คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : 4 สายตาคู่นั้น 2/6
ครั้งแรกที่เจอธตรัฐตอนที่เขาเกือบเป็นลมเพราะบริจาคเลือด
เขาโทรศัพท์ให้ใครคนหนึ่งมารับ นอกจากเรียกคนในสายว่าที่รักแล้ว ตอนหันมาบอกกับเธอ
เขายังบอกว่า ‘ยายตัวเล็ก’ จะมารับ
...หรือเขาจะเรียกทั้งแฟนและน้องสาวว่า ‘ยายตัวเล็ก’ เหมือนกัน
“บรีสขอตัวนะคะพ่อ”
คำพูดนั้นต้องการพูดกับบิดาแต่สายตากลับส่งไปยังพี่ชายอย่างงอน ๆ
“จะไปเอาชีตมาให้พี่มะลิติวให้ค่ะ”
เห็นอาการลูกสาวแสนงอนเดินสะบัดก้นขึ้นบันได
คุณธีรัฐก็อดขำไม่ได้ ธริษตรีไม่ได้เรียนเก่งถึงขั้นเข้าใกล้เกียรตินิยม
แต่ผลการเรียนก็ไม่ได้ย่ำแย่จนน่าหนักใจ สำหรับท่านแล้วลูกไม่จำเป็นต้องเรียนเก่ง
ขอแค่เป็นลูกสาวที่น่ารักสำหรับท่านก็พอ
“ตามสบายนะหนูมะลิ
ฉันขอตัวไปดูทางโน้นหน่อย” ‘ทางโน้น’ ที่ว่าคือบริษัทที่อยู่ในบริเวณเดียวกับบ้านซึ่งเดินเพียงร้อยเมตรก็ถึง
“ค่ะคุณธี”
“บอมคุยเป็นเพื่อนหนูมะลิไปก่อนนะลูก
ยายบรีสคงโอ้เอ้อยู่ข้างบนอีกสักพัก”
“ครับ” ธตรัฐตอบรับเพียงสั้น ๆ
พอพ่อออกจากบ้าน เขาก็เดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา
เมื่อคืนเขาเคลียร์เอกสารที่หอบกลับมาด้วย มองนาฬิกาบนฝาผนังอีกทีก็เลยเช้าวันใหม่สี่ชั่วโมงแล้ว
นั่นทำให้วันนี้ตื่นสายและออกไปออฟฟิศช้ากว่าปกติ แต่หากเมื่อคืนไม่นอนดึก
วันนี้ก็คงไม่รู้ว่าน้องสาวตัวดีนัดแนะมานิลามาติวกันถึงบ้าน
ยายบรีสจะมีความลับอะไรนักหนา
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
แม้แต่เสียงหายใจก็แทบไม่ได้ยิน มานิลาเหลือบมองบันไดทางขึ้นชั้นสองที่ธริษตรีเดินขึ้นไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ทว่าจนแล้วจนรอดไม่มีวี่แววว่านักเรียนของเธอจะลงมา สำหรับเธอแล้ว
ทุกวินาทีผ่านไปอย่างน่าอึดอัดเหลือเกิน
“ไม่ทำงานที่ร้านอาหารแล้วหรือ”
“ทำตอนค่ำของบางวันค่ะ”
“รายได้ดีหรือเปล่า”
“ก็...เรื่อย ๆ ค่ะ”
หญิงสาวมองคนถามขณะที่ตอบออกไป แต่ไม่นานก็ต้องหลบวูบ
สำหรับเธอแล้วสายตาเขาเหมือนพระอาทิตย์แผดแสงจ้าร้อนแรง
มองได้เพียงนิดก็ต้องเบือนหน้าหนีแสงที่ทำให้แสบตา
ธตรัฐยิ้มมุมปาก
เขาไม่รู้ว่ารายได้มานิลาจากร้านอาหารส่วนใหญ่นั้นมาจากอะไรกันแน่ ระหว่างเล่นดนตรีกับออกไปพร้อมลูกค้า
แม้ไม่อยากคิดในแง่ร้ายแต่หลาย ๆ อย่างที่ผ่านมาก็ทำให้คิดในแง่ดีไม่ได้เลย
“แต่คุณก็มาสอนพิเศษให้น้องสาวผม”
