ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : chapter 17 พรุ่งนี้วันอังคารแล้ว
เลื่อนลงไปอ่าน chapter 17 พรุ่งนี้วันอังคารแล้ว ได้ด้านล่างสุดเลยนะคะ ขอให้สนุกกับการอ่านค่ะ อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์และโหวตให้กำลังใจซีนด้วยนะค้า...
| ||||
| ||||
Name : NoKkii Lee Dong< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : seuljfu-13< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : ll-»✿nnaamm✿ll< My.iD > [ IP : 115.87.5.214 ] |
| ||||
| ||||
Name : `เต๋[ร่าเริงเกิงไก่]< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : tipkamild< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : ตูนตูนตูน :) [ IP : 125.25.111.59 ] |
| ||||
| ||||
Name : 13'.เต่ามิ๊จิ๊เฮ< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : Aor*haehyuk*< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : EUNHAE_KILLER< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : Rakhyukforever< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : Beta Hansell< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : 123 [ IP : 183.89.76.254 ] |
| ||||
| ||||
Name : EUNHAE_KILLER< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : pear [ IP : 182.53.86.226 ] |
| ||||
| ||||
Name : nanni122< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : EHJmylove< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : กะตังค์ คูก้า คร๊าฟ< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : NoKkii Lee Dong< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : โอ๋ค่ะ [ IP : 115.87.55.232 ] |
| ||||
| ||||
Name : rude girl< My.iD > |
| ||||
| ||||
Name : sassy_angle< My.iD > |
17
พรุ่งนี้วันอังคารแล้ว
คยูฮยอนรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขากำลังจะหลุดออกมาข้างนอก ร่างโปร่งวิ่งหนีออกมาเพราะทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นแผนที่ตัวเองอุตส่าห์วางไว้ล้มลงอย่างไม่เป็นท่า ขนแขนต่างพร้อมกันกันลุกชันเมื่อรู้ว่าโลกมันกลมได้ถึงขนาดนี้ โจ คยูฮยอนคิดไม่ออกแล้วว่าเขาต้องทำอย่างไรต่อไป
“คยูฮยอน”
เสียงเรียกเบาๆ พร้อมกับมือแกร่งเย็นเฉียบแตะเข้าที่ท่อนแขนทำเอาร่างโปร่งสะดุ้ง คยูฮยอนหันกลับไปมองบุคคลที่เรียกเขาจากด้านหลังอย่างช้าๆ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองด้วยแววตาสั่นระริก
“ซีวอน คือฉัน...”
“ผู้ชายคนนั้นคือชิม ชางมินใช่ไหม?”
คยูฮยอนพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะก้มหน้างุด เขาไม่เหลือที่พึ่งอีกแล้ว สมองของเขากำลังหยุดทำงาน แม้แต่ซีวอนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ คยูฮยอนก็หลุดปากเล่าเรื่องราวต่างๆ ของตัวเองให้ร่างสูงฟังจนหมดเปลือก
“นายเข้าใจฉันไหมซีวอน ไม่ใช่พี่ชางมินไม่ดี เพียงแต่...เขายังไม่ใช่”
ซีวอนไม่ได้ตอบคำถามนั้น เขารู้และเข้าใจความรู้สึกของคยูฮยอนเป็นอย่างดี เพราะซีวอนเองก็ทำดีกับทงเฮมาโดยตลอด แต่สุดท้ายแล้วเขาก็แพ้หัวใจที่แข็งแกร่งดั่งภูผาของทงเฮจนได้ ไม่ใช่เพราะซีวอนดีไม่พอ แต่เป็นเพราะทงเฮได้พบเจอกับคนที่ใช่สำหรับตัวเองไปแล้ว ซึ่งคนๆ นั้นไม่ใช่ซีวอน
“ผมจะช่วยคุณเอง ถึงชางมินจะเป็นเพื่อนของผมแต่ผมก็จะช่วยคุณ”
“จริงๆ น่ะเหรอ?”
