุณพูดเองไม่ใช่เหรอใครๆ ก็อยากรู้จักครอบครัวเจ้านายผม" คริสเตียนพูดข่ม

            ความจริงแล้วเรื่องการขอสัมภาษณ์มีมาเป็นระยะไม่เคยขาด แต่อัลเฟรโด้ไม่ค่อยชอบให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวมากนัก คริสเตียนจึงปฏิเสธแทนไปทุกครั้ง หรือแม้แต่พี่น้องคนอื่นในครอบครัวก็เช่นกัน ต่างฝ่ายต่างก็มีอาณาเขตพื้นที่ความเป็นส่วนตัวของตัวเองกันทั้งนั้น และทุกคนเคารพในการตัดสินใจของกันและกันเสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเห็นภาพพี่น้องครอบครัวนี้ทะเลาะขัดแย้งใดๆ แม้แต่สักครั้งเดียว

            ในทางตรงกันข้าม ถึงแม้ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย แต่เมื่อไรที่พี่น้องเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือ ไม่มีสักครั้งที่ใครจะทิ้งใครให้เดียวดาย เรื่องการหายตัวไปของโซเฟียในงานวิวาห์ อาจถือเป็นเรื่องเดียวหรือแรกในชีวิตของอัลเฟรโด้ด้วยซ้ำที่ปกปิดไม่ให้ใครรู้กระทั่งมารดาบังเกิดเกล้า

            "ใช่ แต่คุณก็ต้องเข้าใจนะ ฉันเป็นพนักงานกินเงินเดือนเหมือนคุณ แล้วจะให้ฉันเอาเงินมากมายแค่ไหนมาให้คุณได้ หนึ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดพิมพ์เนี่ย ฉันเพิ่งจะขออนุมัติจากเจ้านายเมื่อวานนี้เองนะ" ซาร่าพูดด้วยความเหนื่อยใจ

            เพราะผิดหวังจากการขอเข้าพบคราวที่แล้ว ทำให้เธอต้องคิดหาวิธีที่จะย่นย่อหรือซิกแซกให้งานนี้สำเร็จ เงินเป็นปัจจัยหนึ่งที่เตรียมไว้และกว่าจะขอร้องให้เจ้านายยอมจ่ายหนึ่งเปอร์เซ็นต์นี้ ซาร่าก็ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อให้ดูว่ามันมีประโยชน์แค่ไหนในการจ่ายเงินก้อนนี้

            "นั่นมันเรื่องของคุณ แต่เรื่องของผมคือสิ่งที่ผมพอใจ"

            "งั้นฉันขอต่อรองหน่อย คุณอย่าใจดำนักเลยได้ไหมคะ" ซาร่าทำเสียงหวานพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ หวังใช้รอยยิ้มนี้ลดความใจแข็งของอีกฝ่าย

            "นะคะ ช่วยฉันหน่อย ถ้าทำงานนี้สำเร็จฉันได้โบนัสก้อนโตแน่ และฉันก็จะแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง หรือถ้าคุณจะเอาหมดก็ได้นะ"

            "ผมไม่สนใจเรื่องนี้ แล้วก็ไม่มีเวลามาต่อรองอะไรกับคุณอีก ขอตัวก่อนนะ ผมต้องรีบไปทำงาน" คริสเตียนทำเป็นไม่สนใจ

            "เดี๋ยวค่ะ" คอลัมภ์นิสต์สาวรีบห้ามเขาไว้

            "แล้วอะไรที่จะทำให้คุณพอใจ หรือคุณต้องการอะไรแน่คะ บอกฉันมาตรงๆ เลยได้ไหม"

            "อะไรดีล่ะ" ชายหนุ่มยังเล่นตัวอยู่

            "พูดมาเลยค่ะ ฉันจะได้รู้ว่าสามารถหามาให้คุณได้ไหม" ซาร่ารอฟังอย่างตั้งใจ

            "คุณบอกว่างานนี้ทุ่มสุดตัวใช่ไหม งั้นแสดงให้ผมเห็นหน่อยซิว่าทุ่มสุดตัวของคุณ ผมจะได้อะไรเป็นค่าตอบแทนที่ไม่ใช่แค่เงิน"

            ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าว เลือดในกายร้อนรุ่มขึ้นมาทันตาเห็น สายตาของคริสเตียนที่จ้องมองอย่างดูถูก ทำให้ซาร่าแทบอยากจะควักลูกตาคู่นั้นออกมาให้หายแค้น เขากล้าดีอย่างไรถึงกล้าใช้การต่อรองเช่นนี้กับเธอ

            "คุณมันเลวที่สุด ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ไอ้คนโรคจิต ไอ้บ้ากาม ไอ้..."

