คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : DARK LOVE :: EPISODE 1 [Rewrite]
DARK LOVE
Episode 1”
Noway pass’
เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่กำลังออกสเต็ปกันอย่างเมามันส์ไม่ได้เรียกความสนใจของผมในตอนนี้ได้เลย เพราะว่าความสนใจของผมทั้งหมดมุ่งตรงไปยังมุมอับที่มีร่างสองร่างของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนัวเนียนกันอย่างไม่แคร์สายตาใคร
หนึ่งในนั้นคือคนที่ผมจำได้อย่างแม่นยำไม่ว่าในนี้จะมืดเพียงใด จะไม่ให้ผมจำได้ยังไงก็ในเมื่อมันคือผัวผม! เหอะๆ อารมณ์ที่มันกำลังพุ่งสูงอยู่ตอนนี้ผมขอไม่รักษามารยาทแล้วกันนะครับ อย่าถือสาผมนะ
“มายืนคั่วกันแบบนี้.. พวกมึงไม่อายบ้างเหรอ” เมื่อได้ยินคำถามของผมชายหญิงคู่นั้นก็ชะงักค้างกับกิจกรรมร้อนๆที่กำลังจะเกิดขึ้นครู่หนึ่ง แล้วรู้สึกเหมือนฝ่ายหญิงจะความเกิดกระด่างอายเล็กน้อย ผมขอย้ำว่าเล็กน้อย! เพราะเธอแค่ผลักไหล่ของฝ่ายชายที่ยืนคร่อมเธออยู่เบาๆเท่านั้นเอง
เมื่อโดนขัดจังหวะความสุข ฝ่ายชายที่ยืนหันหลังให้ผมก็หันกลับมามองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง ไม่รู้ว่าเพราะตรงนี้มันมืดหรือว่าอะไรแต่ดูเหมือนมันจะไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ดูจากสายที่หาเรื่องกับท่าทางหยิ่งๆนั้นบอกได้เลยว่า กวนตีนมาก!!
“แล้วไม่ทราบว่ามึงเสือกอะไรด้วยครับ” ร่างสูงย้อนถามผมอย่างหาเรื่อง น้ำเสียงและท่าทางของมันตอนนี้ทำให้ผมรู้เลยว่ามันกำลังเมาได้ที
ผมเลือกที่จะไม่ตอบ เพราะรู้ว่าโต้เถียงอะไรกับมันตอนนี้ไปก็ไม่เกิดอะไรดีขึ้นมา สู้ลากมันกลับบ้านแล้วรอให้มันสร่างก่อนแล้วค่อยคุยจะดีกว่า
“มองหน้ากูทำเชี้ยอะไรครับ หน้ากูเหมือนผัวมึงหรอก ฮาๆ”
“ถ้ากูบอกว่าใช่ละ”
“ฮาๆ จริงเหรอวะ ในโลกนี้ยังมีคนหน้าตาดีเท่ากูอีกเหรอว่างๆพามาแนะนำหน่อยนะโว้ย กูอยากรู้ว่ามันเหมือนกูมากแค่ไหน” ดูมัน!! กวนตีนฉิบหายเลยให้ตายเถอะ ถ้าผมจะกระทืบผัวตัวเองสักทีสองทีมันจะผิดมากไหมครับ (- -+)
“โน่ค่ะ เจนว่าเราไปต่อที่อื่นกันเถอะค่ะ ไปที่ห้องคุณก็ได้” เสียงของหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังมันเรียกสติของผมกลับมาสถานการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง
หึ อยากไปต่อที่ห้องมันเหรอ? ช่างกล้าจังเลยนะ ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าด้านมากกว่า มีอย่างที่ไหนขอไปห้องผู้ชายหน้าตาเฉย
“ไม่ได้หรอกค่ะเจน โน่ให้เจนไปที่ห้องโน่ไม่ได้หรอก” แหมที่พูดกับผู้หญิงเนียเพราะจังเลยนะมึง หมั่นไส้โว้ย!!!
“ทำไมละค่ะ ทำไมเจนจะไปห้องโน่ไม่ได้” ยัยผู้หญิงหน้าด้านนามว่าเจนยังคงตื้อถามต่อไป พวกคุณเชื่อไหมว่าขนาดผมยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้พวกมันยังทำเหมือนไม่เห็นผมอยู่ในสายตาเลย คิดดูสิพูดไปก็ล้วงไป ด้านกันจริงๆเลยนะพวกมึง!!
“บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ไงค่ะ อย่าถามมากโน่ไม่ชอบ!” ชายหนุ่มเหมือนจะเริ่มหงุดหงิดนิดๆ ที่โดนถามอะไรที่เขาไม่ต้องการพูดถึง
“ทำไมมึงไม่บอกเขาไปละว่า ที่ห้องมึงมีเมียที่นอนรอมึงกลับบ้านอยู่นะ” ผมทนไม่ไหวอีกต่อไปละ ตอนแรกกะว่าจะกลับไปคุยกันที่บ้านแต่ตอนนี้ความโกรธ ปนน้อยใจของผมมันมากขึ้นเรื่อยๆ
“มึงพูดเหี้ยไรของมึงเนียกูชักไม่ขำกับมึงแล้วนะ” ร่างสูงหันกลับมาใส่อารมณ์กับผมทันที
“ก็พูดความจริงไง ถ้าวันนี้เพื่อนกูไม่โทรมาบอกกูก็คงเป็นไอ้โง่ที่ถูกมึงหลอกอีกใช่ไหม” ตอนนี้ขอบตาของผมเริ่มร้องผ่าว แต่ผมจะให้มันเกินเลยไปมากกว่านี้ไม่ได้ ผมไม่อยากใครให้เห็นผมอ่อนแอรวมถึงไอ้สองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมด้วย
ร่างสูงของซีโน่ขยับเขามาใกล้ผมขึ้นเรื่อยๆ สายตาที่ดูดุดันตอนแรกเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ ต่างจากผมที่ส่งสายตาเกลียดชังให้มันอย่างเห็นได้ชัด
สีหน้ากระอักกระอ่วนใจของซีโน่มันทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังคงตีหน้าเศร้าปนโกรธเคืองต่อไป ให้มันรู้ซะบ้างว่าเวลาที่ผมเอาจริงนะมันเป็นยังไง
“ทีนี้มึงเข้าใจหรือว่าเมื่อกี้กูพูดถึงอะไร”
Zeno pass’
การจราจรที่แสนติดขัดบนถนนในใจกลางเมืองที่ผมกำลังประสบอยู่ยังไม่น่าอึดอัดเท่าความเงียบของคนที่นั่งข้างๆผมตอนนี้เลย
รถแม่งก็ติดเอาโล่ห่าอะไรนักหนาก็ไม่รู้ .. เปิดเพลงดีกว่าเพื่อบรรยากาศจะดีขึ้น
If I was your boyfriend, never let you go Keep you on my arm girl, you’d never be alone I can be a gentleman, anything you want If I was your boyfriend, I’d never let you go, I’d never let you go..
เสียงท่อนฮุกของเพลง Boyfriend ของ Justin Bieber ดังขึ้น คลื่นวิทยุนี้แม่งช่างรู้ใจผมจริงๆ ผมเคาะนิ้วบนพวงมาลัยรถตามจังหวะเพลงอย่างเพลิดเพลิน เสียงเพลงเนียไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็จรรโลงใจได้ดีจริงๆ
“ปิดเพลง!! กูอยากอยู่เงียบๆ” ผมหันไปมองตามเสียงก็พบกับสายตาเรียบๆที่ส่งกลับมา
“แต่กูอยากฟัง!” ทำเป็นเข้มแต่เสียใจด้วยกูไม่สนหรอก
“ถ้ามึงไม่ปิดก็เปิดประตู กูจะลง”
“มึงอย่ามาเรื่องมากได้ไหมโนเวย์ ความอดทนกูก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน.. อย่าคิดว่าเป็นเมียกูแล้วกูไม่กล้าทำอะไรนะ”
ใช่! อย่าคิดว่าผมไม่กล้านะ ที่ผมไม่ทำเป็นเพราะผมไม่อยากทำมันต่างหาก พอทำดีด้วยหน่อยเสือกได้ใจนะมึง
“...”
“เป็นห่าอะไรอีกละ เงียบๆ เงียบแม่งอยู่นั้นแหละตั้งแต่ออกมาจากผับละ มึงจะเงียบทำไมนักหนามึงรู้ไหมว่ากูรำคาน”
“...”
ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากไอ้คนข้างๆ ฟวยเหอะ!! ผมชักโมโหจริงๆแล้วนะ
“ไอ้สัด!! นี้มึงจะกวนตีนกูใช่ไหม” ผมใช้มือข้างที่ไม่ได้จับพวงมาลัยเอือมไปบีบแรงๆที่แขนบางๆของไอ้โนเวย์เอาไว้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีความรู้สึกหรือผมบีบเบาไปเพราะมันยังคงเงียบและก้มหน้ามองมือตัวเองอยู่เหมือนเดิม
“โน่.. กูว่ามึงกับกูจบกันแค่นี้เถอะ กูทนต่อไปไม่ไหวแล้ว.. กูยอมแพ้!” น้ำตาหยดใสๆไหลอาบแก้มเนียนๆของมัน นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นมันร้องไห้เพราะตลอดสามเดือนที่ผมคบกับมันมา มันร้องไห้แทบทุกวัน
และสาเหตุที่มันร้องไห้ก็มาจากผมทั้งนั้นแหละ..
