คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : EP.02 || Are you lost? (2)
EP.02
Are you lost? (2)
--------------------------
หลังจากอาบน้ำแปลงโฉมเสร็จเรียบร้อย ฉันกับปุยฝ้ายก็ใช้เวลาเดินทางจากบ้านมาถึงบาร์หรูที่พี่อีฟนัดเราไว้ประมาณ 20 นาที ดีที่ยัยปุยฝ้ายมีรถเรา 2 คนจึงมาทันเวลานัดแบบฉิวเฉียด
“ถึงแล้วจ้า!!”
ในขณะที่ปุยฝ้ายกำลังถอยรถเข้าที่จอด ฉันก็เหลียวหลังหันไปมองตัวบาร์ด้วยความสนอกสนใจ บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในซอยลึกต้องขับรถเลนเดียวจนสุดระยะทางถึงจะเจอ แต่โดยรวมที่นี่ก็ไม่ได้ดูเล็กหรือน่าอึดอัดอย่างที่คิด มีลานกว้างให้จอดรถได้ราวๆ 30-40 คัน ตัวบาร์ตกแต่งร่วมสมัยระหว่างความโมเดิร์นกับปราสาทอิฐ มีความไฟนีออนสีม่วงน้ำเงินแลดูคล้ายปราสาทพ่อมดนิดๆ
“โห๋ พี่อีฟเก่งเหมือนกันนะเนี่ยที่หาที่แบบนี้เจอ”
“เห็นว่าว่าที่เจ้าบ่าวเป็นเพื่อนกับพนักงานในบาร์น่ะ”
“เหรอ.. แล้วบาร์นี้มีชื่อป้ะ?”
“มีดิ บาร์อะไรไม่มีชื่อแล้วลูกค้าจะเสิร์ชหาร้านเจอได้ยังไง”
“แล้วมันชื่อ..”
♪ ตี๊!!! ดีดี๊ดี...
ในขณะที่ฉันกำลังจะถามชื่อบาร์นี้จากปุยฝ้ายจู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาทำให้เธอต้องรีบยกมือส่งสัญญาณว่าขอให้ฉันเงียบก่อนแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับปลายสาย
“ฮัลโหลพี่อีฟ ว่าไงคะ.... หะ? อ้าว แล้วตอนนี้พี่อยู่ไหนอ่า?.... เออๆได้ ตอนนี้ฝ้ายถึงแล้วเดี๋ยวเอาชุดสำรองไปให้นะ... จ้าๆ โอเคค่า”
ติ๊ด!
ทำไมคุยกันเร็วจัง?
“? มีอะไรเหรอ?” ฉันถาม
“พี่อีฟอะดิ ดันกระโปรงขาดอยู่ลานจอดรถล็อค 2 ”
“หะ?” ฉันหันไปมองทางล็อค 2 โดยอัตโนมัติ
“โชคดีนะเนี่ยที่ฉันขนชุดมาให้แกลองเลยมีชุดเหลือ 2-3 ชุด เดี๋ยวฉันขอแวะไปจัดการเจ้าของงานก่อนนะน่าจะใช้เวลาสักพัก แกเข้าไปรอก่อนก็ได้พวกไอ้มิวเข้าไปนั่งรอแล้ว”
“เอางั้นเหรอ?”
“เออ แกไปก่อนเลย พี่อีฟยังไม่ได้แต่งหน้าแถมชุดยังมาพังอีก ถ้าวันนี้เจ๊แกไม่ปังคงไม่ยอมย่างกายเข้าไปในบาร์ง่ายๆแน่”
“ก็พอจะนึกภาพออกนะ”
“พี่อีฟจองโต๊ะไว้ให้เราแล้ว อยู่ห้องบรอนซ์ (Bronze) โต๊ะที่ 12 ถ้าแกหาไม่เจอก็ลองถามๆพนักงานเอาก็ได้”
“อืมๆ เดี๋ยวฉันจัดการตัวเองเอง แกก็รีบไปจัดการเรื่องพี่อีฟให้เสร็จละกัน”
“จ้า!!! จะรีบแต่งหน้าให้สุดชีวิตเลยจ้ะ ไปนั่งชิลล์ๆในบาร์ก่อนไป”
“เค”
ฉันกับปุยฝ้ายแยกทางกันทันทีที่ส้นร้องเท้าเราแตะพื้น เอาเข้าจริงฉันก็เพิ่งมารู้สึกเขินตัวเองแฮะ เล่นใส่ชุดเดรสสีเลือดหมูผ่าทั้งหน้าทั้งหลังแล้วยังแต่งหน้าทำผมแบบจัดเต็มอีก มีเพื่อนร่วมกลุ่มเป็นทั้งเมคอัพอาร์ติสกับดีไซเนอร์นี่มันต้องคีพลุคขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ใครเห็นฉันตอนนี้คงคิดว่าฉันเป็นสาวมั่นที่มาหาเหยื่อในบาร์แห่งนี้แน่ๆ อ่า ช่างเถอะๆ นานๆทีจะได้แต่งตัวสวย มั่นใจหน่อยละกันว่าสวย ฮึบ!