            คริสเตียนหัวเราะด้วยความสะใจเมื่อเห็นท่าทีเดือดดาลของอีกฝ่าย ยิ่งเห็นซาร่าโกรธจนหน้าแดงแล้วแดงอีกมากเท่าไร เขาก็ยิ่งสะใจมากขึ้นเท่านั้น และพอใจที่ได้สั่งสอนให้รู้เสียบ้างว่าเงินไม่ได้ซื้อคนอย่างตนได้

            "ว่าไง ยังอยากทุ่มสุดตัวอีกไหม"

            "คนเลว คุณมันเลวที่สุด ดูถูกผู้หญิงเห็นผู้หญิงเป็นที่ระบายความต้องการของตัวเอง เลว เลวที่สุด" สารพัดคำด่าที่ซาร่าจะนึกออกและพรั่งพรูออกมาต่อว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

            "รู้ไว้นะ เงินไม่ได้ซื้อทุกคนได้เสมอไป และคนอย่างผมถ้าอยากจะช่วยใครแล้วล่ะก็ ไม่ต้องให้อะไรทั้งนั้นแค่รู้จักรอและให้เกียรติคนอื่นบ้าง ผมก็ยินดีจะช่วยให้สำเร็จอยู่แล้ว" พูดจบคริสเตียนก็เดินจากไปทันที

            "คนบ้า มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ" ซาร่าไม่ยอมหยุดรีบวิ่งไปขวางเขาไว้อีกครา

            "คนอย่างฉันก็ไม่ได้คิดจะขอความช่วยเหลือใครฟรีๆ เหมือนกัน และใช่ว่าทุกคนนะที่ฉันจะขอให้ช่วย ดังนั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมากล่าวหาหรือใช้คำพูดไม่ดีกับฉัน ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้"

            "ผมไม่จำเป็นต้องขอโทษ" คริสเตียนเอ่ยเพียงสั้นๆ แล้วก้าวเดินต่อ

            "คุณต้องขอโทษฉัน เดี๋ยวนี้" ซาร่าโมโหจนลืมตัวเผลอออกคำสั่ง

            เสียงตะโกนลั่นของหญิงสาวทำให้คริสเตียนรู้สึกเสียหน้า เพราะคนที่อยู่ในบริเวณนั้นหันมามองเป็นตาเดียว ในขณะที่ซาร่ายังไม่เลิกที่จะราวีเขา

            "ผมไม่จำเป็นต้องขอโทษ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด" คริสเตียนเร่งฝีเท้าเดินหนี

            "คุณใช้คำพูดและสีหน้าดูถูกฉัน คุณต้องขอโทษ"

            "ผมไม่ขอโทษ" เขาย้ำคำเดิมหนักแน่น

            "คุณไม่ขอโทษเพราะไม่กล้าใช่ไหม ไม่เป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด" ซาร่าต่อว่าเขาอีกครั้ง

            คำพูดประโยคนี้ทำให้คริสเตียนถึงกับทนไม่ไหว หลุดความดุร้ายป่าเถื่อนที่พยายามอดทนต่อซาร่ามาพักใหญ่ กระทำในสิ่งที่ตอกย้ำว่าเขาเป็นลูกผู้ชายจริงหรือไม่

            ผู้ช่วยคนเก่งกระชากคนปากดีเข้ามาแนบตัวอย่างรวดเร็ว แล้วก้มลงใช้ริมฝีปากแนบประกบเรียวปากเล็กที่พูดจาไม่น่ารักในทันที คริสเตียนจูบสั่งสอนซาร่าด้วยความโมโหบดขยี้ริมฝีปากนั้นด้วยความดุดัน

