NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อ้อนเร้ารัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ถนนเส้นเดิม (3)

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 65


    ดุจดาวยังคงพักที่ห้องเช่าห้องเดิม  ทั้งที่เธอบรรจุทำงานเป็นนางพยาบาลมาเกือบ 2 ปีแล้ว  รถยนต์ก็ไม่มีเธอบอกว่าไม่จำเป็นหากวันไหนกลับค่ำก็นั่งแท็กซี่แทนได้  ส่วนมากก็จะพักที่โรงพยาบาลเลย   เธอเก็บเงินซืื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้านกู้เงินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้  

    รถคันหรูมาจอดหน้าห้องเช่าเก่าๆ  เหมือนทุกคนจะจำรถคันนี้ได้ เพราะรู้ว่าลูกสาวห้องเช่าได้เล่าเรียนทำงานดีมีเพื่อนดีมานานจึงไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไรนัก  

    “แม่  เหนือมาเยี่ยมจ๊ะ”   ดุจดาวชะโงกเข้าไปในห้องเอ่ยเรียกแม่ออกมา  เพราะห้องเช่าเล็ก ๆ ของเธอไม่อาจจะต้อนรับแขกได้  เหนือเอกก็มีมารยาทเขายืนรอคุณแม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มด้านนอก

    “เหนือ เป็นอย่างไรบ้างลูก ทำงานจนผอมหมดแล้ว”   คุณแม่มองดูเหนือเอกด้วยสายตาชื่นชม เด็กคนดีรู้จักมาตั้งแต่วัยปฐมจนกระทั่งโต  เธอก็เห็นเป็นลูกหลานคนหนึ่ง 

    “สบายดีครับ คุณแม่ก็เช่นกันนะครับวันนี้ผมมากระทันหันเลยไม่มีของมาฝาก  ไว้วันหน้าผมจะมาเยี่ยมใหม่นะครับ”   เหนือเอกพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพเขารู้ขอบเขตในการมาที่นี่  หากรั้งอยู่นานอาจจะทำให้ดุจดาวอึดอัดได้  

    พูดคุยกันไม่กี่ประโยคชายหนุ่มก็ขอตัวกลับ 

    “ผมขอตัวนะครับคุณแม่ เราไปนะดาว”  

    เหนือเอกเดินหันกลับออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง  เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มเอ่ยบอกความในใจดุจดาวอย่างไรจริง ๆ  

    เมื่อเดินขึ้นมาบนรถเหนือเอกก็ถอดหมวกที่สวมอยู่อย่างรู้สึกหงุดหงิดใจตัวเอง  พลางหันมองกลับไปก็เห็นดุจดาวกำลังยืนคุยกับแม่ด้วยใบหน้าร่าเริงแม้จะมีความเศร้าเจือจางอยู่บ้างก็ถือว่าเบาใจขึ้น  

    เขาหยิบมือถือขึ้นมา กดเบอร์โทรในรายการเมื่อหลายวันก่อน  

    “เอ่อ เรื่องที่คุยไว้  เอาเป็นว่าข้าตกลง”  

    [เฮ้อ!!  อะไรของแกว่ะ จริงรึเปล่าว่ะ]  

    เสียงเพื่อนปลายตะโกนตอบกลับมาแฝงความประหลาดใจและระคนยินดี  

    “แกรีบจัดการด่วนเลยนะ  เอกสารพร้อมเมื่อไรนัดมาได้เลย”

    [เอ่อ ๆ   ถึงจะยังงง ๆ แต่ก็ยินดีมากเพื่อน  อีกไม่เกิน  2 วัน ข้าจะติดต่อกลับไป]

    เหนือเอกวางโทรศัพท์สายตาทอดมองไปยังข้างทางแล้วก็เอ่ยปากขึ้นคุยกับคุณลุงขับรถ

    “ลุงหน่านลุงว่าผมใจร้อนไปไหมครับ”   

    คุณลุงคนขับรถวัย  50  กว่าปี รู้จักเหนือเอกมายังแต่แบเบาะชำเลืองมองผ่านกระจก  ใบหน้าของลุงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเอ็นดูชายหนุ่มจากใจก่อนจะเอ่ยปากตอบยังหันไปอมยิ้มให้กับบอดี้การ์ดส่วนตัวของเหนือเอก   

    “ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณหนูดาว ลุงคิดว่าคุณชายใจเย็นมากขอรับ”  

    เห็นคุณชายตัวเองแอบรักหญิงสาวมาหลายสิบปี  หลายครั้งก็อยากจะเอ่ยปากทว่าอย่างไรตัวเองก็เป็นเพียงคนรับใช้  แต่ครั้งนี้เหนือเอกสอบถามขึ้นตนก็จึงกล้าเอ่ยพูด  เหนือเอกนิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจาอีก 

