ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไออุ่นของคิว : Chapter 1
1
“กูว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ”
“นั่นดิ นั่งยิ้มเป็นบ้ามาคลาสหนึ่งแล้ว”
เสียงยัยเพื่อนทั้งสองดังเข้ามาในโสตประสาทส่งผลให้ฉันหลุดจากภวังค์พร้อมกับหันไปหาพวกมันอย่างเซ็งๆ
“จะนินทากูก็อย่าให้กูได้ยินดิวะ”
“ก็กูตั้งใจให้ได้ยินอะ” ‘เรย์’ หนึ่งในเพื่อนแก็งค์ตี้ของฉันกรอกตามองบนอย่างน่าหมั่นไส้
“ก็มึงเหมือนคนบ้าจริงๆนี่หวา” ประโยคนี้ ‘กราฟ’ เพื่อนอีกคนเป็นคนพูดออกมาเสียงเรียบ
“เออ เห็นด้วย” ‘ซี’ เพื่อนผู้ชายในกลุ่มหันมาพยักหน้าสมทบ โอ๊ย! ไอ้พวกนี้กล้าดียังไงมาหาว่าฉันบ้าหะ!
“ว่าแต่เคนตะกับพี่ม่อนไปไหนอะ ไม่เห็นตั้งแต่เข้าเรียนละ” ฉันยื่นคอมองซ้ายมองขวาก็ไม่พบร่างของผู้เป็นเพื่อนที่เหลือ
ฉัน เรย์ กราฟ ซี เคนตะและพี่ม่อนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งนู้นแหละ
เราหกคนเรียนคณะเดียวกันนั่นก็คือนิเทศแถมยังเรียนฟิล์มเหมือนกันอีกแต่สิ่งที่เหมือนกันที่สุดก็คือพวกเราชอบดื่มเป็นชีวิตจิตใจชนิดที่ว่าสิ่งที่หล่อเลี้ยงร่างกายเราคงเป็นเหล้าไม่ใช่เลือด ...อ๋อ ส่วนพี่ม่อนน่ะความจริงเขาก็อายุเท่าพวกเรานี่แหละแต่พวกฉันชอบเรียกเขาว่าพี่
คือมันดูน่ารักดีน่ะ
“ชิ” ฉันจิ๊ปากให้กับเพื่อนสาวก่อนจะลงมือเก็บชีทบนโต๊ะที่ตั้งแต่เริ่มคลาสจนจบคลาสแล้วก็ยังไม่ได้แตะใส่ในกระเป๋าพร้อมไปสุดๆ
“เลิกคลาสได้ครับ”
“ไป” ทันทีที่ประโยคอันแสนรอคอยดังออกมาจากปากอาจารย์ผู้สอนฉันก็ลุกขึ้นพร้อมกับดันไหล่เพื่อนทั้งสองให้ลุกตาม
เราสามคนเดินออกมาจากห้องไม่นานเรย์ก็บ่นออกมา
“เรียนเช้านี่มันก็น่าเบื่อตรงที่ช่วงบ่ายว่างจัดจนไม่รู้จะทำอะไรเนี้ยแหละ”
“งั้นตี้ปะ?” กราฟหันมาชวน
“จะเมาแต่หัววันเลยรึไง” เรย์ถอนหายใจกับคำพูดนั้นแต่ฉันรู้นะว่าพูดแบบนี้หมายความว่าจะไปตี้กันตอนเย็นๆน่ะ
ก็แหม่ คนศีลเสมอกันนี่นา
“งั้นคืนนี้ไปกัน” ฉันเลยชวนซะเลย
“ไม่อะ ไม่ว่าง” แต่ทั้งสองกลับปฏิเสธมาซะงั้น
อ้าว รู้สึกเหมือนโดนเทเฉยเลยกู
“ชิ จะมีอะไรสำคัญไปกว่าช่วงเวลาดื่มด่ำใต้แสงสีของพวกเราไปได้” ฉันพร่ำเพ้อพรรณนาแต่นางเพื่อนตัวดีกลับไม่สนใจมิหนำซ้ำยังเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนาอีกด้วย
“หิวข้าวว่ะ ไปกินไหนดี”
“โรงอาหารรวมหรือนอกมอ.?”
“โรงอาหารก็ได้ขี้เกียจเดิน”
“โอเคมึง ไปกัน”
ใจร้าย!