            ซาร่าทั้งโกรธทั้งตกใจที่ถูกคริสเตียนกระทำเช่นนี้ เขาสั่งสอนด้วยจูบที่รุนแรงและไล่กวาดต้อนด้วยปลายลิ้นให้เธอยอมสยม แต่คนอย่างซาร่าไม่ยอมให้ใครมาบังคับกันง่ายๆ จึงตอบโต้กลับทั้งที่ไม่รู้ว่า มันคือการกระตุ้นให้อีกฝ่ายยิ่งต้องการเอาชนะ

            ต่างคนต่างรุกไล่ ต่างคนต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จูบที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนเริ่มถอยแรงลงกลายเป็นความสมาน คริสเตียนดันร่างเล็กเข้าไปแนบกำแพงที่มีพุ่มไม้บังตัวทั้งคู่ไว้ สมองลืมเลือนหน้าที่ที่ต้องกลับไปทำ ขอใช้เวลาปราบคนอวดดีให้ยอมศิโรราบเสียก่อน

            ถ้าซาร่าสู้ต่อไปคงต้องแพ้แน่ เพราะยิ่งรุกไล่กลับก็ยิ่งถูกเขากวาดต้อน เวลานี้เธอสูญเสียความเป็นตัวเองไปเกือบครึ่ง เพราะพ่อเจ้าประคุณเปลี่ยนกระบวนท่าจากที่รุกไล่มาเป็นเชื้อเชิญให้ยินดี จากแรงโทสะกลายเป็นแรงอ่อนหวาน จากแรงอ่อนหวานกลายเป็นอ่อนโยนและถนอม ในที่สุดสาวปากดีก็กลายเป็นลูกแมวน่ารักให้คริสเตียนลูบไล้ได้อย่างเชื่องๆ

            "คนฉวยโอกาส" ซาร่าเงื้อมมือจะตบหน้าคนที่เพิ่งถอนจูบไปไม่ถึงนาที แต่คริสเตียนไวกว่าคว้าข้อมือนั้นไวพร้อมกับขู่ว่า

            "คุณก็ฉวยโอกาสไม่แพ้ผมหรอกน่า เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงคุณครางลั่นหูเลย ผมว่าคุณชอบมากกว่าที่จะเกลียดมันนะ" คริสเตียนเย้าอย่างอารมณ์ดี

            "คนบ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ" หญิงสาวหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นสายตาที่รู้ทันอารมณ์ของตนเอง

            "ผมต้องไปแล้ว ลองคิดดูนะว่าข้อเรียกร้องของผม คุณยอมทุ่มสุดตัวหรือเปล่า" ผู้ช่วยหนุ่มส่งยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินฮัมเพลงจากไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้ซาร่าทั้งโกรธทั้งอายและวาบหวามหัวใจต่อไปเพียงลำพัง

     

     

     

              ฝากเพจนักเขียนค่ะ ยิปซี อิ่มอุ่น

              ทักทายพูดคุยกันนะคะ เป็นกำลังใจให้กันค่ะ

              ฝากลิงค์อีบุ๊คนะคะ

             

    Thumbnail Seller Link
    คำสั่งรักมาเฟียร้าย
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
    เขาไม่ดุหรือโหดเหี้ยมเฉกเช่นมาเฟียคนอื่น คำสั่งต้องเป็นคำสั่งและไม่มีคำว่าผิดพลาด แต่กับเธอคำสั่งไหนก็ไม่สำคัญเท่าคำสั่งหัวใจ สั่งให้รักทำไมไม่รักแล...
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    ซาตานทวงรัก
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
    ไม่มีใครรู้หรอกว่า “ความหวง” รุนแรงแค่ไหน “ความห่วง” คือทุกข์ที่เผาใจให้อยู่ไม่เป็นสุข “ความห่าง” คือความทรมาน...
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    ทัณฑ์ร้ายลวงรัก
    อิ่มอุ่น
    www.mebmarket.com
    “ฉันดูแลตัวเองได้ คุณไม่ต้องยุ่งกับฉันหรอก แล้วฉันก็ไม่ตายง่ายๆ แน่” เธอเชิดหน้าเล็กน้อยรู้สึกสะอึกในอกอย่างไรก็ไม่รู้“ก็ดี รอในนี...
    Get it now
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×