คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ผัวคิดชั่ว
ตอนที่ 21 ผัวคิดชั่ว
บรรยากาศกำลังมาคุ ว่านหลงเงยหน้ามองคนที่ทำร้ายตนด้วยความโกรธที่มีคนมาหยามตนถึงที่ แต่พอเขาเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นใคร ก็กลายร่างเป็นหมาหงอยทันที
เมื่อไม่ถึงหนึ่งเค่อที่แล้ว มนตรามาถึงจวนของเขาก่อนเวลานัดหมาย นางยังพูดกับบิดาอยู่เลยว่าจวนของเขางามสง่า สมแล้วที่เป็นถึงใต้เท้าที่อายุน้อยที่สุดในเมืองหลิงหลง
มนตราให้คนจอดรถม้าหน้าประตูจวน เธออยากเดินชมสวนระหว่างทางไปยังห้องรับแขกเสียหน่อยว่า จะงดงามเหมือนในซีรีส์ย้อนยุคที่เคยดูหรือไม่
อี้เทียนขอแยกตัวไปเยี่ยมสหายอีกคนที่อยู่บ้านใกล้กัน ปล่อยให้คนหนุ่มสาวคุยกันจะให้คนแก่เช่นเขานั่งเป็นก้างขวางคอได้อย่างไร
ก๊อก ๆ ๆ
มือเล็กของฉินฉินเคาะประตูจวนบานใหญ่ ไม่นานก็มีชายชราวิ่งเหงื่อเต็มหน้ามาต้อนรับแขก
"ไม่ทราบว่าท่านมีธุระอะไรหรือขอรับ"
"ท่านลุงช่วยไปบอกว่านหลงทีว่าสหายของเขามาถึงแล้ว"
พ่อบ้านชราได้รับคำสั่งจากเจ้าของจวนแล้วว่า หากมีสตรีมาขอพบเขาให้นำทางไปยังห้องโถงรับรอง อย่าขวางทางและห้ามทำให้นางไม่พอใจเด็ดขาด
พ่อบ้านชราคิดหนัก เพราะในห้องโถงใหญ่บรรดาเจ้านายของจวนยังมีปากเสียงกันอยู่ จะให้แขกคนสำคัญของนายท่านเข้าไปตอนนี้ได้อย่างไร
มนตราเห็นพ่อบ้านดูร้อนรนแปลก ๆ เธอมองผ่านไปทางด้านหลังเขา เห็นสาวใช้พากันซุบซิบอะไรบางอย่างก่อนจะจับมือกันเดินไปยังทิศทางเดียวกัน
"ว่านหลงมีเรื่องกับใครหรือ ไม่ได้การเสียแล้วข้าต้องไปดูให้เห็นกับตา"
ด้วยความอยากรู้มนตราจึงขอเสียมารยาทไม่รอให้พ่อบ้านเชิญตนเองเข้าไป เธอถือวิสาสะเดินตามหลังสาวใช้กลุ่มนั้นไปทันที
สาวใช้เดินเร็วมากจนเธอต้องถกชุดกระโปรงวิ่งตาม ตอนนี้ไม่มีเวลาสนใจชมนกชมไม้อีกต่อไป
วิ่งมาได้สักพักมนตราก็เห็นคนมากมายยืนมุงดูเรื่องสนุก มีหญิงสาวแต่งตัวสีสันสดใสแอบปิดปากหัวเราะ แว่ว ๆ ได้ยินเสียงสหายของเธอดังออกมาด้านนอก เหมือนเขากำลังตำหนิใครบางคนอยู่
มนตราตั้งสติพยายามฟังว่าสหายของตนกำลังพูดถึงอะไร แต่ด้วยความที่เธอวิ่งเร็วเกินไปทำให้หยุดฝีเท้ากะทันหันไม่ได้ บวกกับนางเหลือบไปเห็นหญิงสาวหน้าตางดงามดุจเทพธิดากำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้น โดยมีสหายของตนยืนชี้นิ้วด่าอยู่
เธอรู้สึกไม่พอใจที่เขาทำเช่นนั้นกับสตรีที่อ่อนแอกว่า จึงใช้แผ่นหลังของเขาเป็นที่ลงจอดบาทาชั่วคราว
....
ตัดภาพกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน
"ท่านลุงข้านำไก่ขอทานมาฝากเจ้าบ้านั่น ท่านช่วยเอาไปเก็บให้ที ส่วนพวกเจ้าจะยืนดูเจ้านายคุยกันอีกนานหรือไม่ งานการไม่ทำกันแล้วหรือ"
มนตราส่งตะกร้าให้พ่อบ้านที่วิ่งตามหลังมา แล้วหันไปตวาดบรรดาบ่าวไพร่ที่กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่
อนุจางภรรยาของใต้เท้าฉู่นึกไม่ชอบใจ ที่มีหญิงสาวชาวบ้านหน้าตาขี้เหร่มาแสดงอำนาจบาดใหญ่ใส่สามีของตน นางจึงรีบเถียงกลับทันที
"เจ้าเป็นใคร! กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายสามีของพวกข้า เจ้ามีสิทธิ์หรือ"
มนตราปรายตามองหญิงสาวที่ประทินโฉมด้วยแป้งผิดเบอร์จนหน้าขาววอก พวกนางใช้ถ่านเหลาเป็นแท่งเขียนคิ้วให้เรียวดุจคันศร ยอมโกนขนคิ้วของตนออกเกลี้ยงเพื่อความสวยงาม ไหนจะทาปากแดงแก้มแดงเป็นตูดลิงอีก อย่างนี้หรือที่เรียกว่าสวย
"ว่านหลงข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะชอบอะไรแบบนี้ พวกนางแต่งตัวอย่างกับจะไปเล่นละครงิ้วที่ไหน ชุดที่พวกนางใส่ข้าคิดว่ากำลังเห็นนกแก้วยืนรอแม่ป้อนหนอนเข้าปากเสียอีก..เจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ”
ว่านหลงมีท่าทีอ่อนลงทันที เขาโดนสหายคนใหม่ดุเช่นนี้อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องกลัวนางขนาดนี้ด้วย
หยางมี่ค่อย ๆ ประคองสามีของตนให้ลุกขึ้นยืน นางประคบประหงมเหมือนเขาเป็นเด็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองมาทางฉินฉินน้ำตาคลอเบ้า
ท่านพี่จะรับสตรีเช่นนี้มาเป็นฮูหยินรองหรือ เห็นกิริยาเช่นนี้ของนางแล้ว ตัวนางเองคงจะถูกบรรดาภรรยาของสามีรักแกอีกแล้วใช่หรือไม่
อึก...ฉินฉินรู้เหมือนหัวใจถูกบีบ..
เธอชอบผู้ชายกล้ามบึกแต่แพ้ให้กับน้ำตาคนสวย ดูนางสิตัวสั่นเป็นลูกนกเชียว เธอต้องออกปากช่วยเสียแล้ว..เจ้าว่านหลงตาถั่วจริง ๆ มีของดีอยู่ในมือไม่รู้จักทะนุถนอม มัวหลงแต่กับเหล่านกแก้วพวกนี้หัวปักหัวปำ
"ฮูหยินข้าชื่อฉินฉินเป็นสหายของสามีท่าน เมื่อกลางวันเขาชวนข้ามาเที่ยวที่จวนของพวกท่าน ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอเรื่องสนุกเช่นนี้ ท่านดูสิเหล่าอนุภรรยาดูอยู่ดีกินดีมากเหลือเกิน แต่ดูท่านเรียบง่ายเกินไปแล้ว เช่นนี้สามีจะเบื่อเอาง่าย ๆ นะรู้หรือไม่"
ร่างเล็กของฉินฉินเดินไปประคองภรรยาของสหายที่ดูโตกว่าเธอยิ่งนัก ประคองร่างบอบบางให้นั่งลงก่อนจะส่งสายตาสั่งให้สหายเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม
ว่านหลงไม่มีทางเลือก จะให้เขาไปแย่งที่นั่งสตรีได้อย่างไร อีกทั้งนางยังเป็นสหายที่ตนกลัว..เอ๊ย! นับถือที่สุดอีกด้วย
แท้จริงแล้วมนตราไม่อยากแสดงอำนาจบาดใหญ่ในถิ่นของผู้อื่นหรอก ทว่าหากเธอไม่ทำเหล่าอนุภรรยาของสหายจะคิดว่าเธอเป็นคนหัวอ่อนเหมือนฮูหยินใหญ่ของจวนนี้
มนตราถือวิสาสะไล่สาวใช้ออกไปให้หมด เหลือไว้เพียงคนเดียวให้คอยช่วยรินชาให้เหล่าเจ้านายที่พากันเป็นง่อย
เหล่าอนุภรรยาไม่ยอมกลับเรือนของตน พากันหาที่นั่งข้าง ๆ สามีคอยป้อนผลไม้เอาอกเอาใจเขา โดยไม่เกรงใจภรรยาตัวจริงเอาเสียเลย
มนตราเห็นทุกอย่างและรู้สึกว่าหญิงสาวที่นั่งข้างกายตนกำลังตัวสั่น จึงก้มไปป้องมือกระซิบข้างหูนาง
"ท่านวางใจได้ ข้าไม่ได้ชอบสามีของท่านหรอก อย่างที่เคยบอกไปข้ากับเขาเป็นเพียงสหายกันเท่านั้น ข้าชื่อฉินฉินขอเป็นเพื่อนกับท่านอีกคนได้หรือไม่เจ้าคะ"
หยางมี่สีหน้าดีขึ้น นางหันมาส่งยิ้มให้สหายสามี
มนตรานึกอยากจะดึงตัวหญิงสาวตรงหน้ามากอดเสียเหลือเกิน นางน่ารักเกินไปแล้ว หากสลับตัวกันได้ละก็ สามีคิดชั่วเช่นนี้ต้องโดนตบหลังอาหารสามมื้อให้หลาบจำ จะได้ไม่กล้าออกนอกลู่นอกทาง
"ว่าอย่างไร..ท่านอยากเป็นสหายกับข้าหรือไม่ ข้าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง อาจจะดูเหมือนหมาแหงนหน้ามองนก แต่ข้าอยากเป็นเพื่อนกับท่านจริง ๆ นะ"
หยางมี่จับมือเล็กของฉินฉินเอาไว้ แล้วก้มหน้าตอบเสียงเบา..
"ข้ายินดี สหายของท่านพี่ก็เปรียบเสมือนสหายของข้าเช่นกัน"
มนตราตบหลังมือหยางมี่เบา ๆ อย่างยินดี
"ข้าอยากเดินชมรอบ ๆ จวนของท่านเสียหน่อย ไม่ทราบว่าท่านพอจะช่วยเป็นคนนำทางให้ได้หรือไม่เจ้าคะ"
ว่านหลงขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด ตั้งแต่ฉินฉินมาถึงนางไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เอาแต่พูดกับภรรยาของเขาอยู่ได้ ชายหนุ่มกระแอมไอส่งเสียงดุภรรยาตนอีกครั้ง
"เจ้าไปเตรียมสำรับต้อนรับแขกเสีย ข้าจะพานางเดินชมจวนเอง"
มนตราเห็นหยางมี่สะดุ้งตกใจ ก็รู้สึกเกลียดขี้หน้าชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามขึ้นมาทันควัน จึงหันไปพูดกับเขาเสียงเย็น
"เจ้าหุบปากซะ! มีสามีที่ไหนกดขี่ภรรยา ด้อยค่านางต่ำต้อยยิ่งกว่าบ่าวในเรือนเช่นนี้ ดูเจ้าสิเป็นบุรุษเสียเปล่าเรื่องพื้นฐานง่าย ๆ ยังไม่รู้อีกหรือ ให้อนุภรรยามานั่งตักป้อนผลไม้ต่อหน้าฮูหยินเอกเช่นนี้ เจ้าคิดว่านางไม่มีศักดิ์ศรีหรืออย่างไร สู่ขอลูกเขาแต่งเข้าเรือนมาแล้วยังดูแลได้ไม่ดีอีก ไม่คิดหรือหากบิดามารดานางมาเห็นลูกสาวของตนถูกสามีกดขี่ข่มเหงเช่นนี้จะรู้สึกอย่างไร”