กึก กึก กึก
เสียงส้นร้องเท้าของฉันกระทบกับพื้นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวดำด้านหน้าทางเข้าบาร์ ฉันเดินวนรอบๆสวนหย่อมด้านข้างและรอบตัวบาร์ราว 10 นาทีได้แล้ว นี่ฉันจะหลงทางทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้าไปในบาร์ไม่ได้นะ!
“ให้ตายสินารา แกเดินยังไงให้หลงวะเนี่ย ทางไม่ใช่จะคดเคี้ยวซะหน่อย แล้วไอ้ประตูเข้าร้านมันอยู่ทางไห....โอ้ย!”
โดยไม่ทันระวัง ขณะที่ฉันกำลังเดินมองประตูหน้าต่างเพื่อหาทางเข้าบาร์แห่งนี้อยู่นั้น ฉันก็เผลอเดินไปชนเข้ากับร่างร่างหนึ่งที่กำลังเดินสวนออกมาจากมุมกำแพง ร่างนั้นเป็นผู้ชายในชุดสูทสีแดงปนดำ ความสูงน่าจะประมาณ 180 เซนฯ ผิวที่ขาวซีดจนเห็นเส้นเลือดดูเข้ากันกับผมบลอนด์ที่ถูกเซ็ตมาอย่างดี ใบหน้าของเขาหล่อคม จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตากลมโตสีเขียวมรกต หางตาที่เขาเหล่มามองฉันช้าๆมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกเขาตำหนิในสถานะที่ต่ำกว่ายังไงอย่างงั้น
“ขะ..ขอโทษค่ะ!”
ฉันรีบขอโทษขอโพยแล้วเดินเลี่ยงออกมาจากไหล่กว้างๆของเขาทันที
“เดี๋ยว!”
คำพูดเพียงคำเดียวของเขาราวกับเป็นคำสั่ง และมันทำให้ขาของฉันหยุดชะงักตามโดยไม่มีสาเหตุ
“!...” ฉันค่อยๆหันหน้ากลับมาประจันกับเขาช้าๆด้วยท่าทีหวาดระแวง
“คุณหลงทางใช่ไหม?”
“!......... ค่ะ! ใช่”
“คุณเป็นลูกค้ารึเปล่า?”
“.... เอ่อ... ฉันดูไม่เหมือนเหรอคะ?”
“เปล่าหรอก ผมก็แค่อยากเช็คให้แน่ใจเพราะผมเคยพาคนที่ไม่ใช่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมาแล้ว ผมไม่อยากทำผิดซ้ำสอง”
“.... อ๋อ”
อะไรกัน คนคนนี้เป็นพนักงานในบาร์เหรอ? ดูทรงแล้วคงเป็นมือฉมังในการจีบลูกค้าสาวๆให้กลับมาใช้บริการที่นี่อีกแหง แต่เป็นใครก็คงติดเขางอมแงมได้ไม่ยาก เล่นหล่องานดีซะขนาดนี้นิ
“ฉันนัดเพื่อนไว้แล้วค่ะ เราจองห้องบรอนซ์โต๊ะที่ 12 แต่ตอนนี้แค่ประตูเข้าบาร์ฉันยังหาไม่เจอเลย”
“ประตูเข้าบาร์เหรอ? ก็อยู่ตรงนี้ไง”
เพียงแค่ชายคนนั้นหันหน้าไปทางกำแพงด้านข้างประตูบานใหญ่ที่ประดับประดาไปด้วยทองคำและเพชรนิลจินดาเล็กๆก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเรา
“!!! เป็นไปไม่ได้! ฉันเดินวนตรงนี้ตั้งหลายรอบทำไมถึงมองไม่เห็นประตูบานใหญ่ขนาดนี้ได้!”
“มันสำคัญด้วยเหรอ ตอนนี้คุณก็เห็นแล้วนิ”
ใช่ มันไม่สำคัญ แต่มันเป็นไปได้ยังไง....
“เอาเป็นว่าถ้าผมปล่อยคุณเดินเข้าไปคนเดียวมีหวังคุณคงไปไม่ถึงห้องบรอนซ์ในคืนนี้แน่ งั้นผมขออาสาเป็นไกด์พาคุณทัวร์ที่นี่เอง โอเคไหม?”