น้ำเสียงที่ถามห้วนจัดจนคนฟังสัมผัสได้
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าเขาพูดเหมือนไม่อยากให้เธอมาสอนธริษตรี ยิ่งกว่านั้นอาจรวมถึงไม่อยากให้เธอเข้ามาในบ้านหลังนี้ด้วย
“หนูสอนน้องบรีสมาหลายเดือนแล้วค่ะ”
“ปิดเทอมด้วยอย่างนั้นหรือ”
“ค่ะ”
“แม่จ้างคุณมา
หรือยายบรีสอยากให้คุณมาเอง”
มานิลาเริ่มทนไม่ไหวแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้
เธอไม่ชอบการที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ราวกับถูกกดดันด้วยทั้งกิริยาและคำถามจากเขา
บรรยากาศภายในห้องคุกรุ่นยิ่งกว่าตอนที่สอบสัมภาษณ์เพื่อชิงทุนปริญญาโทกับคนเกินครึ่งร้อยเสียอีก
สาวปินอยมั่นใจว่าไม่เคยทำอะไรให้เขาไม่พอใจ พอ ๆ
กับที่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้เย็นชาใส่นัก
เห็นแบบนี้แล้วนึกอยากย้อนเวลากลับไปวันแรกที่เจอกันเธอจำมันได้ดี
แต่เขาคงจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอคือผู้หญิงคนนั้น
“ก็...ทั้งสองอย่างค่ะ”
ธริษตรีเดินร้องเพลงลงมาจากบันได
มือทั้งสองข้างหอบหิ้วเอาอุปกรณ์ทุกอย่างลงมาด้วย ธตรัฐลุกขึ้นจากโซฟาทันที
อย่างน้อย ๆ เขาก็อยู่คุยเป็นเพื่อนมานิลาตามที่พ่อบอกแล้ว
“จะไปแล้วหรือพี่บอม”
“อืม แล้วเจอกันตอนเย็น” มือหนาตบลงเบา
ๆ บนศีรษะน้องสาวด้วยความเอ็นดู
“อย่าลืมซื้อขนมมาฝากด้วยนะ”
คนเป็นน้องตะโกนตามหลังไล่
จนพี่ชายยกมือขึ้นเป็นการบอกว่าโอเคแล้วนั่นแหละธริษตรีจึงหันกลับมาสนใจมานิลา
“วันนี้บรีสโกงเวลาไปเยอะเลย
ถ้าอย่างนั้นเริ่มเรียนกันเลยดีกว่าค่ะพี่มะลิ”
“ขยันไปไหนครับคุณเพื่อน
สองทุ่มแล้วยังไม่กลับบ้าน”
“ลมอะไรหอบมาวะ มึงถึงมาหากูที่ออฟฟิศได้”
คำถามจากเจ้าของพาวเวอร์สตีมไม่เข้าหูผู้มาใหม่เลยสักนิด
ภูธิปเอนกายลงบนโซฟาในห้องทำงานเพื่อนสนิทโดยไม่ขอและไม่รอคำอนุญาตให้เสียเวล่ำเวลา
“เอารถมาให้มึงล้าง”
ท่าทางเหนื่อยอ่อนหมดแรงของเพื่อนทำเอาธตรัฐเลิกคิ้ว
ยิ่งได้เห็นเพื่อนยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้วอันเป็นท่าประจำที่ทำเวลาเครียด
ทำให้เขามั่นใจว่าวันนี้ไอ้หมอภูธิปไม่อยู่ในโหมดปกติเป็นแน่
“เครียดอะไรวะ”
“กูจะย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพ ฯ
ทำเรื่องลาออกไปแล้วด้วย แล้วพรุ่งนี้กูคงต้องเข้าไปกรอกไปสมัครในโรง’บาลพ่อตัวเอง ถ้ามีตำแหน่งว่างก็ทำ ถ้าไม่มีตำแหน่งว่างกูได้เกาะพ่อกินก็คราวนี้”
ความคิดเห็น