ไม่ใช่ผมไม่รู้นะว่าผมทำมันเสียใจมากมายเท่าไร แต่จะทำไงได้ละครับผมเปลี่ยนตัวเองไม่ได้นินา สันดารผู้ชายมันก็ต้องเจ้าชูเป็นธรรมดาถูกไหม? มันเองก็เป็นผู้ชายมันก็น่าจะเข้าใจผมสิ
“หึ! มึงพูดว่าจะเลิกกับกูแบบนี้มาครั้งที่เท่าไรแล้ววะ แล้วมันเคยเป็นอย่างที่มึงพูดสักครั้งไหม!!” ใช่ครับ และนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเหมือนกันที่มันขอเลิกผม ถ้าจำไม่ผิดน่าจะครั้งที่เจ็ดหรือแปดได้แล้วมั้ง
“แต่ครั้งนี้กูเอาจริง! ขอร้องละ.. ปล่อยกูไปเถอะ”
“หยุดพูดสักที กูรำคาน!!”
“กูไม่หยุด.. กูจะพูดอยู่อย่างนี้แหละจนกว่ามึงจะยอมปล่อยกูไป กูอยากเลิกกับมึงได้ยินไหมว่ากูอยากเลิกกับมึง!!!”
“กูบอกให้หุบปาก..” ผมกัดฟันพูดอย่างหมดความอดทนพร้อมกับง้างมือตัวเองแล้ว..
เพี๊ยะ!!!
ตบหน้าเนียนๆของไอ้โนเวย์เต็มแรง หน้ามันหันไปตามแรงตบของผมและเมื่อมันหันกับมาทางผม เลือกสีแดงไหลออกมาจากมุมปากเล็กๆที่น่าทะนุทนอมของมัน
นิ่ง..
ผมกับมันมองสบตากันอย่างเงียบ มันคงตกใจผมเองก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะพลั้งมือทำมันแรงขนาดนี้ ผมแค่ต้องการให้มันหยุดพูดไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายมันจริงๆ แต่จะทำไงได้ละในเมื่อผมดันทำไปแล้ว ดีเหมือนกันมันดีรู้ว่าเวลาที่ผมโกรธเป็นยังไง
“กูบอกแล้วว่าให้หุบปาก เสือกดื้อกับกูเอง” ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษเช็ดชูที่เบาะหลังแล้วค่อยๆซับเลือดที่มุมปากมันเบาๆ
“ทำแบบนี้กับกูทำไม” เสียงสั่นๆของโนเวย์ถามผม
“ก็มึงทำให้กูโมโห กูบอกแล้วให้มึงหุบปากแต่มึงก็..” ผมยังไม่ทันได้พูดจบมันก็เสือกแหวกขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“แล้วเรื่องเหี้ยอะไร”
“ทุกเรื่องที่ผ่านมา ทุกเรื่องที่มึงทำให้กูเสียใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา.. ทุกครั้งที่มึงนอกใจกูแล้วกูจับได้มึงกลับมาหากูทำไม! มึงทำเหมือนรักกูทำไมทั้งๆที่มึงไม่เคยแคร์ความรู้สึกกูเลยสักครั้ง!! มึงทำแบบนั้นทำไมห๊ะ มึงทำแบบนี้กับกูทำไม!!”
“เป็นไรของมึงอีกเนีย พูดให้มันรู้เรื่องดิ๊” ผมพยายามเต็มทีที่จะไม่โมโห แต่ดูเหมือนมันจะไม่เลิกยั่วโมโหผมง่ายๆ
“กูถามมึงจริงๆเถอะ มึงรักกูบ้างรึป่าวซีโน่”
ดูมันถาม!! ถ้าไม่รักมันแล้วจะให้ผมไปรักหมาที่ไหน? โอเค๊.. ผมยอมรับว่าบ้างทีผมก็เจ้าชูบ้าง แต่ผมก็ไม่เคยเห็นใครสำคัญเท่ามันเลย ทำไมมันไม่เข้าใจผมบ้างวะครับ
“ถามทำเหี้ยไร มึงก็รู้อยู่แล้ว”
“กูไม่รู้หรอก กูไม่รู้อะไรเลย.. ซีโน่! กูขอร้องมึงได้ไหม ได้โปรดปล่อยกูไปเถอะ กูทนไม่ไหวแล้วจริงๆ” น้ำตาลูกผู้ชายอย่างไอ้โนเวย์ไหลออกมาอีกครั้ง แต่น้ำตาของมันไม่ได้ทำให้ผมใจอ่อนลงเลยมันกลับทำให้ผมโมโหมันมากกว่าเดิมเสียอีก
“พูดเหี้ยอะไรของมึง?? ถ้าคิดว่ากูจะยอมเลิกง่ายๆละก็ ฝันไปเถอะ!! มึงคือเมียกู และไม่ว่าโลกจะแตกอีกสักกี่ร้อยรอบมึงก็ต้องเป็นของกูคนเดียว จำไว้!!!”
----------------------------------------------------- ♥
TBC.
ความคิดเห็น