สุดท้ายเราสี่คนหลังจากกินข้าวอะไรกันเสร็จก็มานั่งกินของหวานที่ร้านคาเฟ่ในมหา’ลัยยกเว้นซีที่ขอตัวกลับไปก่อน
“งั้นมึงจะกลับห้องเลยปะ” เรย์เป็นฝ่ายถามออกมา
“คงงั้นมั้ง” กราฟตอบ “แล้วมึงอะอุ่น จะไปไหนต่อปะ?”
“จะไปไหนได้” ฉันยู่จมูกอย่างเซ็งๆ “ก็ต้องกลับบ้านดิ”
โชคดีที่พ่อแม่ฉันมีบ้านแถวมหา’ลัยไว้หลังหนึ่งฉันเลยไม่ต้องตระเวนหาที่อยู่ใหม่ ปกติฉันอยู่คนเดียวเหงาๆ
ถ้าช่วงที่ครอบครัวขึ้นมาเยี่ยมก็จะมาอยู่ด้วยพอหายเหงาได้บ้าง...อยากจะเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวสักตัวนะแต่ชีวิตตัวเองยังเอาไม่รอดเลย
เฮ้อ
เอ๊ะ...
ในระหว่างที่ฉันกับเพื่อนเดินออกมาจากร้านคาเฟ่หางตาฉันก็ไปสะดุดอยู่กับแผ่นหลังของใครคนหนึ่ง ฉันหันควับไปมองทันที
นั่นมัน...เหมือนน้องบาเทนเดอร์คนนั้นเลย
“มองอะไรเหรออุ่น?” เมื่อเห็นฉันชะโงกหน้ามองเรย์ก็หันมาถามพร้อมกับมองตามสายตาฉันแต่เจ้าของแผ่นหลังนั้นดันเดินหายไปซะแล้ว
“เปล่าหรอก” ฉันส่ายหน้า “ไปกันเถอะ”
อยู่มอ.นี้งั้นเหรอ?
จะบังเอิญเกินไปมั้ง แต่ถ้าอยู่ที่เดียวกันก็ดีสิ
เดี๋ยวนะ...แล้วฉันจะไปดีใจอะไรล่ะ!
จะว่าไปวันนี้อยากดื่มจัง
ยังไงเรย์กับกราฟก็ไม่ว่างไปอยู่แล้วงั้นไปร้านเมื่อคืนเลยดีกว่า ก็แค่เปลี่ยนบรรยากาศหรอกน่าไม่มีอะไรแอบแฝงหรอก
จริงๆนะ...
21.43 น.
ในที่สุดฉันก็มาจนได้
แค่มาดื่มตามปกตินั่นแหละไม่มีอะไรสักหน่อย
...คิดได้อย่างนั้นฉันจึงสูดลมหายใจเข้าพร้อมกับก้าวขาเพื่อตรงไปในร้าน
คนยังเยอะเหมือนวันแรกที่มาแต่ถึงแบบนั้นสายตาฉันก็สามารถกวาดหาที่นั่งว่างเจอ
มุมปากฉันกระตุกยิ้มเล็กน้อย
คิดเหรอว่าฉันจะไปนั่ง ให้ทายสิว่าฉันไปไหน
หึ…ของมันแน่อยู่แล้วว่าต้องตรงไปที่เคาน์เตอร์สิ
“ยินดีต้อนรับครับ” หนึ่งในบาเทนเดอร์คนแรกที่เห็นฉันทักทายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรแต่ฉันไม่ได้อยากเจอคนๆนี้อะ
น้องบาเทนเดอร์สุดน่ารักคนเมื่อวานไปไหนแล้วล่ะ “มองหาอะไรอยู่รึเปล่าครับ?” ผู้ชายคนเดิมเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นฉันมองผ่านหลังเขาไป
“เอ่อคือว่า...” จะบอกยังไงดีวะ “บาเทนเดอร์คนที่เด็กๆแล้วก็น่ารักๆไม่อยู่เหรอคะ?”
“คิวน่ะเหรอครับ?” ไม่ต้องนึกนานอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา ดูรู้เลยว่ามีอยู่คนเดียวที่มีคาแรคเตอร์แบบนี้
ว่าแต่คิวอย่างนั้นเหรอ?