คยูฮยอนคว้ามือแกร่งของซีวอนมากุมไว้อย่างลืมตัว ใบหน้าหวานฉายไปด้วยรอยยิ้มจนซีวอนเองก็ยิ้มตามออกมาเช่นกัน ทว่ารอยยิ้มกว้างของซีวอนที่คยูฮยอนไม่เคยได้เห็นมาก่อนทำให้คนที่ตัวเล็กกว่าถึงกับอึ้ง มือเรียวปล่อยมือของอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ ก่อนจะหลบสายตาอย่างไม่ตั้งใจ
เมื่อซีวอนยิ้ม คยูฮยอนรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าช็อตเข้าที่ฝ่ามือของเขา และตอนนี้กระแสไฟฟ้านั้นกำลังไหลไปตามเส้นเลือดแล้วพุ่งเข้าสู่หัวใจของคยูฮยอนอย่างห้ามไว้ไม่ทันเสียแล้ว
“ไปทานข้าวกันเถอะ ชางมินกับมินโฮรอเราอยู่”
ซีวอนเอื้อมไปกุมมือของคยูฮยอนเอาไว้ หากแต่เลขาหนุ่มกลับสะบัดออกอย่างทันทีทันใด และใบหน้าหวานก็ขึ้นสีเรื่อไปจนถึงใบหูทำเอาซีวอนยิ้มกว้างเมื่อได้เห็น
“ฉันเดินเองได้ ทำไมจะต้องมาจับมือกันด้วย”
“ก็เราต้องแสดงบทบาทคนรักกันนี่นา”
ซีวอนเถียงกลับทันควัน ก่อนจะคว้ามือบางมากุมไว้อีกรอบ คราวนี้กุมให้แน่นกว่าเดิมจนคยูฮยอนไม่อาจหนีไปไหนได้อีกแล้ว ดวงตาคู่สวยช้อนมองร่างสูงด้วยความสับสนและตื่นเต้นระคนกัน
ได้โปรดอย่ายิ้มแบบนั้นเลย...ชเว ซีวอน
หลังจากที่ทงเฮและฮยอกแจแวะซื้อน้ำยาย้อมสีผมมาจากร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้าน ทั้งคู่ก็มานั่งอยู่ที่ม้านั่งในบริเวณรั้วบ้านของทงเฮ ทงเฮจัดแจงคลุมผ้าผืนใหญ่ลงบนไหล่กว้างของฮยอกแจอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะผสมน้ำยาย้อมสีผมแล้วคนให้เข้ากันด้วยท่าทางมีความสุข ฮยอกแจมองท่าทางนั้นแล้วก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
“คิดยังไงถึงอยากเปลี่ยนสีผมให้พี่ หืม?”
ฮยอกแจเอ่ยถามคนตัวเล็กพลางมือแกร่งก็ยื่นไปลูบศีรษะกลมของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ทงเฮของเขา ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ดูน่ารักและน่าเอ็นดูเสมอ
“ก็ถ้าพี่ฮยอกแจกลับไปทำงานแล้ว พี่ฮยอกแจจะได้ไม่ลืมผมไงล่ะครับ”
คำพูดที่ไม่ทันยั้งคิดของทงเฮก่อให้เกิดความเงียบเข้าปกคลุมทั่วพื้นที่ ฮยอกแจชักมือออกแล้วเลื่อนมาจับข้อมือบางของทงเฮเอาไว้ ดวงตาคู่โตเหลือบมองฮยอกแจเป็นเชิงถาม เสียงทุ้มจึงดังขึ้นท่ามกลางความเศร้าและหดหู่
“ถ้างั้นก็ไม่ต้องเปลี่ยนสีผมให้พี่หรอก เพราะไม่ว่าพี่จะไปอยู่ที่ไหน พี่ก็ไม่มีทางลืมทงเฮ”
“พี่ฮยอกแจอย่าทำเสียงเศร้าแบบนั้นสิครับ ผมแค่ล้อเล่นเอง”
ทงเฮแสร้งยิ้มออกมา ก่อนจะดันมือของฮยอกแจออกแล้วรีบคนน้ำยาย้อมสีผมให้เข้ากันด้วยความรวดเร็ว เขาไม่น่าพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเลย ฮยอกแจอาจจะไม่เจ็บมากนัก เพราะเมื่อกลับไปอยู่โซลแล้วฮยอกแจก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ มีผู้คนอีกมากมายให้ต้องพบเจอ แต่ทงเฮกลับไม่มีใครเลย ถ้าฮยอกแจกลับไป ทงเฮคงจะเสียใจมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกเช่นนั้น หากแต่อี ทงเฮกลับไม่กล้าที่จะเอ่ยรั้งคนที่เขารักออกไปแม้แต่คำเดียว
“ผมแค่อยากเห็นพี่ฮยอกแจทำสีผมเข้มๆ ดูบ้างน่ะครับ พี่ฮยอกแจจะต้องดูดีขึ้นแน่ๆ”
“ถ้ามันทำให้ทงเฮหลงพี่มากขึ้น พี่ก็ยอม...”