“ข้าไม่อยากเป็นสหายกับเจ้าแล้ว! เราตัดขาดกันเถิด มีภรรยาเจ้าเป็นสหายคนเดียวก็พอ ไปกันเถิด อ้อ...ข้าควรเรียกท่านว่าอย่างไรดีเจ้าคะ"
"ข้าชื่อหยางมี่"
"ชื่อเพราะนักข้าชอบ..แม่นางหยางมี่ ท่านเป็นฮูหยินเอกอย่าไปยอมพวกหน้าด้านขึ้นเตียงสามีชาวบ้านสิ เราไปกันเถิดข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับท่านอีกเยอะเลย"
มนตราออกแรงดึงหยางมี่เดินออกไปด้านนอก ไม่รู้ว่านางเต็มใจหรือไม่ แต่เป็นผู้หญิงเหมือนกันคงไม่อยากเห็นสามีนัวเนียสตรีอื่นต่อหน้าหรอก
หวังว่าไอ้เจ้าเพื่อนบ้านั่นจะคิดได้บ้างนะ..ข้าเสียแรงด่าไปถึงเพียงนั้น
หยางมี่สีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวผู้มาเยือนจวนของตนครั้งแรก พบหน้ากันยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม กลับมองเห็นความทุกข์ทรมานที่นางเผชิญมาตลอดหลายปี ทั้งยังกล้าพูดออกมาต่อหน้าสามีที่นางยำเกรง
ไม่อ่อนแอเช่นนาง..นางชักอยากเป็นเหมือนสตรีผู้นี้แล้ว
มนตราเห็นมีศาลาอยู่ไม่ไกลจึงชวนสหายคนใหม่ไปนั่งพูดคุยตรงนั้น
"แม่นางหยางมี่ เราไปนั่งคุยกันที่ศาลาตรงนั้นเถิด ข้ามีเรื่องอยากถามท่านมากมายเชียว"
หยางมี่มองหญิงสาวที่ควงแขนตน นางช่างสดใสร่าเริงยิ่งนัก ไม่เหมือนกับข้าที่เป็นคนน่าเบื่อ แม้แต่สามียังไม่เหลียวแล
มนตราได้ยินคนข้างกายถอนหายใจพลางทำหน้าอมทุกข์ ก็รู้ได้ว่านางกำลังคิดมาก
"ข้าจะช่วยบอกวิธีเอาใจสามีให้ท่านเอง ส่วนพวกอนุภรรยานั้นท่านควรจะกำราบพวกนางเสียบ้าง อย่าให้พวกนางเหิมเกริมเช่นนี้ หากท่านไม่อยากเสียสามีไปต้องลุกขึ้นสู้สิ ข้าจะอยู่ข้างท่านเอง..จะให้ข้าช่วยตบพวกนางก็ได้นะ แต่ว่าขอเวลาไปเพิ่มน้ำหนักก่อน เดี๋ยวจะกลับมาจัดการพวกนางแทนท่านแบบทบต้นทบดอกทีหลังดีหรือไม่"
หยางมี่ยิ้มสดใสขึ้นมากเมื่อได้ฟังคำปลอบใจเช่นนั้น
"อืม...ข้าเชื่อใจเจ้า"
"ต้องอย่างนี้สิยิ้มเข้าไว้ ท่านรู้ตัวหรือไม่ว่าท่านเป็นคนที่งดงามมาก ผิวพรรณเปล่งปลั่งเช่นนี้ หากท่านเปลี่ยนบุคลิกให้มั่นใจขึ้นอีกนิด ไอ้บ้านั่น..เอ่อ..หมายถึงว่านหลงสามีของท่านน่ะ รับรองว่าเขาต้องลากท่านเข้าห้องทั้งคืนแน่"
หยางมี่เผลอคิดภาพตาม ใบหน้าและใบหูของนางแดงก่ำไปหมดด้วยความเขินอาย
"เจ้าพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร..พวกเราเป็นสตรีนะ"
"เอาน่า ข้าจะพาท่านออกจากกรอบเดิม ๆ เอง รับรองท่านจะชอบจนหาทางกลับไม่ถูกเชียวเล่า"
หุหุหุ..สาวน้อยรอก่อนเถิด พี่สาวคนนี้จะล้างสมองเจ้าเอง เป็นสตรีก็แข็งแกร่งได้ เหตุใดต้องยอมพวกบุรุษโง่เง่าแบบนั้นด้วยเล่า
ความคิดเห็น