จะว่าไปฉันก็ไม่รู้จักชื่อเขานี่นา จะใช่คนเดียวกันไหมนะแต่อย่างที่บอกไปว่าคงมีเฉพาะน้องคนนั้นแหละ
“อา ใช่ค่ะ” ฉันพยักหน้าหงึกหงัก
“น้องอยู่ด้านหลังนี้เองครับ เดี๋ยวผมไปตามให้นะ” พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปเพราะฉะนั้นฉันจึงนั่งฟังเพลงอยู่ที่เคาน์เตอร์เพื่อรอ
“มาคนเดียวเหรอครับ?” ผ่านไปไม่กี่นาทีเสียงผู้ชายที่ฉันไม่คุ้นเคยก็ดังมาจากทางด้านขวา
พอหันไปดูก็พบว่าเออ ฉันไม่คุ้นเสียงเพราะฉันไม่รู้จักเขาไง ให้เดาคงเข้ามาทำความรู้จักชัวร์
“…”
“สนใจดื่มกับผมสักแก้วมั้ยครับ?” นั่นไงทายผิดซะที่ไหนล่ะ
เจ้าของคำพูดเมื่อครู่ยกแก้วบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับยื่นมาทางฉันคล้ายเชิญชวน
“ไม่ล่ะค่ะ” ฉันปฏิเสธทันควัน “พอดีผัว...”
“ไม่ให้หรือไม่ชอบก็บอกไปตรงๆสิครับไม่เห็นต้องโกหกเลย”
อยู่ดีๆประโยคที่น้องบาเทนเดอร์พูดเมื่อคืนก็แล่นเข้ามาในหัว
ฉันนิ่งไปแป็บหนึ่งก่อนจะเบนหน้าไปทางผู้ชายคนเดิมพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย
“พอดีไม่อยากดื่มน่ะค่ะ อยากอยู่คนเดียวไม่อยากคุยกับใครด้วย”
“นึกว่าใคร พี่นี่เอง” ยังไม่ทันที่ผู้ชายตรงหน้าฉันจะพูดอะไรออกมาเสียงของผู้มาใหม่ก็ดึงดูดความสนใจให้หันไปมอง รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้านั้นฉันยังจำมันได้
มาแล้ว บาเทนเดอร์สุดน่ารักของฉัน
“อ้าว” ผู้ชายหน้าหวานเสสายตาไปทางบุคคลที่ยืนอยู่ข้างๆฉันพร้อมกับตั้งคำถาม “วันนี้พี่มากับเพื่อนเหรอครับ?”
“เปล่า” รีบตอบอย่างฉับพลัน “เขาคือใครก็ไม่รู้พี่ไม่รู้จัก”
“อ๋อเหรอครับ” จังหวะนี้ฉันไม่สนใจเขาละ
ให้เดาคงเดินหนีออกไปแล้วล่ะโดนฉันตอกหน้าเข้าไปเต็มๆแบบนั้น “พี่เรียกผมเหรอ?”
“เปล่า ใครเรียก?” ฉันเท้าคางลงกับเคาน์เตอร์พร้อมกับส่ายศีรษะไปมาทำตาใสซื่อจนคนตรงหน้าครางออกมา
“อ้าว ก็ไหนพี่...”
“ว่าแต่จำพี่ได้ด้วยเหรอเนี้ย?” ฉันตัดบทโดยการพูดถึงในตอนที่เขาเข้ามาทักฉันก่อนหน้านี้ ก็เมื่อกี้ฉันได้ยินอยู่นะไอ้คำว่า ‘นึกว่าใคร
พี่นี่เอง’ อะ แสดงว่าเขาต้องจำฉันได้สิ
“ของมันแน่อยู่แล้ว พี่สวยขนาดนี้ผมก็ต้องจำได้สิครับ” ตอบพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
โอ๊ย...น่ารัก!
“นี่หยอดพี่เหรอ?” ฉันแสร้งถามไปซึ่งสิ่งที่ได้รับกลับมาคือใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเล็กน้อย
“แล้วแต่พี่จะคิดครับ” พี่คิดว่าอ่อยไง! “แล้วนี่พี่สั่งอะไรรึยังครับ?”
“ยังเลย กะว่าจะถามพอดีว่ามีอะไรแนะนำมั้ย
พอดีไม่ค่อยได้มาที่แบบนี้บ่อย” หมายถึงไม่ได้มาร้านนี้บ่อย ส่วนไอ้เรื่องเหล้าน่ะเซียนเลยแหละ...แฮะๆ
“หือ...จริงเหรอครับ?
แต่เมื่อวานตอนสั่งยังเห็นคล่องอยู่เลยหนิครับ”
ไอ้น้องนี่รู้เก่งเกินไปแล้ว!