ฮยอกแจพูดแซวจบก็เขินกับคำพูดนั้นเสียเอง เขารู้สึกถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆ ที่ปกติก็ชอบพูดแซวคนนู้นคนนี้มากมาย แต่ไม่เคยออกอาการเขินอายแบบนี้เลยสักครั้ง ทำไมทงเฮถึงมีอิทธิพลต่อหัวใจของเขาได้มากขนาดนี้นะ
ทงเฮไม่มัวรอให้เวลามันผ่านไปเปล่าๆ ร่างบางรีบลงสีผมให้ฮยอกแจทีละนิด ตั้งแต่โคนผมไล่ลงมายังปลายผม ดึงผมออกมาทีละช่อก่อนจะใช้แปรงพลาสติกจุ่มน้ำยาย้อมสีผมแล้วหวีลงบนเส้นผมของฮยอกแจด้วยความตั้งใจ จนกระทั่งทั้งศีรษะของฮยอกแจมีแต่น้ำยาย้อมสีผมติดอยู่
“พักไว้สักยี่สิบนาทีนะครับ”
ทงเฮวางถ้วยน้ำยาย้อมสีผมลงข้างๆ ม้านั่ง ก่อนจะหันมาจ้องใบหน้าคมของฮยอกแจอย่างไม่วางตา ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ไล่มองที่หน้าผากของฮยอกแจลงมายังแก้มและคาง ก่อนจะค่อยเอื้อมมือไปเช็ดน้ำยาที่เปื้อนอยู่บริเวณไรผม ฮยอกแจจ้องมองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายกลับไปบ้างแล้วเลื่อนมือแกร่งไปยั้งมือของทงเฮเอาไว้
“ไปหยิบกระจกมาดีกว่า เดี๋ยวพี่เช็ดออกเอง”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผม...”
“ถ้าทงเฮไม่หยุด พี่ก็จะหยุดความคิดของพี่ไม่ได้เหมือนกัน”
ฮยอกแจพูดนิ่งๆ แต่เขากลับเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ทงเฮจนอีกฝ่ายถึงกลับเหงื่อตกท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ร่างบางกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อรู้สึกถึงความใกล้ชิดระหว่างเขากับฮยอกแจ มันใกล้เสียจนทงเฮไม่กล้าหายใจ ใกล้จนกระทั่งร่างบางต้องหลบหน้าหนีไปมองทางอื่น
“งั้นเดี๋ยวผมไปหยิบกระจกมาให้แล้วกันครับ”
ทงเฮรีบชักมือของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว ร่างบางเด้งตัวลุกขึ้นยืนอย่างลุกลี้ลุกลน ก่อนจะเดินหายเข้าไปในบ้าน แล้วกลับมาพร้อมกับกระจกเล็กๆ บานหนึ่ง ในมือเรียวอีกข้างยังถือที่โกนหนวดออกมาอีกด้วย
“อย่าบอกนะว่าจะโกนหนวดให้พี่จริงๆ”
“ผมก็ไม่ได้บอกว่าล้อเล่นนี่ครับ”
ริมฝีปากบางฉีกรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะยื่นกระจกให้คนตรงหน้า ฮยอกแจรับมาอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะค่อยๆ เช็ดคราบน้ำยาย้อมสีผมที่เปื้อนตามหน้าผากและไรผมของเขาออก ทงเฮทาโฟมโกนหนวดให้ฮยอกแจโดยไม่รู้ว่าการใกล้ชิดกันเช่นนี้ทำให้ฮยอกแจต้องเพิ่มความอดทนมากแค่ไหน ใบหน้าหวานยื่นหน้าเข้าไปมองในกระจกบ้าง ก่อนจะคลี่ยิ้มให้คนในนั้นแล้วเริ่มโกนหนวดให้ฮยอกแจทีละด้าน
“พี่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตุ๊กตาของทงเฮเลย”
“อยู่นิ่งๆ สิครับ เดี๋ยวมีดโกนก็บาดหรอก”
แทนที่จะใส่ใจกับคำพูดของฮยอกแจ ทงเฮกลับส่งเสียงดุๆ ออกไป หากแต่เสียงดุๆ นั้นกลับหวานเย็นในความรู้สึกของคนได้ฟัง ฮยอกแจฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ทำเอามือบางของทงเฮหยุดนิ่ง ดวงตากลมโตจ้องมองเสี้ยวหน้าคมของฮยอกแจอย่างพินิจ แม้จะมีน้ำยาย้อมสีผมอยู่บนศีรษะ แถมยังมีโฟมโกนหนวดสีขาวทาอยู่บนใบหน้า แต่ทงเฮกลับมองเห็นเสน่ห์ที่แผ่กระจายออกมา ริมฝีปากบางห่อกลม ก่อนจะยื่นหน้าไปจุ๊บเบาๆ ที่ข้างแก้มของฮยอกแจ ทำให้ฮยอกแจส่งเสียงเรียกขึ้น
“ทงเฮ!”
ทงเฮสะดุ้งเฮือกก่อนจะพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเพียงจินตนาการของเขาเท่านั้น ร่างบางยิ้มหวานแก้เขิน ก่อนจะแตะริมฝีปากตัวเองที่ดันคิดอะไรบ้าๆ เช่นนั้น
“ทำไมไม่โกนต่อล่ะ มัวคิดอะไรอยู่?”