นาทีนี้ถึงไม่โอเคก็ต้องโอเคแล้วป้ะ
“ไม่ต้องถึงขั้นทัวร์หรอกค่ะ แค่ช่วยพาฉันไปหาเพื่อนๆก็พอ”
“อืม... ก็ได้ งั้นเชิญคุณผู้หญิงก่อนเลยครับ”
กลึก! แอ๊ด....
พอชายผมบลอนด์พูดจบเขาก็เอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูและผลักบานประตูออกก่อนปัดมือเชิญให้ฉันเข้าไปในนั้น
“!?”
ฉันเดินเข้าไปในบาร์ลึกลับแห่งนี้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักฝีเท้าด้วยความประหลาดใจ เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่บรรยากาศรื่นเริงมีผู้คนพลุกพล่านหรือมีนักดนตรีเล่นดนตรีสดให้ฟังเหมือนบาร์ทั่วๆไป แต่มันมีเพียง ‘ขั้นบันได’ ที่ทอดยาวขึ้นไปสูงพอสมควร ขั้นบันไดนี้มีความกว้างแค่คน 3 คนยืนชิดกัน ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งถูกตกแต่งด้วยรูปภาพและโคมไฟหลากหลายสไตล์ มีจุดเด่นอยู่ที่ประตูทั้ง 4 บานไล่ตั้งแต่บานที่อยู่ต่ำสุดไปจนถึงบานที่อยู่สูงสุดมุมทางเดิน
ฉันไม่รอช้ารีบย้ำเท้าเดินขึ้นไปข้างบนหวังจะไปเปิดประตูที่อยู่บนสุดออกดูด้วยความสงสัยปนกับความรู้สึกประหลาดที่ผุดขึ้นมาในหัวโดยไม่ทราบสาเหตุ
“เดี๋ยวก่อน!”
“!”
ฉันสะดุ้งเหมือนหลุดออกจากภวังค์ทันทีที่ชายผมบลอนด์คนนั้นทักห้ามฉันไว้
“นั่นมันห้องไดม่อน (Diamond) การที่คุณจะไปถึงห้องนั่นได้คุณต้องมีบัตรผ่านห้องบรอนซ์ (Bronze) ห้องซิลเวอร์ (Silver) ห้องโกล (Gold) รวมเป็นบัตรผ่าน 3 ใบก่อน เพื่อรับรองว่าคุณเป็นลูกค้า VIP ของที่นี่”
“? ว่าไงนะ?”
มีกฎบ้าๆแบบนี้ด้วยเหรอ?
“ตอนนี้คุณมีสิทธิ์ผ่านแค่ห้องบรอนซ์” ชายผมบลอนด์พูดพร้อมกับยื่นการ์ดสีทองแดงขนาดเท่าบัตรเครดิตตรงกลางเขียนแจ่มแจ้งว่า ‘Bronze Card’ ให้ฉัน ฉันจึงรับมาอย่างงงๆก่อนพลิกมันดูด้วยความสนใจ
“บรอนซ์การ์ด... บายเมจิกบาร์ (Magic Bar) ”
“บาร์ของเรามีกฎที่เคร่งครัดในการให้บริการ แต่ละประตูจะมีพนักงานต้อนรับและมีเครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟให้คุณลูกค้าแตกต่างกันออกไป อย่างเช่นบรอนซ์การ์ดของคุณ...”
ชายผมบลอนด์ถือวิสาสะหยิบการ์ดของฉันไปรูดเปิดประตูที่ทำจากโลหะผสมทองแดงทั้งบานแล้วหันใบหน้าทะเล้นมาเพื่อเชื้อเชิญให้ฉันเข้าไปด้านใน
“....ขอบคุณค่ะ”
ฉันพยายามหลบสายตาที่ดูมีเล่ห์เหลี่ยมของเขาแล้วย้ำเท้าเข้าไปในประตูบานนั้นอย่างรวดเร็ว ที่นี่ดูไม่ได้แตกต่างจากภาพในจินตนาการของฉันสักเท่าไหร่ บรรยากาศโดยรวมคล้ายบาร์แจ๊ส โทนดูมืดๆหมนๆแลดูสวยงามราวกับฉันหลุดมาอยู่ในยุค 70 อย่างไงอย่างงั้น
♪♪♪
“!”
