ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [๐๑] ยินดีต้อนรับสู่เกาะ
บทที่หนึ่ง
ฉันค่อยๆลืมขึ้นมาพร้อมร่างกายที่เจ็บปวดระบมไปทั่วตัว ตอนนี้ยังมึนๆอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกตัวเหนียว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เหมือนเมื่อวานถูกเหล็กสิบตันทับ อีกอย่างหนึ่งและฉันจะไม่ตกใจเลยเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วไม่พบกับห้องที่ไม่ใช่ห้องของฉัน !!
"อะไรเนี่ย"
ฉันพูดบา ๆ พร้อมขยี้ขี้ตาอย่างงัวเงีย และเปิดม่านดูสภาพแวดล้อมที่ตั้งของบ้านหลังนี้ แต่ก็พบกับสิ่งที่ไม่ได้พบบ่อยนักในหมู่นักสำรวจ
แสงอาทิตย์เจิดจ้าสว่าง ท้องทะเลสีครามตระการตา หาดทรายสีสวยที่เหมือนมีกากเพชรประดับ นกนางนวลบินร่อนไปมา วินาทีนึงภาพวาดที่เคยคุ้นตาในสมัยอนุบาลผุดขึ้นมาจากหัว มันเหมือนฝันที่ฉันกำลังวาด
"พี่พนา"
ชื่อๆหนึ่งแว๊บเข้ามาในหัว และเป็นชื่อของพี่ชายฉัน เมมโมรี่ความจำย้อนไปยังเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นวันที่เธอออกสำรวจเกาะกับพี่ชาย ..
"พายอยู่นี่แหละ จะไปกับพี่ทำไม เดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้ว"
'พี่พนา' ลูบหัวฉันอย่างเกรงๆ ถ้าฉันจะไปก็เหมือนกับฉันไปเป็นตัวยุ่งสินะ
"บอกมาได้ว่าเดี๋ยวก็กลับ เดี๋ยวก็กลับ ไปสำรวจป่าคราวกก่อนตั้ง 3-4 วัน เดี๋ยวก็กลับ เชอะ !"
ฉันผลักพี่ชายเบาๆ พร้อมยืนเท้าสะเอว
"ก็นี่มันงานสำคัญจริงนี่นา"
"แล้วไง ! ทำไมพายจะไปไม่ได้ล่ะ"
"เถอะน่า ..เดี๋ยวพี่เอา .." พี่ชายไม่ทันพูดจบ
"ไม่ !"
"พาย อย่าทำตัวงี่เง่าสิ .."
"ไม่ !"
"อ่ะ ..เอ่อ ก็ได้"
"เยส !!"
เมื่อได้ยินคำนั้น ฉันกระโดดขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินลำเล็กอย่างรวดเร็วก่อนที่พี่ชายจะเปลี่ยนใจ การไปสำรวจเกาะแสนสนุกครั้งที่ 5 จะเริ่มขึ้นแล้ว
"แกว้ก"
กาลิเลโอ นกฮูกของพี่พนาร้องทักทาย ก่อนจะบินมาเกาะที่ไหล่ข้างซ้ายของฉัน มันมีอายุเพียง 1 ปี 2 เดือน เท่านั้น แต่มันบินได้นานแบบไม่เหนื่อย พี่พนาใช้มันส่งจดหมายบ่อยๆ
"หวัดดีกาลิเลโอ รู้มั้ยฉันจะได้ไปสำรวจเกาะกับแกด้วยแหละ"
"แกว้ก"
มันแสดงความดีใจ ตาสีทองของมันแสดงกิริยาได้เด่นและเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเศร้าหรือเสียใจแววตาของมันจะบ่งบอกเรื่องราวทั้งหมด ..