“เปล่านี่ครับ”
“เปล่าแล้วทำไมต้องหน้าแดง?”
“ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นะครับ พี่ฮยอกแจอย่ามากล่าวหากันนะ...”
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่พูดแบบนั้นอยู่ในอารมณ์เขินมากแค่ไหน...
ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
บนโต๊ะอาหารเงียบกริบทันทีที่ชางมินและมินโฮสั่งอาหารกันเสร็จเรียบร้อย คยูฮยอนนั่งเคียงข้างกับซีวอนก้มหน้างุดเพราะไม่อาจทนต่อสายตาของชางมินที่มีแต่คำถามส่งมาให้เขา จนกระทั่งซีวอนเอื้อมมือมากุมมือของคยูฮยอนเอาไว้ ร่างโปร่งถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างตกใจ
“ซ...ซีวอน...”
ซีวอนจ้องมองคยูฮยอนกลับมาเช่นกัน แต่ในสายตานั้นกำลังบอกให้คยูฮยอนเชื่อใจและมั่นใจในตัวเขา ทั้งคู่หันไปมองหน้าชางมินที่กำลังทำหน้าตาเบื่อโลก ชางมินมองเห็นมือเรียวของคยูฮยอนที่ถูกเพื่อนสนิทของเขากอบกุมเอาไว้ด้วยสายตาปวดร้าว ในขณะที่มินโฮมองภาพนั้นพลางแสยะยิ้มที่มุมปาก
“ชางมิน ฉันยังไม่ได้บอกนายอย่างเป็นทางการเลย นี่โจ คยูฮยอนเป็น...”
“อาหารที่สั่งได้แล้วครับ”
เสียงบริกรหนุ่มเดินมาที่โต๊ะ ก่อนจะวางอาหารมากมายลงมา ชางมินถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะที่คยูฮยอนกลับรู้สึกร้อนรนมากขึ้น มินโฮที่กำลังมองคนตรงข้ามจึงกัดฟันอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป
“รีบทานเถอะ วันนี้ฉันมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ”
ชางมินพูดจบก็หลบสายตาของซีวอนทันที ทำไมซีวอนจะไม่รู้ว่าเพื่อนไม่อยากได้ยินคำพูดนั้นของเขา เพราะตั้งแต่ซีวอนจูงมือคยูฮยอนขึ้นมาบนรถ ชางมินมองเขาและคยูฮยอนด้วยความตกใจทันที และหลังจากนั้นบรรยากาศที่อึดอัดก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจนทั้งรถไม่มีคำพูดของใครเล็ดลอดออกมาอีกเลย
ซีวอนรู้สึกว่าหัวใจของเขามันโหวงๆ ชอบกล ถ้าจะพูดตรงๆ ก็คือซีวอนกำลังทรยศเพื่อนสนิทของเขาเอง ทั้งๆ ที่เขาได้มีโอกาสรู้แล้วว่าคนที่ชางมินหลงรักมาโดยตลอดก็คือผู้ชายที่นั่งข้างๆ เขา หากแต่ซีวอนกลับยับยั้งชั่งใจไม่ได้
ชเว ซีวอนไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงอยากจะช่วยคยูฮยอนนักหนา ทำไมเขาถึงต้องทำร้ายหัวใจของเพื่อนได้ถึงขนาดนั้น ซีวอนมองคยูฮยอนสลับกับชางมินอย่างคิดไม่ตก ในที่สุดเขาก็ถอดใจ
ขอโทษนะเลขาโจ ขอโทษที่ฉันไม่กล้าพอที่จะช่วยนาย...
“ผมกำลังคบกับพี่ซีวอนครับ เราคบกันได้สองเดือนแล้ว แม้ว่ามันจะยังไม่นานเท่าไร แต่...พี่ชางมิน...ช่วยอวยพรให้ผมกับพี่ซีวอนด้วยนะครับ”
ทั้งมินโฮและซีวอนต่างถลึงตาออกมาด้วยความตกใจ ซีวอนหันไปมองสีหน้าของเพื่อนรักทันที ชางมินนั่งนิ่ง มือแกร่งทำเพียงแค่ยกน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว ก่อนจะเสมองออกไปมองนอกร้าน และบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็เลวร้ายมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า จนกระทั่งมินโฮเอ่ยขึ้น
“ดีใจกับความรักของนายด้วยนะคยูฮยอน ฉันกับพี่ชางมินก็คบกันแล้วเหมือนกัน พวกเราก็คิดอยู่ว่านายจะรับเรื่องนี้ได้ไหม แต่ก็ดีแล้วล่ะ สี่คนสองคู่ลงตัวกันพอดีเลย”
มินโฮคล้องแขนของชางมินอย่างถือวิสาสะ เพราะเขารู้ว่าตัวเองช่วยให้ชางมินรู้สึกดีขึ้นมาไม่ได้ แต่มินโฮก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องความรู้สึกของคนที่เขารัก แม้ว่าแขนเรียวจะเกาะแขนของชางมินอย่างเป็นห่วงเป็นใย หากแต่สายตาเคียดแค้นกลับจ้องมองไปยังคยูฮยอนราวกับจะแผดเผาคนตรงข้ามให้มอดไหม้ภายในพริบตา
“มานี่เลยคยูฮยอน!”