    ดุจดาวยืนมองส่งเหนือเอกขึ้นรถเสร็จก็หันมาคุยกับแม่

    “วันนี้ขายลูกชิ้นหมดไหมคะแม่”  แม้จะพยายามบอกให้แม่เลิกขายแต่แม่นภาก็ไม่ยอม  กำไรวันละร้อยก็พอได้แบ่งภาระค่าเช่าห้องช่วยเหลือลูกได้   

    “หมด ๆ  แม่ทำตามที่ดาวบอกทำแค่ร้อยกว่าไม้"  แม่นภารีบบอกกลัวลูกจะไม่เชื่อตน  พอเดินเข้าไปในห้อง ก็เจอของสดที่เตรียมทำลูกชิ้นพรุ่งนี้  ดุจดาวเข้าไปจัดแจงเตรียมทำลูกชิ้นช่วยทันที

    “ไม่ต้องดาว  ไม่ต้อง พรุ่งนี้เช้าแม่ทำเองได้หนูไปอาบน้ำแต่งตัวพักผ่อนเถอะหนูก็มีงานของหนู  ของแม่ให้แม่รับผิดชอบเองนะ”   

    พอลดจำนวนลงก็สามารถทำตอนเช้าได้   งานน้อยนิดเท่านี้แม่นภาก็อยากจะทำเองไม่รบกวนลูก 

    “ค่ะแม่  งั้นหนูเก็บใส่ตู้เย็นนะ”    ดุจดาวมองดูจำนวนของสดที่ลดลงแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน   แม้จะลำบากไปบ้างทว่าตอนนี้ก็ดีขึ้นมาก  กำไรจากขายลูกชิ้นของแม่ลดลงเกือบเท่าตัวแต่เธอกลับดีใจที่แม่ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนเดิม

    ดุจดาวอาบน้ำปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ออกมานั่งอยู่บนเตียงนอน  

    หันไปมองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะสองทุ่มแล้วยังไม่เห็นน้องชายกลับมา  คาดว่าคงทำงานพิเศษ  แม้จะอยากให้น้องตั้งใจเรียนอย่างเดียวแต่เมฆก็ไม่ยอม  ตั้งแต่เด็กจนโตพี่สาวก็เรียนและทำงานด้วยได้  เขาก็ต้องทำได้เช่นกัน  

    ทั้งที่รู้คำตอบเธอก็ยังเอ่ยถามมารดา

    “น้องกลับดึกหรือแม่”   แม่นภารีบหันมาตอบลูก  

    “จ๊ะลูก  หนูจะนอนแล้วใช่ไหม งั้นแม่ปิดทีวีก่อน”  แม่นภากำลังลุกขึ้นไปปิดทีวี   ดุจดาวก็รีบพูดขึ้น 

    “ไม่เป็นไรแม่  แม่จะรอน้องใช่ไหม  แม่ก็รู้หนูหลับได้”   

    เป็นความเคยชินตั้งแต่ยังเด็กแม่จะเปิดทีวีและทำลูกชิ้นไปด้วย   ดึกดื่นด้วยวัยเด็กทำให้เธอหลับอย่างไม่ทุกร้อนอะไรกลายเป็นความเคยชิน  การนอนมองแม่ดูทีวีแล้วทำให้จิตใจเธอสงบและหลับตานอนอย่างสบายใจ  

    หญิงสาวกำลังจะเคลิ้มหลับ แม่นภาก็หันมาพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน 

    “ดาว ลูกอย่ากดดันตัวเองจนเกินไป ตอนนี้ทั้งหนูและเมฆก็โตตอนนี้ดีมากแล้ว”  

    “ค่ะแม่ หนูรู้แล้วค่ะ” พูดเสร็จดุจดาวก็หลับตาลงนอน   

    แม่นภามองดูดุจดาวที่กำลังนอนหลับด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความรักและแฝงความจนใจ   เธออยากให้ลูกเห็นแก่ตัวมากกว่านี้   ให้ลูกได้มีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายบ้าง  

    เธอชำเลืองมองรูปครอบครัวบนฝาผนังยิ้มบาง ๆ ให้คนในรูป  อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปสนใจละครทีวีต่อ  

    ละครยังไม่จบเวลายังไม่ถึงสี่ทุ่มเมฆก็กลับถึงห้อง  เขาบ่นพึมพำเล็กน้อยที่แม่ไม่ยอมนอนจากนั้นก็รีบอาบน้ำระวังให้มีเสียงน้อยที่สุด ออกมาก็เห็นแม่ขึ้นไปนอนเตียงกับพี่สาว  เขามองดูทั้งสองด้วยสายตาอบอุ่นแล้วยิ้มที่มุมปาก จากนั้นก็นอนลงฟูกข้างเตียง   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×