ขณะนี้เที่ยวบินที่จะไปสำรวจเกาะที่แฟซิฟิกใต้ 960 องศา เหนือ ได้ออกในเวลา 8.15 น. ฉันมองเห็นหมู่บ้านของสหรัฐ ผู้คนผิวคล้ำโบกมือให้พวกเรา ฉันรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ออกสำรวจครั้งนี้ แน่นอน พี่ชายของฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาวิจัยเรื่องเกี่ยวกับพฤษาศาสตร์ ชื่อของเขาจึงชื่อ 'พนา' ผู้เป็นแม่ตั้งให้เขา ส่วนชื่อฉันน่ะหรอ ฉันชื่อ 'พาย' ดูเผินๆอาจเหมือนกับชื่อขนม แต่ความเป็นจริงแล้ว ชื่อนี้ย่อมาจาก 'พระพาย' ซึ่งหมายถึง สายลม พ่อของฉันตั้งให้ ก่อนทั้งสองจะจากไปในขณะที่ฉันอยู่มหาลัยปี 2 และพี่พนาจบปริญญาเอก
และตอนนี้ฉันจบปริญญาโทในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และขณะนี้ ฉันมีอาชีพเป็นเลขานุการนักวิทยาศาสตร์ หรือพี่ชายฉันเองแหละ แต่ฉันไม่ได้ไปสำรวจสภาพแวดล้อมของเกาะกับพี่ชายบ่อยนัก พี่พนาเป็นนักเดินป่า หากได้ไปอยู่เกาะไหนแล้วรับรอง อย่างน้อย 3 วัน บางครั้งประทับใจมากอยู่เป็นสัปดาห์เลยก็มี
17.12 น.
เครื่องบินยังคงบินเพื่อหาเกาะที่ต้องการสำรวจ แต่สิ่งที่พบมีเพียงมหาสมุทรและความว่างเปล่า พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าแล้ว คิดว่าคงต้องเสียเที่ยวแล้วล่ะ
"เอ๊ะ ! นั่นมัน"
พี่ชายของฉันลุกขึ้นมาจากที่นั่งพร้อมชะเง้อหัวออกไปข้างหน้าต่าง ฉันคิดว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่
"มรสุม ทางเหนือ !"
พี่ชายฉันตะโกน ให้คนขับเครื่องบินได้รับรู้ แต่เหตุเพียงว่า คนขับนั้นหูตึง แต่ดวงตาเขายังรับรู้ถึงอันตรายข้างหน้า ในขณะที่เครื่องบินยังคงบินไปเรื่อยเขาหันหางเสือเครื่องไปยังทางใต้ แต่ไม่ประสบผล เครื่องบินกลับหมุนเอนเข้าเหมือนมรสุมนั้นดูดกลืนพวกเราไปหามัน ฝนตกกระหน่ำไม่ขาดสาย ฉันใช้แจ็คเก็ตคลุมตัวและกาลิเลโอ ในขณะที่พี่ชายฉันไปยังห้องคนขับ เพื่อพยายามจะบังคับทิศทาง
"เราจะร่อนลงตรงเกาะนู้น"
"อะไรนะ" คนขับหูตึงถามเสียงหลง
"ผมบอกว่า ! ..ผมจะร่อนลงตรงเกาะตรงนู้น !!"
พูดจบพี่พนาก็เอนพวงมาลัยไปทางซ้ายเพื่อร่อนลง ฉันหลับตาสนิทคิดซะว่าเที่ยวบินเที่ยวนี้ถือเป็นประสบการณ์ละกัน
... ฉันจำได้แค่นั้นแหละ หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันเกาหัวตัวเองหยิกๆ เหมือนกับการกระทำเช่นนั้นจะรื้อฟื้นความทรงจำได้ แต่ไม่มีผล ฉันมองรอบสภาพห้อง คงจะเป็นส่วนหนึ่งในบ้านของใครซักคน
กรุ๊งกริ๊งๆ ฉันเดินผ่านประตูหอยที่เป็นเส้นด้ายยาวลงมาและห้อยด้วยหอยนานาชนิด นี่คงจะเป็นห้องรับแขกสินะ มีโซฟาเก่าๆหนึ่งตัว โต๊ะยาวที่สานจากไม่ไผ่แห้ง ชั้นหนังสือ และกล่องอะไรก็ไม่รู้อีกมากมาย รูปปลาแขวนผนัง กับหอย และปลาดาวที่ติดตามผนังและชื่อของมัน ฉันรู้สึกได้ถึงลมเย็นๆและอากาศสดชื่นของทะเล
"สวัสดี"
ชายร่างสูงปริศนา ผิวขาวนวล กล่าวทักทาย พร้อมยกถาดอาหารออกมาจากประตูหอยอีกห้องหนึ่ง ซึ่งฉันแน่ใจว่าน่าจะเป็นห้องครัว
"นายเป็นใคร ?"