ซีวอนฉุดข้อมือของคยูฮยอนให้ลุกตามตัวเองออกไปนอกร้าน สงสัยงานนี้คงต้องเคลียร์กันอีกยาว
“ฉันเจ็บนะไอ้บ้า ปล่อยฉันนะชเว ซีวอน!”
คยูฮยอนพยายามบิดข้อมือของตัวเองออกให้เป็นอิสระก่อนจะเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างชัดถ้อยชัดคำ ซีวอนยอมปล่อยแต่โดยดีเมื่อเขาพาคยูฮยอนออกมาห่างจากร้านอาหารนั้นพอสมควรแล้ว มือหนาเท้าสะเอวข้างหนึ่งก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางริมฝีปากของตัวเอง
“ทำไมไม่เรียกผมว่าพี่แล้วล่ะ ผมคบกับพี่ซีวอนแล้วครับ พี่ชางมินช่วยอวยพรให้พวกเราด้วยนะครับ”
“นี่! อย่ามาแซวกันนะ”
คยูฮยอนยกมือขึ้นเตรียมฟาดคนตรงหน้า หากแต่ซีวอนกลับคว้ามือเอาไว้ได้ทัน ริมฝีปากอิ่มของคยูฮยอนเบ้ออกมาอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะชักมือของตัวเองมาวางไว้ข้างลำตัวตามเดิมแล้วหันหลังให้ร่างสูง
“ถ้าผมเป็นชางมิน ผมคงเสียใจมาก”
“อย่ามาทำเป็นพูดเลยคุณสถาปนิก ในเมื่อคุณบอกว่าจะช่วยผมเองตั้งแต่แรก”
“ก็ใช่! ผมบอกว่าจะช่วยคุณ แต่คุณก็ต้องเข้าใจว่าชางมินเป็นเพื่อนของผมเหมือนกัน”
ซีวอนพยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ แต่คยูฮยอนไม่ใส่ใจกับคำพูดนั้น ร่างโปร่งหันกลับไปมองซีวอนช้าๆ ก่อนจะยักไหล่ขึ้นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ คยูฮยอนรู้ดีว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัวและใจร้ายมากแค่ไหน แต่คยูฮยอนไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ชางมินบอกกับเขาเองว่าถ้าเขายังไม่มีใคร ชางมินก็จะรอ นี่จึงเป็นวิธีเดียวที่คยูฮยอนจะทำให้ชางมินตัดใจจากเขาได้ มันเป็นหนทางเดียวเท่านั้น
“งั้นก็ช่วยไม่ได้นะถ้าเราจะต้องเดทกันจริงๆ”
คำพูดของซีวอนทำให้อีกฝ่ายเบิกตาโพลง ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธออกไป เลขาหนุ่มก็ถูกสถาปนิกมาดกวนล็อกคอเสียแล้ว
เดทกันจริงๆ ไม่ได้หมายความว่าต้องรักกันจริงๆ หรอกใช่ไหม
ตอนหัวค่ำ ฮยอกแจและทงเฮพากันออกไปเดินเล่นตามตรอกซอยในหมู่บ้าน แสงไฟสลัวๆ จากเสาไฟฟ้าทำให้แยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร เพราะดูๆ ไปแล้วสีผมใหม่ของฮยอกแจก็ไม่ได้แตกต่างจากทงเฮเลยสักนิด ชายหนุ่มสองคนที่มีผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำเดินเคียงคู่กันไปเรื่อยๆ อย่างอบอุ่น และมือของทั้งคู่ก็ยังจับกันไว้ไม่ปล่อย
“ทงเฮของพี่ไม่เคยชักมือออกเลยสักครั้งเวลาพี่จับแบบนี้”
“ก็มือของพี่ฮยอกแจทำให้ผมอุ่นนี่ครับ”
ทงเฮตอบออกมาโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าของคนข้างๆ มันก็จริงอย่างที่เขาพูดออกไปนั่นแหละ เพราะทุกครั้งที่ฮยอกแจกุมมือของเขา ต่อให้อากาศจะเย็นสักแค่ไหน แต่ทงเฮก็ยังรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มีอยู่เต็มหัวใจ ฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า อี ทงเฮคงจะไม่หวาดกลัวกับความเหน็บหนาวเหล่านั้นอีกแล้ว
“แล้วถ้าพี่จะกอดทงเฮล่ะ ทงเฮจะดันตัวออกจากพี่หรือเปล่า”
“ถ้ากอดของพี่ฮยอกแจอุ่นพอที่จะห่มแทนผ้าได้ ผมก็จะไม่หนีครับ”
“งั้นพี่ขอกอดสักพักนะ”
ฮยอกแจไม่รอให้ทงเฮได้ตอบปฏิเสธเขา มือแกร่งรีบรั้งร่างเล็กให้เข้ามาประชิดตัวเอง ก่อนจะโน้มลงไปสวมกอดหลวมๆ แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้น
“แบบนี้พอจะแทนผ้าห่มได้หรือเปล่า?”