“ชิ” ฉันส่งเสียงจิ๊จ๊ะส่งผลให้อีกคนหัวเราะออกมาอย่างเคย
“งั้นเอานี่แล้วกัน” ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรมาให้แต่ช่างเถอะฉันกินได้หมดนั่นแหละ ในระหว่างที่นั่งดูผู้ชายตรงหน้ากำลังขะมักเขม้นกับการชงเครื่องดื่มฉันก็เท้าคางลงกับโต๊ะแล้วส่งคำถามออกไป
“ว่าแต่เราชื่อคิวเหรอ?
เห็นบาเทนเดอร์คนก่อนหน้านี้เรียกว่างั้น”
“อ้าว
ไหนบอกว่าไม่ได้เรียกผมแล้วรู้ชื่อผมจากบาเทนเดอร์คนนั้นได้ยังไงครับ?” น้องบาเทนเดอร์หรือก็คือน้อง ‘คิว’ หรี่ตามองฉันอย่างจับผิดจนฉันกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากพร้อมกับเริ่มเลิ่กลั่กออกมา
ฉลาด...ฉลาดเกินไปแล้ว
“ชะ ช่างมันเถอะน่า!” ฉันสะบัดหน้าหนีแล้วทำเป็นไม่สนใจซึ่งแน่นอน...ได้รับเสียงหัวเราะกลับมาตามเคย หน๊อยไอ้เด็กนี่
“นี่ครับ” คิวส่งแก้วที่บรรจุเครื่องดื่มมาให้ฉันซึ่งก็รับไว้แต่โดยดีก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายย่อตัวลงมาเท้าคางมองฉันบ้าง ทำให้ในตอนนี้หน้าเราสองคนใกล้กันมากจนลมหายใจฉันกระตุก
“…” พระเจ้าช่วย
มองใกล้แล้วแม่งอย่างหล่ออะ
แม่จ๋าช่วยด้วยหนูอยากเอาคนนี้แพ็คใส่กล่องกลับบ้าน แง้!
“ว่าแต่พี่รู้จักชื่อผมแล้วแต่ผมยังไม่รู้จักชื่อพี่เลย” บุคคลตรงหน้ากระพริบตาปริบๆเป็นเชิงออดอ้อนจนฉันแทบจะเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้านั้นแล้วเชียว
ดีที่ยับยั้งไว้ได้
“ไออุ่น” ฉันพูดเสียงเรียบ จ้องมองตรงไปยังนัยน์ตาอีกฝ่ายไม่ละไปไหน “พี่ชื่อไออุ่น”
“งั้นเหรอครับ” ฉันเห็นคิวพยักหน้าเล็กน้อย “ชื่อเพราะจัง”
“หึ คิดว่างั้นเหรอ?” ฉันเลิกคิ้วถามกลับ
ความจริงก็แค่อยากจะหาเรื่องคุยไปงั้นแหละแต่ก็นะพ่อแม่ตั้งชื่อฉันซะใครที่ไม่รู้จักคงจินตนาการว่าฉันเป็นผู้หญิงเรียบร้อย
ไม่สู้คน พูดจาไพเราะอะไรเทือกนั้นแน่นอนทั้งๆที่ความจริงนี่ตรงข้ามเลยจ้า
ถ้าหากว่าฉันเรียบร้อยคนในโลกนี้คงไม่มีใครเกเรอะ
เรื่องพูดจานี่อย่าไปพูดถึงมันเลยส่วนการไม่สู้คนโนเวย์จ้า
ด้วยความที่เวลาทำหน้านิ่งจะดูหยิ่งแถมยังชวนหาเรื่องมากทำให้สมัยอยู่มัธยมถูกรุ่นพี่หาเรื่องอยู่เป็นประจำ
แรกๆฉันก็ไม่ได้อะไรแต่พอมากเข้าฉันจึงเลือกที่จะโต้กลับบ้างจนกลายเป็นไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องอีกเลย
ก็นะมันต้องมีการป้องกันตัวกันบ้าง
แต่เวลาอยู่ต่อหน้าน้องคิวพี่จะพยายามทำตัวเรียบร้อยนะ อิอิ
“อืม ผมชอบนะ” ผู้ชายหน้าหวานตรงหน้าตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้แฝงไปด้วยการโกหกแต่อย่างไร “ดูเข้ากันดี”
“หา เข้ากับอะไรเหรอ?” ฉันถามกลับแล้วสิ่งที่ได้รับมาคืออะไรรู้ไหม?
คือการที่อีกฝ่ายยิ้มกว้างจนตาหยีพร้อมกับคำตอบที่ว่า...
“ไออุ่นของคิวไงครับ”
บ้าจริง...
...น่ารักเกินไปแล้ว




ความคิดเห็น