ฉันถามด้วยความสงสัย ดูจากหน้าตาไม่เหมือนกับชาวเกาะเอาซะเลย ผิวที่ขาวนวลกระจ่างใส หน้าแบบนั้นน่ะนะ น่าจะเป็นคนธรรมดาที่หลบชีวิตวุ่นวายในเมืองมาใช้ชีวิตที่เงียบสงบในเกาะมากกว่า
"ฉันชื่อ สายชล"
เขาตอบหน้าตาย พร้อมวางถาดอาหารบนโต๊ะ ก่อนที่จะเดินเข้าในครัว
"เฮ้นี่ ! จะไปไหนน่ะ"
ฉันเดินตามเขาเข้าไป ผ่านประตูหอยและพบว่าในห้องๆนั้นนอกจากเป็นห้องครัวแล้ว ยังเหมือนกับห้องเพาะเลี้ยงพืช ซึ่งมีแต่ต้นกล้าวางเต็มไปหมด ที่เด็ดกว่านั้นก็คือ มีต้นไม้ใหญ่กลางห้อง ซึ่งใหญ่และยาวเกินหลังคาของห้องนี้จนต้องเจาะหลังคาเป็นรูเพื่อให้ต้นไม้ต้นนี้ยาวออกไป หลังคาของห้องนี้ เป็นกระจกใส ถึงแม้มันจะไม่ใสเพราะกาลเวลาเปลี่ยนไปบ้าง
"นายอยู่คนเดียวหรอ ?"
ฉันถามเขาขณะที่เขากำลังรดน้ำต้นกล้าทั้งหลายในกระถาง
"เปล่า"
เขาตอบหน้าตาย
"แล้วพี่ชายของฉันล่ะ ?"
"ใครล่ะ คนขับเครื่องบินมีอยู่สองคน คนแรกเป็นศพ ฉันเอาเขามาพักฟื้นก่อนจะขาดใจตายเพราะเสียเลือด ฝังอยู่หลังบ้าน คนที่สอง มีโดนเหล็กบาด นอนอยู่ในห้อง ยังดีที่พี่ฉันรักษาบาดแผลให้แล้ว"
"ห้องไหน !!"
"ห้องถัดไป ซ้ายมือ"
ฉันรีบวิ่งเพื่อไปดูว่าเป็นใครที่นอนอยู่บนเตียง ..พี่ชายของฉัน หรือคนขับเครื่องบินงี่เง่ากันแน่
"พี่พนา !!"
ในห้องมีพี่ชายของฉันนั่งอยู่บนเตียง มีผ้าพันแผลพันระหว่างไหล่กับอก และมีผู้หญิงผมสีดำกำลังป้อนข้าวต้มพี่ชายฉัน ซึ่งมันดูเหมือนพี่ชายของฉันจะไว้ใจเธอมาขนาดยอมให้ป้อนข้าวป้อนน้ำโดยไม่เอ่ยปากซักแอะ
"พาย"
พี่พนาเรียกฉัน
"เธอเป็นใคร ?"
ฉันถามด้วยความงงงวย
"นภา เพื่อนสมัยเรียนมัธยมของพี่เอง พี่ไม่คิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่"
พี่ชายฉันตอบ ถ้าเรื่องมันจะบังเอิญขนาดนี้ ฉันมองร่างสาวที่พี่ชายฉันเรียกว่า 'นภา' หน้าตาเธอสวยกว่าฉันเป็นไหน ๆ เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ขาข้างซ้ายของเธอเป็นเพียงท่อนไม้เท่านั้นเอง
"ยินดีต้อนรับสู่เกาะของเรา"
กรุ๊งกริ๊ง สายชลพูดก่อนที่จะเปิดม่านประตูหอยเข้ามาในห้อง พร้อมทำหน้าตายอย่างที่เคยเห็น เรื่องของฉันเหมือนกับนิยายบ้าๆบอๆที่ฉันเคยอ่านเรื่องหนึ่ง แต่ทำไงได้ล่ะ ก็นี่มันเรื่องจริงนี้ !!
ความคิดเห็น