ทงเฮพยักหน้าหงึกหงักในอ้อมกอดอุ่นนั้น แขนเรียวโอบกอดฮยอกแจตอบเช่นกัน ฮยอกแจสูดความหอมเบาๆ จากไหล่บางของคนตัวเล็ก เขาไม่แน่ใจว่านี่เป็นกลิ่นน้ำหอมของทงเฮหรือว่ากลิ่นกายของทงเฮกันแน่ แต่มันเป็นกลิ่นหอมที่ฮยอกแจเคยชินและจดจำได้ว่านี่คือกลิ่นหอมจากทงเฮของเขา
“อุ่นจังเลยครับพี่ฮยอกแจ”
ทงเฮบอกเบาๆ ก่อนจะจินตนาการไปถึงผ้าห่มอุ่นๆ ที่บ้าน คงจะดีไม่น้อยหากเขามีฮยอกแจคอยกอดทุกคืน อี ทงเฮมั่นใจว่าฮยอกแจจะเป็นผ้าห่มสำหรับเขาได้ ผ้าห่มที่มีหัวใจ ผ้าห่มที่ชื่อว่า...อี ฮยอกแจ ร่างเล็กหยุดความคิดไว้แค่นั้นก่อนที่ตัวเองจะคิดเลยเถิดไปไกลมากกว่านี้ มือบางดันอกแกร่งออกห่าง ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองฮยอกแจแล้วยิ้มกว้าง
“พรุ่งนี้วันอังคารแล้วนี่ครับ?”
“อื้ม!”
“งั้นพรุ่งนี้เช้า...ผมก็ไม่ต้องมาเปิดร้านสินะ เพราะว่า...ผมต้องไปพบพี่ฮยอกแจที่โบสถ์”
ฮยอกแจพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้ผมนุ่มของทงเฮจนยุ่ง ฮยอกแจรีบเดินไปส่งทงเฮที่บ้านเพราะพรุ่งนี้เขาต้องตื่นเช้ากว่าปกติ ฮยอกแจจะต้องไปเตรียมอะไรบางอย่างให้กับทงเฮ และหวังว่าทงเฮจะต้องมีความสุขกับวันพรุ่งนี้มากแน่ๆ
“กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
ทงเฮพยักหน้าอย่างว่าง่าย ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินกลับไปทางบ้านของตัวเอง ใบหน้าหวานเสมองไปยังกำแพงอิฐสีแดงตลอดทางเดินที่กลับบ้านเพื่อหลบสายตาคมปลาบที่จ้องมองเพียงเขา ริมฝีปากบางยิ้มไม่หุบเลยแม้แต่วินาทีเดียว ฮยอกแจมองเสี้ยวหน้านั้นแล้วก็ยิ้มตามออกมาด้วย ฮยอกแจกำลังคิดถึงวันที่พวกเขาพบกันครั้งแรก เด็กชายไม่หุบยิ้มคนนี้เองสินะที่กุมหัวใจของเขามาได้จนถึงทุกวันนี้
หลังจากไปส่งทงเฮที่บ้านแล้ว ฮยอกแจก็รีบกลับมาที่บ้านเพื่อพิมพ์โน้ตเพลง ‘ดวงดาวที่ส่องประกาย’ แม้ว่าจะมีเวลาเตรียมตัวไม่นานนัก แต่ฮยอกแจก็คิดว่าเขาจะต้องทำให้ได้ ร่างโปร่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบเตรียมตัวนอน ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นมารบกวนเวลาพักผ่อนของเขา
...คยูฮยอน...
“โอ๊ย! ไอ้ประสาท จะมีสักคืนไหมที่ไม่โทรหาฉันน่ะ”
[ไม่มี!]