เสียงเพลงแสนไพเราะอย่างไม่น่าเชื่อดังขึ้นมาจากด้านหน้าเวทีขนาดย่อม ฉันรีบหันขวับไปมองการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์อย่างตกตะลึง ชายหนุ่มผมสีชมพูอมแดงสวมชุดย้อนยุคแต่ไม่ได้ดูล้าสมัยกำลังขับร้องบทเพลงพลางส่งสายตาจับจ้องมาที่ฉันจนดูผิดสังเกต ฉันมองเขาร้องเพลงได้ไม่นานก็รีบหันหน้าหนีด้วยความเขินอาย
นี่นักร้องคนนั้นคิดจะจ้องแต่ฉันจนร้องจบเพลงเลยรึไงนะ?
“โต๊ะ 12 ไปทางไหนคะ” ฉันหันไปถามชายผมบลอนด์
“อ้อ! โต๊ะนั่นไง” เขาชี้ไปหยั่งโต๊ะที่เต็มไปด้วยเพื่อนฝั่งเจ้าบ่าวของพี่อีฟ ไหนยัยปุยฝ้ายบอกว่าพวกมิวมาแล้วไง เล่นมีแต่ผู้ชายทั้งโต๊ะแบบนี้ใครจะกล้าลุยเดี่ยวเข้าไปนั่งด้วยเนี่ย บางคนก็แค่เคยเห็นเผินๆยังไม่เคยได้พูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ
“เอ่อ... ที่นี่มีมุมนั่งชิลล์ไหมคะ ฉันอยากนั่งรอเพื่อนของฉันก่อน”
“มุมนั่งชิลล์เหรอ? อืม....”
ชายผมบลอนด์ยืนคิดอยู่สักพักจนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจพาฉันมานั่งเงียบๆเหงาๆคนเดียวอยู่ตรงค็อกเทลบาร์โดยมีบาร์เทนเดอร์ลูกครึ่งสาวสวยในชุดราตรีสายเดี่ยวสีดำคอยชงค็อกเทลต่างๆให้ลูกค้าทุกคนในห้องนี้อยู่
“ ‘ยินสลิง’ ค็อกเทลประจำห้องบรอนซ์ค่ะ”
เธอยื่นเครื่องดื่มสีแดงที่ตกแต่งด้วยผลไม้ต่างๆมาให้ฉัน
“เอ่อ.. แต่ฉันยังไม่ได้สั่งนะคะ”
“ที่นี่เราเสิร์ฟค็อกเทลให้คุณลูกค้าแค่ชนิดเดียว ถ้าคุณลูกค้าอยากลิ้มรสค็อกเทลชนิดอื่นคุณลูกค้าต้องได้เลื่อนขึ้นเป็นสมาชิกระดับสูงกว่านี้ ยังไงค็อกเทลก็เป็นแบบรีฟิลอยู่แล้ว เชิญดื่มได้ตามสบายเลยค่ะ”
“เอ๊ะ? มีอย่างที่ไหนบาร์ที่ขายค็อกเทลให้ลูกค้าเป็นลำดับขั้นแบบนี้?”
“ก็ที่นี่ไงครับ”
เสียงของใครบางคนดังขึ้นมาจากด้านหลังของฉันพอฉันหันหลังกลับไปมองฉันก็เห็นชายร่างสูงใบหน้าเกรี้ยวกราดเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ด้านข้างของฉัน
“กลับมาแล้วเหรอคะคุณแซค”
บาร์เทนเดอร์สาวกล่าวทักทายเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ขอของแรงให้ฉันหน่อยนะเอริก้า วันนี้ฉันใช้พลังงานไปเยอะ”
“ได้ค่ะ”
“ออกไปวิ่งเล่นแค่ไม่กี่นาทีทำเป็นสำออยนะ” ชายผมบลอนด์คนเดิมเดินเข้าไปในบาร์น้ำแล้วจัดการทำเครื่องดื่มช่วยบาร์เทนเดอร์สาวคนนั้น
“คราวหลังแกก็ไปเองละกัน ฉันจะอยู่เฝ้าที่นี่เอง”
“เฮ้ย ได้ไง ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาใครจะอยู่เอาเงินประกันชีวิตพี่ถ้าไม่ใช่ผม”
“ปากดีจริงนะแก!”
ชายใบหน้าเกรี้ยวกราดที่น่าจะชื่อ ‘แซค’ หยิบผ้าขี้ริ้วแถวมุมโต๊ะขว้างใส่ชายผมบลอนด์ด้วยความโมโหแต่ชายผมบลอนด์ก็หลบผ้าผืนนั้นได้อย่างฉิวเฉียด
เฮ้อ... ว่าจะหาที่สงบๆนั่งรอปุยฝ้ายไหงมาเจอพนักงานตีกันเองแบบนี้ละเนี่ย?
ความคิดเห็น