คยูฮยอนตอบกลับทันควันอย่างไม่สนใจว่าเพื่อนจะอยากฟังเสียงตัวเองหรือไม่ ฮยอกแจค่อยๆ เอนหลังลงนอนกับหมอนใบนุ่ม ก่อนจะหลับตาพริ้มแล้วส่งเสียงออกไป
“มีอะไรก็ว่ามา ฉันจะได้รีบๆ นอน”
คยูฮยอนเงียบสักพักราวกับทำใจว่าจะพูดเรื่องนั้นออกมาดีหรือไม่ ทุกอย่างรอบๆ ค่อยๆ เงียบลงจนกระทั่งได้ยินเสียงของจิ้งหรีดที่ดังเข้ามาทางหน้าต่าง และเสียงนุ่มของคยูฮยอนก็ค่อยๆ เล่าเรื่องราวของตัวเองให้เพื่อนสนิทได้ร่วมรับรู้
[จำผู้ชายที่ฉันบอกว่าเขาคุยกับมินโฮได้ไหม?]
“เออ!”
ฮยอกแจตอบออกไปแม้ว่าจะยังนึกไม่ออกว่าผู้ชายที่คยูฮยอนพูดถึงคือคนไหน
[คือว่า...คือวันนี้...โอ๊ย...ไม่เล่าดีกว่า]
คยูฮยอนเปลี่ยนใจที่จะไม่บอกแล้วกดวางสายไปในทันที ฮยอกแจได้แต่มองโทรศัพท์ในมือที่ถูกตัดสายไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะวางมันลงไว้ข้างๆ เตียง ฮยอกแจมีความสุขเสียจนไม่ได้ใส่ใจว่าคยูฮยอนจะเล่าเรื่องอะไรให้เขาฟังกันแน่
ที่อีกด้านหนึ่งของประเทศเกาหลี คยูฮยอนยกมือขึ้นมาทาบหน้าอกของตัวเอง เขาจะบอกฮยอกแจดีหรือเปล่านะว่าพรุ่งนี้เขามีนัดเดทกับซีวอน ซีวอนอาจจะพาเขาไปนั่งดื่มกาแฟในร้านที่โรแมนติกสักที่ หรือไปนั่งดูแสงไฟของอาคารบ้านเรือนจากยอดเขาสูงๆ บางทีคยูฮยอนอาจจะได้รู้จักกับคนๆ นั้นในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จินตนาการมากมายผุดเข้ามาในสมองของคนที่กำลังจะไปเดทครั้งแรกของชีวิต
ครั้งนี้คยูฮยอนตื่นเต้นและสับสนเกินกว่าที่จะเล่าเรื่องเหล่านั้นให้ฮยอกแจฟังได้ ตอนนี้คนที่เขาอยากคุยด้วยมากที่สุดมีเพียงชเว ซีวอนเท่านั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือของฮยอกแจดังขึ้นมาอีกครั้ง ตอนแรกฮยอกแจคิดว่าจะปล่อยให้มันดังไปเรื่อยๆ แล้วตัดสายไปเองในที่สุด แต่คนที่โทรเข้ามามีความพยายามมากเหลือเกิน จากหนึ่งสายเป็นสองสาย จากสองสายเป็นหลายสาย จนกลายเป็นสายที่ไม่ได้รับหลายสิบสายปรากฏอยู่บนหน้าจอ ในที่สุดฮยอกแจก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูจนได้
“แม่เองเหรอครับ ผมนึกว่าคยูฮยอนโทรมากวนซะอีก”
[ฟังดีๆ นะฮยอกแจ คุณยายป่วยหนักมาก ท่านอยากให้แกกลับมาบ้านเดี๋ยวนี้]
หลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ฮยอกแจก็กลับมาที่บ้านเกิดของตัวเอง บ้านที่เขาย้ายออกมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง แม้นานๆ จะกลับมาที่นี่สักครั้ง แต่บ้านที่อบอุ่นของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย ที่นี่มีทั้งพ่อ แม่ และคุณยายของเขา
ร่างสูงรีบสาวเท้าเข้าไปในบ้าน ทว่ายังไม่ทันที่จะเข้าไปพบคุณยายในห้องนอน ฮยอกแจกลับเห็นสมาชิกในบ้านของเขานั่งดูรายการโทรทัศน์รอบดึกอย่างสนุกสนาน
“คุณยาย คุณยายป่วยตรงไหนเหรอครับ?”
หลานชายคนเล็กเดินเข้ามากอดคุณยายอย่างขี้อ้อน มือเหี่ยวย่นตีเข้าที่ท่อนแขนแกร่ง ก่อนจะผละออกแล้วจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของหลานชายของเธอ ดวงตาเจ้าเล่ห์หันไปมองลูกสาวและลูกเขยสลับกัน ก่อนจะหันมามองหน้าฮยอกแจอีกครั้ง
“โธ่! คุณยายไม่ได้ป่วยใช่ไหม จริงๆ แล้วแค่อยากให้ผมกลับมาหาเพราะคิดถึงผมล่ะสิ”
“รู้ทันยายอีกแล้ว”
หญิงชราทำหน้าตางอนคนเป็นหลาน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งที่วางอยู่ใกล้ๆ กับโทรศัพท์ เธอยื่นภาพใบนั้นมาใส่ในมือของฮยอกแจ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“หลานคิดว่าเด็กคนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
ฮยอกแจจ้องมองเด็กผู้หญิงที่อยู่ในภาพนั้น เธอน่าจะมีอายุน้อยกว่าเขาประมาณห้าถึงหกปี หน้าตาเหมือนเด็กสาวมัธยมปลายหรือไม่ก็เด็กมหาวิทยาลัยปีแรก ริมฝีปากแดงสดคลี่ยิ้มกว้างจนแก้มยุ้ยๆ พองกลมออกมาเป็นลูกน่าหยิก ดวงตาสดใสก็ยิ้มตามไปด้วยเมื่อปากยิ้ม จมูกเล็กๆ เชิดๆ แบบนั้นทำให้ฮยอกแจพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดขึ้น
“ก็น่ารักดีนี่ครับ แล้วเธอเป็นใครเหรอครับ?”
“คนที่ยายนัดมาดูตัวให้หลานไงล่ะ”
“คุณยาย! ผมยังอายุน้อยอยู่เลยนะครับ ทำไมคุณยายไม่ให้พี่ชางมินไปดูตัวบ้างล่ะครับ เขาก็เป็นหลานคุณยายเหมือนกันนะ”
ฮยอกแจรีบปฏิเสธทันที ฮยอกแจเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองถูกเรียกกลับมาบ้านเพราะเรื่องแต่งงาน ไม่ใช่เพราะยายของเขาคิดถึงหลานชายแต่อย่างใด หากแต่สายตาของพ่อและแม่ที่จ้องเขาแบบนั้นทำให้ฮยอกแจไม่มีทางหนีรอดไปไหนได้เลย
“คุณลุงบอกว่าชางมินเพิ่งกลับมาเกาหลีได้ไม่นาน เลยเลื่อนการดูตัวออกไปก่อน”
คนเป็นแม่เอ่ยขึ้น แต่ฮยอกแจก็ส่ายหน้าและยืนกรานว่าจะไม่ไปดูตัวให้ได้ เขาวางรูปถ่ายใบนั้นไว้บนโต๊ะ ก่อนจะทำท่าเดินหนีออกไปจากบ้าน หากแต่คุณยายกลับรั้งข้อมือของฮยอกแจเอาไว้
“ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้เช้าหนูไอยูจะกลับมาจากญี่ปุ่น หลานก็ไปรับเธอที่สนามบินแล้วกัน”
“แต่ว่าพรุ่งนี้...”
“ฮยอกแจหลานยาย ทำเพื่อยายสักครั้งก่อนยายจะตายไม่ได้เหรอ?”
คำพูดนี้ของคุณยายอีกแล้วที่ทำให้อี ฮยอกแจไม่อาจจะปฏิเสธคำขอร้องได้เลยสักครั้ง เขาแพ้ทางคุณยายตลอด แต่ว่าพรุ่งนี้เช้าเลยอย่างนั้นเหรอ ทำไมต้องเป็นเช้าวันอังคารด้วย แล้วนัดของเขากับทงเฮพรุ่งนี้ล่ะ ฮยอกแจจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี
Talk with Lee Seen
หายไปนานเลยนะคะสำหรับตอนล่าสุดนี้
บอกตามตรงเลยก็ได้ว่าไม่มีอารมณ์ พยายามบิ๊วท์แล้ว แต่ไม่มีอารมณ์จริงๆ
ไม่รู้ว่าคอมเม้นท์น้อยหรืออย่างไร แต่ว่า...ไม่มีกำลังใจในการแต่งต่อเลยค่ะ
เพราะนอกจากคอมเม้นท์จะหายไปแล้ว คนอ่านที่เคยมีก็หายไปด้วย
ซีนขอโทษด้วยนะคะที่กังวลกับเรทติ้งมากเกินไป ไม่ได้ต้องการเป็นที่หนึ่งนะ
แต่แค่อยากจะให้คนรักฟิกเรื่องนี้เยอะๆ เท่านั้นเองค่ะ
จะพยายามแต่งต่อไปให้จบค่ะ หวังว่าจะมีคนตามอ่านเรื่องนี้จนจบเรื่องนะค้า...
สำหรับตอนล่าสุดนี้ หวังว่าอึนเฮจะแย่งซีนกลับมาได้ไม่มากก็น้อย
แต่ตอนหน้า...รู้ๆ กันอยู่ว่ามีเดทของวอนคยู
อีกไม่เกิน 3 ตอนจะมี NC ช่วยติดตามกันด้วยนะค้า...
ส่วนคู่อึนเฮ ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าตอนต่อไปจะมาอารมณ์ไหน
ใครอยากดราม่า เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยค่ะ
36ความคิดเห็น